สามีที่เธอมองว่าเขาดีต่อเธอมาตลอด กลับใช้มีดหมอกรีดลงกลางอกของเธอ เขาทำมันก็เพื่อนำหัวใจของเธอไปให้น้องสาวต่างมารดาของเธอ ก่อนที่จากโลกใบนี้ไปก็ปรากฏชายคนหนึ่งเข้ามาช่วยเธอจากการผ่าตัด ชายผู้ที่เธอเคยเกลียดชังเขาและหนีออกมาจากเขา แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่เธอจะนึกเสียใจ ถ้าสามารถกลับไปยังช่วงเวลานั้นได้เธอจะดีต่อเขาและเชื่อฟังเขา
เพื่อให้ได้รักเขาและได้อยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เธอยอมเกลียดชังผู้ชายอีกคนที่หวังดีต่อเธอมากที่สุดแต่เธอไม่รู้เลยว่าสิ่งนี้คือกับดักที่น้องสาวต่างมารดาของเธอได้วางแผนเอาไว้ล่วงหน้า
อิงฟ้าต้องการหัวใจของเธอมาตลอด จึงแกล้งเป็นน้องสาวที่แสนดีและน่าสงสารให้เธอนั้นตายใจ
"พี่คะ ขอบคุณสำหรับหัวใจของพี่ล่วงหน้าด้วยนะคะ"
หญิงสาวตรงหน้าจับมือของเธอแล้วร้องไห้ แต่แววตาของเธอนั้นกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่เธอกำลังแสดงออกมา
ผู้หญิงตรงหน้าคือน้องสาวของเธอ เป็นน้องสาวต่างมารดาที่บิดาของเธอพาเข้ามาหลังจากที่มารดาของเธอจากไปได้ไม่นานนัก น้องสาวคนนี้อายุห่างกันกับเธอเพียงไม่กี่เดือน นั่นก็หมายความว่าบิดาของเธอมีชู้มานานแล้ว เธอได้แต่เจ็บใจและเสียใจที่ได้รู้ความจริงในเวลาที่สายเกินแก้ไปแล้ว แถมยังถูกพวกเขาทำร้ายจนเป็นเช่นนี้อีกด้วย
"ขอบคุณนะที่รัก ที่คุณยอมเสียสละได้แม้กระทั่งหัวใจของคุณเองเพื่อน้องสาวของคุณ"
เสียงของชายหนุ่มนั้นเจ็บปวดยิ่งนัก แต่สำหรับเธอแล้วนั้นมันไม่ใช่เลย เขากำลังแสดงละครต่อหน้าทุกคนว่าเขาเจ็บปวดมากเพียงใด ต่อสิ่งที่ภรรยาของตัวเองกำลังทำเพื่อน้องสาว เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้กับเธอ ทำไมเขาถึงเกลียดชังเธอและร่วมมือกับน้องสาวของเธอ
"ใช่ ภรรยาของเธอป่วยมานานแล้ว ซึ่งมันยากที่จะรักษาให้หายได้ เธอตัดสินใจถูกแล้วที่ยอมมอบหัวใจให้น้องสาวของเธอ" นี่คือสิ่งที่แม่เลี้ยงของเธอพูดออกมา
"เมื่อคุณตัดสินใจแล้วผมเองก็จะทำตามสิ่งที่คุณขอเป็นครั้งสุดท้าย พวกคุณเป็นพี่น้องที่รักกันมากจริงๆ ไม่ต้องห่วงนะครั้งนี้ผมจะเป็นคนผ่าตัดคุณเอง" ฟังไม่ผิดหรอกสามีของเธอเป็นหมอ เขาเป็นหมอที่มีความสามารถและเก่งมากของโรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ตอนนี้เขากำลังทำผิดต่อภรรยาตัวเอง
แผนทุกอย่างถูกวางไว้ล่วงหน้า พวกคนชั่วช้าแม้เธอจะตายไปก็ขอสาปแช่งพวกเขาให้ตกนรกตามกันไป เสียแรงที่เธอเชื่อใจพวกเขา ทั้งน้องสาวที่ร่างกายอ่อนแอเพราะเป็นโรคหัวใจมาแต่เด็ก และสามีที่แสนดีเป็นถึงคุณหมอมือดีของโรงพยาบาลแห่งนี้ ใครจะรู้ว่าพวกเขามันชั่วร้ายขนาดไหนกัน เธอไม่น่าหลงเชื่อและโง่ให้โดนหลอกได้เลย
"ลงมือได้" สิ้นเสียงของเขาน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา
เขามันชั่วช้าจนวินาทีสุดท้ายเสียจริง เขาไม่ได้ใช้ยาสลบหรือแม้แต่ยาชาให้แก่เธอด้วยซ้ำไป ทันทีที่มีดกรีดลงมาที่กลางหน้าอกของเธอ เธอก็เจ็บปวดไปทั่วร่าง และไม่สามารถขยับตัวหรือส่งเสียงร้องออกไปเพื่อห้ามได้ ทำได้เพียงแค่ยอมรับความเจ็บปวดนั้นและกรีดร้องอยู่ภายในใจเท่านั้น
"หยุดเดี๋ยวนี้! ฉันบอกให้พวกแกหยุดไง" เสียงของใครคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาให้หยุดการผ่าตัด
เขาอีกแล้วเหรอ แม้ฉันจะทำให้เขาโกรธหรือเสียใจแค่ไหน เขาก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ขอบคุณที่มาช่วยฉัน แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว…
เธอมองภาพของเขาที่เข้ามาคว้ามือของสามีตัวเองและทำลายการผ่าตัดลงอย่างบ้าคลั่ง นั้นคือสิ่งที่เธอได้เห็นก่อนที่เธอจะสิ้นลมหายใจ
ลาก่อนถ้าฉันเลือกคุณในตอนนั้น ฉันจะมีความสุขกว่าตอนนี้ใช่ไหม
หัวใจของเธอค่อยๆ หยุดเต้นลงในที่สุด และความเจ็บปวดมันก็เริ่มหายไปในไม่ช้า ลาก่อนชาลิต....
"ไม่นะ!..." เสียงของชาลิตดังก้องในหัวของเธอ ก่อนที่จะสติของเธอจะดับวูบลง อย่าเสียใจเพื่อฉันอีกเลย เพราะมันไม่คุ้มค่าสำหรับคุณ
ฉันมันโง่เองที่ไม่เลือกคุณ กลับเลือกผู้ชายที่มีดีแค่เปลือกอย่างหมอไตรภพ ถ้ามีโอกาสให้ฉันได้เลือกใหม่อีกครั้ง ฉันจะเลือกคุณเป็นคู่ชีวิตของฉัน และฉันจะรักคุณให้มากกว่าที่คุณรักฉัน ฉันขอให้สัญญา....
"เธอยังไม่ฟื้นอีกเหรอ" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง เปลือกตาของเธอหนักอึ้งจนลืมตาขึ้นไม่ได้
"นี่ฉันยังไม่ตายอีกเหรอ" เธอคิดอยู่ภายในใจอย่างสับสน เธอแน่ใจว่าเธอนั่นได้เสียชีวิตลงไปแล้วเมื่อก่อนหน้านี้
"นายใจเย็นลงหน่อย เดี๋ยวเธอก็ฟื้นแล้ว" เพื่อนคนนี้ของเขาใจร้อนเสมอเมื่อเป็นเรื่องของผู้หญิงคนนี้
ผู้หญิงคนนี้แค่สลบไปเพราะอดข้าวประท้วงเลยเป็นลมหมดสติไป เขาได้ให้น้ำเกลือไปแล้วอีกไม่นานก็คงฟื้น
"มีคนอยู่ในบ้านทั้งเยอะแยะ ทำไมถึงไม่ดูแลเธอให้ดี ปล่อยให้เธออดข้าวมาสองวันได้อย่างไรกัน"
"ขอโทษครับนายน้อย พวกเราเองก็จนปัญญาแล้วจริงๆ ครับ"
พ่อบ้านทำได้เพียงขอโทษ เขาเองก็บังคับให้ผู้หญิงคนนี้ทานข้าวไม่ได้เสียด้วย เขาเลยปล่อยเลยตามเลยเพราะคิดว่าเมื่อเธอหิวก็คงจะทานมันด้วยตัวเอง แต่ใครจะคิดว่าเธอจะอดทนได้นานถึงสองวัน และวันนี้ก็ยังออกไปตอนเที่ยงยืนตากแดดจนทำให้ตัวเองเป็นลมแดดอย่างที่เห็น
"ให้ตายเถอะ! แค่ฉันไม่อยู่บ้านแค่สองวันเพราะต้องบินไปดูงานที่ต่างประเทศ กับแค่ให้ดูแลผู้หญิงคนเดียวก็ทำกันไม่ได้"
ตอนนี้เขาหัวเสียมาก ผู้หญิงคนนี้ดื้อดึงก็จริง แต่บ้านของเขาก็ออกจะมีคนใช้ตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ทำไมถึงกลับได้ไร้ประโยชน์ถึงเพียงนี้
"เอาเถอะน่า นายอย่าไปโทษพ่อบ้านโจเลย นายกลับมาแล้วก็ดูแลเธอให้ดีซะสิ"
"ขอบคุณครับ" พ่อบ้านโจนาธานเอ่ยขอบคุณคุณหมอซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเจ้านายอย่างตื้นตันใจที่เข้าใจเขา
"นายกลับไปได้แล้ว ฉันจะให้คนไปส่ง"
"เฮ้อ! ใช้งานเสร็จแล้วก็ถีบหัวส่งกันเลยนะ รู้ไหมว่าฉันมีผ่าตัดสำคัญอยู่ แต่นายกลับสั่งให้ลูกน้องของนายพาตัวฉันมาที่นี่"
คิดแล้วเขาก็ปวดหัวขึ้นมาทันที เพื่อนของเขามีนิสัยแข็งกระด้าง แม้จะชอบผู้หญิงคนนี้มากแต่ก็ไม่เคยแสดงท่าทีอ่อนโยนออกไปให้เธอเห็นเลย นั้นคือเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงต่อต้านชาลิต ผิดกับอีกคนที่อ่อนโยนและเป็นขวัญใจของเหล่าพยาบาลอย่างไตรภพที่ได้ใจของสาวน้อยคนนี้ไป ส่วนเพื่อนของเขาน่ะเหรอ เขาไม่อยากจะพูดเลยว่าไม่ชนะแล้วยังจะพาผู้หญิงคนนี้มากักขังไว้ที่นี่อีก
"ที่นั่นก็ไม่ได้มีแค่นายเป็นหมอคนเดียวนี่"
"ใช่ ฉันไม่ได้เป็นหมอแค่คนเดียวของที่นั่น แล้วทำไมฉันต้องเป็นคนเดียวที่ถูกนายพาตัวมาอยู่เรื่อยเลย"
"อ๊ะ! ไม่ต้องตอบว่าฉันเป็นเพื่อนของนาย ถ้าไม่เห็นแก่เด็กคนนี้ฉันไม่มาหรอก" เขาพูดอีกครั้งก่อนจะเก็บอุปกรณ์การรักษาและเดินจากไป
"เวนิส...." ชาลิตมองไปยังเวนิสที่กำลังหลับอยู่และเรียกชื่อของเธอเบาๆ
เจ้านายคนใหม่อย่าง“ฟีนิกซ์” ที่แสนจะบ้าอำนาจสุดๆ แถมยังเอาแต่ใจ หื่น บ้ากามสารพัด ตีค่าทุกอย่างด้วยเงิน แม้แต่ความรัก ซึ่งเธอจะไม่ยอมเขาเด็ดขาด เธอจึงทำทุกอย่างเพื่อต่อต้านเขา ไม่ให้มามีสิทธิ์เหนือเธอ ในเวลางานยังพอทน แต่ถ้านอกเวลางานคนอย่าง“แพรพิรยา” จะไม่ยอมทนเด็ดขาด แล้วเขาถือสิทธิ์อะไรเข้ามาอยู่ร่วมใต้ชายคาเดียวกันกับเธอ อย่างหน้าด้านๆ เวลาไม่พอใจอะไรเธอหรือโกรธเธอ เป็นอันต้องใช้กำลัง ด้วยการจูบเธอบ้างล่ะ จับกดลงกับเตียงแล้ว….!? เธอบ้างล่ะ อย่างกับฉากละครในทีวีที่พระเอกกับนางเอกทะเลาะกันยังไงยังงั้นเลย คนเรามันต้องมีเหตุผลกันทั้งนั้น แล้วเหตุผลของเขาล่ะคืออะไรกัน บางครั้งเขาก็เป็นผู้ชายที่แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยน และอะไรกันที่ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และร้ายกาจได้ขนาดนี้กัน
เธอถูกพ่อแท้ๆ ที่เพิ่งพบหน้าฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ในตอนแรกเธอคิดว่าคงไม่ชีวิตรอดเป็นแน่ ที่จะเจอผู้ชายที่เป็นหนี้ชีวิตเธออีกครั้ง แต่อยู่ๆ เธอกลับฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของน้องสาวของเธอเอง และโชคชะตาของเธอทำให้เธอต้องแต่งงานกับคนที่เธอรักจนหมดใจ
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออัศวินอยากจะมีลูกน้อยเพื่อเป็นโซ่คล้องใจ แต่พลอยไพลินยังคงรักสนุก เธอยังคงยึดติดกับชีวิตการทำงานและวัยสาวของเธอ ทำให้เธอไม่พร้อมที่จะมีลูกในช่วงเวลานี้ อัศวินจึงต้องวางแผนทุกแผนการเพื่อที่จะมีลูกกับเธอ
ชาลีมาเฟียหนุ่มแห่งอิตาลีเจ้าของกาสิโน เขาเกลียดผู้หญิงไทยเพราะแม่ที่เคยทอดทิ้งเขาในวัยเด็ก เขามีน้องสาวต่างมารดาหนึ่งคนที่เป็นคนไทยชื่อว่าจันทร์เจ้า สามีของจันทร์เจ้าเคยเป็นคู่หมั้นของเอมอรหญิงไทยคนหนึ่งที่กำลังครรภ์ แม้เอมอรจะปฏิเสธว่านั้นไม่ใช่ลูกของภูชิตสามีของน้องสาวตน แต่ชาลีก็ไม่เชื่อคำพูดของเธอ เขาจึงจับตัวเอมอรมาและบังคับให้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขา
จะเป็นอย่างไรเมื่อสาวน้อยวัย 18 ปี อย่างพลอยไพลิน ต้องแต่งงานกับหนุ่มใหญ่วัย 32 ปี อย่างอัศวิน เพราะสถานะทางครอบครัว และเขาดันเข้ามาสอนในมหาลัยที่เธอสอบติด ทำให้เธอและเขามีสถานะเพิ่มอีกหนึ่ง คือ “ลูกศิษย์กับอาจารย์”
ความสัมพันธ์ของเธอและเขาเริ่มจากเจ้านายกับลูกน้อง เพราะเขาต้องการใช้เธอเป็นสะพานเข้าไปหาเพื่อนรักของเธอ แต่เพราะความใกล้ชิดทำให้เรา....จนต้องเกิดการรับผิดชอบเกิดขึ้นในสองเดือนคือการทดลองคบกัน
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้