หน้าแต่ละคนไม่ต่างไปจากคนที่เฝ้าประตูจวน หลัวอี้เฉินหัวใจบีบร
งเรือนรับรองขอรับ” บ่าวรับใช้เข้ามารายงานท
กเข่าอยู่ด้านนอก เขาพยายามก้าวเท้าเข้าไป ครั้นเห็นภาพโลงศพที่ถูกประดับไปด้วยผ้าขาวดำ เข่าของเขาทรุดลงบ
ปได้…เหลียนเอ๋อร์!!! เหตุใดเจ้าถึงไ
ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาตบลงบนบ่า หลัวอี้เฉินเงยหน
ือไม่ ว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง” หลัวอี้เฉินยกมือขึ้นมา
้องยอมรับความจริงเรื่องนี้ให้ได้ เรื่องนี้ไม่มีผูู้
งให้แก่ลูกสะใภ้ถึงเพียงใด ทว่าคนก็จากไปแล้ว มิอาจย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ
กับข้าไม่เคยปราชัย เหตุใดนางถ
ับในความจริงตรงหน้า เขากำลังจะพุ่งไปเปิดโลงของภร
ปแล้ว คนอยู่ต่างหาก
ม่รับรู้ถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น ร่างสูงที่ถูกฉุดรั้งแขนทั
ใจเขาจริงๆ น่ะหรือ” หลัวฮูหยินกล่าวต่อ
แม่ของเจ้าไม่อยู่กับพวกเราแล้
ได้ผ่อนคลาย ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมา พร้อมกับส่งเสียงร้องคร่ำครวญ
ขาแล้วหรือยัง หรือว่าหลูซื่อไ
เพราะเกรงว่า ลูกสะใภ้กับลูกชาย คงจะตระเตรียมกันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ถึงอย่างไรก็เป็น
วอี้เจ๋อ” ราวกับทารกน้อยจะรับรู้ เขา
ศพของหลูชิงเหลียน สตรีผู้อาภัพ และน่าสงสาร นางไม่มีโอกาสแม
มา ก่อนที่เขาจะตัดใจ เดินออกจากห้องโถง มุ่งหน้
งจำ ภาพที่นางเดินเข้ามาหาเขา เพื่อรับเสื้อคลุมด้วยรอยยิ้ม และปรนนิบ
ไป หัวใจของหลัวอี้เฉินรู้สึกบีบรัด ต่อไปนี้ชั่วชีวิตที่เหลืออย
รือ เหตุใดผู้ที่จากไปก่อนถึงมิใช่ข
ี่ยามนี้แสงกลับไม่สว่างเช่นเดียวกับทุกค
บว่าใจจะขาดเสียให้ได้ เขาข่มใจ เดินไปนั่งลงบนเตีย
โตขึ้นนางอยากที่จะเห็นเขาเป็นอะไร นางบอกเขาว่า เพียงแค่ลูกชายเติบโตมาเป็
ไปถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเขาจดจำได้ดี ว่าเป็นลานกว้างที่เคยใช้ประลองฝีมือ ของบ
ขามองไม่ออก ว่านางเป็นสตรีหรือว่าเป็นบุรุษกันแน่
พ่ายแพ้เป็นครั้งแรก นางส่งยิ้มมาให้เขาและบอกเขาว่า โอกาสยัง
าไป” เสียงทุ้มร้องอุทานออกม
องอยู่ในห้องนอน ที่เคยใช้ชีวิตวันคืนร่วมกันกับภรรยา นางจากไปแล้วจริงๆ
ก็เปลี่ยนมาสวมชุดไว้ทุกข์ จากนั้นจึงรีบเดินออกจากเรือนนอน มุ่งหน้าไปยังโ