เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
คอนโดหรูกลางใจเมืองกรุงเทพฯ
ครืน ครืน
มือใหญ่ควานไปหยิบมากดรับ
ความง่วงเริ่มหายไป ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งสะบัดผ้านวมออกจากตัว เมื่อได้ยินเสียงหวานๆ
จากคนไกล ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นจากเตียงตรงไปที่หน้าต่าง
“กลับมาแล้วเหรอ
ทำไมมาก่อนกำหนดล่ะครับ แปลกใจนะเนี่ย”
เสียงหวานบอกว่ามาเซอร์ไพรส์
คนเพิ่งตื่นซึ่งมีรูปร่างไม่ต่างนายแบบ ด้วยความสูง 187 เซนติเมตร
เสยผมดกดำ ปากที่ไม่ค่อยยิ้ม แย้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
“ถ้าอย่างนั้นเจอกัน
อีกครึ่งชั่วโมงได้ไหม”
มีเสียงว่าใจร้อน
แต่เขาก็ใจเย็นไม่ได้ รอคอยมาหลายปี บัดนี้เธอกลับมาจะมัวรออะไรอยู่อีก
ผัดวันประกันพรุ่งมีแต่จะออกนอกลู่นอกทางไปเรื่อย
จะหาทางกลับมาไม่เจอเป็นแน่
ช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมาก็นับครั้งที่ไปหาได้
เขารีบเดินไปอาบน้ำ
“ไปไหนหรือคะคุณคิน”
“ดาวิกลับมาแล้ว
เธอจะนอนต่อก็ไม่ว่า แต่ฉันไม่อยู่กินมื้อเช้าด้วยแล้วนะ”
คนที่ยังง่วงลืมตากว้าง
มองแผ่นหลังเปลือยซึ่งเดินเข้าห้องน้ำ เธอเดินลงจากเตียง กระชับเสื้อคลุมให้แน่น
เตียงนอนซึ่งเป็นสนามสวาทมาหลายปี
จนเคยชิน เคยคิดว่าต่อไปคือที่หลับนอนตลอดไป กลายเป็นต้องจบลงจริงๆ
เป็นข้อตกลงที่คงไม่ต้องเอ่ยถึงอีก
แต่เมื่อถึงเวลา รู้สึกใจเจ็บปวด เธอไม่อาจมอบตำแหน่งความผูกพันที่เธอรู้สึก คู่นอนเบอร์หนึ่งที่เขาให้
ไปให้ใคร และเมื่อคิดว่าคนที่อคินพูดถึง เขาจะให้มากกว่าความผูกพัน มากกว่าคู่นอน
ก็แทบหายใจไม่ออก
“คิน
อาบน้ำด้วยสิได้ไหม”
พยายามยื้อเวลา
แค่สักครู่คงทำให้ใจเข้มแข็งขึ้น อย่างน้อยกอดลาก่อนจาก เธอรู้สึกจริงๆ
ว่าจะไม่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้อีกแล้ว
ถ้าเป็นเมื่อก่อน
ไม่ว่าเวลาไหน ประตูจะเปิดออกทันทีแต่ตอนนี้ในห้องน้ำเงียบ หญิงสาวพิงพนังหน้าห้อง
เรียกอีกครั้ง “คินคะ” แต่มีแค่เสียงน้ำจากฝักบัว อันอันหรืออัญชลียา
ถอยห่างออกจากตรงนั้น มาดื่มน้ำและคิดถึงอนาคตตนเอง
เพื่อน คู่นอน
ผูกพันกับเขาเพียงคนเดียว ไม่เคยมองใครอื่น แม้จะดีกับเธอสักเพียงไร
อยากก้าวสู่คนรัก ภรรยา ช่างฝันเฟื่อง
“อะไรของเธอ
เรียกทำไมหึ ฉันรีบนะ”
มือใหญ่เดินเช็ดผมออกมา
หญิงสาวคลายมวยผมบนหัว ให้ปิดดวงตา แสร้งถามเขาเรื่องที่รู้คำตอบ
“เราจะไม่เจอกันอีกใช่ไหม
เมื่อดาวิของคุณมาแล้ว”
ดาวิกาเป็นรุ่นน้องของอัญชลียาหนึ่งปี
ไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่จบปริญญาตรี เคยกลับมาเมืองไทย สองครั้งเท่าที่จำได้
นอกนั้นเพื่อนที่กลายเป็นคู่นอนไปหาตลอด หญิงสาวอยากรู้นัก
คนที่อยู่บนเตียงหลายปีอย่างเธอ ซึ่งเขาบอกว่าถูกใจ จะทำให้จิตใจเขาลังเลบ้างหรือไม่
เธอแอบมองผ่านเส้นผมหนาเพียงครู่เดียว
ไม่มีวี่แววจะสนใจกัน
เธอดื่มน้ำอีกอึก ทั้งๆ ที่น้ำเต็มท้อง จนพุงกาง
“ก็มันแน่อยู่แล้ว
ฉันอยากเลิกเสเพล แต่งงานเสียที เธอเองก็เหมือนกันนะ”
“ฉันไม่เคยมีใครนะ
มีแค่คุณ”
ถึงอคินจะแก่กว่าเธอสองปี
แต่เธอก็ไม่คิดเรียกเขาว่าพี่เหมือนตอนเด็กอีก ผู้ชายตรงหน้ามีสัมพันธ์กับเธอมาตั้งแต่เรียนมหาลัยปีสาม
ตอนนี้เกือบห้าปี แต่เขาจะมาเหมารวมไม่ได้ว่าเธอเหมือนเขา
ถึงเธอจะเปรี้ยว
แต่งตัวไม่แคร์ใคร แต่เรื่องรักเดียวใจเดียว ใครจะรู้ว่าเธอยืนหนึ่ง
“พูดมากน่า ไม่มีเวลาคุยแล้วและฉันไม่ได้ขอความคิดเห็น
ฉันไปแต่งตัวแล้วนะ เธอเองไม่มีงานจะอยู่ที่นี่จนค่ำก็ได้ แต่บอกไว้ก่อนนะอัน
วันนี้ขอให้เป็นวันสุดท้ายที่เธอใช้ชีวิตอิสระที่นี่”
ไล่ไม่น่าเกลียด
แต่คนฟังเจ็บ อันอันพยักหน้า
“อือ เข้าใจ
ยังไงโชคดีนะ”
“เอาเงินไปใช้นะ
จะได้ทำงานน้อยลง”
อันอันหันมองดวงตาสีนิล
วงหน้าหล่อเหลา คนไม่รู้จักต่างคิดว่าเขาหยิ่งยโส แต่สำหรับเธอเขาใจดี อคินจมูกโด่ง
รับกับคิ้วเข้ม ปากสีสด ผิวขาวเพราะเขามีเชื้อสายจีน
หล่อ รัก
แต่เขาไม่เคยเป็นของเรา เป็นเราที่โง่หลอกตนเองว่าสักวันทุกอย่างอาจได้อย่างใจหวัง
บัดนี้พอแล้ว คนของเขากลับมาแบบไม่ให้ตั้งตัว
ตลกความรักห้าปีจริงๆ
น้ำเน่า รักเขาข้างเดียว
“อันอัน
รองเท้าหนังสีน้ำตาลที่ไปซื้อกับเธออยู่ไหนเหรอ”
ร่างเปลือยปิดก๊อกน้ำ
ยื่นใบหน้าซึ่งพยายามทำให้ปกติออกจากห้องน้ำ
“คุณเอากลับบ้านตอนพี่สาวแต่งงาน
ไม่ได้เอากลับมาเลย”
“ออ ขอบใจ
ถ้าอย่างนั้นใส่สีน้ำตาลคู่อื่นก็ได้”
ร่างในชุดกางเกงยีนต์
เสื้อคอโปโลสีขาว ผมเรียบแปล้เดินจากไป กลิ่นหอมประจำตัวเขาลอยมาแตะจมูก
หญิงสาวปิดประตู
อยากกอดร่ำลาแต่ไม่เขาไม่ได้ต้องการ
เย็นชาขนาดนั้น เธอจะทำไปเพื่ออะไร ตอนนี้ต่อให้แก้ผ้าเดินออกไป
สายตาที่เคยหื่นยามเห็นทุกคราคงไม่มองอีก
อัญชลียาอาบน้ำ
ซ่อนน้ำตาไว้ใต้ฝักบัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นเสมอ ยามท้อแท้กับความสัมพันธ์
แต่เธอเลือกแล้ว และบัดนี้จบลง จะไม่โทษใคร
“ห้ามให้คนอื่นรู้นะอัน
ให้รู้ว่าเราเป็นเพื่อนสนิทเหมือนเดิมเป็นพอ พ่อแม่ฉันก็ห้าม ยิ่งเชียร์เธออยู่
ฉันไม่อยากให้อะไรผิดพลาด ฉันรอเพียงคนนั้นเธอก็รู้ ไม่อยากผิดสัญญา”
คืนแรกที่เมามายเพราะไปดื่มด้วยกัน
จบลงที่สัมพันธ์ลึกซึ้ง มือใหญ่โอบเอวเธอและตกลงกัน เธอนั้นหลงรักเขามานาน เพราะบ้านอยู่ใกล้กันตั้งแต่เด็ก
เขาเหมือนพี่ชาย เพื่อน เพราะเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน ได้เขาเป็นเพื่อน เอาใจ
มีหรือจะไปมองใครอื่นเมื่อโตเป็นสาว ยิ่งเขาหล่อเหลาขนาดนั้น ยิ่งปักอกปักใจ
และแม้คนบ้านเขาจะเชียร์เธอให้รักกับเขา
มันเป็นไปไม่ได้เพราะเจ้าตัวบอกไม่ชอบเธออย่างคนรัก
ไม่ชอบแต่ฟัด
กด เธอตลอดหลังจากวันนั้นที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
เธอยิ้มเยาะตนเอง
ก็แค่ของที่ใกล้มือ
และรสชาติพอใช้ได้
ใครรู้ว่าเธอยอมให้ผู้ชายคนหนึ่งถึงขนาดนี้คงหัวเราะกันใหญ่
โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนๆ
เพราะคนอย่างอันอัน
อัญชลียา แม้ตาโตกับเงินทองแต่ไม่เคยถอดผ้าขึ้นเตียงกับเสี่ยคนไหน
เอาเงินมากองมากมายก็ปฏิเสธมาแล้ว
ใครกันจะรู้ว่ารักโง่ๆ
จะมีจริง ไม่ใช่สิ คนโง่งมในรักต่างหาก
พรึ่บ! หญิงสาวลูบหน้า
มองตนเองในกระจก
เส้นผมสีบรอนท์
ปากรูปกระจับ ไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์ ตากลมโต โดยรวมเธอสวยบาดตาบาดใจ
หน้าอกก็ชูชันกลมโต ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ
ให้สงสัยนัก
ตัวตนเธอ ไม่เคยซึมลึกในหัวใจอคิน รพินกุลบ้างหรือ
ทำไมไม่ชอบ ไม่รักฉันล่ะ
ยายดาวินั่นดีที่ตรงไหนกันนะ? “ฉันไปนะอันอัน
อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ”
“อะไรกันแค่คีย์การ์ด
ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา”
“เธอจะโมโหทำไม
เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา
อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น”
เขายืนมอง
ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา
“เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน
ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ
เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น
“เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม
กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ
ดูแลตัวเองด้วย”
อย่างน้อยยังมีน้ำใจ
แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว
พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป
เสียงประตูปิดลง
หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อน นั่งลงปาดน้ำตา
เงิน เช็ค
เท่านี้ที่คุณให้ฉัน
ความรัก
การดูแลที่ไม่เคยให้ใคร ฉันให้นาย
จบสิ้นก็ดีเมื่อความคิดเราไม่มีวันเหมือนกัน
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
จังหวะนั้นประตูเปิดออกสุดแรง พูดหันมองก่อนจะหดมือ ทำตัวเล็กลีบ “เป็น เป็นลมไปเรียบร้อยครับ” วงศกรไม่ถามอะไร จับชีพจรที่ข้อมือ จับแก้มแดงแจ๋ “ทำไมหน้าแดงขนาดนี้” อายหมอมั้งครับ “เอ่อ โดดแดดครับ” “ก็ไอ้พูดไม่มีหมวก ไม่มีเสื้อให้เลย พาไปสอนเก็บองุ่นทั้งที่แดดเปรี้ยงครับคุณหมอ” วงศกรหันมองพูด “ผมไม่รู้ว่าคุณเค้ากระหม่อมบาง อีกอย่างคุณบอกโอเค” “ออกไปก่อน” สองพ่อลูกลุกขึ้นพร้อมกัน วงศกรหาผ้าเย็นมาเช็ดใบหน้า ลำคอที่เปลี่ยนสีชัดเจน โง่ที่สุด หรือไม่ก็เรียกร้องความสนใจ “โอ้ย!” วงศกรมองมือที่หยาบกร้านซึ่งจับหน้าท้อง หมอหนุ่มเริ่มการตรวจทันที ขณะนั้นคนป่วยรู้สึกตัว เธอถอยห่างร่างใหญ่ที่นั่งใกล้ๆ พลางลำดับเหตุการณ์
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้