อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
ตอนที่ 1 ทรยศ
ท่ามกลางแสงสีภายในงานจัดเลี้ยงหรูหราใหญ่โตในใจกลางเมืองๆหนึ่ง
บรรดาสุภาพสตรีต่างก็แต่งกายด้วยชุดราตรีหรูหราสวยงามตระการตา เดินเฉิดฉายไปมาอยู่ภายในงาน ส่วนสุภาพบุรุษล้วนแต่งกายด้วยชุดสูทราคาแพง กำลังยืนจับกลุ่มพูดคุยกันเป็นจุดๆ กลุ่มละห้าถึงหกคน
จากการแต่งกายของผู้ที่อยู่ในงานเลี้ยงคืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสุภาพบุรุษ หรือว่าสุภาพสตรี ล้วนบ่งบอกว่าทุกคนในงานต่างก็เป็นคนดัง และชนชั้นสูงในสังคมทั้งสิ้น
เซียถงอยู่ในชุดราตรียาวสีดำรัดรูป ชายกระโปรงลากไปกับพื้นขณะเยื้องย่าง ดวงหน้าเล็กๆนั้นมีเครื่องสำอางบางๆปกคลุมอยู่ ดวงตาทั้งคู่เปล่งประกายระยิบระยับราวกับดวงดาว ริมฝีปากเป็นสีอมชมพูราวกับลูกพีช เรือนร่างมีสัดส่วนที่สมบูรณ์ไร้ที่ติ
สายตาของบุรุษในงานต่างก็จับจ้องมองมาที่เรือนร่างของหญิงสาวผู้นี้
เซียถงเดินปะปนเข้าไปท่ามกลางฝูงชน แม้สายตาจะดูสบายๆ แต่ก็แอบระมัดระวัง และสังเกตการณ์การเคลื่อนไหวรอบตัว
วันนี้เป็นวันเกิดของลู่อวิ๋นโจว เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของเมืองนี้ และงานเลี้ยงคืนนี้ก็จัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเขาโดยเฉพาะ
ส่วนภารกิจของเธอก็คือการสังหารลู่อวิ๋นโจว และขโมยคริสตัลม่วงมาจากเขา!
คริสตัลม่วงนี้เป็นสมบัติประจำชาติ มันถูกขุดพบโดยกลุ่มโจรปล้นสุสานกลุ่มหนึ่ง ไม่มีใครล่วงรู้ถึงอายุของคริสตัลม่วง และที่มาที่ไปของมัน ดูเหมือนข้อมูลเกี่ยวกับคริสตัลม่วงจะค่อนข้างลึกลับอย่างมาก และต่อมาคริสตัลม่วงก็ได้ถูกขายให้กับลู่อวิ๋นโจว
ว่ากันว่าคริสตัลม่วงนี้มีพลังงานแปลกประหลาดซ่อนอยู่ และลู่อวิ๋นโจวก็กำลังเตรียมที่จะศึกษา และพัฒนาพลังงานของคริสตัลม่วงนี้มาใช้ ซึ่งหากเขาทำได้สำเร็จ จะก่อให้เกิดอันตรายใหญ่หลวงต่อประเทศชาติอย่างมาก เซียถงจึงได้ถูกส่งตัวให้มาปฏิบัติภารกิจครั้งนี้
เซียถงได้รับการฝึกฝนมาตั้งแต่อายุหกขวบ และเริ่มปฏิบัติภารกิจได้ตั้งแต่อายุสิบขวบ จนตอนนี้เธออายุยี่สิบหกปีแล้ว ในช่วงระยะเวลาสิบหกปีที่ผ่านมา หญิงสาวสามารถปฏิบัติภารกิจต่างๆที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จลุล่วงทุกครั้งไป ไม่เคยมีครั้งไหนที่ล้มเหลวเลย
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเธอมีคู่หูที่ดีอย่างมู่เฟย และยังเป็นชายคนรักของเธออีกด้วย
ทั้งคู่ตกลงกันว่า หลังจากปฏิบัติภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้น พวกเขาจะขอลาออกจากการเป็นหน่วยพิเศษขององค์กร เพื่อที่จะไปใช้ชีวิตที่เหลืออย่างคนปกติทั่วไป มู่เฟยเองก็เห็นด้วยกับเธอ
เมื่อนึกถึงชีวิตที่เป็นปกติสุขในอนาคตขึ้นมา ริมฝีปากของเซียถงยามนี้ก็กระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
ผู้คนในงานเริ่มส่งเสียงฮือฮาขึ้นเล็กน้อย เมื่อลู่อวิ๋นโจวปรากฏตัวออกมาจากหลังเวที พร้อมด้วยบอดี้การ์ดร่างกายกำยำแข็งแกร่งถึงแปดคน จากรูปลักษณ์ของลู่อวิ๋นโจว เขาน่าจะอายุมากกว่าห้าสิบปี ศรีษะค่อนข้างล้าน ดวงตาทั้งคู่บ่งบอกถึงความเฉลียวฉลาดล้ำลึกอย่างยากที่จะคาดคะเนได้
“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานเลี้ยงวันเกิดของผมในคืนนี้ ขอให้ทุกท่านสนุกสนานกันอย่างเต็มที่”
ลู่อวิ๋นโจวเอ่ยบอก พร้อมกับยกมือขวาขึ้นโบกไปมาทักทายแขกเหรื่อในงาน
เมื่อเห็นเป้าหมายปรากฏตัว สายตาของเซียถงก็จับจ้องอย่างไม่กระพริบตา
ทุกคนในงานเลี้ยงต่างก็พากันชูแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้น พร้อมกับร้องแสดงความยินดี
เซียถงสัมผัสได้ว่า สายตาของบอดี้การ์ดทั้งแปดดูเหมือนจะจับจ้องมาทางเธอ เธอจึงรีบยกแก้วไวน์ในมือชูขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากนั้น สายตาของเหล่าบอดี้การ์ดก็สอดส่ายมองไปทางอื่นแทน
เสียงเพลงในงานเลี้ยงดังขึ้น สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีต่างก็พากันออกไปเต้นรำ ภาพบนฟลอร์หน้าเวทีเวลานี้มีแต่ความสนุกสนานสวยงาม
เซียถงซึ่งแฝงตัวอยู่ในกลุ่มคน ค่อยๆขยับเข้าใกล้ลู่อวิ๋นโจวทีละเล็กทีละน้อยโดยที่ไม่มีผู้ใดสงสัย และตอนนี้ เธอก็อยู่ห่างจากเป้าหมายไปเพียงแค่ห้าเมตรเท่านั้น
“โอ๊ย! คุณเหยียบเท้าของฉันค่ะ!”
เซียถงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเล็กๆสวยงามนั้นย่นเข้าหากัน ก่อนจะค่อยๆนั่งลงกับพื้น
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเซียถงรีบเอ่ยปากขอโทษทันที และพบว่า ปลายเท้าสีขาวนวลเนียนของเธอนั้นได้เปลี่ยนเป็นสีแดง และมีรอยส้นรองเท้าของผู้ชายปรากฏอยู่
แต่ในขณะที่ร่างของเซียถงกำลังนั่งยองๆอยู่นั้น จู่ๆ เรือนร่างงดงามก็กระโดดพุ่งออกไปราวกับเสือดาวที่คล่องแคล่วว่องไว ก่อนจะวิ่งตรงเข้าไปหาลู่อวิ๋นโจวด้วยความเร็วประหนึ่งสายลมกรรโชก เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก
บอดี้การ์ดที่ทำหน้าที่คุ้มกันลู่อวิ๋นโจวถึงกับร้องตะโกนออกมาเสียงดัง
“คุ้มครองท่านลู่!”
แต่ในช่วงนาทีวิกฤตินั้นเอง เซียถงก็ได้ล้วงเอาปืนพกสีแดงเก็บเสียงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดราตรีสีดำออกมาอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็ยังคงวิ่งตรงเข้าไปหาเป้าหมาย มีดบินบางเฉียบแปดเล่มพุ่งทะยานออกจากฝ่ามืออีกข้างของเธอ
เสียงดัง ‘ปัง’ อย่างแผ่วเบาปรากฏขึ้น ลูกกระสุนพุ่งเข้าใส่หน้าอกตรงตำแหน่งหัวใจของลู่อวิ๋นโจวอย่างแม่นยำ
ส่วนมีดบินบางเฉียบทั้งแปดเล่มนั้น ก็พุ่งปักเข้าที่ลำคอของบอดี้การ์ดทั้งแปดคนซึ่งอยู่ข้างกายลู่อวิ๋นโจวในทันที ร่างสูงใหญ่กำยำเหล่านั้นล้มตึงลงกับพื้นในสภาพที่มือยังคงกำปืนแน่น แต่ก็สายเกินกว่าที่จะเหนี่ยวไกได้ทัน
มีดบินบางเฉียบขนาดเล็กนั้นแต่กลับสามารถสังหารผู้คนได้ในพริบตา หากสังเกตให้ดีจะพบว่า เป็นเพียงแค่เกล็ดเงินที่ใช้ตกแต่งชุดราตรีสีดำหรูหรานั้น ให้ดูสง่างามมากขึ้นเท่านั้นเอง
“เซียถง! จับตัวเธอไว้เร็วเข้า!”
บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านล่างตะโกนอย่างฉุนเฉียว
สาเหตุที่เซียถงสามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จทุกครั้งก็เพราะว่า เธอมีความสามารถหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาบุหงาโบยบิน ที่บ่อยครั้ง เธอสามารถทำสิ่งที่ไม่โดดเด่นสะดุดตา ให้กลายเป็นอาวุธร้ายแรงที่คร่าชีวิตได้ในทันที
เสียงกรีดร้องดังขึ้นเกือบจะพร้อมกัน ภายในงานจัดเลี้ยงเริ่มโกลาหลวุ่นวายขึ้นในทันที ผู้คนในงานต่างก็พากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ทำให้ขัดขวางเหล่าบอดี้การ์ดที่อยู่ภายในงาน
ขณะที่เซียถงกำลังวิ่งตรงเข้าไปที่ร่างของลู่อวิ๋นโจวนั้น ชุดราตรีสีดำบนร่างก็ถูกกระชากออก เผยให้เห็นเสื้อหนังกันกระสุนสีดำด้านใน ซึ่งปกปิดเพียงแค่หน้าอกและต้นขาเท่นั้น ผมยาวปลิวสะบัด ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว ดูประหนึ่งเทพธิดาที่ผุดออกมาจากขุมนรก
จังหวะที่ลู่อวิ๋นโจวล้มลงนั้น เซียถงก็วิ่งเข้าไปถึงร่างของเขาพอดี และเอื้อมมือออกไปคว้าคริสตัลม่วงที่อยู่ในมือข้างขวาของลู่อวิ๋นโจว
ทันใดนั้นเอง ลู่อวิ๋นโจวที่นอนตายอยู่บนพื้นก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับแสยะยิ้มชั่วร้าย เขาคว้าข้อมือของเซียถงที่ยื่นออกมาไว้ได้ ร่างที่สวมชุดกันกระสุนนั้นได้พูดเย้ยหยันขึ้นว่า
“เซียถง ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอจะต้องมาในงานคืนนี้ คิดจะฉกฉวยของจากลู่อวิ๋นโจว มันไม่ง่ายหรอกนะ!”
แต่สีหน้าท่าทางของเซียถงกลับยังคงสงบนิ่ง หญิงสาวยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นว่า “งั้นเหรอ?”
เธอตวัดมือซ้ายขึ้นรัดลำคอของลู่อวิ๋นโจวในทันที พร้อมกับออกแรงรัดอย่างไร้ปราณี เวลานี้ดวงตาของลู่อวิ๋นโจวถึงกับเบิกกว้างด้วยความตกใจ เลือดสีแดงค่อยๆไหลออกมาจากมุมปากของเขา
“ท่านลู่ ดูเหมือนคุณคงจะลืมไปแล้วว่า นอกจากฉันจะยิงปืนแม่นแล้ว ฉันยังมีวิธีฆ่าคนอีกมากมายหลายแบบ”
เสียงไพเราะที่ดังขึ้นนั้น ไม่ต่างจากเสียงเพรียกหาจากนรกที่ดังก้องอยู่ในหูของลู่อวิ๋นโจว
ไม่นานนัก มือของลู่อวิ๋นโจวก็ค่อยๆอ่อนแรงลง และค่อยๆคลายออกอย่างช้าๆ
หลังจากที่แย่งคริสตัลม่วงมาจากมือขวาของลู่อวิ๋นโจวได้ เซียถงก็ได้กระโดดขึ้นกลางอากาศ ราวกับเหยี่ยวที่แข็งแกร่งว่องไว มือของเธอคว้าโคมไฟระย้าเหนือศีรษะไว้ได้อย่ารวดเร็ว ในขณะเดียวกันลูกกระสุนนับสิบก็ได้พุ่งเข้ามาหาร่างของเธอ และเฉียดนิ้วเท้าไปอย่างเฉียดฉิว
เซียถงใช้ปลายนิ้วเหยียบโคมระย้า และอาศัยแรงส่งของมันกระโดดเหินขึ้นไปบนชั้นสองได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งไปตามทางเดิน ด้านหน้าเป็นกำแพงกระจกกันกระสุนที่สูงตั้งแต่เพดานจรดพื้น ซึ่งยากนักที่เซียถงจะสามารถฝ่าทะลุเข้าไปได้
แต่เวลานี้ มู่เฟยได้รอเธออยู่ก่อนแล้ว!
ทันใดนั้นอง เสียง ‘ปัง’ ก็ดังขึ้น กำแพงกระจกกันกระสุนบานใหญ่แตกออกในทันที ด้านนอกเวลานี้ มู่เฟยกำลังยืนถือปืนไรเฟิลซุ่มยิงอยู่ด้านนอก ร่างของเขาห้อยลงมาจากหลังคาด้วยสายสลิงที่ติดอยู่กับเอว ปากก็ร้องตะโกนบอกเสียงดัง
“ถงถงเร็วเข้า!”
บอดี้การ์ดจำนวนมากกำลังวิ่งกรูตามหลังเซียถงมา เธอกระโดดออกมาจากกระจกหน้าต่างที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างไม่ลังเล
หลังจากนั้น เสียงปืนไรเฟิลจากมือของมู่เฟยก็ดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
เซียถงรีบวิ่งตรงไปที่รถซึ่งจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า ปากก็ร้องตะโกนบอกมู่เฟยที่กำลังวิ่งตามมา
"มู่เฟย รีบหน่อย!"
หลังจากมู่เฟยกระโดดขึ้นรถได้แล้ว หญิงสาวก็รีบขับหนีออกไปในทันที
“ในที่สุดเราก็เสร็จสิ้นภารกิจของเราแล้ว! มู่เฟย นายอยากย้ายไปอยู่ประเทศไหน?”
เซียถงเอ่ยถามออกมาอย่างมีความสุข ริมฝีปากแย้มยิ้ม แววตาสดใสในขณะที่จ้องมองชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ
“คริสตัลม่วงล่ะ?”
มู่เฟยไม่ตอบ แต่ย้อนถามหญิงสาวกลับไป
"อยู่นี่!"
เซียถงยื่นคริสตัลม่วงให้กับมู่เฟยโดยไม่ลังเลสังสัยอะไรเลยแม้แต่น้อย
มู่เฟยรับคริสตัลม่วงมา ดวงตาทั้งคู่เป็นประกายระยิบระยับด้วยความโลภ ปากก็พึมพำออกมาว่า
“ฉันได้ยินมาว่า ใครก็ตามที่ได้ครอบครองคริสตัลม่วงนี้ จะสามารถครอบครองโลกใบนี้ได้!”
“มู่เฟย!”
เซียถงร้องเรียกอีกฝ่ายด้วยความตกใจ เพราะเวลานี้ปากกระบอกปืนเย็นยะเยือกกำลังจ่ออยู่ที่ศรีษะของเธอ
“อย่าขยับ!”
เซียถงได้แต่ร้องถามออกไป "มู่เฟย! นี่นายรู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไรอยู่?"
“ถงถง ฉันขอโทษ! ฉันไม่ได้อยากไปใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ฉันเป็นคนมีความสามารถ ทำไมฉันต้องทำงานให้กับประเทศนี้ด้วย ฉันต้องการครอบครองโลกใบนี้!”
น้ำเสียงที่เย็นชาของมู่เฟย ทำให้หัวใจของเซียถงต้องแตกสลาย ใบหน้าหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน กลับกลายเป็นเย็นชาไร้หัวใจ
“ต่อให้นายได้คริสตัลม่วงไป นายคิดเหรอว่าจะสามารถหลบหนีการไล่ล่าขององค์กรได้?”
หัวใจของเซียถงแตกสลายลงทีละเล็กทีละน้อย
“แต่ถ้าฉันรายงานองค์กรไปว่า เธอเป็นคนขโมยคริสตัลม่วงไป แล้วก็ทำร้ายฉันล่ะ? เธอคิดว่าองค์กรจะเชื่อใคร?”
“ถงถง ในเมื่อเธอไม่เห็นด้วยกับฉัน ฉันก็จำเป็นต้องฆ่าเธอ?”
สายตาของมู่เฟยเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมดุดันขึ้นมาทันที จากความรักกลายเป็นความเกลียดชัง
“มู่เฟย นี่นายฆ่าฉันได้จริงๆเหรอ? นายไม่ได้รักฉันเลยงั้นเหรอ?”
เวลานี้ ดวงตาทั้งคู่ของเซียถงเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ฝ่ามือซ้ายค่อยๆเอื้อมไปแตะปุ่มใต้เบาะอย่างไม่ลังเล
ชายหนุ่มผู้นี้คือคนที่เธอรัก เขาเป็นความรักของเธอ เป็นคนที่เธอต้องการใช้ชีวิตร่วมด้วยมากที่สุด เมื่อวานเขายังกระซิบข้างหูของเธอด้วยความรักใคร่ แต่ตอนนี้กลับกำลังใช้ปืนจ่อหัวของเธอได้อย่างไม่ลังเล
เพียงเพราะต้องการคริสตัลม่วง…
มู่เฟยจ้องมองเซียถงแน่นิ่ง พร้อมกับเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถงถง ฉันขอโทษ! วันนี้เป็นวันตายของเธอแล้ว ฉันไม่ได้รักเธอ ฉันแค่ต้องการคริสตัลม่วง”
เซียถงหลับตาลงช้าๆ และเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง สายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดกลับอันตรธานหายไป เปลี่ยนมาเป็นสายตาที่เย็นชาแทน
“มู่เฟย ความปรารถนาของนายจะไม่มีวันเป็นจริง!”
นิ้วมือของเซียถงกดลงบนปุ่มสีแดงใต้เบาะอย่างไม่ลังเล ปากก็ร้องตะโกนบอก
มู่เฟยรีบหันไปเปิดประตูเพื่อที่จะกระโดดลงจากรถ แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว เสียงระเบิดปังดังขึ้น
จากนั้น รถยนต์ทั้งคันก็ระเบิดขึ้นในทันที เปลวเพลิงสีแดงลุกโชติช่วง พร้อมกับกลุ่มควันหนาทึบที่พวยพุ่งไปในห้วงอากาศ
จากอดีตนักล่าซอมบี้ในวันสิ้นโลกต้องผันตัวเป็นสาวน้อยชาวไร่สุดแกร่งที่ต้องช่วยแม่และน้องสาวให้รอดพ้นจากญาติพี่น้องมหาภัยและความยากจน เปิดธุรกิจร่ำรวยใหญ่โตเอาให้เหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ!
เธอถูกย่าแท้ๆฆ่าตายตอนอายุ6ขวบ กลายเป็นผีเร่ร่อนเฝ้าดูอนาคตและจุดจบของทุกคนที่รักอย่างเจ็บแค้น ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขทุกสิ่ง! แต่เอ๊ะ?คุณแม่ผู้ขี้ขลาดคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
นักศึกษาสาวหัวกะทิแห่งศตวรรษที่21เกิดใหม่เป็นลูกเลี้ยงบ้านนางเอกนิยาย ทันทีที่ทะลุมิติเข้ามาดันอยู่ในฉากคันขับที่เธอกับวายร้ายหลักของเรื่องต่างเสียรู้ ถูกจับขึ้นเตียงด้วยกันเพื่อรอเวลาถูกเปิดโปง!
หลินจิงซู หญิงสาวผู้ล้มเหลวทุกอย่างในชีวิตเพราะครอบครัวเฮงซวย เธอย้อนเวลาไปยังปี1990 อาศัยความรู้ในโลกอนาคตเพื่อเก็บเกี่ยวโอกาสทางธุรกิจ ก่อร่างสร้างตัวจนมั่งคั่งร่ำรวย เพื่อบดขยี้ทุกคนที่เคยรังแก!
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
จากชายหนุ่มที่บังเอิญได้รับมรดกตกทอดของบรรพชนสกุลเฉินเพราะอุบัติเหตุ และในที่สุด จากลูกเขยที่ไร้ค่าไม่ต่างจากขยะชิ้นหนึ่ง กลับกลายมาเป็นหมอเทวดาที่มีทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศยิ่ง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?