"ตบแล้วทำไม จะจูบแบบในละครไง?"ฉันหัวเราะเมื่อแกล้งตบตรงรอยช้ำที่ผิวแก้มของเพื่อนสนิทเพื่อยั่วประสาทมันเล่นๆ ไอ้เตย์ชักสีหน้าไม่พอใจ"ตบจูบมันน้อยไปนะเวย์..." มันยกยิ้ม "ระดับพี่เตย์ต้องตบตับ!!!"
เพี๊ยะ! เสียงฝ่ามือกระแทกเข้าเบ้าหน้าสวยๆของผมหนึ่งทีพร้อมกับน้ำตาหลายหยด เออ ผมพูดไม่ผิดหรอกว่าสวย ผมสวยจริงๆ สวยกว่าผู้หญิงตรงหน้าผมตอนนี้ด้วยซ้ำ…
“เลว” ร่างเล็กสบถพร้อมเม้มริมฝีปากแรงๆอย่างไม่พอใจ นัยน์ตาเธอแดงก่ำคุกรุ่นไปด้วยความเคียดแค้นเมื่อเธอได้รับรู้ความจริงเรื่องที่เธอไม่ใช่แฟนผม...เพียงคนเดียวน่ะนะ เหอๆ เกิดเป็นชายทั้งทีต้องมีสีสันกันบ้างป่ะวะ เอาเหอะ ขอเก๊กหน้านอยด์ให้เข้ากับสถานการณ์แป๊ป
“เตย์ทำแบบนี้กับเราได้ไง” คนตรงหน้าพยายามพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนจะสั่นระริกไปทั้งตัวทำให้ผมรู้สึกผิดนิดหน่อย...นิดนึงจริงๆ
“ขอโทษนะ แนนนี่ เตย์ผิดไปแล้ว” ผมพูดเสียงอ่อยตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเอาซะดื้อๆ ผู้หญิงง้อง่ายจะตาย กะพริบตาอ้อนสองทีก็ยอมผมแล้ว เชื่อดิ ระดับไอ้เตย์
“เราชื่อนานา - -”
ชิบหาย กูจำผิดคน -_-; ผมหัวเราะเหอะๆในขณะที่สาวเจ้าสะบัดหลังมือฟาดเข้ากับหน้าผมอีกรอบ!
เพี๊ยะ! หน้าผมหันไปตามแรงฝ่ามือก่อนจะรู้สึกแสบร้อนตรงแก้มยิบๆ แม้ผมอยากจะเข้าไปกระชากคอเสื้อผู้หญิงตรงหน้าสักเท่าไหร่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้เพราะอยู่ในที่สาธารณะ เดี๋ยวจะเสียภาพพจน์พี่เตย์คนจริงประจำคณะวิทยาหมด เหอะ ถ้าอยู่มุมมืดนี่ไม่เหลือ...
“เตย์ใจร้าย ฮึก เราอุตส่าห์ทำตัวเป็นแฟนที่ดี ตอบแทนกับแบบนี้เหรอ @%@!!$$@!” เสียงพร่ำพรรณนาปนสะอื้นสาปส่งความชั่วของผมยาวพอๆกับกำแพงเมืองจีน ผมยืนก้มหน้างุดเอาเท้าเขี่ยดินแล้วถอนหายใจยาวอย่างเซ็งๆ ก็จริงที่ผมชอบผู้หญิงสวย ซึ่งคนตรงหน้าก็ถือว่าใช้ได้ หน้านมผมเป๊ะ เสียอย่างเดียว…งี่เง่า
“เอาสั้นๆพอ อย่าเยอะ รำคาญ” ผมเบ้หน้าไม่พอใจ ไหนๆก็จะจบกันแล้วก็เผยสันดานสักหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอก จริงมั้ย? หญิงร่างบางตรงหน้าชะงักไปนิดนึงเมื่อได้ยินเสียงห้วนๆกับเบ้าหน้าไม่พอใจของผม เธอกัดริมฝีปากอย่างแรงก่อนจะสรุปใจความร้อยสิบประโยคนั่นให้ผมเพียงสองคำ...
“ไอ้เหี้ย!!!”
ชัดเจน เปลี่ยน! โอเค นั่นคือชีวิตปกติประจำวันของผม ‘อาเตย์’ หรือ เตชินท์ รัตนชินทร์ รุ่นพี่ปีสี่หน้าสวยแห่งคณะวิทยา และดูเหมือนว่าจะได้อยู่ถึงปีห้าด้วยแหละ เหอะๆ ดีใจดีป่ะวะ เกิดมาเบ้าหน้าดีทำให้ชะนีไร้ที่ยืนเนี่ย (- -*) และสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดในชีวิตคืออะไรรู้ป่ะ ไอ้ฉายาทุเรศๆอย่างเช่น...
“ไอ้สวย”
เออ ฉายานี้เลย คือผมเป็นผู้ชาย ควรเรียกไอ้หล่อถึงจะถูกต้อง ผมเบ้หน้าลุกขึ้นมาจากที่นอนมองไอ้คนกวนประสาทที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยตีนเท่าฝาหอยนั่งอ่านการ์ตูนบนโซฟาพร้อมชี้ปลายเท้ามาทางหน้าผมอีกต่างหาก มันชื่อ ‘อะเวย์’ เรียกสั้นๆว่าไอ้เวย์ ผมว่าชื่อผมแปลกละนะ ชื่อแม่งแปลกกว่าผมอีก มันบอกว่าชื่อมันมาจากรากศัพท์ภาษากรีกแปลว่าจงมีความสุข เหอะๆ เป็นคนไทยแท้ๆเสือกตั้งชื่อเป็นภาษากรีก... พูดให้ดีคือ ไม่ซ้ำใคร พูดให้แย่คือ กระแดะชิบหาย
“อยากตายไง” ผมจิ๊ปากแล้วโยนหมอนไปทางมันหนึ่งที แต่ไอ้นี่แม่งชาติก่อนเป็นลิงลมรึเปล่าไม่รู้ พลิ้วชิบหาย หลบได้หลบดี ผมถอนหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะปรี๊ดอีกรอบเมื่อมันหัวเราะตัวงอพร้อมกับปิดหนังสือการ์ตูนมองหน้าผม
“ไม่ดีไง มึงสวยกว่ากูอีก” มันว่าแล้วหัวเราะพรืดกับท่าทีฟึดฟัดอย่างออกนอกหน้าของผม แม่งกวนตีนละ -_-^ อ้อ ใช่ ผมลืมบอกไป ไอ้เวย์เป็นผู้หญิงแต่ติดจะห่ามๆนิสัยผู้ชายปากคอเราะร้ายโคตรๆ บางทีอาจจะเป็นเพราะครอบครัวมันมีแต่ผู้ชายก็เป็นได้ ถึงอย่างนั้นก็เหอะ ถ้าไม่นับนิสัยเวรๆนั่นมันก็เป็นผู้หญิงที่ใช้ได้ ไม่ดิ…โคตรจะดีเลย ห่งหุ่นทรวดทรงองค์เอวโคตรจะเป๊ะ อีกอย่างนะ อื้อหือ นมนั้นท่านได้แต่ใดมา บึ้มได้อีก ชอบชิบหาย! พูดให้ดีคือ เซ็กซี่ พูดให้แย่คือ น่าล่อมาก เหอๆ ขออภัยใช้มุขซ้ำ -_-//
“เรียกดีๆ” ผมพยายามข่มอารมณ์แล้วถูแก้มเบาๆ ให้ตายเหอะ ไอ้ความรู้สึกแสบหน้ามันยังไม่หายไปเลยว่ะ ตบมาได้ คนเขายิ่งบอบช้ำง่ายอยู่ เอ้ออออ
“โอเค เตชิต” ไอ้เวย์ว่าก่อนจะหัวเราะร่วนในขณะที่ผมแทบจะพุ่งเข้าไปทำร้ายแม่งรัวๆ ติดแต่ว่าขี้เกียจลุกเท่านั้นแหละเลยได้แต่หยิบหมอนอีกอันปาใส่หน้ามันอีกที
“ชื่อพ่อกู -_-”
“ล้อเล่น โอ๋ๆ ทำเป็นนอยด์ โดนตบมานิดหน่อยเอ๊งงง” ไอ้เวย์แกล้งทำเสียงสูง อย่างที่มันว่าโดนตบนิดหน่อย แต่ทยอยคนละทีมันไหวป่ะวะ หน้านะไม่ใช่กระเบื้องตบเอาตบเอา อาทิตย์นี้ก็ปาเข้าไป...กี่คนละเนี่ย
ตายๆ ลืมนับ ฮอตไปก็อยู่ยากอ่ะโลกนี้ (-_-;;)
“ก็พี่เตย์คนจริงอยากคบเยอะทำไมล่ะ มีแฟนทั้งทีมีคนเดียวพอ...นอกนั้นสถานะชู้”
เกือบเป็นคนดีในสายตากูละ =_=
ไอ้เวย์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ได้แซวผมก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับชะโงกหน้าเรียวเข้ามาพินิจพิจารณาผมจนลมหายใจร้อนๆเป่ารดผิวแก้มทำเอาพี่เตย์คนจริงร้อนรุ่มขึ้นมาทันที อื้อหือ กลิ่นน้ำหอมแม่งยั่วมาก บางทีก็อยากจะด่ามันนะที่เอาหน้าเข้ามาใกล้ผมขนาดนี้ คือผมก็ผู้ชายปะวะ มันก็ต้องมีอารมณ์พลุ่งพล่านกันบ้าง แต่นี่แม่งไม่เคยจะระวังตัวเลย ยังไม่ทันให้ผมปรับอารมณ์ให้อยู่ในระดับปกติ ไอ้เวย์ก็ดันกระตุ้นฮอร์โมนวัยว้าวุ่นของผมอีกด้วยการใช้นิ้วเรียวแตะที่ใบหน้าและพลิกมันไปมาเพื่อดูร่องรอยประวัติศาสตร์แห่งการถูกทำร้ายของผม
“แก้มแดงแบบไม่ต้องปัดบลัชออนเลยว่ะ” มันกระซิบเสียงต่ำทำเอาผมกลืนน้ำลายเอื๊อก นัยน์ตาเรียวรีสีน้ำตาลเข้มนั่นสบตากับผมให้ความรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตแปล๊บปล๊าบจนเกือบกระทำการอุกอาจผิดศีลธรรม ผมเลยต้องกำมือแน่นพลางเตือนสติตัวเองในใจว่า นั่นเพื่อน ใจร่มๆไว้ไอ้เตย์ เพื่อนจ้า เพื่อน
“เจ้าชู้ก็งี้ สมควร” ไอ้เวย์หรี่ตาต่ำแล้วตบแก้มผมเบาๆสองสามทีเป็นการตอกย้ำความชั่วช้าของผม แต่ให้ตาย ไอ้คำพูดของมันไม่ได้เข้าสมองผมเท่าไหร่ เพราะไอ้การที่คุณเธอหรี่ตานั่นมันขับความเซ็กซี่เพิ่มเข้าไปอีกสามล้านเปอร์ ผู้หญิงบ้าอะไรวะแค่หน้าตาก็อ่อยเหลือขนาดน่าฟาดฟัดมาก… อาเตย์อยากกิน
“ไม่ได้เจ้าชู้ แค่เฟรนด์ลี่” ผมยกยิ้มหวานแล้วยักคิ้วสองทีกวนประสาทจนมันหัวเราะเหอะๆแล้วตบหน้าผากผมดังแป๊ะ!
“แรด” ไอ้เวย์ว่าทำให้ผมไหวไหล่ไม่สนใจ ไม่ต้องชมนะ คนอย่างอาเตย์รู้ตัวมานานละ นอกจากแรดแล้วยังร่านด้วย แลดูภูมิใจป่ะ ฮ่าๆ
“ตบกู รู้มั้ยว่าพลาดมาก” ผมว่าแล้วตีหน้าขรึมทั้งๆที่ความจริงแอบหัวเราะในใจ ปกติผมจะไม่ขึ้นกูมึงกับไอ้เวย์นอกจากเวลาโกรธหรืออยากกวนตีน เพราะยังไงมันก็เป็นผู้หญิงถึงนิสัยมันสมควรจะเป็นผู้ชายก็เหอะ
“ทำไม จะตบจูบแบบคุณหฤษฎิ์จำเลยรักไง” ไอ้เวย์หัวเราะแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกทีขนาดที่ถ้าเขยิบมาอีกนิดจะจูบกันละ พูดก็พูดเหอะ แม่งยั่วกันชัดๆ ที่สำคัญมันไม่เคยรู้ตัวเลยนี่ดิ โคตรเอาเปรียบกันเลยว่าป่ะ ตอนแรกผมก็ว่าจะไม่ละนะ พอได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆนั่นอีกทีเท่านั้นแหละ สติแทบจะหลุด! ผมหรี่ตาแล้วมองหน้าไอ้เวย์นิ่งๆ ริมฝีปากหยักบางสีชมพูระเรื่อทำให้ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก อ่าฮะ อันนั้นว่าแย่แล้วแต่พอเหลือบตาต่ำเท่านั้นแหละ อื้อหือ คัพซีมันทำให้พี่เตย์คนจริงอยากจะแปลงร่างเป็นไอ้เหี้ยเตย์แทนเลยครับ
“เหอๆ ดูถูกกันไปมั้งเวย์” ผมยกยิ้มร้ายก่อนจะไล้ปลายนิ้วมือที่ริมฝีปากนั่นพร้อมๆกับกดอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน อุณหภูมิตอนนี้ 24 องศาเซลเซียสแต่ผมกลับรู้สึกร้อนเหมือนอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่ายังไงยังงั้น จากริมฝีปากลากมาที่ไหล่บางก่อนจะกระชากร่างบางกดลงกับเตียงทันทีแบบไม่มีสัญญาณเตือน!!
“!!!” คนตรงหน้าเบิกตาโตอย่างตกใจเมื่อจู่ๆก็โดนจู่โจมแบบไม่ให้ตั้งตัว ผมกดไหล่ทั้งสองข้างของร่างบางลงกับเตียงนุ่มแรงๆก่อนจะขึ้นทาบทับตรึงไม่ให้มันขยับเขยื้อน ถามว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ตอบง่ายมาก...
คัพซีของไอ้เวย์มันได้ครอบงำอาเตย์แล้ว
“อะไรเนี่ย?” เธอโวยวายแล้วพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ แต่ก็อย่างว่าแรงผู้ชายกับผู้หญิงมันผิดกันจะตาย ไม่หลุดง่ายๆหรอกไอ้น้อง พี่บอกเลย เหอๆ ไม่ไหวละ ระดับความหื่นมันพุ่งปรี๊ดถึงเพดานรู้สึกได้จากไอ้เตย์น้อยเนี่ยแหละ ยอมรับว่าตอนนี้ยังพอมีสติสัมปชัญญะแต่ว่าไม่อยากใช้ เพราะไอ้สัญชาตญาณผู้ชายมันกำลังโหมกระหน่ำทำเอาผมคลั่งโคตรๆ
ผมปรายตามองคนใต้ร่างแล้วหัวเราะชั่วๆ ก่อนจะกวนประสาทตบท้ายด้วยประโยคทุเรศๆ
“ตบจูบมันน้อยไปนะเวย์... ระดับพี่เตย์ต้องตบตับ!!!”
“ไม่ต้องห่วงหรอก"ฉันเอ่ยปากพลางตบบ่าไอ้นุ่นเพื่อให้มันคลายความกังวลใจเรื่องที่ฉันอยู่มหาลัยจนจะปีสี่แล้วยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเค้าสักที "ถ้าหาใครไม่ได้ กูก็จะเอามึงนี่ล่ะ"
“โรคนี้ รักษาได้อยู่สามวิธีนะ ใช้ยา ผ่าตัดและ... ท้อง” คำตอบของคุณหมอทำให้หญิงสาวเงียบไปอึดใจก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ “งั้นวิธีสุดท้ายแล้วกันค่ะ...รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ"
เพราะฉันดันไปสาดน้ำมันพรายใส่ผิดคน จากหนุ่มหล่อเนิร์ดกลายเป็นไอ้บ้าหน้าเลือดที่น่ากลัวสุดๆ ฉันหาข้ออ้างให้เขาหายไป หากแต่เขาชี้ปลายมีดมาเข้าที่หน้าฉัน "มาเป็นแฟนฉัน ไม่งั้นตาย" กลัวแล้ว ;-;
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย