คืนก่อนขึ้นดอยบรรดานายช่างต้องมีปาร์ตี้สังสรรค์กันบ้าง แต่เธอดื่มเกินลิมิตไปหน่อย รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาตอนเช้าพร้อมกับมีร่างของผู้ชายคนเดิมที่เคยเจอกันเมื่อหลายปีก่อนนอนอยู่ข้างๆ
ตะวันฉายรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังฝันไป ฝันว่าคืนนี้เมนที่เธอชอบมาหาถึงห้อง หลังจากที่เขาเพิ่งจัดคอนเสิร์ตไปเมื่อไม่นานมานี้ จริงอยู่ว่าตอนที่เขาแสดงอยู่บนเวทีนั้นเต็มไปด้วยคาริสม่าอันล้นเหลือ ยามที่เสียงเพลงอัลบั้มใหม่จังหวะเร้าใจดังขึ้น พร้อมกับเสียงบีตหนักๆ ของกลองดังสนั่นไปทั่วทั้งฮอลล์ เขากระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวชุ่มเหงื่อออกเผยให้เห็นหน้าท้องเป็นลอนเรียงตัวสวย เซ็กส์แอพพีลพุ่งสูงจนแฟนคลับแทบคลั่ง พอวันนี้คนคนนั้นมาปรากฏในฝันของเธอจึงอดตื่นเต้นไม่ได้ มีติ่งไม่น้อยที่เก็บเอาเมนตัวเองไปฝัน เธอเองก็ไม่เว้น
ความมืดช่วยทำให้จินตนาการของเธอเตลิดไปไกล กลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดียวกับที่เมนของเธอเป็นพรีเซนเตอร์ทำให้เลือดในกายร้อนระอุ ยามที่ไล้ปลายนิ้วไปตามผิวเนื้อร้อนฉ่า กลับรู้สึกว่ามันทั้งเรียบลื่นและแน่นกว่าที่เห็นมาก มากจนเธอกัดริมฝีปากเพราะพยายามข่มใจที่เต้นไม่เป็นส่ำให้สงบนิ่ง
เป็นความฝันที่โรมานซ์จนอดเขินไม่ได้
โดยเฉพาะตอนนี้ ตอนที่เขาโน้มตัวมาคร่อมเธอไว้ท่ามกลางความมืด กลิ่นน้ำหอมผู้ชายคละเคล้าไปกับกลิ่นที่เธอใช้กลายเป็นเหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่ เพียงแค่เขาประกบริมฝีปากลงมา แลกเปลี่ยนความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัส ตะวันฉายเหมือนคนตาบอดที่เดินเท้าเปล่าไปในทุ่งดอกไม้ ถูกดึงดูดด้วยกลิ่นที่เธอหลงใหล สุดท้ายจึงมีคนใจดียื่นมือเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้นำทาง
ประสบการณ์ช่ำชองของชายหนุ่มในฝันทำให้หญิงสาวที่เก่งแต่ปากสติเลอะเลือน รสสัมผัสซาบซ่านชวนหลงใหลทำให้เธอกลายเป็นผู้ถูกควบคุมโดยสมบูรณ์ เขาผละริมฝีปากออก พึมพำด้วยถ้อยคำที่เธอฟังไม่รู้เรื่อง ฝากฝังความเจ็บจี๊ดไปตามซอกคอระหง เลื่อนลงต่ำไปยังเนินอกที่โผล่พ้นเสื้อทั้งสองชั้น ตะวันฉายอุทานเสียงแผ่วเมื่อรู้สึกเจ็บตรงหน้าอก ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงซิปเสื้อกันหนาวถูกรูดจนสุด ตามด้วยกระดุมเชิ้ตที่ถูกปลดออกไป แม้ว่าจะมีฮีตเตอร์แต่เธอก็อดผวาเยือกไม่ได้ ขณะที่ใบหน้าของเขาฝังลงที่ร่องอก ลมหายใจร้อนผ่าวที่เลื่อนมาเป่ารดหน้าท้องเรียบเนียนจนเธอต้องบิดตัวด้วยความหวามหวิว
มือเรียวกระชากเสื้อออกจากตัวเขา เข่าทั้งสองข้างชันขึ้นอัตโนมัติ ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายใช้เข่าแยกมันออกจากกันแล้วบังคับให้แนบลงไปกับเตียงนอน
ผ้าห่มหล่นจากเตียงตอนไหนไม่มีใครรู้ ขณะเดียวกันทั้งสองก็เหลือแต่เพียงชั้นใน
“ชอบไหม” เขากระซิบ ค่อยๆ ฝากฝังร่องรอยไปตามผิวเนียนตรงหน้าท้อง จนคนใต้ร่างบิดเร่าไปกับสัมผัสที่แสนวาบหวาม เธอครางรับเสียงแผ่ว มือเรียวขยุ้มกลุ่มผมของเขาจนชายหนุ่มหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาเลื่อนใบหน้าต่ำลงไปใกล้แพนตี้ตัวน้อย มือหนึ่งขยำเนินเนื้อนุ่มหยุ่นจนเธอหายใจสะท้าน แล้วใช้ปลายนิ้วจับขอบเรียบลื่นของชั้นในตัวจิ๋ว ลากมันลงมาทีละนิดจนมันหลุดออกไป
เขาเคลื่อนใบหน้ามาตรงความฉ่ำชื้นของเธอ ค่อยๆ สั่งสอนให้น้องคนนี้ได้รับรู้ว่าเซ็กส์สุดมันส์เป็นยังไง
ตะวันฉายครางงึมงำ อุณหภูมิร่างกายตอนนี้ร้อนกว่าอุณหภูมิห้อง น้ำหอมที่ฉีดพรมมาชื้นเหงื่อจนให้ความรู้สึกชวนลุ่มหลงปนกับกลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้สติอันรางเลือนรับรู้แต่เพียงว่าตอนนี้เมนคนนั้นกำลังปรนนิบัติเธออย่างถึงอกถึงใจ ขณะกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสเร่าร้อน ความเสียวซ่านพลันแล่นพล่านจากใจกลางกายไปจนสุดปลายประสาท
“อ๊า!” ตะวันฉายบิดเกร็งเพราะความรู้สึกประหลาดจากใครบางคนนั้น เธอแอ่นกายขึ้นราวกับคนไร้ยางอายเพื่อให้เขาได้ตักตวงอย่างเต็มที่ มือทั้งสองข้างเลื่อนมาขยุ้มหมอนนุ่มหวังว่ามันจะช่วยปลดปล่อย
ทว่ามันไม่ช่วยอะไรมากนัก เพราะเมื่ออีกฝ่ายเหวี่ยงเธอจนเกือบถึงจุดสูงสุด กลับเลือกขยับปลายลิ้นแล้วถามอย่างคนเป็นต่อ
“ชอบไหม”
“ต่อ...เร็วสิ รีบทำต่อ”
เขาเลิกคิ้วประหลาดใจ ไม่นึกว่าเธอจำชื่อเขาได้ แต่พออีกฝ่ายเรียกร้องพร้อมกับทำเสียงครางหงุงหงิงเหมือนสัตว์บาดเจ็บก็ต้องกระตุกยิ้มเหมือนปีศาจร้าย ปกติแล้วเขาไม่เคยเสิร์ฟผู้หญิงที่นอนด้วยกันแค่คืนเดียวขนาดนี้ แต่เพราะกลิ่นหอมจากตัวเธอแท้ๆ ที่ทำให้สัญชาตญาณสัตว์ป่าของต่อแสดงตัวออกมา
“ขอร้องสิ” เขาหัวเราะเสียงทุ้ม
“ช่วยด้วย...นะคะ” เธอว่า เสียงสั่นไหวเหมือนคนไร้สติ
“ต้องการแบบไหนล่ะ” ปกติไม่เคยถามขนาดนี้มาก่อนเลยนะ คนใต้ร่างนี่ถือเป็นกรณีพิเศษ
“ขอแบบเอ็กซ์ตรีมเลยค่ะที่รัก”
ช่างอ้อน... ต่อหัวเราะอีกครั้ง ศิษย์สำนักไหนกันนะ สอนกันมาดีจริงๆ
หลังจากได้ยินเสียงกระเส่าของคนตัวเล็ก ต่อก็เลื่อนมือปลดตะขอบราของเธอ ทรวงอกที่เบียดแน่นได้รับอิสระจากการปลดเปลื้องจากบราตัวจิ๋ว เขาเคลื่อนริมฝีปากเข้าครอบครองปลายยอดมันอย่างรวดเร็ว นึกย่ามใจที่ขนาดของมันเต็มปากเต็มคำจนรู้สึกตื่นเต้น มือสองข้างทั้งบีบขยำมันอย่างรุนแรงจนเธอกางเล็บครูดกับบ่าเขาเหมือนต้องการระบายความอัดอั้นในกาย ต่อไม่รอให้อีกฝ่ายได้ร้องขออีก เพราะตอนนี้ความต้องการของเขามันพร้อมยิ่งกว่าพร้อม
“ที่รักคะ ช่วยด้วยนะคะ” เธอกระซิบอ้อนวอน
เขาแอ๊บเป็นเด็กมหาลัยรอบที่ห้าก็ถูกผู้หญิงมอมเหล้าแถมใส่ยาปลุกเซ็กส์เอาไว้ ทำเอายอดมนุษย์ที่อายุยืนกว่าชาวบ้านต้องหนีหัวซุกหัวซุนกลับหอพักเพราะกลัวว่าจะไปเผลอกัดใครเข้า แต่คน(ครึ่งผี)หรือจะสู้ลิขิตฟ้า ระหว่างเดินเข้าซอยมืดดันบังเอิญได้กลิ่นหอมเหมือนขนมหวานลอยมาแตะจมูก นาทีนั้นสัญชาตญาณดิบก็พ่ายแพ้ให้กับของหวาน แวมไพร์เก๋าประสบการณ์อย่างเขาก็กลายร่างเป็นหมาเห็นกระดูก งับ...ของหวานนั้นโดยไม่รู้เลยว่าได้เผลอทิ้ง(พิษ)เอาไว้กับเธอ
“หมี่ขาว” สาววิศวะที่โสดขึ้นดอยเป็นปีที่สาม เธอไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะเป็นคนนั้น แต่ทว่าเพราะคำท้าที่รับปากเพื่อนด้วยความคึกคะนอง ทำให้เธอตกปากรับคำชวนของ “เก้าอี้” ตัวละครลับของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งวันนี้เขากลายเป็นพี่ปีสี่ ผูดผ้าคาด SOTUS สีแดง และวิ่งถือธงเกียร์นำขึ้นดอย เพียงเพราะเขาเดินมาทักและชวนเธอด้วยถ้อยคำเรียบง่าย “ขึ้นดอยด้วยกันมั้ยครับ”
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป