จะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออัศวินอยากจะมีลูกน้อยเพื่อเป็นโซ่คล้องใจ แต่พลอยไพลินยังคงรักสนุก เธอยังคงยึดติดกับชีวิตการทำงานและวัยสาวของเธอ ทำให้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกในช่วงเวลานี้ อัศวินจึงต้องวางแผนทุกแผนการเพื่อที่จะมีลูกกับเธอ
หกปีกว่าแล้วที่อัศวินกับพลอยไพลินได้แต่งงานกันและใช้ชีวิตร่วมกันมา ตอนนี้พลอยไพลินเรียนจบแพทย์อย่างที่เธอฝันไว้และกำลังทำอาชีพหมออย่างที่เธอตั้งใจอย่างเต็มที่ ตอนแรกเธอตื่นเต้นกับการจบใหม่มากจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกเลย ดีที่มีอัศวินคอยให้คำแนะนำเธออยู่ไม่ห่าง จนเวลาผ่านไปสามเดือนเธอก็ค่อยๆ เรียนรู้งานมากขึ้น เก่งขึ้นจนเขาแทบจะไม่จำเป็นสำคัญเธอไปแล้ว
ส่วนเขาน่ะเหรอก็อย่างที่เขาบอกไว้เขาเป็นอาจารย์ที่มหาลัยเคเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น หลังจากเลิกสอนที่มหาลัยเคเขาก็มาช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงบริหารทั้งโรงแรมเดอะเอ็ม และห้างเดอะเอ็ม จนมีผลกำไรทะลุเป้ามีคนอยากเข้ามาทำธุรกิจร่วมด้วยมากมาย
ส่วนชีวิตรักก็ราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร จะมีก็แต่พลอยไพลินไม่ยอมมีลูกน้อยกับเขาสักที เขาก็อายุมากขึ้นทุกวันจะย่าง 40 ปีอยู่แล้ว ส่วนเธอน่ะเหรอก็ยังสาวยังสวยอยู่ทุกวัน มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มารุมจีบเป็นว่าเล่น จนเขาตามหึงจนแทบไม่หวาดไม่ไหว ไหนจะยังมีคนไข้ของเธออีกล่ะ แค่คิดอัศวินก็ปวดหัวแล้ว เห็นที่ต้องใช้มาตรการเด็ดการเสียแล้ว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้อัศวินตื่นจากภวังค์ความคิด อัศวินก้มลงมองหมายเลขที่โทรเข้ามา แล้วรู้สึกไม่อยากจะรับสายแต่จำใจต้องรับอย่างเลี่ยงไม่ได้
“นี่มาคัส! แกจะโทรมาหาสวรรค์วิมานอะไรดึกๆ แบบนี้ แกไม่หลับไม่นอนบ้างบ้างรึไง”
อัศวินบ่นกระปอดกระแปดอย่างหัวเสีย นึกถึงตอนที่มันช่วยเขาคิดแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดของพลอยไพลินตอนไปปารีสทีไร เขาอยากจะกระทืบมันยิ่งนัก เขาไม่น่าหลงเชื่อแล้วทำตามมันเลย เกือบทำให้พลอยไพลินตกอยู่ในอันตรายก็เพราะแผนปัญญาอ่อนของมัน
“ไอคิดถึงยูนะวิน ตอนนี้ไออยู่ที่เมืองไทย ยูออกมาหาไอที่ผับหน่อยสิ”
“ไม่ไป! อยากไปก็ชวนไอ้ชัยไปสิ”
“นี่ยูยังโกรธไอเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ มันผ่านมาทั้งหกปีกว่าแล้วนะ ยูเลิกโกรธไอสักทีเถอะ ไอขอร้องล่ะ พลีสส!”
“ใช่ ฉันยังโกรธอยู่ และก็โกรธมากด้วย!”
“ได้โปรด พลีสส!! ออกมาหาไอหน่อย ไอชวนชัยแล้วมันไม่ว่าง ไอมีแค่ยูคนเดียวเท่านั้นตอนนี้”
“ไม่เอาฉันไม่ออกไปไหนทั้งนั้น เดี๋ยวพลอยก็จะกลับมาจากโรงพยาบาลแล้ว”
“ยูแน่ใจเหรอ ว่าพลอยจะกลับไป”
“นายหมายความว่าไง?”
“เปล๊าาา!! ไอก็แค่จะบอกยูว่า พลอยอาจจะติดเข้าเวรต่ออะไรแบบนี้ เลยไม่ได้กลับบ้านก็ได้นี่น่า ออกมาหาไอเถอะนะ”
“อย่ามาทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลยน่า แล้วก็เลิกพูดยูกับไอสักทีเถอะ พูดแบบปกติที่เคยพูดกันไม่ได้รึไง”
“เศร้าจัง ฉันอุตส่าห์พูดสุภาพๆ กับแกแล้วนะ”
“แบบนี้สิค่อยน่าฟังหน่อย”
“ฮ่าๆ มาหาฉันเถอะ ถ้าไม่มาถือมึงพลาดของเด็ด”
มาคัสมองไปยังสาวสวยที่ใส่ชุดลายเสือบวกกับหน้ากากเสื้อแล้วขยิบตาให้เธอ
“ฉันขอคิดดูก่อน ถ้าพลอยไม่กลับบ้านจริง ฉันถึงไปหาแก”
“โอเค แล้วจะรอ” อัศวินวางสายจากมาคัส ก็มีข้อความจากพลอยไพลินส่งมาพอดี เข้ารีบเปิดมันอ่านทันที เธอบอกว่ามีเข้าเวรต้องอยู่กะดึกจนถึงตอนเช้าให้นอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอเธอ
“นายเป็นหมอดูรึไงวะมาคัส สรุปฉันต้องออกไปหาแกสินะ”
อัศวินบ่นก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปหามาคัส เขาขับรถมายังผับที่มาคัสว่า จะว่าไปตั้งแต่เขาแต่งงานเขาก็ไม่เคยเข้าผับหรือเที่ยวเล่น ดื่มเหล้าอะไรเลย ชีวิตเขามีแค่พลอยไพลิน และก็งานเท่านั้น เขาจอดรถไว้หน้าผับก่อนจะเข้าไปยังข้างใน เขาเดินฝ่าผู้คนมากมายเข้าไป ใช้สายตาสอดส่องเพื่อหามาคัส เมื่อมาคัสเห็นอัศวินจึงโบกมือเรียกเขาทันที
“Hey! ทางนี้”
“นายมีอะไรก็ว่ามาฉันจะรีบกลับ”
“อะไรกันวะ เพิ่งจะมาถึงเองนะ ดื่มก่อนสิ”
“ไม่อยากดื่ม เดี๋ยวเมา”
“เอาน่า...ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วช่วยดื่มเป็นเพื่อนกันหน่อย”
อัศวินบ่นพึมพำคนเดียว ก่อนจะยกแก้วเหล้าที่มาคัสยื่นให้จนหมดแก้ว ภายในผับนั้นแสง สี เสียง และกลิ่นของมึนเมาทำให้เขาอยากจะหลีกหนี อัศวินเหลือบไปเห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งคุ้นตา เดินอย่างยั่วยวนเข้ามาทางเขา เธอใช่ชุดลายเสื้อ เนื้อผ้ามันรัดรูปเห็นสัดส่วนจนชัดเจน จนเขาหลงนึกไปถึงร่างของพลอยไพลิน แต่จะเป็นเธอไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอเข้าเวรกะดึกอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าเป็นเธอจริงล่ะก็ เขาจะจับมาฟาดก้นให้นั่งไม่ได้เลยค่อยดู โทษฐานที่แต่งตัวออกมายั่วให้ผู้ชายคนอื่นมอง และแทะโลมเล่นด้วยสายตา
“สวยใช่มั้ยล่ะ”
“สวยกะผีอะไร ใส่หน้ากากเสืออย่างนั้นหลงมาจากงานหน้ากากแฟนตาซีสิไม่ว่า”
“ออกจะเซ็กซี่ ไม่ชอบแบบเหรอวะ”
“ฉันมีเมียแล้ว แกจะให้ฉันสนใจผู้หญิงคนอื่นได้ไงกัน”
คนรักเมียอย่างอัศวินพูดตอบกลับมาคัสผู้เป็นเพื่อนไป เขาทำท่าจะเดินหนี แต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อแม่เสือสาวเดินมาหาเขา ดึงแขนเขาไปกลางฟลอร์แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะเริ่มเต้นยั่วยวนเขา
เธอถูแผ่นหลังของตัวเองที่หน้าอกของเขา แล้วเต้นส่ายสะโพกมาราวกับซ้อมมาอย่างดี แค่นั้นยังไม่พอ เมื่อหันหน้ามาหาเขาก็ใช้มือแตะที่ไหล่แล้วเต้นรูดตัวลง ทำอย่างกับเขาเป็นเสาหรือต้นไม้ที่ไร้ความรู้สึกที่คิดจะทำอะไรกับเขาก็ได้ แม้เขาจะรักพลอยไพลินมาก แต่พอเจอเข้าแบบนี้ของมันก็ขึ้นสิ แต่น่าแปลกปกติเขาไม่ใช่ของขึ้นง่ายๆ ถ้าไม่ใช่พลอยไพลินล่ะก็ ผู้หญิงคนอื่นมาแก้ผ้าต่อหน้าก็ไม่อาจทำให้เขารู้สึกอะไรด้วยได้เลย ยัยเสือสาวคนนี้เป็นใครกันแน่ถึงได้มีอิทธิต่อร่างกายของเขาได้
เจ้านายคนใหม่อย่าง“ฟีนิกซ์” ที่แสนจะบ้าอำนาจสุดๆ แถมยังเอาแต่ใจ หื่น บ้ากามสารพัด ตีค่าทุกอย่างด้วยเงิน แม้แต่ความรัก ซึ่งเธอจะไม่ยอมเขาเด็ดขาด เธอจึงทำทุกอย่างเพื่อต่อต้านเขา ไม่ให้มามีสิทธิ์เหนือเธอ ในเวลางานยังพอทน แต่ถ้านอกเวลางานคนอย่าง“แพรพิรยา” จะไม่ยอมทนเด็ดขาด แล้วเขาถือสิทธิ์อะไรเข้ามาอยู่ร่วมใต้ชายคาเดียวกันกับเธอ อย่างหน้าด้านๆ เวลาไม่พอใจอะไรเธอหรือโกรธเธอ เป็นอันต้องใช้กำลัง ด้วยการจูบเธอบ้างล่ะ จับกดลงกับเตียงแล้ว….!? เธอบ้างล่ะ อย่างกับฉากละครในทีวีที่พระเอกกับนางเอกทะเลาะกันยังไงยังงั้นเลย คนเรามันต้องมีเหตุผลกันทั้งนั้น แล้วเหตุผลของเขาล่ะคืออะไรกัน บางครั้งเขาก็เป็นผู้ชายที่แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยน และอะไรกันที่ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และร้ายกาจได้ขนาดนี้กัน
เธอถูกพ่อแท้ๆ ที่เพิ่งพบหน้าฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ในตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่ชีวิตรอดเป็นแน่ ที่จะเจอผู้ชายที่เป็นหนี้ชีวิตเธออีกครั้ง แต่อยู่ๆ เธอกลับฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของน้องสาวของเธอเอง และโชคชะตาของเธอทำให้เธอต้องแต่งงานกับคนที่เธอรักจนหมดใจ
ชาลีมาเฟียหนุ่มแห่งอิตาลีเจ้าของกาสิโน เขาเกลียดผู้หญิงไทยเพราะแม่ที่เคยทอดทิ้งเขาในวัยเด็ก เขามีน้องสาวต่างมารดาหนึ่งคนที่เป็นคนไทยชื่อว่าจันทร์เจ้า สามีของจันทร์เจ้าเคยเป็นคู่หมั้นของเอมอรหญิงไทยคนหนึ่งที่กำลังครรภ์ แม้เอมอรจะปฏิเสธว่านั้นไม่ใช่ลูกของภูชิตสามีของน้องสาวตน แต่ชาลีก็ไม่เชื่อคำพูดของเธอ เขาจึงจับตัวเอมอรมาและบังคับให้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขา
จะเป็นอย่างไรเมื่อสาวน้อยวัย 18 ปี อย่างพลอยไพลิน ต้องแต่งงานกับหนุ่มใหญ่วัย 32 ปี อย่างอัศวิน เพราะสถานะทางครอบครัว และเขาดันเข้ามาสอนในมหาลัยที่เธอสอบติด ทำให้เธอและเขามีสถานะเพิ่มอีกหนึ่ง คือ “ลูกศิษย์กับอาจารย์”
ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเริ่มจากเจ้านายกับลูกน้อง เพราะเขาต้องการใช้เธอเป็นสะพานเข้าไปหาเพื่อนรักของเธอ แต่เพราะความใกล้ชิดทำให้เรา....จนต้องเกิดการรับผิดชอบเกิดขึ้นในสองเดือนคือการทดลองคบกัน
จะเป็นอย่างไงเมื่อสาวน้อยอย่าง "รถเมล์" ต้องกลายเป็นคุณแม่วัยยังสาว และหนุ่มหล่ออย่าง "บิ๊กเอ็ม" ต้องกลายเป็นคุณพ่อซุปตาร์ เพราะเพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของทั้งคู่ทำให้เธอท้อง เธอกลับมาเจอเขาอีกครั้งในวันที่ถ่ายแบบด้วยกัน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์คืนนั้นมันก็ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน เธอที่เพิ่งเข้าวงการกับเขาที่อยู่ในวงการถ่ายแบบมานานแล้วและเขากำลังจะเป็นดาราดัง แล้วอย่างนี้ทั้งสองจะทำอย่างไรกับเด็กน้อยที่กำลังจะเกิด
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ