/0/10468/coverbig.jpg?v=285e98692a062868ce1f16eb37c9fbb0)
ข่าวแพร่กระจายมาปีที่ 16 แล้ว ว่าพวกเขากำลังตามหาทายาท บัดนี้พวกเขาหาเด็กคนนั้นพบแล้วหรือ
ข่าวแพร่กระจายมาปีที่ 16 แล้ว ว่าพวกเขากำลังตามหาทายาท บัดนี้พวกเขาหาเด็กคนนั้นพบแล้วหรือ
The wishes land เป็นหนังสือนิยายชื่อดังและขายดีที่สุดในประเทศอังกฤษ แต่ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง
เป็นเรื่อง ณ ดินเเดนเเห่งความปรารถนา ที่มีเหล่าพ่อมดและเเม่มดมากมายล้วนเเต่มีเวทมนตร์ที่เฉพาะของเเต่ละประเภทของพวกเขา และมีอาณาจักรหลายอาณาจักรที่อยู่ภายในดินเเดนเเห่งนี้ The wishes land
ในหนังสือเล่มนี้กล่าวถึงพ่อมดเเม่มด 7 ประเภท อันมี sea witch, green witch, cosmic witch, secular witch, fae witch และ nymphatic witch ซึ่งให้ข้อมูลหลายอย่างมาก ทั้งการใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ในดินแดน และเล่าถึงการใช้เวทมนตร์ วันนี้เราจะมากล่าวคร่าว ๆ ถึงเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้
ประเภทแรก Sea witch พวกเขาจะศึกษาเวทมนตร์ที่เกี่ยวกับธาตุน้ำ ซึ่งก็ตามชื่อของพวกเขา ต้องเกี่ยวกับทะเล พวกเขาสามารถใช้ทุกอย่างในทะเลมาเป็นพลังได้ไม่ว่าจะเป็น เปลือกหอย น้ำทะเล ทราย หรือแม้กระทั่งสัตว์ทะเล
ต่อมา Green witch
Green witch เป็นกลุ่มเเม่มดที่บางครั้งจะถูกเรียกว่า garden witches หรือ forest witches โดยพวกเขาจะเชื่อมต่อกับพลังงานธรรมชาติมากที่สุด ศึกษาเกี่ยวกับสมุนไพร พืชพรรณใกล้ตัว พวกเขาจะมีความรู้และความสามารถปลูก ดูแลต้นไม้ สมุนไพร
Cosmic witch หรือบางครั้งจะถูกเรียกว่า Star Witches เป็นกลุ่มที่ไม่ได้ศึกษาเฉพาะโหราศาสตร์เท่านั้น แต่ยังให้ความสนใจกับดาราศาสตร์อีกด้วย พวกเขาจะใช้ทั้งเทคโนโลยีเเละเวทมนตร์ ประกอบกันเพื่อศึกษาของดวงดาวต่าง ๆ ว่าสามารถส่งผลกับการฝึกเวทมนตร์ของพวกเขาได้มากน้อยเพียงใด
Secular witch
เป็นกลุ่มพ่อมดเเม่มดที่ถนัดการใช้เวทมนตร์ มีคาถา มีพิธีกรรม เป็นกลุ่มที่เชื่อในพลังงานทุกสิ่งที่มีชีวิตบนโลก ล้วนขับเคลื่อนด้วยพลังงาน
Fae witch
ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเเฟรี่ และพวกเขาจะทำงานร่วมกับเเฟรี่หลากหลายประเภท อีกทั้งยังมีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติ และการทำงานร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ รวมไปถึงการใช้เวลาดูเเลรักษาสวนหรือเดินทางท่องเที่ยวสวนดอกไม้อยู่บ่อยครั้งหากมีโอกาส
Space witch
กลุ่มนี้จะทำงานร่วมกับเอนทิตีที่ไม่ได้มีตัวตนหรือตำนานอยู่บนโลก มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวนอกโลก มีความสามารถในการศึกษาดวงดาวเช่นเดียวกันกับ Cosmic witch
Nymphatic witch
เเม่มดกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ศึกษาวัฒนธรรมกรีกโบราณ ส่วนใหญ่เเม่มดกลุ่มนี้จะศึกษาเวทมนตร์ที่เกี่ยวข้องกับเหล่านิมฟ์หรือนางไม้ พวกเขาอ่านประวัติศาสตร์ เรื่องเล่า รวมทั้งตำนานกรีกเยอะมาก ๆ
นี่ก็เป็นประเภทของแม่มดพ่อมดคร่าว ๆ ที่หนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึง แต่หลังจากหนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ได้ไม่กี่ปีก็มีข่าวที่เเพร่กระจายออกมาว่า...ยังมีทายาทของเหล่าเเม่มดพ่อมดนั้น ปะปนอยู่กับมนุษย์ โดยไม่เเสดงถึงพลังอำนาจที่เเท้จริงของตนออกมา
หนังสือพิมพ์ที่มีข่าวนั้นก็ปรากฏขึ้นทุกปีจนกระทั่งวันนี้ก็เข้าปีที่ 16 เสียแล้ว
"จะว่าไปเด็กคนนั้นก็อายุเท่าข้า...หรือว่าจะเป็นเพื่อนของข้า...ผู้ใดกันนะ"
🌿✨
The Wishes Land
ดินเเดนเเห่งความปรารถนา
✨🌿
ขอขอบคุณข้อมูลของเเม่มดจาก เพจ Magic Books & Candle
เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่เเต่งขึ้นเองทั้งหมดมีทั้งข้อมูลจริงและเท็จ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ทั้งนี้หากมีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี่ค่ะ
ผู้แต่ง นานาห์ปุส
#ดินแดนแห่งความปรารถนา
#TheWishesLand
Twitter; @IsaMenutz
Section 1
พระราชวังแมคคาเลน
อาณาจักรที่มีแต่ความสงบสุข กษัตริย์ เหล่าเจ้าหญิง เจ้าชาย และราษฎรต่างมีความสุขกับการใช้ชีวิต และการทำตามความต้องการของตนเอง แมคคาเลนเป็นอาณาจักรที่มั่งคั่ง ประชากรล้นหลาม ทั้งยังเป็นเมืองที่มีไมตรีมากมายอีกด้วย
หญิงสาวหน้าตาสละสวย ใบหน้าราวกับพระเจ้าเป็นผู้สร้างเธอเองกับมือ นัยน์ตาเธอมีสีเขียวมรกตสื่อถึงราชวงศ์ของเธอ ทั้งสวมชุดเดรสสีขาวขลิบทองที่เต็มไปด้วยความหรูหรา สวมเครื่องประดับไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป และมงกุฎประดับด้วยเพชรพลอยอย่างสมฐานะ เธอมีนามว่าลารีเดีย ธิดาคนเล็กแห่งอาณาจักรแมคคาเลน
แสงตะวันสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดออกกว้าง แต่ไม่ได้ทำให้อากาศนั้นร้อนจัด เพราะมีลมพัดผ่านอยู่เสมอ แมคคาเลนเป็นอาณาจักรที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยแหล่งน้ำ ต้นไม้ ใบหญ้า หรือแม้แต่พื้นที่ทำการเกษตรก็ไม่น้อยหน้าอาณาจักรใด
ลารีเดียมองออกไปนอกหน้าต่าง สำรวจธรรมชาติพร้อมกับยกชาร้อนสีกุหลาบที่สาวใช้ชงไว้ให้ขึ้นมาดื่มให้เข้ากับบรรยากาศยามเช้าที่สดใส และเงียบสงบ ทำเลย์ห้องของเจ้าหญิงลารีเดียนั้นมิค่อยมีผู้คนเดินผ่าน ส่วนทหารที่เดินตรวจตรานั้นก็ไม่โวกเหวกโวยวายให้รบกวนเวลาพักของเธอ จึงทำให้พระราชวังมรกตซึ่งนั้นก็คือที่พักของเธอเงียบสงบเอามาก ๆ
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นกับเสียงสาวใช้ที่กล่าวตามมาว่าขออนุญาตเข้าไปในห้องของเธอ ลารีเดียตอบรับอย่างเป็นมิตร แล้วหันหน้าไปทางประตูรอคนที่อยู่หน้าประตูเข้ามา
"องค์หญิงเพคะ ข่าวนี้มาอีกเเล้วเพคะ" หญิงสาวใส่ชุดอังกฤษโบราณเข้ามาหาเธอพร้อมกับหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ เธอทำหน้าตื่นตระหนกราวกับว่าเห็นข่าวนี้เป็นครั้งแรก
เมื่อ ๑๖ ปีก่อน ตรงกับปีที่ลารีเดียลืมตาขึ้นมาดูโลกอย่างพอดิบพอดี เป็นปีที่เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับโลกเวทมนตร์ ใช่ อ่านไม่ผิดหรอก โลกเวทมนตร์ ดินแดนที่เต็มไปด้วยผู้ใช้เวทมนตร์ เหล่าพ่อมดแม่มด สัตว์เวทมนตร์ รวมไปถึงปีศาจ หากถามว่าเกี่ยวข้องกับโลกมนุษย์มากเพียงใด ก็ไม่มากนักหรอก เพราะดินแดนเวทมนตร์นั้นไม่ระรานโลกมนุษย์มานานเป็นสหัสวรรษแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้แหละที่พวกเขากลับมา หนังสือพิมพ์ที่มีตัวอักษรตามหาทายาทแม่มดแผ่กระจายไปทั่วทุกสารทิศ ทุกที่ป่าวประกาศว่าพวกเขากำลังตามหาคน ๆ นั้นอยู่ เพียงแต่ไม่มีใครรับรู้ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใครกัน พวกเขาระบุแค่ว่าคนผู้นั้นคือเด็กผู้หญิง วัยใกล้เคียงกันกับเด็กสาวที่ตอนนี้อายุสิบหกปี นั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าหญิงลารีเดียเริ่มสนใจว่า เด็กคนนั้นจะเป็นใคร และใจยังกังวลว่าจะเป็นเหล่าชนชั้นสูงที่มาเล่นกับเธอในวังบ่อย ๆ หรือไม่
ลารีเดียยื่นมือรับหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นแล้วเอ่ยถามสาวใช้คนสนิท "ทายาทเเม่มดอะไรนั่นน่ะเหรอ"
"เพคะ เห็นว่าครั้งนี้ข้อความต่างจากเดิม" นางตอบ ลารีเดียกวาดสายตาอ่านข้อความในหนังสือพิมพ์อย่างตั้งใจ เขาเขียนเหมือนกับว่าพวกเขาเจอเด็กคนนั้นเเล้ว อย่างนั้นเเหละ "เป็นอะไรไปเพคะองค์หญิง มีอะไรผิดแปลกไปหรือเพคะ" เสียงเอ่ยถามซ้ำเมื่อเห็นเธอเหม่อลอยเหมือนมีอะไรให้ต้องคิด "ดูนี่สิ" ลารีเดียชี้ข้อความนั้นให้พี่เลี้ยงได้อ่าน
“ดูเหมือนว่าชะตาฟ้าลิขิตให้เราได้พบกันแล้วสิ เจอกันแม่เจ้าหญิงน้อย”
"เจ้าไปสืบมาหน่อย ว่าใครกันที่หายตัวไป" เธอเอ่ยปากเป็นคำสั่งออกไปพร้อมกับทำสีหน้าเป็นกังวล
"เพคะองค์หญิง" สาวใช้รับปากเธอก่อนจะถอยออกไป
ใครกันนะ...
ผ่านวันนี้ไปก็จะเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของเจ้าหญิงลารีเดีย อายุของเธอก็จะครบ 16 ปี และจะมีการจัดงานนี้ขึ้นภายในพระราชวังของกษัตริย์แมคคาเลนผู้เป็นพ่อของเธอ แต่มิได้เรียกผู้ใดมาเข้าร่วมเลยแม้แต่คนเดียว จะมีเพียงคนที่อยู่ภายในพระราชวังเท่านั้น
ทว่าเจ้าตัวดันหายไปแล้วน่ะสิ
"ฝ่าบาทเพคะ องค์หญิงหายไปเพคะ!" สาวใช้คนสนิทของลารีเดียวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในท้องพระโรง ทำให้ลาเกอร์ผู้เป็นพี่ชายตกใจเป็นอย่างมาก เขาลุกพรวดแล้วร้องออกมา "เจ้าว่าอย่างไรนะ!"
"เราถึงไม่เรียกคนมาร่วมงานอย่างไรล่ะ" กษัตริย์กล่าวขึ้นเบา ๆ
"เสด็จพ่อ...ท่านหมายความว่าอย่างไรพะยะค่ะ" เขาหันไปมองหน้าพ่อของเขาด้วยสายตาที่สิ้นหวัง
"เขาพาตัวนางไปแล้ว"
"ไม่นะ...ลารีเดีย..." หัวอกผู้เป็นพี่ชาย ใจแทบสลาย ขาของเขาแทบไม่มีแรงยืนอยู่ด้วยซ้ำ "ไม่จริงใช่ไหมพะยะค่ะเสด็จพ่อ ท่านล้อข้าเล่นใช่หรือไม่" เขากล่าวด้วยความโวยวาย
"อย่าเสียใจไปเลยลาเกอร์...พ่อรู้ว่าเจ้ารักน้องมาก" สิ้นเสียงของคนผู้เป็นพ่อก็ไม่มีผู้ใดตอบรับอีก เขาจึงเล่าเรื่องราวก่อนที่ลารีเดียจะเกิด ว่าเธอคือลูกของภรรยาคนแรกของกษัตริย์แมคคาเลน แต่กษัตริย์แมคคาเลนซึ่งมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่ก่อนหน้านั่นคือผู้เป็นแม่ของลาเกอร์ แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียดใดเพิ่มเติม เพียงกล่าวว่า "พ่อทำสัญญากับพ่อมดผู้ดูแลดินแดนว่าจะคืนลูกสาวเมื่ออายุครบสิบหกปี เพราะกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ หากคืนคำ.. อาณาจักรเราคงต้องวิบัติเพราะโดนพ่อมดแม่มดระรานเป็นแน่"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด