เขาแอ๊บเป็นเด็กมหาลัยรอบที่ห้าก็ถูกผู้หญิงมอมเหล้าแถมใส่ยาปลุกเซ็กส์เอาไว้ ทำเอายอดมนุษย์ที่อายุยืนกว่าชาวบ้านต้องหนีหัวซุกหัวซุนกลับหอพักเพราะกลัวว่าจะไปเผลอกัดใครเข้า แต่คน(ครึ่งผี)หรือจะสู้ลิขิตฟ้า ระหว่างเดินเข้าซอยมืดดันบังเอิญได้กลิ่นหอมเหมือนขนมหวานลอยมาแตะจมูก นาทีนั้นสัญชาตญาณดิบก็พ่ายแพ้ให้กับของหวาน แวมไพร์เก๋าประสบการณ์อย่างเขาก็กลายร่างเป็นหมาเห็นกระดูก งับ...ของหวานนั้นโดยไม่รู้เลยว่าได้เผลอทิ้ง(พิษ)เอาไว้กับเธอ
เธอเหมือนเด็กไร้เดียงสาที่เพิ่งลืมตาดูโลก โลกที่ว่านี้คือโลกกว้างที่เธอไม่เคยก้าวออกมาเลยสักครั้ง เพราะสิ่งเดียวที่กักขังเธอไว้คือกรงทองที่พ่อแม่สร้างขึ้นมา
เธอเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ หากร่วงหล่นลงพื้นก็จะแตกร้าวไม่เหลือชิ้นดี ทว่าเพราะความอยากรู้อยากเห็น เพราะความไม่รู้ ทำให้เธอพาตัวเองออกมาผจญภัยในโลกกว้าง
และพบกับเขา...
สัมผัสร้อนที่เกิดจากการครอบงำขอบผู้ชายคนหนึ่งเปิดโลกทัศน์ที่เกินจินตนาการ
เธอกำลังจะเดินไปหาอะไรกินเพราะหิวจนไส้กิ่ว แต่ไม่คิดว่ากำลังถูกใครบางคนฉุดเข้ามุมตึกแล้วปล้นจูบเธอไปโดยไม่ทันตั้งตัว
หญิงสาวพยายามผลักเขาออก ทว่าแรงของชายคนนี้มากเกินไปจนเหมือนเธอกำลังผลักหิน ฮู้ดสีแดงร่วงหล่นจนเผยให้เห็นใบหน้าสวยราวกับตุ๊กตา เส้นผมสีแดงพลิ้วสไวตามแรงลมราวกับเปลวเพลิงกำลังเริงระบำ
เธอถูกมือของชายคนนั้นรัดเอวเล็กแน่น ร่างกายแนบติดระหว่างกันจนไร้ช่องว่าง ลมหายใจเย็นชาของชายคนนี้คล้ายกับกลิ่นไม้หอมบนยอดเขา พรั่งพรูเข้ามาในโพรงปากเธอราวกับเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้ร่างกายสาวร้อนรุ่ม เมื่อเรียวลิ้นร้อนพัวพันเข้ามาในโพรงปาก สติของเธอก็แทบจะหายไป
จูบเร่าร้อนดำเนินต่อไปเนิ่นนาน กระทั่งเธอเริ่มเจ็บริมฝีปากเพราะรู้สึกเหมือนกำลังถูกกัด
เขาถอนริมฝีปากออก เธอคิดว่าเขาจะตั้งสติได้และปล่อยเธอไป ความพยายามต่อต้านจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง หากแต่เสียงของเธอกลับไม่สามารถเปล่งออกมาได้ราวกับตัวเองกำลังเป็นใบ้ หญิงสาวตัวแข็งด้วยความตกใจ พยายามเปล่งเสียงออกมา ทันใดนั้นกลีบปากนุ่มของชายคนนี้ก็ประทับลงมาที่คอสวย พร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปลบราวกับถูกเข็มทิ่มแทง
เลือดในกายเริ่มเดือดระอุ ขาเริ่มอ่อนแรงจนต้องอิงพักกับตัวเขา รู้สึกราวกับว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกสูบหายไปแทบจะทันทีที่เขากัดลงมา
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ไม่ได้มีอะไรไปกว่าสัมพันธ์ทางกาย ทว่าคนที่เพิ่งถูกคุกคามตอนนี้กลับเหมือนหุ่นกระบอกที่ไร้ชีวิต ราวกับรอให้เขาเมตตาแล้วปล่อยเธอไป
สติของเธอเริ่มเลือนราง หญิงสาวคิดถึงหน้าพ่อแม่ คิดถึงสิ่งที่ท่านทั้งสองเคยเตือนเคยห้ามปรามตัวเองไว้ รู้สึกผิดที่เธอดื้อดึงจนตอนนี้เหมือนกับวิ่งหนีออกจากบ้านมาเพื่อพบกับ...ความตาย
ตัวของเธอเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ หูแว่วเสียงสบถทุ้มต่ำ
“บ้าฉิบ ลืมตัวจนได้”
เสียงผู้ชายไพเราะเหมือนเสียงจากสวรรค์ แต่ความเย็นชาในน้ำเสียงทำให้เธอตัวสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ทันใดนั้นร่างเธอก็คล้ายกับถูกฉุดกระชาก รู้ตัวอีกทีก็ถูกกดลงกับเตียงนุ่ม
กลิ่นหอมบนเตียงคล้ายกับกลิ่นลมหายใจเขา เธอสูดดมอย่างมึนเมา ราวกับพยายามสูดลมหายใจเฮือดสุดท้าย
เวลาเดียวกันเธอก็เริ่ม...ร้อน
อยากถอดเสื้อผ้าโดยไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มซึ่งผละออกจากร่างโปร่งบางของหญิงสาวแทบบ้าเมื่อเธอเริ่มถอดเสื้อผ้าด้วยตัวเอง
“เธอหยุดมือ”
แต่หญิงสาวกลับไม่ได้ยิน “ร้อน” ปากเล็กพึมพำไม่ได้ศัพท์
เสื้อยืดลายการ์ตูนถูกถอดออกจนเผยให้เห็นชั้นในสีชมพูตัวจิ๋ว คอเรียวระหงมีรอยแดงที่เกิดจากการฝังริมฝีปากของเขา ชายหนุ่มเริ่มร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ฤทธิ์ยาที่อยู่ในกระแสเลือดเริ่มจู่โจมร่างกายจนควบคุมไม่อยู่
ดวงตาเรียวรีราวกับมีเปลวเพลิงไหวระริกอยู่ภายในมองร่างขาวโพลนเบื้องหน้า เขาพยายามหลับตาลงเพื่อข่มกลั้นความต้องการที่เกิดจากการวางยาของใครบางคน
แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลในตอนนี้ เพราะกลิ่นหอมที่เกิดจากร่างกายร้อนของหญิงสาวราวกับดอกไม้ที่กำลังหลอกล่อหมู่แมลง
“เธอ...”
เขาสูดลมหายใจ โน้มตัวกดฝ่ามือเล็กที่เริ่มลูบคลำตัวเธอเองราวกับต้องการปลดปล่อยความร้อนที่ปะทุขึ้น เวลาเดียวกันนั้นเนินอกซ้ายที่โผล่พ้นบราเซียร์ก็ปรากฏรูปแบบของดอกไม้ขึ้นราวกับเป็นรอยสัก
ดอกโบตั๋น
หัวใจเขากระตุกอย่างช่วยไม่ได้ โมโหตัวเองที่ก่อนหน้านี้พลั้งเผลอจนเปลี่ยนเธอโดยไม่รู้ตัว
มีคนไม่มากในโลกนี้ที่เคยเห็นรอยสักนี้ มีคนไม่มากในโลกนี้ที่ทำให้มันเกิดขึ้นได้และถ้าหากมันเกิดขึ้น ก็ราวกับเธอกลายเป็นดอกไม้ที่รอให้คนมาเชยชม
ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นในใจของชายหนุ่ม นึกโมโหตัวการที่คิดวางยาปลุกเซ็กส์เขา กลิ่นหอมที่เกิดจากตัวเธอราวกับยากระตุ้นชั้นดี ร่างกายเริ่มควบคุมไม่ได้
หากไม่ได้ปลดปล่อยในวันนี้...เขากลัวว่าจะกลายเป็นปีศาจร้ายไปจริงๆ
“ขอโทษนะ แต่ต้องใช้มือเธอแล้วล่ะ”
เขาไม่กล้าทำลายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ แต่ก็ไม่ใช่คนดีถึงขั้นไม่ทำอะไรเลย
ในคืนนั้นหญิงสาวไม่รู้ตัวเลยว่าน้องนางทั้งสิบของเธอกำลังช่วยเหลือใครคนหนึ่งจากฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ ขณะเดียวกันก็ไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่เธอคิดว่าเสียไปแล้ว
มันไม่ใช่แบบนั้น...
ยกเว้นรอยแดงที่เกิดทั่วตัว...เขาไม่ได้ปล้นเธอจริงๆ
คืนก่อนขึ้นดอยบรรดานายช่างต้องมีปาร์ตี้สังสรรค์กันบ้าง แต่เธอดื่มเกินลิมิตไปหน่อย รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาตอนเช้าพร้อมกับมีร่างของผู้ชายคนเดิมที่เคยเจอกันเมื่อหลายปีก่อนนอนอยู่ข้างๆ
“หมี่ขาว” สาววิศวะที่โสดขึ้นดอยเป็นปีที่สาม เธอไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะเป็นคนนั้น แต่ทว่าเพราะคำท้าที่รับปากเพื่อนด้วยความคึกคะนอง ทำให้เธอตกปากรับคำชวนของ “เก้าอี้” ตัวละครลับของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ซึ่งวันนี้เขากลายเป็นพี่ปีสี่ ผูดผ้าคาด SOTUS สีแดง และวิ่งถือธงเกียร์นำขึ้นดอย เพียงเพราะเขาเดินมาทักและชวนเธอด้วยถ้อยคำเรียบง่าย “ขึ้นดอยด้วยกันมั้ยครับ”
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี