เธอถูกพ่อแท้ๆ ที่เพิ่งพบหน้าฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ในตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่ชีวิตรอดเป็นแน่ ที่จะเจอผู้ชายที่เป็นหนี้ชีวิตเธออีกครั้ง แต่อยู่ๆ เธอกลับฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของน้องสาวของเธอเอง และโชคชะตาของเธอทำให้เธอต้องแต่งงานกับคนที่เธอรักจนหมดใจ
เธอถูกพ่อแท้ๆ ที่เพิ่งพบหน้าฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ในตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่ชีวิตรอดเป็นแน่ ที่จะเจอผู้ชายที่เป็นหนี้ชีวิตเธออีกครั้ง แต่อยู่ๆ เธอกลับฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของน้องสาวของเธอเอง และโชคชะตาของเธอทำให้เธอต้องแต่งงานกับคนที่เธอรักจนหมดใจ
หลินเพ่ยเพ่ยสาวน้อยอายุสิบขวบที่อาศัยอยู่สถานสงเคราะห์มาตั้งแต่เด็ก เธอเป็นสาวน้อยที่หน้าตาน่ารักและสวยงามมากคนหนึ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าจะถูกคนใจร้ายนำมาทิ้งไว้หน้าสถานสงเคราะห์แห่งนี้ตั้งแต่ยังเป็นทารกแรกเกิด
ที่ผ่านมามีคนต้องการที่จะอุปการะเธอไปเลี้ยงดูอยู่แล้วหลายคน แต่พอถึงวันที่จะมารับตัวเธอไปนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นทุกครั้ง เลยทำให้พวกเขาคิดว่าเธอเป็นนั้นตัวซวย พอหลายครั้งเข้าทำให้ไม่มีใครกล้ามาอุปการะเธออีกเลย เด็กน้อยหลินเพ่ยเพ่ยจึงจำต้องอยู่สถานที่นี้ต่อไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ มองดูเพื่อนๆ ของเธอถูกอุปการะไปคนแล้วคนเล่า
"เพ่ยเพ่ยเธออยู่ไหน" หลันอี้เรียกหาหลินเพ่ยเพ่ย เธอเป็นคุณครูที่คอยสอนและช่วยดูแลเด็กๆ อยู่ที่สถานสงเคราะห์แห่งนี้มานาน วันนี้อิ้งหานตี้มาเฟียใหญ่ของเมือง A พร้อมกับอิ้งหานเหนียนลูกชายเพียงคนเดียวของเขามาที่นี่เพื่อมาทำบุญกับเด็กๆ เนื่องในวันครบรอบวันเกิดสิบแปดปีของอิ้งหานเหนียนลูกของเขา
"หนูอยู่นี่คะ"
"มาหลบอยู่นี่เอง ทำไมถึงไม่ออกไปรับของกินอีกล่ะ"
"หนูไม่กล้าออกไปค่ะ หนูมันตัวซวย"
สาวน้อยหลินเพ่ยเพ่ยโดนเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันอิจฉาในความสวยของเธอ พวกเขาจึงเอาเรื่องที่เธอเป็นตัวซวยมาล้อกับเธอ ทำให้เธอกลายเป็นเด็กที่ไม่เข้าหาใครและไม่ค่อยพูดจากับใคร ซึ่งเป็นเรื่องที่หลันอี้กังวลใจเป็นอย่างมาก
"เรื่องนี้หนูไม่ต้องคิดมากนะเพ่ยเพ่ย มีครูอยู่ทั้งคนต่อไปใครกล้ามาว่าเธอให้มาบอกครู ครูจะให้ความเป็นธรรมแก่เธอเอง"
"......."
"เอาล่ะๆ ออกกันไปเถอะได้เวลาทานข้าวเที่ยงแล้ว"
เมื่อหลันอี้เห็นว่าหลินเพ่ยเพ่ยยังคงนิ่งอยู่ จึงจับมือน้อยๆ ของเธอจะพาเธอเดินออกไป ตอนนี้คนใช้บ้านตระกูลอิ้งกำลังแจกจ่ายอาหารเที่ยงให้กับเด็กอยู่
"ยืนเข้าแถวตรงนี้แล้วรอรับอาหารเที่ยงนะ ครูต้องไปดูแลส่วนอื่นก่อน"
หลันอี้บอกกับหลินเพ่ยเพ่ยก่อนที่เธอจะไป แต่พอหลินเพ่ยเพ่ยอยู่คนเดียวเธอกลับโดนเพื่อนๆ แกล้งเบียดเธอจนเธอล้มลงไปกับพื้น ถึงเธอจะเจ็บมากแต่ก็ต้องทนไว้
"ยัยเพ่ยเพ่ยตัวซวย แกกล้ามากนะที่ออกมาเสนอหน้า"
"ใช่ พวกเราอย่าไปเข้าใกล้มันนะ เดี๋ยวจะตายเอาได้"
"นั่นสิ ใครที่จะเอามันไปเลี้ยงก็ตายหมดทุกคนเลยนี่ ตัวซวยชัดๆ "
หลินเพ่ยเพ่ยเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งร้องไห้ออกไป พวกเด็กเหล่านั้นก็พากันหัวเราะอย่างสะใจที่ได้เห็นหลินเพ่ยเพ่ยวิ่งร้องไห้ออกไป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนอยู่ในสายตาของอิ้งหานเหนียนทั้งหมด ชายหนุ่มรู้สึกไม่ชอบใจจึงเดินไปสั่งคนรับใช้ว่าห้ามให้ข้าวเที่ยงแก่สามสาวด้านหลังเป็นเด็ดขาด แม้แค่ข้าวเม็ดเดียวก็ห้ามให้
หลินเพ่ยเพ่ยเข้าไปหลบอยู่ในห้องเก็บของ ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่หลบภัยสำหรับเธอ งานเลี้ยงเริ่มจัดขึ้นเรื่อยๆ อิ้งหานเหนียนสั่งคนให้ออกไปตามหาหลินเพ่ยเพ่ยแต่ก็ไม่พบ สามสาวที่โดนคาดโทษไว้ก็ได้แต่แค้นใจ เป็นเพราะหลินเพ่ยเพ่ยพวกเธอจึงโดนทำโทษให้อดข้าวเที่ยงที่แสนอร่อยไป พวกเธอรู้ดีว่าหลินเพ่ยเพ่ยนั้นต้องหลบอยู่ในห้องเก็บของ แต่ก็ไม่มีใครบอกไปในเมื่อพวกเธอทั้งสามคนไม่ได้กินข้าวเที่ยงก็อย่างหวังว่าหลินเพ่ยเพ่ยจะได้กินด้วยเช่นกัน
"พวกเธอทำเกินไปแล้วนะ ครูบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่างพูดแบบนั้นกับเพ่ยเพ่ย"
"พวกหนูพูดตามความจริงมันผิดด้วยเหรอคะ"
"เสี่ยวอี้! ถ้ากลับกันคนที่ถูกว่าเป็นเธอล่ะ เธอจะรู้สึกอย่างไร"
"ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นหรอกค่ะ อาทิตย์หน้าพ่อแม่บุญธรรมก็จะมารับหนูแล้ว ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้ามาว่าร้ายหนูได้อีก"
เสี่ยวอี้พูดอย่างมั่นใจก็ครอบครัวที่จะมาอุปการะเธอนั้นเป็นตระกูลผู้ดีที่ร่ำรวยมากตระกูลหนึ่ง เธอเลยอดไม่ได้ที่จะพูดจาโอ้อวดออกมา เพียงแค่ได้ออกจากที่นี่ไปเธอก็จะกลายเป็นคุณหนูของตระกูลดังแล้ว
"เธอคงลืมไปสินะ ที่จริงเขาเลือกเพ่ยเพ่ยไม่ใช่เธอ ถ้าเพ่ยเพ่ยไม่ปฏิเสธละก็เธอจะมีโอกาสนี้เหรอ เธอสมควรที่จะขอบคุณเพ่ยเพ่ยด้วยซ้ำไป"
"หึ! โอกาสเหรอ บ้าสิ้นดี ยัยเพ่ยเพ่ยมันตัวซวย ใครๆ ก็รู้ว่าครอบครัวไหนคิดจะอุปการะยัยนั่นก็ล้วนแต่มีคนตายเกิดขึ้น เขาได้หนูไปแทนก็ถือไว้โชคดีที่ครอบครัวของเขาจะได้ไม่มีใครตาย"
"เสี่ยวอี้! การเกิดแก่เจ็บตายไม่ล้วนเกิดขึ้นเอง และเป็นสิ่งที่ใครก็ห้ามไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเพ่ยเพ่ยเลย"
"แย่แล้วครับ ไฟไหม้ห้องเก็บของ! "
ในระหว่างที่นั้นมีคนตะโกนว่าไฟไหม้ห้องเก็บของก็ดังขึ้น ทุกคนต่างพากันตกใจไม่คิดว่าไฟจะไหม้ได้ ไฟไหม้ได้อย่างไงกัน ทางฝั่งของหลินเพ่ยเพ่ยที่นอนหลับไปเพราะร้องไห้อย่างหนัก ตื่นขึ้นมาก็เจอว่าไฟไหม้ห้องเก็บของแล้ว เธอพยายามจะออกไปแต่ก็ไม่มีทางออกไปได้เลยตอนนี้ไปมันล้อมรอบเธอ ควันไฟก็เข้าทั้งตาและจมูกของเธอจนเธอเริ่มหายใจไม่ออกล้มลงไปกับพื้นอย่างสิ้นหวัง นี้เธอจะตายแล้วจริงๆ เหรอชีวิตเธอยังไม่เจอกับความสุขเลยนะ แม้แต่พ่อแม่เป็นใครเธอยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำไป
"เด็กๆ หลบไปที่ปลอดภัยก่อนเร็ว ใช่แล้วมีใครเจอเพ่ยเพ่ยแล้วหรือยัง อย่าบอกนะว่าเพ่ยเพ่ยอยู่ในห้องเก็บของน่ะ"
หลันอี้มัวแต่จัดการกับเสี่ยวอี้อยู่จนเกิดเหตุไฟไหม้ ก็ลืมนึกไปว่าหลินเพ่ยเพ่ยชอบไปหลบอยู่ในห้องเก็บของ ยิ่งตอนนี้ไฟไหม้เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าหลินเพ่ยเพ่ยจะเป็นอย่างไรบ้าง
"ว่าไงนะครับ คุณแน่ใจนะครับว่าเธออยู่ในนั้นจริงๆ "
อิ้งหานเหนียนถามหลันอี้ออกไปด้วยใจร้อนรน ในใจก็คิดไปว่าถ้าเด็กน้อยคนนั้นอยู่ในนั้นจริงละก็....ทันใดนั้นเขาก็วิ่งไปที่ห้องเก็บของทันที ก่อนที่จะนำผ้าห่มที่ตากอยู่ใกล้ๆ มาชุบน้ำก่อนจะเอามาคลุม แล้วถีบประตูห้องเก็บห้องเข้าไป
"นายน้อยครับ! "
"มัวทำอะไรอยู่รีบไปหาอะไรมาดับเพลิงสิ ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปพวกแกตาย! "
อิ้งหานตี้รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่ลูกชายอย่างอิ้งหานเหนียนเข้าไปช่วยเด็กคนหนึ่งอย่างไม่คิดชีวิตเช่นนี้ เดิมทีนิสัยของลูกชายคนนี้เป็นคนที่เย็นชาและไม่ยุ่งวุ่นวายกับคนอื่น
"ครับนายใหญ่ เอาเร็วรีบไปให้อะไรมาดับเพลิง"
อิ้งหานเหนียนลุยไฟไปก็พบกับหลินเพ่ยเพ่ยนอนกรีดร้องอยู่บนพื้น ใบหน้าของเธอโดนไฟลุกไปซีกหน้า เขาจึงวิ่งเข้าไปช่วยเธอใช้ผ้าผืนนั้นดับไฟให้เธอ จังหวะนั้นเขาเองก็โดนไฟคลอกเข้าที่หลังด้วยเช่นกัน ยังดีที่เขาถอดเสื้อนอกทันไฟจึงโดนไฟคลอกไปเพียงเล็กน้อย
"เด็กน้อยไม่เป็นไรแล้ว ฉันจะพาเธอออกไปเอง"
อี้หานเหนียนพูดกับหลินเพ่ยเพ่ย แต่ตอนนี้สายตาเธอพร่ามัวนักจึงไม่สามารถเห็นหน้าเขาได้ชัดเจน ในทันใดนั้นสติของเธอนั้นก็ดับวูบไปมารู้สึกตัวอีกทีก็สามวันให้หลังจากนั้น ตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลใบหน้าถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผล
"ตื่นแล้วเหรอเพ่ยเพ่ย หนูเจ็บตรงไหนบ้าง ครูจะได้ไปตามหมอมาให้ดูอาการ"
"หนูไม่เจ็บ...หนูรอดมาได้ไงคะ"
"นายน้อยอิ้งหานเหนียนช่วยหนูออกมาน่ะสิ ตอนนี้เขาก็ได้รับบาดเจ็บและก็รักษาตัวอยู่ที่นี่เหมือนกันนะ"
"จริงเหรอคะ! เพราะหนูอีกแล้วหนูมันตัวซวยที่นั่นเลยไฟไหม้ เขาเลยได้รับบาดเจ็บ..."
หลินเพ่ยเพ่ยพูดไปร้องไห้ไป เหตุการณ์นี้มันทำให้เธอคิดว่าเธอคือตัวซวยจริงๆ และนี้ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พ่อแม่ของเธอไม่ต้องการเธอจึงเอาเธอมาทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์ก็ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะมีเหตุผลอะไรที่พ่อแม่จะทิ้งลูกของตัวเองได้ล่ะ
"ไม่เอาอย่าโทษตัวเองเลยเด็กน้อย ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอกนะ"
"ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้างคะ"
"เท่าที่ครูรู้มาก็ปลอดภัยดีจ้ะ แค่มีบาดแผลที่โดนไฟคลอกที่ด้านหลังเล็กน้อยก็เท่านั้นเอง"
"หนูสามารถเยี่ยมเขาได้มั้ยคะ"
"เห็นทีจะยากจ้ะ นายใหญ่อิ้งหานตี้โกรธพวกเรามาก แต่ดีที่นายน้อยห้ามไว้เลยไม่เอาเรื่องกับพวกเรา เราเลยได้แค่ทำตัวอยู่เฉยๆ อย่างเงียบๆ ถึงอยากจะไปเยี่ยมก็คงจะยาก เพราะมีคนเฝ้าอยู่เยอะแยะ คนที่จะเข้าไปได้ก็มีแค่หมอและพยาบาลบางคนเท่านั้นเอง"
"อย่างนั้นเหรอคะ แล้วหนูจะขอบคุณเขาอย่างไรดี"
"หนูไม่ต้องกังวลวันนี้ไม่ได้ขอบคุณ วันหน้ายังมีโอกาสตราบใดที่หนูยังมีชีวิตอยู่สักวันหนึ่งคงได้ตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ของเขาอย่างแน่นอน"
"ค่ะ หนูจะไม่มีวันลืมบุญคุณครั้งนี้ของเขาอย่างแน่นอน วันข้างหน้าหนูจะตอบแทนบุญคุณของเขาไม่ว่าจะแลกด้วยชีวิตหนูทั้งชีวิตหนูก็ยอมค่ะ"
หลินเพ่ยเพ่ยให้สัญญาไว้กับตัวเองไม่ว่าอย่างไรก็ตามอิ้งหานเหนียนคนคนนี้คือผู้มีพระคุณของเธอที่ต้องตอบแทนพระคุณให้ได้ หลังจากนั้นเธอก็ได้พักรักษาตัวอยู่นานที่โรงพยาบาลกินเวลาไปหลายเดือน เนื่องจากแผลที่ใบหน้าของเธอนั้นได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง และทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้าของเธอด้วย
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออัศวินอยากจะมีลูกน้อยเพื่อเป็นโซ่คล้องใจ แต่พลอยไพลินยังคงรักสนุก เธอยังคงยึดติดกับชีวิตการทำงานและวัยสาวของเธอ ทำให้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกในช่วงเวลานี้ อัศวินจึงต้องวางแผนทุกแผนการเพื่อที่จะมีลูกกับเธอ
ชาลีมาเฟียหนุ่มแห่งอิตาลีเจ้าของกาสิโน เขาเกลียดผู้หญิงไทยเพราะแม่ที่เคยทอดทิ้งเขาในวัยเด็ก เขามีน้องสาวต่างมารดาหนึ่งคนที่เป็นคนไทยชื่อว่าจันทร์เจ้า สามีของจันทร์เจ้าเคยเป็นคู่หมั้นของเอมอรหญิงไทยคนหนึ่งที่กำลังครรภ์ แม้เอมอรจะปฏิเสธว่านั้นไม่ใช่ลูกของภูชิตสามีของน้องสาวตน แต่ชาลีก็ไม่เชื่อคำพูดของเธอ เขาจึงจับตัวเอมอรมาและบังคับให้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขา
จะเป็นอย่างไรเมื่อสาวน้อยวัย 18 ปี อย่างพลอยไพลิน ต้องแต่งงานกับหนุ่มใหญ่วัย 32 ปี อย่างอัศวิน เพราะสถานะทางครอบครัว และเขาดันเข้ามาสอนในมหาลัยที่เธอสอบติด ทำให้เธอและเขามีสถานะเพิ่มอีกหนึ่ง คือ “ลูกศิษย์กับอาจารย์”
ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเริ่มจากเจ้านายกับลูกน้อง เพราะเขาต้องการใช้เธอเป็นสะพานเข้าไปหาเพื่อนรักของเธอ แต่เพราะความใกล้ชิดทำให้เรา....จนต้องเกิดการรับผิดชอบเกิดขึ้นในสองเดือนคือการทดลองคบกัน
จะเป็นอย่างไงเมื่อสาวน้อยอย่าง "รถเมล์" ต้องกลายเป็นคุณแม่วัยยังสาว และหนุ่มหล่ออย่าง "บิ๊กเอ็ม" ต้องกลายเป็นคุณพ่อซุปตาร์ เพราะเพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของทั้งคู่ทำให้เธอท้อง เธอกลับมาเจอเขาอีกครั้งในวันที่ถ่ายแบบด้วยกัน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์คืนนั้นมันก็ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน เธอที่เพิ่งเข้าวงการกับเขาที่อยู่ในวงการถ่ายแบบมานานแล้วและเขากำลังจะเป็นดาราดัง แล้วอย่างนี้ทั้งสองจะทำอย่างไรกับเด็กน้อยที่กำลังจะเกิด
สามีที่เธอมองว่าเขาดีต่อเธอมาตลอด กลับใช้มีดหมอกรีดลงกลางอกของเธอ เขาทำมันก็เพื่อนำหัวใจของเธอไปให้น้องสาวต่างมารดาของเธอ ก่อนที่จากโลกใบนี้ไปก็ปรากฏชายคนหนึ่งเข้ามาช่วยเธอจากการผ่าตัด ชายผู้ที่เธอเคยเกลียดชังเขาและหนีออกมาจากเขา แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่เธอจะนึกเสียใจ ถ้าสามารถกลับไปยังช่วงเวลานั้นได้เธอจะดีต่อเขาและเชื่อฟังเขา
“น้องเอยกลับบ้านได้แล้วครับ” เสียงเรียกของคนด้านข้างทำให้คนที่นอนเหม่อหันหน้ามามองเขาอย่างงุนงง “คะพี่กันต์ ว่าอะไรนะคะเมื่อกี้นี้” พรธีราเอียงหน้าถามเขาเหมือนคิดว่าตัวเองฟังผิดไป “ค้างห้องพี่ไม่ได้นะครับ” นวินตอกย้ำในสิ่งที่เธอได้ยินก่อนหน้านี้ “เหรอคะ” หญิงสาวไม่คิดจะนอนค้างห้องของเขาอยู่แล้ว แค่แปลกใจทำไมเขาพูดเหมือนไล่หลังเสร็จสมอารมณ์หมายแบบนี้ “พี่ไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนค้างที่ห้องนี้ ไม่เว้นแม้แต่น้องเอยนะครับ” พรธีราเหมือนถูกเขาตบหน้าฉาดใหญ่ หญิงสาวดึงผ้าห่มขึ้นปิดเนินอกเอาไว้ มองเขาเหมือนคนแปลกหน้า สีหน้าและแววตาของเขาแตกต่างจากเดิม ราวกับหน้ามือหลังมือไม่มีผิ “ทำไมมองพี่แบบนั้นล่ะครับ” รอยยิ้มของคนพูดดูเจ้าเล่ห์จนอีกคนนึกใจเสีย หัวใจเต้นแรงเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตรงขมับ แล้วเอ่ยเสียงสั่น ๆ ออกมา “เอยนึกว่าเราเป็นแฟนกันเสียอีก” “หืม พี่เคยบอกแบบนั้นเหรอครับ” (ดวงใจแค้นแสนรัก)
ก็เลิกกันไปแล้ว ไม่รักกันแล้ว ไม่มีสิทธิ์ทำตัวเป็นหมาหวงก้าง ขุนพลแฟนเก่าของนาเดียพยายามเข้าใกล้เธอเหมือนมีเจตนาแอบแฝง นาเดียไม่ไว้ใจเขาทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้พบหน้า เธอพยายามถอยห่าง เขาพยายามรุกคืบ และการกระทำนั้นทำให้เธอเริ่มสั่นคลอนลงทุกวัน เขายังทำตัวเป็นหมาหวงก้าง และระรานคนไปทั่ว ผู้ชายเฮ็งซวยที่เลิกกันไปหลายปีแล้วกำลังทำให้เธอเจอกับเรื่องยุ่งเหยิงที่ยิ่งแก้ก็เหมือนยิ่งพันตัวเธอจนติดหนึบกับเขา คำแนะนำ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะคะ หากชื่นชอบรบกวนผู้อ่านทุกท่านกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ และซื่อในเว็บหรือแอนดรอยจะราคาถูกกว่า แอปเปิ้ลนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
หลังจากที่แฟนหนุ่มประสบอุบัติเหตุรถชนและหมดสติไปหนึ่งสัปดาห์ เขาก็ฟื้นคืนความทรงจำขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำได้ว่ามีคนที่เขารักมายาวนาน ดังนั้น สิ่งแรกที่เซิ่งหลินชวนทำเมื่อฟื้นจากอาการโคม่า คือการขอเลิกกับฉินเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ฉันความจำเสื่อม ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจทำจริงๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราตัดขาดความสัมพันธ์ ความรักของเราก็ทำเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นเลย ” ฉินเวยไม่ได้ว่าอะไร บัญเอิญว่าการวิจัยยาใหม่ในห้องทดลองสำเร็จ ฉินเวยจึงขอเข้าร่วมการทดลองยา “เมื่อคุณรับประทานยาเม็ดนี้ ความทรงจำส่วนนี้จะถูกลบไปอย่างถาวร คุณฉินเวย คุณตัดสินใจดีแล้วหรือ?”
[นักธุรกิจหนุ่มระดับต้นแสนร้ายกาจ VS นักปรุงน้ำหอมสาวพิการเลอโฉม บริสุทธิ์ทั้งคู่] บุคคลลึกลับส่งคลิปวิดีโอสามีนอกใจมาให้ ทำลายชีวิตที่ดูสงบของยูหยุนหนิง ทำให้เธอเข้าใจเรื่องหนึ่ง คนรักที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจะหลอกเรา เพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันจะหลอกเรา แต่นายแบบไหล่กว้างเอวคอดขายาวไม่มีทางหลอกเรา เพียงแต่ชายหนุ่มรูปหล่อขายตัวเพื่อเลี้ยงสุนัขคนนี้ กลิ่นน้ำหอมบนตัวของคุณ ทำไมถึงเหมือนกับนักธุรกิจหนุ่มระดับต้นของตระกูลเสี่ยวเลย? * ตอนที่เธอเปล่งประกายเจิดจรัส เขาเป็นลูกที่ถูกทอดทิ้งของตระกูล กล้าแค่ขโมยจูบแรกของเธอในความมืด เมื่อเธอตกจากที่สูง เขาทิ้งทุกอย่างกลับประเทศ แต่กลับเห็นเธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของคนอื่นทั้งน้ำตา ตอนเธอถูกหักหลังอย่างเจ็บปวด เขามีอำนาจอยู่ในมือ เขาคือคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เป็นคนที่ช่วยชีวิตตอนที่เธอเสี่ยงอันตราย เป็นกำลังใจที่มั่นคงที่สุดของเธอ เมื่อเธอลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาคุกเข่าข้างหนึ่ง จริงใจเป็นอย่างมาก “ได้โปรดแต่งงานกับผม” * “อยากรู้ไหมว่า ตอนที่เธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของผู้ชายสารเลวคนนั้น ผมกำลังคิดอะไรอยู่? ” “คิดอะไรอยู่เหรอคะ? ” “อย่าให้ผมมีโอกาสนะ” “แล้วถ้าไม่มีโอกาสละคะ? ” “ถ้าอย่างนั้นก็สร้างโอกาสขึ้นมา” เพราะในโลกนี้ ไม่มีใครรักยูหยุนหนิงได้มากกว่าเสี่ยวฉืออีกแล้ว
ซ่งชิงเหอโดนหักหลังและกลายเป็นฆาตกรในสายตาคนอื่น เธอจึงหย่ากับสีจั้นถิง สามีของเธอ และเดินทางออกจากเมืองหวยไปด้วยความเกลียดชัง หกปีต่อมา เธอหวนกลับมาราวกับนกฟีนิกซ์พร้อมกับคู่แข่งของสามีเก่าเธอ เธอเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง เธอสาบานกับตัวเองว่าจะทำให้ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกเขาทำไว้กับเธอ เธอยอมร่วมมือกับเขาเพียงเพื่อแก้แค้น โดยไม่รู้เลยว่าเธอตกเป็นเหยื่อของเขาไปแล้ว ในเกมแห่งความรักและความปรารถนา ไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายแล้วผู้ชนะที่แท้จริงจะเป็นใคร
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY