/0/10435/coverbig.jpg?v=c027295e770d46f721699d0d3f406a01)
ใครจะคิดว่าอ๋องน้อยผู้น่ารักจะเติบโตมาได้เสเพลเยี่ยงนี้ แต่ความจริงเขาเป็นพ่อมดหลงถิ่น ในโลกที่ลมปราณเป็นใหญ่ จอทเวทก็เป็นได้แค่สวะไร้พลัง เพื่อหลีกหนีบังลังค์เขาจึงเป็นคนบัดซบที่สุดในแผ่นดิน
ท้องฟ้าโปร่งสายลมพัดเอื่อยเย็นสบาย แสงแดดส่องกระทบผืนน้ำสีน้ำเงินครามราวกับอัญมณี คลื่นทะเลหมุนเกลียวซัดกระทบกราบเรือเป็นจังหวะ เป็นฟองคลื่นสีขาวแตกฟ่องละลายหายไป มีเรือสำราญลำใหญ่ล่องลดเลี้ยวอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรกว้างไพศาลสุดลูกลูกตา
เสียงสังสรรค์เฮฮาสนุกสนานดังมาจากบนเรือสำเภาใหญ่ของชินอ๋องที่พาพระชายาเอก และอ๋องน้อยมาประพาสดูความแปลกใหม่ของบรรยากาศนอกเมืองหลวง
บนลำเรือต่างมีบ่าวไพร่มากมายเกือบร้อยคนที่คอยติดตามมารับใช้เจ้านายอย่างใกล้ชิด แต่เสมือนพวกเขาก็ได้มาพักผ่อนด้วยไม่ต่างกัน นับว่าพากันมาเที่ยวกันยกตำหนักอ๋อง
“เสด็จแม่ ๆ พี่ปลาตัวหย้ายใหญ่” นิ้วมือสั้นป้อมชี้ไปที่มัจฉาตัวไม่น้อย แทบจะทับผู้ใหญ่คนหนึ่งขาดอากาศหายใจตายได้ โผกระโดดโลดแล่นจากท้องทะเล
“น่ารัก... หยางหยางชอบ” เสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วถ้อยพาทีของอ๋องน้อย ชวนให้ทุกคนที่ได้ยินเก็บรอยยิ้มไว้ไม่มิด คือ มู่หรงเยี่ยหยาง
เชื้อพระวงศ์ตัวจิ๋ว น่ารักน่าเอ็นดู แขนขาสั้น ๆ อ้วนป้อมเป็นข้อป้องน่าฟัด ทุกคนที่เห็นการเติบโตของเจ้าก้อนแป้งขาวต่างเห็นแววความฉลาด เฉียบคม และมากพรสวรรค์ตั้งแต่วัยเยาว์ อีกทั้งยังเป็นที่รักของทุกคนไม่เว้นเสด็จลุงแท้ ๆ ผู้เป็นองค์รัชทายาทองค์ปัจจุบันและเสด็จอา รวมทั้งถังฮองเฮาผู้เป็นเสร็จย่าก็เอ็นดูหลงใหลความน่ารักของเด็กชายหัวปักหัวปำ
“หลงหมิง ดูลูกหยางสิเพคะ เห็นทีกลับไปครานี้ เราสองคนคงต้องทานปลากันอีกนาน”
ชินหวางเฟยผู้เป็นภรรยาและมารดาใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำลายเจ้าตัวน้อยที่ชี้มือชี้ไม้ชอบใจไปที่เหล่าปลาทั้งหลาย แต่น้ำลายเจ้าตัวกับไหลย้อยยืดเก็บอาการไม่มิด
เด็กน้อยดวงตาแวววาวเป็นประกายระยิบระยับ จนบรรดาปลาทั้งหลายที่แหวกว่ายบริเวณนั้น รู้สึกรัศมีไอสังหารที่ไม่ชอบมาพากลที่แผ่ออกมาจากเจ้าตัวน้อย ต่างทยอยว่ายหนีตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอดรักษาชีวิตของพวกมัน
“พี่ก็คิดเช่นนั้น วังของเราคงต้องขยาดปลาไปอีกนานเชียว ฮ่าฮ่าฮ่า” ชินอ๋องยืนอยู่ด้านหลังหวางเฟยหัวเราะอย่างมีความสุข
สายตารักใคร่มองพระชายาและท่านชายน้อยด้วยแววตาอบอุ่น โอบกอดทั้งสองไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆ ซึมซับบรรยากาศของทะเล
แต่...โบราณเคยมีคำพูดว่า ความสุขอยู่กับเราเพียงช่วงครู่ นั้นกลับเป็นความจริง
จู่ ๆ ท้องฟ้าที่เปิดกว้างกลับมืดทะมึน คลื่นลมกระโชกแรง ท้องทะเลปั่นป่วน ราวกับเงามืดได้ย่ำกลายเข้ามาหา สายฟ้าฟาดผ่ากลางมหาสมุทรอย่างแรงสร้างความน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก กลายเป็นเสียงฟ้าร้องลั่นสะท้านผืนน้ำ
เสียงระเบิดดังขึ้นกลางห้องเก็บเสบียงกลางท้องเรือ เรียกความแตกตื่นจากผู้คนบนเรือจนอกสั่นขวัญแขวน
เพราะพวกเขาหาได้อยู่บนพื้นดินที่เหยียบยืนได้ แต่อยู่บนพื้นน้ำ
หากพวกเขาต่างก็ดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว หยิบจับอาวุธพร้อมรับมือกลับเรื่องที่คาดไม่ถึง สายตากวาดมองเตรียมป้องกันตัวเอง
เหล่ากิเลนกลุ่มองครักษ์ของชินอ๋องที่ขึ้นตรงต่อเขาเพียงคนเดียว กระโจนออกมาพร้อมสอดส่องหามือสังหาร แม้ก่อนหน้านี้เขาจะสนุกสนานไปกับพวกพ้องบนเรือก็ตาม
“คุ้มกันท่านอ๋อง!!!” เสียงองครักษ์ดังขึ้นอย่างรู้หน้าที่ เหล่ากิเลนกลุ่มองครักษ์ต่างแยกไปวางกำลังรอบตัวเรือ
“ท่านอ๋อง! ทางปลอดภัยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“เปิ่นหวางปลอดภัย ทำไมถึงมีพลุระเบิดอยู่บนเรือได้?”
น้ำเสียงนุ่มนวลอันมั่นคงของมู่หรงหลงหมิงชินอ๋องแห่งราชอาณาจักรซีเว่ยสอบถามสาเหตุที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เขากังวลว่าเหตุการณ์นี้จะทำอันตรายฮูหยินกับบุตรชายของเขา แต่ยังไม่ทันได้รับคำตอบ ระเบิดก็ดังขึ้นเป็นระลอกแล้วระลอกเล่า พรากชีวิตคนของชินอ๋องไปไม่น้อยอย่างไม่รู้ตัว
ขบวนเรือแตกพ่ายไร้รูปแบบ ถูกโจมตีอย่างรวดเร็วไม่ทันตั้งตัว มือสังหารมากมายที่แฝงตัวเข้ามาในฐานะลูกเรือปรากฏขึ้นอย่างไม่รู้ตัวลงมือเหี้ยมโหด เข้าเข่นฆ่าอย่างไม่ปรานี
กลิ่นคาวเลือดลอยฟุ้งกลางอากาศกลบกลิ่นอายเค็มของทะเล เรือหลายลำอับปางลงผู้คนหลายคนลอยคออยู่ในทะเล
องครักษ์หน่วยกิเลนของชินอ๋องเข้ารับมือกับมือสังหารที่แฝงตัวอยู่บนเรือ พุ่งฟาดฟันกับพวกมัน แม้พวกเขาฝีมือจะเป็นยอดฝีมือชั้นสูง แต่จำนวนกลับด้อยกว่าหลายส่วน คาดว่าพวกมันคงวางแผนมานานปีถึงแฝงตัวมาเป็นข้ารับใช้ในตำหนักชินอ๋องมากถึงเพียงนี้โดยไม่มีผู้ใดสงสัย
ดวงตาเมล็ดชิ่งประกายอ่อนโยนฉับพลันปะทุด้วยอายสังหาร กวาดมองผู้บุกรุกที่อาจหาญมาขัดขวางความสุขของครอบครัวพ่อแม่ลูก กระบี่อ่อนที่คาดอยู่บนเอวไม่คาดว่าจะได้ชักออกจากฝัก
มือซ้ายของชินหวางเฟยอุ้มบุตรชาย มือขวาถือกระบี่อ่อนพร้อมที่จะรุกและถอย
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"