เธอแอบรักท่านประธานหนุ่มอย่างชานนท์มานาน ตั้งแต่ที่เขาช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ นั่นทำให้เธออยากมาทำงานเป็นเลขาของเขา จะได้ดูแลเขาให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนบุญคุณ
เธอแอบรักท่านประธานหนุ่มอย่างชานนท์มานาน ตั้งแต่ที่เขาช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ นั่นทำให้เธออยากมาทำงานเป็นเลขาของเขา จะได้ดูแลเขาให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนบุญคุณ
พลอยใส บัณฑิตจบใหม่วัย 22 มองตึกสูงระฟ้าตรงหน้าด้วยรอยยิ้มสดใส
เธอมาที่นี่เพื่อต้องการมาสมัครงาน วันนี้เริ่มจากการมายื่นใบสมัครในบริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งเลขาส่วนตัวของประทานบริษัท
พลอยใสรู้จักกับชานนท์ เจ้าของบริษัทดี เขาเป็นหนุ่มหล่อวัยยี่สิบเจ็ด ดูดี ผิวพรรณดี รูปร่างสูงเพรียว เธอแอบกรี๊ดเขาอยู่ในใจเพราะเขาเซ็กซี่เหลือร้าย ยิ้มทีละลายหัวใจเธอไม่น้อย
แล้วความฝันของพลอยใสก็เป็นจริง เมื่อเธอยื่นใบสมัครเพียงไม่นาน บริษัทก็รับเธอเข้าทำงาน การได้ใกล้ชิดกับชานนท์ หนุ่มหล่อ นิสัยดี แลดูอบอุ่นเป็นความฝันใฝ่ของเธอ ซึ่งเธอจะได้สมหวังแล้วนั่นเอง
พลอยใสตื่นเต้นมากกับวันแรกของการทำงาน เธอตั้งใจเลือกเสื้อผ้า แต่งหน้า ทำผมให้เป๊ะและดูดีให้มากที่สุด
ต้องทำงานอยู่หน้าห้องประทานบริษัททั้งที ต้องทำตัวสวยๆ เข้าไว้ เผื่อเจ้านายจะชายตามอง
สาวน้อยคิดวาดฝันอยู่ในใจ
เธอเดินทางไปถึงบริษัทอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ได้มาสมัครงาน แต่มาทำงานในตำแหน่งที่ใฝ่ฝัน เธอรีบตรงดิ่งไปยังโซนผู้บริหาร บรรยากาศด้านบนเงียบมากๆ ขณะเดินก็ยังได้ยินเสียงส้นรองเท้าได้อย่างชัดเจน
เธออ่านป้ายและพบว่านี่คือห้องของคุณชานนท์ เธอก็ส่งสัญญาณจากปุ่มด้านหน้าห้องไปหาเขาทันที เมื่อประตูเปิดออก เธอก็ใจสั่นรัว ขณะเดินเข้าไปในห้องทำงานอันโอ่อ่าของเขา
เธอสบตากับเขาเพียงชั่วครู่ ร่างน้อยบอบบางเดินเข้าไปหาเจ้านายหนุ่มอย่างเชื่องช้า
ชานนท์นั่งจ้องอยู่ราวกับว่ารอคอยเธอมานาน
“สวัสดีค่ะท่านประธาน” เธอยกมือไหว้เขา
“นั่งก่อนสิ” เขาเชิญให้เธอนั่งลง
“ขอบคุณค่ะ”
“รู้มั้ยว่าเลขาที่นี่นอกจากมีความสามารถเรื่องงานแล้ว เรื่องอื่นก็ต้องเก่งได้ด้วยนะ” ได้ยินแบบนั้นพลอยใสถึงกับต้องเอียงคอมองด้วยความสงสัย
“เรื่องอะไรเหรอคะ”
“ทุกเรื่องเลยครับ” ชานนท์มองเด็กสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยประกายแห่งความปรารถนา
พลอยใสรู้สึกว่าเขาพูดมาถึงขนาดนี้ก็เข้าทางเธอน่ะสิ
“แล้วจะลองไหมล่ะคะว่าทำได้ทุกเรื่องหรือเปล่า” พลอยใสเอ่ยถามออกไปด้วยรอยยิ้มยั่วยวน
ที่เธอตอบกลับเขาไปเช่นนั้นก็เพราะว่าเธอแอบกรี๊ดเขามานานแล้ว ยอมรับเลยแหละว่าเธอตั้งใจที่จะอ่อยเขา
ในเมื่อเธอพูดเปิดทางให้เขาขนาดนั้น มีหรือที่เสือร้ายอย่างชานนท์จะไม่เล่นด้วย เขาสไลด์เก้าอี้ตัวเองออกมาจากโต๊ะ ก่อนจะถอดเสื้อสูทของตัวเองออกจากตัว จนเหลือแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบาง
พลอยใสผุดลุกจากเก้าอี้ ขยับกายเข้าไปหาเขาแล้วหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเจ้านายหนุ่ม
พลอยใสจัดการปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกทีละเม็ด ๆ อย่างใจเย็น
เธอลากสายตามองแผงอกแน่นๆ ของเขาไม่วาง มือน้อยของเธอลูบไล้จากหน้าท้องมายังยอดถันสีชมพูจัด ใช้นิ้วชี้เขี่ยเบาๆ ตรงยอดอกจนตื่นตัวแข็งเป็นไต ท่าทางชานนท์จะพึงพอใจไม่น้อยกับกิริยาท่าทางยั่วยวนของเธอ
พลอยใสใช้นิ้วเกี่ยวยางรัดผมบนศีรษะออกเพื่อปล่อยให้ผมยาวสลวยสยายเต็มแผ่นหลัก ภาพนั้นแลดูเซ็กซี่ยั่วยวนสายตาของชานนท์ยิ่งนัก
การกระทำของเธอกระตุ้นอารมณ์เจ้านายคนใหม่ได้เป็นอย่างดี
เธอก้มลงไปกระซิบเสียงแผ่วข้างหูของเขาด้วยน้ำเสียงหวานใส
“จะรังเกียจไหมคะ ถ้าพลอยจะขอจูบท่านประธาน”
ชานนท์ยักคิ้วแทนการกล่าวด้วยวาจา เมื่ออนุญาตแล้วก็ไม่รอช้า เธอประกบจูบบนริมฝีปากหยักหนาของเขา พร้อมขบเม้มบดขยี้ตามแต่ใจปรารถนา เขาและเธอวุ่นวายอยู่กับการจูบพักใหญ่ คิดว่ามันสร้างความปรารถนาให้เขาได้พอสมควร เนื่องจากจุดสำคัญด้านล่างเริ่มขยายใหญ่ดันกางเกงเนื้อดีราคาแพงที่เขาสวมใส่อยู่
พลอยใสใช้มือลูบไปที่สัดส่วนนั้นของเขาผ่านกางเกงขึ้นมายังเข็มขัด ปลดออกแล้วจัดการแกะกระดุมออก รูดซิบและล้วงเข้าไปคว้าแท่งแข็งร้อนออกจากกางเกง มันแข็งขึงสู้มือตามปกติ
พลอยใสแอบตกตลึงกับขนาดที่น่ากลัวไปนิดของเขา เอาตรงๆ เธอไม่ได้ชอบของใหญ่ยาวสักเท่าไหร่นักหรอก เพราะกลัวเจ็บ ยาวเกินไปก็จุก แต่เพราะชานนท์ถ้าหล่อมาก รวยมาก ใจดีมาก เธอก็พอให้อภัยได้
แน่นอนว่าผู้ชายทุกคนชื่นชอบการออรัลเซ็กซ์ พลอยใสจึงไม่พลาดที่จะปรนนิบัติเขาในลักษณะนี้ เธอจะจัดให้คุณชานนท์ได้เห็นลีลาสวาทของเธอ ทำให้เขาติดใจจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นเลยคอยดู
สาวน้อยเริ่มจากการรูดมือขึ้นลงและใช้นิ้วโป้งบดบี้เบาๆ ที่ส่วนปลายของความแข็งแกร่ง ตามด้วยแตะลิ้นอุ่นๆ ตวัดขึ้นลงพร้อมๆ กับมือที่ยังขยับเขย่าแก่นกายอันใหญ่ยาวของเขาเอาไว้
สาวน้อยพยายามอมให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ รูดริมฝีปากนุ่มๆ เพื่อความฟินสุดขีดของเขา เจ้านายของเธอร้องครางด้วยน้ำเสียงแหบพร่า สีหน้าหน้าได้อารมณ์สุดขีด ทำเอาช่วงล่างของพลอยใสปั่นป่วนไปหมดทั้งช่องท้อง รู้สึกหยาดเยิ้มเพราะกระสันอยากจะโดนเขากระแทกเช่นเดียวกัน
“อยากสอดใส่หรือเปล่าคะ หรือว่าจะเสร็จคาปากหนูดี” พลอยใสหยุดภารกิจเพื่อสอบถามความต้องการของเขา
“ฉันอยากเอาเธอมากแม่หนูน้อยแก้มใส” เขาหยิกแก้มของเธอเบาๆ คำตอบนั้นทำให้เธอท้องไส้ปั่นป่วนหนักกว่าเดิมเสียอีก
"นี่เหรอลูกสาวของแก" ทศเอ่ยถามเสียงกร้าวเมื่อลูกหนี้ของเขาส่งตัวลูกสาวมาปลดหนี้ด้วยท่าทีอิดออด "ฉันขอร้องเถอะนะ อย่าทำอะไรรุนแรงกับลูกสาวของฉันเลย" ธนัชเอ่ยขอร้อง "แล้วตอนที่แกทำกับฉันกับครอบครัวของฉันล่ะ" "หมายความว่ายังไง" ธนัชเอ่ยถามอย่างตกใจ "แกยังจำเพื่อนรักที่แกทรยศได้ไหม" ทศเอ่ยถาม เพราะเขาเปลี่ยนชื่อนามสกุล ธนัชเลยไม่รู้ว่าเขาคือใคร "แก แกเป็นลูกของไอ้อัฐอย่างนั้นเหรอ" ธนัชยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ "ยังดีนะที่แกยังจำได้ว่าเคยทรยศเพื่อนของแก แสดงว่าแกยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง แม้จะแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ตามที" "ทุกอย่างเป็นแผนการของแกอย่างนั้นเหรอ" ธนัชเอ่ยถาม "ใช่ ฉันรอวันนี้มายี่สิบกว่าปี รอเวลาที่จะได้แก้แค้นแก ฉันจะบดขยี้ลูกสาวของแกให้แหลกคามือ" ทศกระชากร่างบอบบางของน้ำรินมากอดรัดเอาไว้ หญิงสาวพยายามดิ้นรน "อย่าทำอะไรน้ำรินนะ ฉันขอร้อง" ธนัชยอมลงทุนคุกเข่าอ้อนวอน "อย่าทำอย่างนั้นเหรอ" ทศก้มลงบดจูบหญิงสาวอย่างป่าเถื่อน น้ำรินพยายามดิ้นรน แต่ไม่เป็นผล "อย่าทำอะไรลูกสาวของฉันนะ" "กระทืบมันให้ปางตายแล้วก็จับมันโยนออกไปนอกบ้าน ไม่ต้องให้มันตายหรอก แต่ให้มันไปเป็นขอทานข้างถนน" ทศสั่งเสียงกร้าว
"มะนาว" นักศึกษาสาวปีสามผู้ฉลาดแกมโกง คิดว่าตัวเองเอาตัวรอดเก่ง แต่เมื่อหัวใจดันตกหลุมรัก "พี่ธันวา" รุ่นพี่ปีสี่สุดหล่อ สุขุม และเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่า เธอจึงต้องวาง "แผน" เพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขา แต่ทุกครั้งที่คิดจะเหนือกว่า กลับกลายเป็นว่าเธอตกหลุมพรางหัวใจของเขาซะเอง เกมนี้ไม่มีใครแพ้ เพราะสุดท้ายความรักที่มีแผนซ่อนอยู่ก็คือความรักที่ทำให้ทั้งคู่ยิ้มได้ จะหลอกล่อหรือจะวางแผนยังไงก็ไม่พ้น…เพราะพี่เขาวาง "แผนรัก" รออยู่แล้ว
การแก้แค้นที่แท้จริง เหมือนประโยคที่ว่า... "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร"
1. เจ้าสาวส้มหล่นของท่านประธานพันล้าน เธอ…หญิงสาวธรรมดาผู้มีหัวใจกล้าหาญ อาสากู้ภัย ช่วยชีวิตชายแปลกหน้ากลางเหตุอุบัติเหตุโดยไม่รู้เลยว่า…เขา คือประธานหนุ่มพันล้าน ผู้เย็นชา สุขุม และเป็นชายที่เธอจะต้องผูกพันไปตลอดชีวิต ค่ำคืนหนึ่งที่ผับ…เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ทำให้ชีวิตของทั้งสองพันเกี่ยวกันแน่น จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักที่ไม่อาจย้อนกลับ จาก "ประธานผู้ทรงอิทธิพล" กลายมาเป็น "คนรัก" ที่พร้อมดูแลเธอและครอบครัว จากหญิงสาวธรรมดา กลายเป็น "ภรรยาส้มหล่น" ที่หัวใจของเขายกให้ทั้งดวง แต่เส้นทางนี้ไม่ได้มีเพียงความหวาน ยังมีไฟริษยา ความแค้น และบททดสอบมากมายรออยู่ข้างหน้า ความรักของเขาและเธอจะก้าวผ่านทุกอุปสรรคไปได้หรือไม่ มาร่วมลุ้นไปกับเรื่องราวสุดฟินจิกหมอนที่ทั้งหวาน ซึ้ง เข้มข้น และอบอุ่นหัวใจ 2. หลงใหล เขาหลงรักเธอตั้งแต่วันแรกที่เห็น...จากเด็กสาวผู้ยิ้มสดใสผู้รับทุนการศึกษา กลายเป็นหญิงสาวแสนอบอุ่นที่เข้ามาเติมเต็มหัวใจของเขาในรีสอร์ทกลางขุนเขา ธาวิน ชายหนุ่มเจ้าของรีสอร์ทผู้แอบมอบทุนให้เธอมานานแรมปี นลินฉัตร หญิงสาวธรรมดาที่ไม่เคยรู้เลยว่าผู้ชายคนหนึ่งแอบมองเธอมาตลอดด้วยความรัก เมื่อโชคชะตาพาให้ทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง ในสถานที่ที่โอบล้อมด้วยสายหมอกและกลิ่นดอกไม้ หัวใจสองดวงที่เคยห่างไกล... กลับเต้นเป็นจังหวะเดียวกันอีกครั้งอย่างอบอุ่นและอ่อนหวาน บางที... ความรักที่แท้จริงอาจไม่ต้องการคำสัญญาใหญ่โต แค่ใครสักคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเข้าใจ และมอบ "รีสอร์ทกลางใจ" ไว้ให้ดูแล... ตลอดชีวิต 3. เพลิงพ่ายรัก เมื่อ "เพลิงฟ้า" ชายหนุ่มผู้เย็นชาและเคยผิดหวังจากความรัก ต้องมาเจอกับ "รดา" พยาบาลสาวแสนซื่อ ที่คุณย่าของเขารับเข้ามาดูแลในบ้าน เพียงแรกพบสบตา เขากลับจดจำเธอได้ในฐานะ "ผู้หญิงของเพื่อน" หญิงสาวที่เขาเคยเชื่อว่าเสแสร้งและหวังจับคนรวย! ความเข้าใจผิดในวันนั้น กลายเป็น "เพลิงแค้น" ที่เขาเผาตัวเองให้มืดมิด แต่ยิ่งได้ใกล้ ยิ่งได้เห็น เขากลับพบว่าเธอไม่ใช่อย่างที่คิด เธอคือคนที่มีหัวใจอ่อนโยน ซื่อสัตย์ และยอมเสียสละเพื่อคนอื่นจนหมดสิ้น จากความรังเกียจ กลายเป็นความห่วงหา จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความรักที่ไม่อาจปฏิเสธ เมื่อหัวใจของเพลิงฟ้า "พ่าย" ให้กับผู้หญิงที่เขาเคยดูแคลน ความรักจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางเงาแห่ง
เมื่อหญิงสาวผู้บริสุทธิ์ต้องเข้าไปอยู่ในบ้านของคนแปลกหน้า และกลายเป็น น้องสาว ของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง... ความลับ ความใคร่ และพันธะที่ไม่มีใครเลือกได้ ก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ต้องห้าม ที่ไม่มีใครห้ามหัวใจตนเองได้อีกต่อไป เขา คือพายุ ชายหนุ่มเจ้าอารมณ์ที่ไม่เคยยอมรับใคร เธอ คือพลอยชมพู เด็กสาวที่อยากให้แม่มีชีวิตใหม่ที่ดี แต่เมื่อโลกใบใหม่กลับกลายเป็นคุกทอง และเขาคือผู้กักขัง...เธอจะหนีไปได้อย่างไร ในเมื่อหัวใจของเธอ...กำลังถูกพันธนาการไว้ด้วยความรัก
บนเกาะเงียบสงบที่ทอดตัวอยู่กลางทะเลใต้ คือพื้นที่ต้องห้ามของความปรารถนาที่ไม่มีใครล่วงรู้... สิบปีที่เขาเฝ้ารอนับจากวันที่ส่งเธอไปเรียนในเมือง ด้วยเงื่อนไขที่ไม่มีใครรู้ สิบปีที่ไฟราคะสุมอยู่ในใจของ "นายหัวคณิน" ผู้ชายที่เธอเคยเรียกว่า พ่อเพื่อน และเมื่อ "ไหมแก้ว" หวนกลับคืนสู่เกาะที่เคยจากไป เธอไม่อาจคาดคิดเลยว่าตัวเองไม่ได้กลับมาในฐานะ ลูกสาวของคนรู้จัก แต่กลับถูกเรียกว่า "เจ้าสาวที่เขาเลี้ยงไว้เพื่อเป็นของเขาเพียงคนเดียว" ระหว่างคำว่าบุญคุณ กับความปรารถนาอันร้อนแรง ระหว่างคำว่าเจ้าของ กับความรักที่ถูกปลูกฝังผ่านวันเวลา เธอจะหนี... หรือจะยอมจำนนให้หัวใจและร่างกายถูกผูกไว้กับผู้ชายที่รักเธอจนยอมทิ้งทั้งโลกเพื่อแลกกับแค่เธอเพียงคนเดียว...
สตรีนางอื่นคงจะข้ามภพมาเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคมากมายจนกลายเป็นวีรสตรี กู้ชาติกู้แผ่นดิน แต่สำหรับข้านั้น “ความรักไม่แน่นอน แต่ความง่วงเป็นสิ่งที่ต้องนอนแน่ๆ”
-- ในศตวรรษที่ 26 ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ กลายเป็นลูกเลี้ยงที่ไร้ค่าของตระกูลผู้มีชื่อเสียง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง โลกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ย่ำยีชายทรยศ ข่มเหงหญิงเลว จัดการกับพวกที่ทำให้ชีวิตติดขัด เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามใจปรารถนา ควบคุมเทพสัตว์นับพัน ถลุงยาวิเศษ วางข่ายศักดิ์สิทธิ์ วาดยันต์ผี ทุกอย่างนางทำได้อย่างชำนาญ อยู่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งห้าภพ โลกนี้นางครอบครอง ไม่สามารถบำเพ็ญตบะงั้นหรือ แต่นางเป็นผู้ครอบครองพลังครบทุกธาตุ ไม่มีคุณสมบัติมากพอบำเพ็ญลัทธิหรือ นางนอกจากบำเพ็ญลัทธิอสูรลัทธิเทพลัทธิวิญญาณลัทธิมารทั้งสีแล้ว ยังสร้างลัทธิภูตผีอีกด้วย ไร้ค่า ไม่มีความสามารถงั้นหรือ นางคือราชาผี ที่สืบทอดพลังหยินขั้นสูง แค่กระดิกนิ้ว พญาวิญญาณแค้นนับหมื่นก็พรั่งพรูมาปรนนิบัติ เพียงแต่ว่าจักรพรรดิผู้ลึกลับที่ตามตื้อนางนั้น มันคือยังไงกัน เฝิงอี้ "เพิ่งเจอหน้ากันก็ถอดเสื้อข้า เช่นนั้นเราสู้กันบนเตียงอีกรอบดีหรือไม่" เย่วเฉิงเฟิงยิ้มยั่ว "ผู้ชายมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของข้า ท่านจักรพรรดิ ท่านเดินทางดีๆ ลาก่อนนะ"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY