เธอถูกพ่อแท้ๆ ที่เพิ่งพบหน้าฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ในตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่ชีวิตรอดเป็นแน่ ที่จะเจอผู้ชายที่เป็นหนี้ชีวิตเธออีกครั้ง แต่อยู่ๆ เธอกลับฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของน้องสาวของเธอเอง และโชคชะตาของเธอทำให้เธอต้องแต่งงานกับคนที่เธอรักจนหมดใจ
เธอถูกพ่อแท้ๆ ที่เพิ่งพบหน้าฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ในตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่ชีวิตรอดเป็นแน่ ที่จะเจอผู้ชายที่เป็นหนี้ชีวิตเธออีกครั้ง แต่อยู่ๆ เธอกลับฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของน้องสาวของเธอเอง และโชคชะตาของเธอทำให้เธอต้องแต่งงานกับคนที่เธอรักจนหมดใจ
หลินเพ่ยเพ่ยสาวน้อยอายุสิบขวบที่อาศัยอยู่สถานสงเคราะห์มาตั้งแต่เด็ก เธอเป็นสาวน้อยที่หน้าตาน่ารักและสวยงามมากคนหนึ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าจะถูกคนใจร้ายนำมาทิ้งไว้หน้าสถานสงเคราะห์แห่งนี้ตั้งแต่ยังเป็นทารกแรกเกิด
ที่ผ่านมามีคนต้องการที่จะอุปการะเธอไปเลี้ยงดูอยู่แล้วหลายคน แต่พอถึงวันที่จะมารับตัวเธอไปนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นทุกครั้ง เลยทำให้พวกเขาคิดว่าเธอเป็นนั้นตัวซวย พอหลายครั้งเข้าทำให้ไม่มีใครกล้ามาอุปการะเธออีกเลย เด็กน้อยหลินเพ่ยเพ่ยจึงจำต้องอยู่สถานที่นี้ต่อไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ มองดูเพื่อนๆ ของเธอถูกอุปการะไปคนแล้วคนเล่า
"เพ่ยเพ่ยเธออยู่ไหน" หลันอี้เรียกหาหลินเพ่ยเพ่ย เธอเป็นคุณครูที่คอยสอนและช่วยดูแลเด็กๆ อยู่ที่สถานสงเคราะห์แห่งนี้มานาน วันนี้อิ้งหานตี้มาเฟียใหญ่ของเมือง A พร้อมกับอิ้งหานเหนียนลูกชายเพียงคนเดียวของเขามาที่นี่เพื่อมาทำบุญกับเด็กๆ เนื่องในวันครบรอบวันเกิดสิบแปดปีของอิ้งหานเหนียนลูกของเขา
"หนูอยู่นี่คะ"
"มาหลบอยู่นี่เอง ทำไมถึงไม่ออกไปรับของกินอีกล่ะ"
"หนูไม่กล้าออกไปค่ะ หนูมันตัวซวย"
สาวน้อยหลินเพ่ยเพ่ยโดนเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันอิจฉาในความสวยของเธอ พวกเขาจึงเอาเรื่องที่เธอเป็นตัวซวยมาล้อกับเธอ ทำให้เธอกลายเป็นเด็กที่ไม่เข้าหาใครและไม่ค่อยพูดจากับใคร ซึ่งเป็นเรื่องที่หลันอี้กังวลใจเป็นอย่างมาก
"เรื่องนี้หนูไม่ต้องคิดมากนะเพ่ยเพ่ย มีครูอยู่ทั้งคนต่อไปใครกล้ามาว่าเธอให้มาบอกครู ครูจะให้ความเป็นธรรมแก่เธอเอง"
"......."
"เอาล่ะๆ ออกกันไปเถอะได้เวลาทานข้าวเที่ยงแล้ว"
เมื่อหลันอี้เห็นว่าหลินเพ่ยเพ่ยยังคงนิ่งอยู่ จึงจับมือน้อยๆ ของเธอจะพาเธอเดินออกไป ตอนนี้คนใช้บ้านตระกูลอิ้งกำลังแจกจ่ายอาหารเที่ยงให้กับเด็กอยู่
"ยืนเข้าแถวตรงนี้แล้วรอรับอาหารเที่ยงนะ ครูต้องไปดูแลส่วนอื่นก่อน"
หลันอี้บอกกับหลินเพ่ยเพ่ยก่อนที่เธอจะไป แต่พอหลินเพ่ยเพ่ยอยู่คนเดียวเธอกลับโดนเพื่อนๆ แกล้งเบียดเธอจนเธอล้มลงไปกับพื้น ถึงเธอจะเจ็บมากแต่ก็ต้องทนไว้
"ยัยเพ่ยเพ่ยตัวซวย แกกล้ามากนะที่ออกมาเสนอหน้า"
"ใช่ พวกเราอย่าไปเข้าใกล้มันนะ เดี๋ยวจะตายเอาได้"
"นั่นสิ ใครที่จะเอามันไปเลี้ยงก็ตายหมดทุกคนเลยนี่ ตัวซวยชัดๆ "
หลินเพ่ยเพ่ยเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งร้องไห้ออกไป พวกเด็กเหล่านั้นก็พากันหัวเราะอย่างสะใจที่ได้เห็นหลินเพ่ยเพ่ยวิ่งร้องไห้ออกไป ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนอยู่ในสายตาของอิ้งหานเหนียนทั้งหมด ชายหนุ่มรู้สึกไม่ชอบใจจึงเดินไปสั่งคนรับใช้ว่าห้ามให้ข้าวเที่ยงแก่สามสาวด้านหลังเป็นเด็ดขาด แม้แค่ข้าวเม็ดเดียวก็ห้ามให้
หลินเพ่ยเพ่ยเข้าไปหลบอยู่ในห้องเก็บของ ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่หลบภัยสำหรับเธอ งานเลี้ยงเริ่มจัดขึ้นเรื่อยๆ อิ้งหานเหนียนสั่งคนให้ออกไปตามหาหลินเพ่ยเพ่ยแต่ก็ไม่พบ สามสาวที่โดนคาดโทษไว้ก็ได้แต่แค้นใจ เป็นเพราะหลินเพ่ยเพ่ยพวกเธอจึงโดนทำโทษให้อดข้าวเที่ยงที่แสนอร่อยไป พวกเธอรู้ดีว่าหลินเพ่ยเพ่ยนั้นต้องหลบอยู่ในห้องเก็บของ แต่ก็ไม่มีใครบอกไปในเมื่อพวกเธอทั้งสามคนไม่ได้กินข้าวเที่ยงก็อย่างหวังว่าหลินเพ่ยเพ่ยจะได้กินด้วยเช่นกัน
"พวกเธอทำเกินไปแล้วนะ ครูบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่างพูดแบบนั้นกับเพ่ยเพ่ย"
"พวกหนูพูดตามความจริงมันผิดด้วยเหรอคะ"
"เสี่ยวอี้! ถ้ากลับกันคนที่ถูกว่าเป็นเธอล่ะ เธอจะรู้สึกอย่างไร"
"ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นหรอกค่ะ อาทิตย์หน้าพ่อแม่บุญธรรมก็จะมารับหนูแล้ว ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้ามาว่าร้ายหนูได้อีก"
เสี่ยวอี้พูดอย่างมั่นใจก็ครอบครัวที่จะมาอุปการะเธอนั้นเป็นตระกูลผู้ดีที่ร่ำรวยมากตระกูลหนึ่ง เธอเลยอดไม่ได้ที่จะพูดจาโอ้อวดออกมา เพียงแค่ได้ออกจากที่นี่ไปเธอก็จะกลายเป็นคุณหนูของตระกูลดังแล้ว
"เธอคงลืมไปสินะ ที่จริงเขาเลือกเพ่ยเพ่ยไม่ใช่เธอ ถ้าเพ่ยเพ่ยไม่ปฏิเสธละก็เธอจะมีโอกาสนี้เหรอ เธอสมควรที่จะขอบคุณเพ่ยเพ่ยด้วยซ้ำไป"
"หึ! โอกาสเหรอ บ้าสิ้นดี ยัยเพ่ยเพ่ยมันตัวซวย ใครๆ ก็รู้ว่าครอบครัวไหนคิดจะอุปการะยัยนั่นก็ล้วนแต่มีคนตายเกิดขึ้น เขาได้หนูไปแทนก็ถือไว้โชคดีที่ครอบครัวของเขาจะได้ไม่มีใครตาย"
"เสี่ยวอี้! การเกิดแก่เจ็บตายไม่ล้วนเกิดขึ้นเอง และเป็นสิ่งที่ใครก็ห้ามไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเพ่ยเพ่ยเลย"
"แย่แล้วครับ ไฟไหม้ห้องเก็บของ! "
ในระหว่างที่นั้นมีคนตะโกนว่าไฟไหม้ห้องเก็บของก็ดังขึ้น ทุกคนต่างพากันตกใจไม่คิดว่าไฟจะไหม้ได้ ไฟไหม้ได้อย่างไงกัน ทางฝั่งของหลินเพ่ยเพ่ยที่นอนหลับไปเพราะร้องไห้อย่างหนัก ตื่นขึ้นมาก็เจอว่าไฟไหม้ห้องเก็บของแล้ว เธอพยายามจะออกไปแต่ก็ไม่มีทางออกไปได้เลยตอนนี้ไปมันล้อมรอบเธอ ควันไฟก็เข้าทั้งตาและจมูกของเธอจนเธอเริ่มหายใจไม่ออกล้มลงไปกับพื้นอย่างสิ้นหวัง นี้เธอจะตายแล้วจริงๆ เหรอชีวิตเธอยังไม่เจอกับความสุขเลยนะ แม้แต่พ่อแม่เป็นใครเธอยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำไป
"เด็กๆ หลบไปที่ปลอดภัยก่อนเร็ว ใช่แล้วมีใครเจอเพ่ยเพ่ยแล้วหรือยัง อย่าบอกนะว่าเพ่ยเพ่ยอยู่ในห้องเก็บของน่ะ"
หลันอี้มัวแต่จัดการกับเสี่ยวอี้อยู่จนเกิดเหตุไฟไหม้ ก็ลืมนึกไปว่าหลินเพ่ยเพ่ยชอบไปหลบอยู่ในห้องเก็บของ ยิ่งตอนนี้ไฟไหม้เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าหลินเพ่ยเพ่ยจะเป็นอย่างไรบ้าง
"ว่าไงนะครับ คุณแน่ใจนะครับว่าเธออยู่ในนั้นจริงๆ "
อิ้งหานเหนียนถามหลันอี้ออกไปด้วยใจร้อนรน ในใจก็คิดไปว่าถ้าเด็กน้อยคนนั้นอยู่ในนั้นจริงละก็....ทันใดนั้นเขาก็วิ่งไปที่ห้องเก็บของทันที ก่อนที่จะนำผ้าห่มที่ตากอยู่ใกล้ๆ มาชุบน้ำก่อนจะเอามาคลุม แล้วถีบประตูห้องเก็บห้องเข้าไป
"นายน้อยครับ! "
"มัวทำอะไรอยู่รีบไปหาอะไรมาดับเพลิงสิ ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปพวกแกตาย! "
อิ้งหานตี้รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่ลูกชายอย่างอิ้งหานเหนียนเข้าไปช่วยเด็กคนหนึ่งอย่างไม่คิดชีวิตเช่นนี้ เดิมทีนิสัยของลูกชายคนนี้เป็นคนที่เย็นชาและไม่ยุ่งวุ่นวายกับคนอื่น
"ครับนายใหญ่ เอาเร็วรีบไปให้อะไรมาดับเพลิง"
อิ้งหานเหนียนลุยไฟไปก็พบกับหลินเพ่ยเพ่ยนอนกรีดร้องอยู่บนพื้น ใบหน้าของเธอโดนไฟลุกไปซีกหน้า เขาจึงวิ่งเข้าไปช่วยเธอใช้ผ้าผืนนั้นดับไฟให้เธอ จังหวะนั้นเขาเองก็โดนไฟคลอกเข้าที่หลังด้วยเช่นกัน ยังดีที่เขาถอดเสื้อนอกทันไฟจึงโดนไฟคลอกไปเพียงเล็กน้อย
"เด็กน้อยไม่เป็นไรแล้ว ฉันจะพาเธอออกไปเอง"
อี้หานเหนียนพูดกับหลินเพ่ยเพ่ย แต่ตอนนี้สายตาเธอพร่ามัวนักจึงไม่สามารถเห็นหน้าเขาได้ชัดเจน ในทันใดนั้นสติของเธอนั้นก็ดับวูบไปมารู้สึกตัวอีกทีก็สามวันให้หลังจากนั้น ตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลใบหน้าถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผล
"ตื่นแล้วเหรอเพ่ยเพ่ย หนูเจ็บตรงไหนบ้าง ครูจะได้ไปตามหมอมาให้ดูอาการ"
"หนูไม่เจ็บ...หนูรอดมาได้ไงคะ"
"นายน้อยอิ้งหานเหนียนช่วยหนูออกมาน่ะสิ ตอนนี้เขาก็ได้รับบาดเจ็บและก็รักษาตัวอยู่ที่นี่เหมือนกันนะ"
"จริงเหรอคะ! เพราะหนูอีกแล้วหนูมันตัวซวยที่นั่นเลยไฟไหม้ เขาเลยได้รับบาดเจ็บ..."
หลินเพ่ยเพ่ยพูดไปร้องไห้ไป เหตุการณ์นี้มันทำให้เธอคิดว่าเธอคือตัวซวยจริงๆ และนี้ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พ่อแม่ของเธอไม่ต้องการเธอจึงเอาเธอมาทิ้งไว้ที่สถานสงเคราะห์ก็ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะมีเหตุผลอะไรที่พ่อแม่จะทิ้งลูกของตัวเองได้ล่ะ
"ไม่เอาอย่าโทษตัวเองเลยเด็กน้อย ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นอุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอกนะ"
"ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้างคะ"
"เท่าที่ครูรู้มาก็ปลอดภัยดีจ้ะ แค่มีบาดแผลที่โดนไฟคลอกที่ด้านหลังเล็กน้อยก็เท่านั้นเอง"
"หนูสามารถเยี่ยมเขาได้มั้ยคะ"
"เห็นทีจะยากจ้ะ นายใหญ่อิ้งหานตี้โกรธพวกเรามาก แต่ดีที่นายน้อยห้ามไว้เลยไม่เอาเรื่องกับพวกเรา เราเลยได้แค่ทำตัวอยู่เฉยๆ อย่างเงียบๆ ถึงอยากจะไปเยี่ยมก็คงจะยาก เพราะมีคนเฝ้าอยู่เยอะแยะ คนที่จะเข้าไปได้ก็มีแค่หมอและพยาบาลบางคนเท่านั้นเอง"
"อย่างนั้นเหรอคะ แล้วหนูจะขอบคุณเขาอย่างไรดี"
"หนูไม่ต้องกังวลวันนี้ไม่ได้ขอบคุณ วันหน้ายังมีโอกาสตราบใดที่หนูยังมีชีวิตอยู่สักวันหนึ่งคงได้ตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ของเขาอย่างแน่นอน"
"ค่ะ หนูจะไม่มีวันลืมบุญคุณครั้งนี้ของเขาอย่างแน่นอน วันข้างหน้าหนูจะตอบแทนบุญคุณของเขาไม่ว่าจะแลกด้วยชีวิตหนูทั้งชีวิตหนูก็ยอมค่ะ"
หลินเพ่ยเพ่ยให้สัญญาไว้กับตัวเองไม่ว่าอย่างไรก็ตามอิ้งหานเหนียนคนคนนี้คือผู้มีพระคุณของเธอที่ต้องตอบแทนพระคุณให้ได้ หลังจากนั้นเธอก็ได้พักรักษาตัวอยู่นานที่โรงพยาบาลกินเวลาไปหลายเดือน เนื่องจากแผลที่ใบหน้าของเธอนั้นได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง และทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนใบหน้าของเธอด้วย
เจ้านายคนใหม่อย่าง“ฟีนิกซ์” ที่แสนจะบ้าอำนาจสุดๆ แถมยังเอาแต่ใจ หื่น บ้ากามสารพัด ตีค่าทุกอย่างด้วยเงิน แม้แต่ความรัก ซึ่งเธอจะไม่ยอมเขาเด็ดขาด เธอจึงทำทุกอย่างเพื่อต่อต้านเขา ไม่ให้มามีสิทธิ์เหนือเธอ ในเวลางานยังพอทน แต่ถ้านอกเวลางานคนอย่าง“แพรพิรยา” จะไม่ยอมทนเด็ดขาด แล้วเขาถือสิทธิ์อะไรเข้ามาอยู่ร่วมใต้ชายคาเดียวกันกับเธอ อย่างหน้าด้านๆ เวลาไม่พอใจอะไรเธอหรือโกรธเธอ เป็นอันต้องใช้กำลัง ด้วยการจูบเธอบ้างล่ะ จับกดลงกับเตียงแล้ว….!? เธอบ้างล่ะ อย่างกับฉากละครในทีวีที่พระเอกกับนางเอกทะเลาะกันยังไงยังงั้นเลย คนเรามันต้องมีเหตุผลกันทั้งนั้น แล้วเหตุผลของเขาล่ะคืออะไรกัน บางครั้งเขาก็เป็นผู้ชายที่แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยน และอะไรกันที่ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และร้ายกาจได้ขนาดนี้กัน
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออัศวินอยากจะมีลูกน้อยเพื่อเป็นโซ่คล้องใจ แต่พลอยไพลินยังคงรักสนุก เธอยังคงยึดติดกับชีวิตการทำงานและวัยสาวของเธอ ทำให้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกในช่วงเวลานี้ อัศวินจึงต้องวางแผนทุกแผนการเพื่อที่จะมีลูกกับเธอ
ชาลีมาเฟียหนุ่มแห่งอิตาลีเจ้าของกาสิโน เขาเกลียดผู้หญิงไทยเพราะแม่ที่เคยทอดทิ้งเขาในวัยเด็ก เขามีน้องสาวต่างมารดาหนึ่งคนที่เป็นคนไทยชื่อว่าจันทร์เจ้า สามีของจันทร์เจ้าเคยเป็นคู่หมั้นของเอมอรหญิงไทยคนหนึ่งที่กำลังครรภ์ แม้เอมอรจะปฏิเสธว่านั้นไม่ใช่ลูกของภูชิตสามีของน้องสาวตน แต่ชาลีก็ไม่เชื่อคำพูดของเธอ เขาจึงจับตัวเอมอรมาและบังคับให้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขา
จะเป็นอย่างไรเมื่อสาวน้อยวัย 18 ปี อย่างพลอยไพลิน ต้องแต่งงานกับหนุ่มใหญ่วัย 32 ปี อย่างอัศวิน เพราะสถานะทางครอบครัว และเขาดันเข้ามาสอนในมหาลัยที่เธอสอบติด ทำให้เธอและเขามีสถานะเพิ่มอีกหนึ่ง คือ “ลูกศิษย์กับอาจารย์”
ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเริ่มจากเจ้านายกับลูกน้อง เพราะเขาต้องการใช้เธอเป็นสะพานเข้าไปหาเพื่อนรักของเธอ แต่เพราะความใกล้ชิดทำให้เรา....จนต้องเกิดการรับผิดชอบเกิดขึ้นในสองเดือนคือการทดลองคบกัน
จะเป็นอย่างไงเมื่อสาวน้อยอย่าง "รถเมล์" ต้องกลายเป็นคุณแม่วัยยังสาว และหนุ่มหล่ออย่าง "บิ๊กเอ็ม" ต้องกลายเป็นคุณพ่อซุปตาร์ เพราะเพียงความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนของทั้งคู่ทำให้เธอท้อง เธอกลับมาเจอเขาอีกครั้งในวันที่ถ่ายแบบด้วยกัน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์คืนนั้นมันก็ผ่านมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน เธอที่เพิ่งเข้าวงการกับเขาที่อยู่ในวงการถ่ายแบบมานานแล้วและเขากำลังจะเป็นดาราดัง แล้วอย่างนี้ทั้งสองจะทำอย่างไรกับเด็กน้อยที่กำลังจะเกิด
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
"ชาร์ลีถูกทิ้งไว้ที่ห้องจัดงานและกลายเป็นตัวตลก เธอพยายามทำตัวให้ว่านอนสอนง่าย แต่สุดท้ายกลับได้รับคลิปวีดีโอที่เกี่ยวกับคู่หมั้นและน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอเสียใจมากและใช้เวลาทั้งคืนอย่างสุดเหวี่ยงกับคนแปลกหน้าที่ร้อนแรง ซึ่งควรจะเป็นแค่ครั้งเดียว แต่เขากลับโผล่มาช่วยเธอทำโปรเจ็กต์ต่างๆ และแก้แค้น ในขณะที่คอยจีบเธออยู่ตลอดเวลา ในไม่ช้า ชาร์ลีก็ตระหนักว่าการมีเขาอยู่ใกล้ๆ เป็นเรื่องดี จนกระทั่งแฟนเก่าของเธอปรากฏตัวที่หน้าประตูบ้านของเธอและขอร้องให้โอกาสอีกครั้ง คนรักที่ร่ำรวยของเธอถามว่า “คุณจะเลือกใคร คิดให้ดีก่อนตอบ”"
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
เจียงเหว่ยยี่ และ กู้เหยียนอันเป็นคู่รักในวัยเด็กมา 12 ปีแล้ว และคบกันมา 3 ปีแล้ว การแต่งงานระหว่างตระกูลเจียง และตระกูลกู้นั้นยิ่งใหญ่มากจนผู้หญิงทุกคนในเมืองเอต่างก็อิจฉา ในวันแต่งงาน สถานที่จัดงานเลี้ยงเต็มไปด้วยแขกและเพื่อนต่างๆ แต่แล้วเมื่อมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาทำให้กู้เหยียนอันละทิ้งเจียงเหว่ยยี่ ซึ่งแต่งตัวอย่างหรูหราสวยงามแล้ว การหลบหนีจากงานแต่งงานของกู้เหยียนอันทำให้เจียงเหว่ยยี่ดลายเป็นตัวตลกของเมืองเอ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่คนในเมืองเหล่านั้นได้หัวเราะเยาะเท่าไร ก็เห็นเจียงเหว่ยยี่โพสต์ใบทะเบียนสมรสระหว่างเธอกับเสิ่นจินโจว: "แต่งงานแล้ว" จากนั้นไม่นาน เสิ่นจินโจวที่ไม่ได้โพสต์ข้อความมาหลายปีก็โพสต์ว่า "อ่านแล้ว" บางคนบอกว่าครั้งนี้เจียงเหว่ยยี่โชคเข้าข้าง และสูญเสียของเล็กน้อยไป แต่กลับได้ของมีค่ามากกลับมา เพราะกู้เหยียนอันเทียบไม่ติดเสิ่นจินโจวแม้แต่นิดเลย เมื่อเผชิญกับคำพูดที่เต็มไปด้วยความอิจฉาเหล่านี้ เจียงเหว่ยยี่ก็ตอบเห็นด้วยทุกครั้งอย่างตรงไปตรงมา จนกระทั่งวันหนึ่ง นักข่าวการเงินตัวกล้าถามเสิ่นจินโจวว่าเขาคิดอย่างไรกับการแต่งงานของเขา เมื่อทุกคนคิดว่าเสิ่นจินโจวจะเยาะเย้ยเจียงเหว่ยยี่อย่างหยิ่งผยอง แต่เขากลับพูดอย่างใจเย็นว่า: "ผมสมหวังแล้ว"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด