คืนก่อนขึ้นดอยบรรดานายช่างต้องมีปาร์ตี้สังสรรค์กันบ้าง แต่เธอดื่มเกินลิมิตไปหน่อย รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาตอนเช้าพร้อมกับมีร่างของผู้ชายคนเดิมที่เคยเจอกันเมื่อหลายปีก่อนนอนอยู่ข้างๆ
คืนก่อนขึ้นดอยบรรดานายช่างต้องมีปาร์ตี้สังสรรค์กันบ้าง แต่เธอดื่มเกินลิมิตไปหน่อย รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาตอนเช้าพร้อมกับมีร่างของผู้ชายคนเดิมที่เคยเจอกันเมื่อหลายปีก่อนนอนอยู่ข้างๆ
ตะวันฉายรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังฝันไป ฝันว่าคืนนี้เมนที่เธอชอบมาหาถึงห้อง หลังจากที่เขาเพิ่งจัดคอนเสิร์ตไปเมื่อไม่นานมานี้ จริงอยู่ว่าตอนที่เขาแสดงอยู่บนเวทีนั้นเต็มไปด้วยคาริสม่าอันล้นเหลือ ยามที่เสียงเพลงอัลบั้มใหม่จังหวะเร้าใจดังขึ้น พร้อมกับเสียงบีตหนักๆ ของกลองดังสนั่นไปทั่วทั้งฮอลล์ เขากระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวชุ่มเหงื่อออกเผยให้เห็นหน้าท้องเป็นลอนเรียงตัวสวย เซ็กส์แอพพีลพุ่งสูงจนแฟนคลับแทบคลั่ง พอวันนี้คนคนนั้นมาปรากฏในฝันของเธอจึงอดตื่นเต้นไม่ได้ มีติ่งไม่น้อยที่เก็บเอาเมนตัวเองไปฝัน เธอเองก็ไม่เว้น
ความมืดช่วยทำให้จินตนาการของเธอเตลิดไปไกล กลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดียวกับที่เมนของเธอเป็นพรีเซนเตอร์ทำให้เลือดในกายร้อนระอุ ยามที่ไล้ปลายนิ้วไปตามผิวเนื้อร้อนฉ่า กลับรู้สึกว่ามันทั้งเรียบลื่นและแน่นกว่าที่เห็นมาก มากจนเธอกัดริมฝีปากเพราะพยายามข่มใจที่เต้นไม่เป็นส่ำให้สงบนิ่ง
เป็นความฝันที่โรมานซ์จนอดเขินไม่ได้
โดยเฉพาะตอนนี้ ตอนที่เขาโน้มตัวมาคร่อมเธอไว้ท่ามกลางความมืด กลิ่นน้ำหอมผู้ชายคละเคล้าไปกับกลิ่นที่เธอใช้กลายเป็นเหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่ เพียงแค่เขาประกบริมฝีปากลงมา แลกเปลี่ยนความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัส ตะวันฉายเหมือนคนตาบอดที่เดินเท้าเปล่าไปในทุ่งดอกไม้ ถูกดึงดูดด้วยกลิ่นที่เธอหลงใหล สุดท้ายจึงมีคนใจดียื่นมือเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้นำทาง
ประสบการณ์ช่ำชองของชายหนุ่มในฝันทำให้หญิงสาวที่เก่งแต่ปากสติเลอะเลือน รสสัมผัสซาบซ่านชวนหลงใหลทำให้เธอกลายเป็นผู้ถูกควบคุมโดยสมบูรณ์ เขาผละริมฝีปากออก พึมพำด้วยถ้อยคำที่เธอฟังไม่รู้เรื่อง ฝากฝังความเจ็บจี๊ดไปตามซอกคอระหง เลื่อนลงต่ำไปยังเนินอกที่โผล่พ้นเสื้อทั้งสองชั้น ตะวันฉายอุทานเสียงแผ่วเมื่อรู้สึกเจ็บตรงหน้าอก ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงซิปเสื้อกันหนาวถูกรูดจนสุด ตามด้วยกระดุมเชิ้ตที่ถูกปลดออกไป แม้ว่าจะมีฮีตเตอร์แต่เธอก็อดผวาเยือกไม่ได้ ขณะที่ใบหน้าของเขาฝังลงที่ร่องอก ลมหายใจร้อนผ่าวที่เลื่อนมาเป่ารดหน้าท้องเรียบเนียนจนเธอต้องบิดตัวด้วยความหวามหวิว
มือเรียวกระชากเสื้อออกจากตัวเขา เข่าทั้งสองข้างชันขึ้นอัตโนมัติ ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายใช้เข่าแยกมันออกจากกันแล้วบังคับให้แนบลงไปกับเตียงนอน
ผ้าห่มหล่นจากเตียงตอนไหนไม่มีใครรู้ ขณะเดียวกันทั้งสองก็เหลือแต่เพียงชั้นใน
“ชอบไหม” เขากระซิบ ค่อยๆ ฝากฝังร่องรอยไปตามผิวเนียนตรงหน้าท้อง จนคนใต้ร่างบิดเร่าไปกับสัมผัสที่แสนวาบหวาม เธอครางรับเสียงแผ่ว มือเรียวขยุ้มกลุ่มผมของเขาจนชายหนุ่มหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาเลื่อนใบหน้าต่ำลงไปใกล้แพนตี้ตัวน้อย มือหนึ่งขยำเนินเนื้อนุ่มหยุ่นจนเธอหายใจสะท้าน แล้วใช้ปลายนิ้วจับขอบเรียบลื่นของชั้นในตัวจิ๋ว ลากมันลงมาทีละนิดจนมันหลุดออกไป
เขาเคลื่อนใบหน้ามาตรงความฉ่ำชื้นของเธอ ค่อยๆ สั่งสอนให้น้องคนนี้ได้รับรู้ว่าเซ็กส์สุดมันส์เป็นยังไง
ตะวันฉายครางงึมงำ อุณหภูมิร่างกายตอนนี้ร้อนกว่าอุณหภูมิห้อง น้ำหอมที่ฉีดพรมมาชื้นเหงื่อจนให้ความรู้สึกชวนลุ่มหลงปนกับกลิ่นแอลกอฮอล์ทำให้สติอันรางเลือนรับรู้แต่เพียงว่าตอนนี้เมนคนนั้นกำลังปรนนิบัติเธออย่างถึงอกถึงใจ ขณะกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสเร่าร้อน ความเสียวซ่านพลันแล่นพล่านจากใจกลางกายไปจนสุดปลายประสาท
“อ๊า!” ตะวันฉายบิดเกร็งเพราะความรู้สึกประหลาดจากใครบางคนนั้น เธอแอ่นกายขึ้นราวกับคนไร้ยางอายเพื่อให้เขาได้ตักตวงอย่างเต็มที่ มือทั้งสองข้างเลื่อนมาขยุ้มหมอนนุ่มหวังว่ามันจะช่วยปลดปล่อย
ทว่ามันไม่ช่วยอะไรมากนัก เพราะเมื่ออีกฝ่ายเหวี่ยงเธอจนเกือบถึงจุดสูงสุด กลับเลือกขยับปลายลิ้นแล้วถามอย่างคนเป็นต่อ
“ชอบไหม”
“ต่อ...เร็วสิ รีบทำต่อ”
เขาเลิกคิ้วประหลาดใจ ไม่นึกว่าเธอจำชื่อเขาได้ แต่พออีกฝ่ายเรียกร้องพร้อมกับทำเสียงครางหงุงหงิงเหมือนสัตว์บาดเจ็บก็ต้องกระตุกยิ้มเหมือนปีศาจร้าย ปกติแล้วเขาไม่เคยเสิร์ฟผู้หญิงที่นอนด้วยกันแค่คืนเดียวขนาดนี้ แต่เพราะกลิ่นหอมจากตัวเธอแท้ๆ ที่ทำให้สัญชาตญาณสัตว์ป่าของต่อแสดงตัวออกมา
“ขอร้องสิ” เขาหัวเราะเสียงทุ้ม
“ช่วยด้วย...นะคะ” เธอว่า เสียงสั่นไหวเหมือนคนไร้สติ
“ต้องการแบบไหนล่ะ” ปกติไม่เคยถามขนาดนี้มาก่อนเลยนะ คนใต้ร่างนี่ถือเป็นกรณีพิเศษ
“ขอแบบเอ็กซ์ตรีมเลยค่ะที่รัก”
ช่างอ้อน... ต่อหัวเราะอีกครั้ง ศิษย์สำนักไหนกันนะ สอนกันมาดีจริงๆ
หลังจากได้ยินเสียงกระเส่าของคนตัวเล็ก ต่อก็เลื่อนมือปลดตะขอบราของเธอ ทรวงอกที่เบียดแน่นได้รับอิสระจากการปลดเปลื้องจากบราตัวจิ๋ว เขาเคลื่อนริมฝีปากเข้าครอบครองปลายยอดมันอย่างรวดเร็ว นึกย่ามใจที่ขนาดของมันเต็มปากเต็มคำจนรู้สึกตื่นเต้น มือสองข้างทั้งบีบขยำมันอย่างรุนแรงจนเธอกางเล็บครูดกับบ่าเขาเหมือนต้องการระบายความอัดอั้นในกาย ต่อไม่รอให้อีกฝ่ายได้ร้องขออีก เพราะตอนนี้ความต้องการของเขามันพร้อมยิ่งกว่าพร้อม
“ที่รักคะ ช่วยด้วยนะคะ” เธอกระซิบอ้อนวอน
เขาแอ๊บเป็นเด็กมหาลัยรอบที่ห้าก็ถูกผู้หญิงมอมเหล้าแถมใส่ยาปลุกเซ็กส์เอาไว้ ทำเอายอดมนุษย์ที่อายุยืนกว่าชาวบ้านต้องหนีหัวซุกหัวซุนกลับหอพักเพราะกลัวว่าจะไปเผลอกัดใครเข้า แต่คน(ครึ่งผี)หรือจะสู้ลิขิตฟ้า ระหว่างเดินเข้าซอยมืดดันบังเอิญได้กลิ่นหอมเหมือนขนมหวานลอยมาแตะจมูก นาทีนั้นสัญชาตญาณดิบก็พ่ายแพ้ให้กับของหวาน แวมไพร์เก๋าประสบการณ์อย่างเขาก็กลายร่างเป็นหมาเห็นกระดูก งับ...ของหวานนั้นโดยไม่รู้เลยว่าได้เผลอทิ้ง(พิษ)เอาไว้กับเธอ
“หมี่ขาว” สาววิศวะที่โสดขึ้นดอยเป็นปีที่สาม เธอไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะเป็นคนนั้น แต่ทว่าเพราะคำท้าที่รับปากเพื่อนด้วยความคึกคะนอง ทำให้เธอตกปากรับคำชวนของ “เก้าอี้” ตัวละครลับของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งวันนี้เขากลายเป็นพี่ปีสี่ ผูดผ้าคาด SOTUS สีแดง และวิ่งถือธงเกียร์นำขึ้นดอย เพียงเพราะเขาเดินมาทักและชวนเธอด้วยถ้อยคำเรียบง่าย “ขึ้นดอยด้วยกันมั้ยครับ”
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เขา คือเฮดว้ากตัวร้ายที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความดุ! โหด! ส่วนเธอคือเด็กปีหนึ่งที่ไม่เคยเกรงกลัวเขาเลยสักนิด ยิ่งได้รู้จักทำให้เขารู้ว่า เธอ! ไม่ใช่วัยรุ่นธรรมดาทั่วไป เธอปิดบังอะไรอยู่กันแน่ เขาจะต้องรู้มันให้ได้! ซีรีส์ชุดมาเฟียตามรัก ประกอบด้วยเรื่อง 1.ยัยตัวร้ายกับนายสายโหด จบแล้ว 2.เฮดว้ากตัวร้ายกับยัยมาเฟีย จบแล้ว
นางเคยมอบความรัก ความภักดี ให้เขาด้วยความจริงใจ แต่เขากลับตอบแทนนางด้วยการทรยศ หักหลัง สกุลของนางต้องล่มสลาย ยามที่สวรรค์มอบโอกาสให้นางได้หวนคืนชะตา นางจึงตั้งมั่นไม่ขอหวนกลับไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับเขาอีก เพียงแต่นางพยายามหลีกหนี คนหน้าหนากลับพยายามไล่ตาม ใช้ความเจ้าเล่ห์ทั้งหลอกล่อบีบคั้นจนนางไร้หนทางหลีกหนี ในเมื่อมิอาจหลีกหนีเช่นนั้นครั้งนี้นางก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า สตรีสกุลหลิวจะไม่ยอมโง่เขลาเป็นครั้งที่สอง "กู่เหว่ยหยวน ตลอดชีวิตของข้า สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุด คือมอบใจให้บุรุษชั่วช้าเช่นเจ้า หากสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะกี่ภพชาติอย่าได้พบกันอีกเลย"
คำโปรย การกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตครั้งนี้ ทำให้นางมารใจโฉดกลับกลายเป็นคนดี แต่กลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้ ถานหยี่เหยียนซึ่งผสานจิตใจกับร่างในปัจจุุบัน จนสงบกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง และกลับมาทำลายล้างทุกอย่างจนวอดวาย เอลิซาเบธ ลีหรือหยางลี่จู บินกลับประเทศจีนเป็นครั้งแรกในชีวิตและถูกดวงตาสวรรค์ที่มีวาสนาผูกพันกันนำนางหวนคืนกลับตระกูลถาน ซึ่งเป็นชาติอดีตของตัวเองเพื่อกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตตามที่เคยอ้อนวอนต่อสวรรค์เบื้องบน ดวงตาสวรรค์นำนางกลับมาในชาติที่เกิดเป็นสตรีที่แสนจะร้ายกาจที่สุดในตระกูลถาน และนางก็คือนางมารชื่อกระฉ่อน ถานหยี่เหยียน คุณหนูใจโฉดที่เต็มไปด้วยความอำมหิต สนใจแต่ตัวเองไม่เคยใส่ใจผู้ใดและต้องได้ทุกอย่างที่นางต้องการ จนเป็นต้นเหตุทำให้ตระกูลถานถูกประหารล้างตระกูล และการคัดเลือกพระชายาของอดีตฉู่อ๋องเพื่อเลือกเฟ้นให้กับพระอนุชา เป็นที่มาของการประหารล้างตระกูลถานในอดีต แต่การกลับมาอีกครั้งของถานหยี่เหยียน ซึ่งเป็นร่างในยุคปัจจุบันทำให้ร่างในอดีตและปัจจุบันหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันและนางก็คือนางในฝันของบุรุษหน้าหยกผู้เลื่องลือ สตรีใจโฉดผู้เคยเป็นอนุชายาของชินอ๋องรูปงามก่อนที่จะกลับมาแก้ไขเปลี่ยนแปลง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด