“โรคนี้ รักษาได้อยู่สามวิธีนะ ใช้ยา ผ่าตัดและ... ท้อง” คำตอบของคุณหมอทำให้หญิงสาวเงียบไปอึดใจก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ “งั้นวิธีสุดท้ายแล้วกันค่ะ...รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ"
“เป็นอะไรมาคะเนี่ย” เสียงหวานๆ ของผู้ชายในชุดกาวน์สีขาวทำให้ใจฉันชื้นขึ้นมานิดหน่อย ฉันนั่งตัวงออยู่บนเก้าอี้ในห้องตรวจโรคทั่วไป เป็นเพราะฉันปวดท้องแบบแปลกๆ มาหลายครั้งทั้งในช่วงมีประจำเดือนและก่อนประจำเดือน ตอนแรกฉันก็เข้าใจว่าทุกคนเป็นแบบนี้ แต่ไปๆ มาๆ ฉันว่ามันไม่ใช่ มันมากเกินไปสำหรับการปวดท้องประจำเดือน
หน้าฉันซีดและเต็มไปด้วยเหงื่อ หายใจไม่ถนัดนัก เพราะความรู้สึกปวดมันเริ่มตั้งแต่ท้องน้อยไปยันเรียวขา ราวกับถูกสูบแรงไปซะหมด
“ปวดท้องค่ะหมอ” ฉันทำเสียงเหมือนจะร้องไห้พร้อมกับใช้มือปาดเหงื่อ “ปวดมากเลย แต่ก่อนก็ปวดแค่ตอนประจำเดือนมา ตอนนี้ประจำเดือนไม่มาก็ปวด ปวดลงไปถึงขาเลยค่ะ”
ฉันอธิบายอาการ ก่อนที่นัยน์ตาจะสบกับป้ายชื่อที่ปักด้วยไหมสีแดง ‘พชร อัครโภคิน’ และเป็นคราเดียวกับที่คุณหมอถอดแมสก์ออก อาการปวดท้องของฉันก็หายไปชั่วครู่
“ปวดตรงท้องน้อยเหรอคะ”
ฉันตะลึงกับความเนียนใสของใบหน้าคนตัวสูงกว่า ฉันอยู่แถวนี้มาตั้งหลายปี มีแต่หมอแก่ๆ ไม่ก็หมอรุ่นแม่ แต่ฉันไม่เคยเห็นหมอวัยใสที่หน้าเบ้าเกาหลีขนาดนี้มาก่อน
โอ๊ย น่ารัก หล่อ ฉลาด แถมยังพูดจาคะขา หน้าตาก็ผ่าน ฉันเผลอมองหน้าหมออยู่นาน นานจนหมอสะกิดและเรียกชื่อฉันอีกรอบ
“คนไข้คะ”
“คะ? อ๋อ ใช่ค่ะ”
โอ๊ย ปวดท้องก็ปวด อยากกรี๊ดหมอก็อยาก
“หมอเป็นหมอใหม่ที่นี่เหรอคะ” ฉันถามเขาด้วยน้ำเสียงสงสัย เขายิ้มให้เล็กน้อย
“เปล่าหรอก เป็นนักศึกษาแพทย์อยู่ปีสุดท้าย เพิ่งมาฝึกที่นี่เอง ถ้าไม่เก่งพอก็ขอโทษด้วยนะ” หมอว่าอย่างถ่อมตัว ก่อนจะโฟกัสที่อาการปวดท้องของฉันอีก จู่ๆ คนตัวสูงก็ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้จนฉันสะดุ้งเล็กๆ “เหงื่อออกเต็มเลย ปวดมากเลยสิคะ”
“อะ อ๋อ ใช่ค่ะ” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น คงเพราะหน้าหมอใกล้มาก ใกล้กว่านี้ก็จูบกันแล้ว
“คนไข้ชื่อเล่นว่าอะไรนะคะ จะได้เรียกถูก”
“ตะ เตยค่ะ” ฉันตอบก่อนจะเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ใบหน้าร้อนขึ้นมาหนึ่งระดับเพราะได้กลิ่นน้ำหอมของหมอลอยเข้ามาแตะจมูกฉัน และไม่รู้ฉันประสาทหรือเมากลิ่นของมัน ฉันจ้องหมอด้วยสายตาวอนนาบีและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าปกติ “เอาเบอร์บ้านกับเบอร์มือถือไปด้วยเลยไหมคะ”
“คะ? อ๋อ คนไข้กรอกเบอร์ไว้ในแฟ้มประวัติแล้วนี่นา” เขาหัวเราะ
“งั้นถ้าหมอมีเบอร์เตยแล้วก็อย่าลืมโทรนะคะ จะรอค่ะ” ฉันมองหมอด้วยสายตามีเลศนัย มือข้างที่ว่างเกลี่ยผมไปทัดหู
“...” หมอย่นคิ้วงง
“หมายถึงโทรมาถามอาการเตยไงคะ แต่ถ้าอยากถามอื่นเตยก็สามารถตอบหมอได้ทุกข้อเลยนะคะ เช่นสถานะโสด...อะไรแบบนี้ค่ะ เตยหมายถึงเตยไม่มีแฟนค่ะ”
“แล้วตอนนี้คนไข้ที่สถานะโสดหายปวดท้องละเหรอคะ” คนตรงหน้าหัวเราะกับท่าทีของฉัน บางทีเพราะหน้านางเบ้าเกาหลีจ๋าเหมือนโอปป้าที่พร้อมเดบิวต์ คงจะเจอลูกไม้อ่อยมาทุกแบบเลยเฉยชากับสิ่งที่ฉันพยายามก็เป็นได้
ฉันอยากตอบว่าเห็นหน้าหมอ ก็หายเป็นปลิดทิ้ง แต่มันดูจะแรดไปหน่อย ไม่ค่อยเป็นกุลสตรี ฉันเลยเม้มริมฝีปากพลางกดท้องน้อยให้หนักขึ้น
“ยังเลยค่ะ”
“แล้วนอกจากปวดท้องน้อยนี่มีอาการอื่นร่วมด้วยไหมคะ”
“อาการรักค่ะ” ฉันว่าพลางปรายสายตาโปรยสเน่ห์ให้หมอ เล่นทุกมุก เก็บทุกเม็ด บาทสองบาทฉันก็เอา หากแต่หมอก็ไม่เข้าใจฉันอีก
“คะ?”
“ก็มันปวดไปหมดเลยค่ะ ปวดมากสุดก็ท้องน้อย บางทีก็เหมือนท้องอืด ท้องเสีย ท้องไส้แปรปรวนไปหมดเลย... ถ้ามีคนดูแลสักคนก็คงดีนะคะ” ฉันว่าแล้วก็เหล่สายตาไปที่หมออีก
“สงสัยหมอคงต้องขอตรวจเพิ่มหน่อยนะ”
“ถอดเลยไหมคะ” ฉันถามและนั่นทำให้หมอชะงัก
“อะไรนะคะ”
“ก็เวลาตรวจเขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้ากันเหรอคะ” ฉันมองหมอด้วยสายตากรุ้มกริ่ม หุบยิ้มไม่ได้ ดีนะที่เมื่อเช้าฉันเลือกชุดชั้นในวิคตอเรียซีเคร็ตที่ลายน่ารักกุ๊งกิ๊งเหมาะสำหรับการเผด็จศึกมาใส่
“ใจเย็นนะคนไข้ เดี๋ยวหมอเรียกพยาบาลให้นะ” หมอหัวเราะก่อนจะเดินไปเปิดประตูแล้วเรียกเจ๊พยาบาลที่หน้าตาควรเกษียณไปแล้วเข้ามาหาฉัน เธอตีหน้าถมึงทึงเล็กน้อย
“พี่แป๊ว คนไข้จะตรวจภายใน รบกวนจัดการให้หมอหน่อย พาคนไข้ไปเข้าห้องน้ำ ทำอะไรให้เรียบร้อยด้วยนะคะ” เสียงของหมอหวานมาก หวานจนฉันเคลิ้ม แม้แต่อีเจ๊พยาบาลหน้าดุที่ตีหน้าเหมือนจะกินหัวฉันเมื่อกี้ก็อมยิ้มขึ้นมาบางๆ
“ได้ค่ะหมอมีน” เจ๊พยาบาลรับคำ
“อ้าว หมอชื่อเล่นว่ามีนเหรอคะ” ฉันหันมองด้วยสายตาต้องการคำตอบ หมอยิ้มรับ
“ใช่ค่ะ ทำไมเหรอ”
“บังเอิญจังเลยค่ะ”
“หืม ยังไงเหรอคะ มีคนรู้จักชื่อมีนเหรอ” หมอย่นคิ้วนิดหน่อยขณะที่ฉันอมยิ้มกรุ้มกริ่ม
“อ๋อ ก็วันก่อนแม่ไปหาหมอดูที่หน้าโรงพยาบาลมาค่ะ เค้าบอกว่าเนื้อคู่เตยชื่อมีนค่ะ”
“หมอคะ พี่ว่าคนไข้น่าจะมีอาการเพ้อเจ้อร่วมด้วย ทำเรื่องส่งไปตรวจแผนกจิตเวชด้วยเลยไหมคะ”
อ๊าย อีป้า อย่ามาขัดจินตนาการฉันสิ! ฉันเคืองนะ! แผนกจิตเวชอะไรวะ ฉันปกติดีโว้ย!
ฉันเบ้ปากเล็กๆ และสบตากับหมอที่ยืนอมยิ้มแต่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
“นี่ อีหนู หมอเขาโดนสาวแอ๊วทุกวัน เขาชินแล้ว มานี่ มาห้องน้ำกับพี่ ไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยแล้วเปลี่ยนผ้าถุงมาขึ้นขาหยั่ง หมอเค้าจะได้ตรวจให้เสร็จๆ”
ฉันโดนลากไปเปลี่ยนผ้าถุงแบบเสร็จสรรพ ได้แต่มองตามหมอตาละห้อยก่อนจะกลับมาที่ห้องเดิมและขึ้นนั่งเตียงแปลกๆ ที่พยาบาลเรียกว่าขาหยั่ง จากความกล้ามากมายในตอนแรกเริ่มหดเล็กลงตามกาลเวลา เพราะว่าฉันกำลังจะถูกตรวจโดยหมอที่หน้าตาหล่อมาก ฉันเลยเกร็งจัด
ให้ตายเถอะ เกิดมาฉันยังไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนได้เห็นเลยนะ นี่เจอหน้ากันครั้งเดียวก็ขอแหกแข้งแหกขาฉันเลยอะ ฉันพยายามหลับตาและตั้งสติก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงหมอพูดขึ้น
“พี่แป๊ว ขอถุงมือสเตอร์ไรด์หน่อยค่ะ”
อ๊ากกกก หมอมาแล้ว! ฉันตื่นเต้นหนักและหลับตาปี๋เพราะฉันไม่รู้จะตีสีหน้ายังไงใส่หมอ เมื่อกี้แอ๊วไปตั้งเยอะ พอถึงเวลาฉันดันไม่กล้าสบตา
“ไม่ต้องเกร็งนะคะ” หมอว่าและทำให้ฉันเกร็งหนักกว่าเก่าด้วยการเปิดผ้าถุงดังพรึ่บ สัมผัสลมเย็นๆ จากอากาศก็ปะทะเข้าสู่ผิวอ่อนไหวของฉันทันที
แค่ฉันจินตนาการว่าหน้าหมออยู่ตรงกลางระหว่างขาของฉันและกำลังจดจ้องบริเวณนั้น ฉันก็ประสาทจะกิน และหมอก็ยังทำให้ฉันตะลึงมากขึ้นเมื่อเขาพูดประโยคต่อมา
“ปวดท้องมาเนอะ เดี๋ยวหมอจะตรวจด้วยนิ้วนะคะ คนไข้ไม่ต้องเกร็งนะ”
นะ นิ้ว!
บอกไม่ให้เกร็งแต่ฉันเกร็งหนักกว่าเดิมอีก
หมอหน้าหล่อขนาดนี้แถมยังจะใช้นิ้วเข้ามาข้างใน ใครจะไม่เกร็งเล่า! แง้
“ไม่ต้องห่วงหรอก"ฉันเอ่ยปากพลางตบบ่าไอ้นุ่นเพื่อให้มันคลายความกังวลใจเรื่องที่ฉันอยู่มหาลัยจนจะปีสี่แล้วยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเค้าสักที "ถ้าหาใครไม่ได้ กูก็จะเอามึงนี่ล่ะ"
"ตบแล้วทำไม จะจูบแบบในละครไง?"ฉันหัวเราะเมื่อแกล้งตบตรงรอยช้ำที่ผิวแก้มของเพื่อนสนิทเพื่อยั่วประสาทมันเล่นๆ ไอ้เตย์ชักสีหน้าไม่พอใจ"ตบจูบมันน้อยไปนะเวย์..." มันยกยิ้ม "ระดับพี่เตย์ต้องตบตับ!!!"
เพราะฉันดันไปสาดน้ำมันพรายใส่ผิดคน จากหนุ่มหล่อเนิร์ดกลายเป็นไอ้บ้าหน้าเลือดที่น่ากลัวสุดๆ ฉันหาข้ออ้างให้เขาหายไป หากแต่เขาชี้ปลายมีดมาเข้าที่หน้าฉัน "มาเป็นแฟนฉัน ไม่งั้นตาย" กลัวแล้ว ;-;
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"