"หอบลูกหนีผัว จิตใจทำด้วยอะไร"
"หอบลูกหนีผัว จิตใจทำด้วยอะไร"
“เข้าไม่ได้นะคะคุณ”
“ฉันจะเข้าไปหาเมียฉัน อย่าสะเออะ !!”
“ไม่ได้นะคะคุณ คุณหมอมีคนไข้อยู่นะคะ”
“แล้วโรงบาลนี้มันไม่มีหมอคนอื่นแล้วเหรอว่ะ”
“ขอร้องนะคะคุณ เข้าไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
“นาวิน มึงจัดการดิ”
“ครับนาย”
พลั่ก !!
มาเฟียหนุ่มผลักประตูห้องตรวจเข้าไปทำให้แพทย์หญิงเอมมิกาที่กำลังตรวจรักษาอาการของคนไข้อยู่ถึงกับผงะ เธอเงยหน้ามองมาเฟียหนุ่มด้วยสายตาที่แสดงถึงความไม่พอใจ แต่ต้องเก็บอาการไว้เพราะตรงหน้าเธอยังมีคนไข้อยู่
“ฉันห้ามแล้วนะคะคุณหมอ”
เอมมิกาได้แค่พยักหน้าเป็นการบอกพยาบาลสาวเป็นนัยๆ ว่าไม่เป็นไร เธอหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้กับคนไข้เพื่อเป็นการขอโทษ
“ขอฉันตรวจคนไข้ก่อนแล้วค่อยคุยกันนะคะ คุณมาร์แชล”
“ไม่ได้ !!”
“ ... ”
“เธอทำฉันแสบมากนะเอมมิกา”
“ถ้าไม่ให้ฉันตรวจคนไข้ก่อน งั้นก็เชิญออกไปรอข้างนอกค่ะ”
น้ำเสียงเยือกเย็นของแพทย์หญิงเอมมิกา ทำให้มาเฟียหนุ่มต้องยอมจำนนยืนเฉยๆ มองการรักษาคนไข้ของแพทย์หญิงเอมมิกาด้วยอารมย์ที่ขุ่นมัว เขามีเรื่องจะคุยกับเธออย่างจริงๆ จังๆ แต่เธอกลับไม่ให้ความร่วมมือเลยสักนิด
เวลาผ่านไปประมาณสิบนาทีเห็นจะได้ มาเฟียหนุ่มเริ่มอยู่ไม่ติดเมื่อการตรวจรักษาครั้งนี้มันนานเกินกว่าที่เขาจะรอได้ ปกติเขาก็ตรวจกันแค่แป๊ปเดียวเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ หรือว่าเธอต้องการจะกลั่นแกล้งเขา
ปัง !!
มาเฟียหนุ่มทุบโต๊ะด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้แพทย์หญิงเอมมิกา รวมถึงพยาบาล และคนไข้ที่อยู่ในห้องนั้นสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ
“ออกไป !!”
น้ำเสียงกดต่ำของมาเฟียหนุ่มทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงพลังงานอะไรบางจากที่แผ่รังสีออกมาจากตัวเขา เขาเดินตรงมาที่คนไข้หนุ่มที่ดูแล้วอายุน่าจะราวๆ ยี่สิบปลายๆ เท่านั้น กระชากแขนของคนไข้เต็มแรงให้ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะส่งน้ำเสียงเยือกเย็นออกมาอีกครั้ง
“ออกไป !!”
สายตาเย็นชาที่ถูกถ่ายทอดออกมามันทำให้คนไข้หนุ่มกลืนน้ำลายไม่ทั่วท้อง แพทย์หญิงเอมมิกาลุกขึ้นยืนใช้สองมือล้วงกระเป๋าเสื้อกราวสีขาวสะอาดตาเอาไว้ ก่อนพยักหน้าให้พยาบาลสาวพาคนไข้ออกไป
“คุณมาร์แชล คุณทำอย่างนี้ไม่น่ารักเลยนะ คนไข้เดือดร้อนเขาต้องการความช่วยเหลือ แต่คุณกลับไล่คนไข้ของฉันเหมือนหมู เหมือน มะ ... !!”
คำพูดที่ต้องการจะเปล่งออกมายังไม่ทันได้สุดคำ ก็ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อมาเฟียหนุ่มฉกริมฝีปากหนากระแทกกลีบปากบางของเธออย่างแรง
ดวงตากลมโตเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจ และไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่ตกใจ พยาบาลสาวที่ยังพาคนไข้ออกไปไม่พ้นขอบประตูเองก็ตกใจไม่น้อย ฝ่ามือเรียวของแพทย์หญิงเอมมิกากำคอเสื้อยืดสีขาวของมาเฟียหนุ่มไว้แน่นก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นกำกำปั้นทุบลงแผงอกแกร่งหนักๆ
“ทำอะไรของคุณ อะ ... ออกไปเลยนะ อื้ออออ .... !!”
ดวงตากลมโตของเธอเบิกโพลงขึ้นอีกครั้งเมื่อมาเฟียหนุ่มไม่เอื่อนเอ่ยคำใดออกมานอกจากจู่โจมประกบจูบเธอด้วยความรุนแรง สองมือเรียวของเธอทุบลงแผงอกแกร่งของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ลมหายใจเริ่มติดขัดเมื่อถูกมาเฟียหนุ่มช่วงชิงลมหายใจนายเกินไป เขาใช้มือหนาบีบปลายคางมนของคนตัวเล็กให้เผยอขึ้นเพื่อที่จะได้สอดแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้าในโพรงปากได้อย่างสะดวก
“ร้ายนักนะ หอบลูกหนีผัว จิตใจเธอทำด้วยอะไร”
น้ำเสียงกดต่ำของมาเฟียหนุ่มทำเอาคนที่ได้ฟังหัวใจสั่นไหวราวกับแผ่นดินไหวก็ไม่ปาน เขาไม่พอใจ เขากำลังไม่พอใจ
“นะ ... นายทำอะไรของนาย ลูกอะไรอย่ามามั่ว ออกไปเลยนะ ออกไป !!”
น้ำตาใสเอ่อรื้นรอบดวงตากลมโต แก้มของเธอแดงระเรือ น้ำเสียงที่เอ่ยไล่สั่นเครือราวกับต้องการระบายบางอย่างออกมา จากกันไปตั้งนานแล้ว ทำไมเขาถึงจะต้องกลับมาวุ่นวายกับเธอด้วย
“หึ !! มั่วงั้นเหรอ”
“ ... ” หญิงสาวกัดปากตัวเองเบาๆ เพื่อต้องการระงับอารมย์อะไรบางอย่าง
“งั้นเธอคงจะคุ้นชื่อนี้ซินะ พี่ขุน พี่เขื่อน”
“นะ ... นั่นมันลูกฉัน ไม่ใช่ลูกคุณ อะ ... ออกไป”
มาเฟียหนุ่มเดินเข้าประชิดร่างบางอย่างช้าๆ จนผู้ที่ถูกคุกคามต้องถอยหลังไปอย่างอัตโนมัติจนหลังไปชนเข้ากับเตียงรักษาผู้ป่วย
“ทำไมละเอม ในเมื่อเราก็รักกันดี แล้วเอมหนีเฮียมาทำไม มีอะไรทำไมไม่พูดไม่บอก หนีเฮียมาแบบนี้ มันไม่น่ารักเลยนะ เพราะเอมกำลังจะทำให้เฮียโกรธ”
มือหนาเลื่อนขึ้นจับปลายคางมนของคนตัวเล็กเอาไว้ เขาออกแรงบีบมันจนคนที่ถูกกระทำเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ดวงตากลมโตปล่อยหยาดน้ำตาให้ไหลลงมาเปื้อนมือหนาของเขาจนเปียกแฉะ
มาเฟียหนุ่มโน้มใบหน้าคมคายลงประชิดใบหน้าหวานของคนตัวเล็กจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่เป่ารดกัน เขาใช้ลิ้นร้อนเลียน้ำตาของคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนส่งเสียงหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน
“เป็นอะไร”
“ ... ”
“ทำไมตัวสั่น”
“ ... ”
“กลัว ?”
“ ... ”
หญิงสาวเม้มปากแน่นไม่อยากพูดอะไรออกไป ไม่อยากคุยกับคนอันธพาลอย่างเขา ไม่อยากให้เขาเข้ามายุ่งวุ่นวายในชีวิตของเธออีก
“อะ ... ออกไป กรุณาอย่าทำให้ฉันโกรธ”
“ทำไมละ จะหนีฉันไปอีกงั้นเหรอ”
“เพราะถ้าฉันโกรธ คุณจะไม่ได้เจอหน้าฉันอีกตลอดชีวิต”
“คิดว่าฉันหาตัวเธอไม่ได้งั้นเหรอเอม เธออย่าคิดว่าเธอฉลาดมากกว่าฉัน เพราะสิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้มันไม่ฉลาดเลย”
มาเฟียหนุ่มจับอุ้มหญิงสาวให้ขึ้นนั่งบนเตียงผู้ป่วย โดยที่เขาแทรกตัวเองเข้ากลางหว่างขาเรียวของเธอ มือหน้าข้างหนึ่งรวบมือของเธอเอาไว้ด้านหลัง ก่อนใช้เรียวลิ้นเลียรอบลำคอระหงเบาๆ
“อย่าคิดทำอะไรโง่ๆ เพราะฉันโหดได้มากกว่าที่เธอรู้”
เธอทำให้เขารัก เธอทำให้เขาแค้น และก็เป็นเธอที่กลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขา เขาที่พยายามลืมความรักของเธอกดความเจ็บแค้นเอาไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจ เธอทำให้เขารู้จักคำว่า "ทั้งรัก ทั้งแค้น" เป็นอย่างดี ในเมื่อเธอเลือกจะกลับมาเขาก็จะสาดความเจ็บแค้นคืนกลับไปให้เธอได้รู้สึก ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บช้ำที่ไม่มีวันลืมได้ลง
แฟนเก่า (เคย) ร้าย จะกลับมาง้อขอเธอคืนดี เขาจะขนกลเม็ดเท่าที่คิดได้มาตามตื้อ มารื้อความทรงจำ (ที่ดีๆ) ของเขากับเธอ จะมาทวงเธอคืน และจะมารักษาแผลใจของเธอที่เขาเป็นคนทำไว้ให้หายขาด อย่าคิดหนี เพราะเธอหนีเขาไม่พ้นหรอก ไม่ว่าจะหนีไปไหนครั้งนี้เขาก็จะตามติดเป็นเงาจนเธอต้องยอมคืนดีกับเขาจนได้อย่างแน่นอน
เขาเห็นเธอเป็นเพียงของตายไม่ว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหน กลับมาทีไรก็ยังคงเจอเธอเสมอ เมื่อแรกรักอะไรก็ดี แต่ทำไมตอนนี้ทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ มันเพราะเขาหมดรักเธอแล้วหรือเพราะเธอเป็นเพียงของที่เขาจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ เธอเจ็บซ้ำๆ มากขนาดนี้ เธอโง่และไม่เห็นคุณค่าของตัวเองมากขนาดนี้ ควรจะพอได้แล้วใช่ไหม เธอเจ็บพอหรือยัง? เธอยังควรให้โอกาสเขาอยู่ไหม?
เขาเป็นทนายหนุ่มหล่อมากความสามารถที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา ฐานะทางบ้าน สังคม เรียกได้ว่าเนื้อหอมในหมู่สาวๆ ไม่ว่าจะโสด ซิง หรือมีคู่ครองแล้วหากเสนอให้เขาก็พร้อมจะสนองทุกเมื่อ สาวๆ ต่างอยากควบคุม และครอบครองเขา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนอย่างเขาน่ะ 'รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน' ก็ตาม คนอย่างเขาไม่เคยคิดหยุดอยู่ที่ใคร ความซิงไม่สามารถผูกมัดเขาได้ จนกระทั่ง... เธอเดินเข้ามาในชีวิตเขา
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
เมื่อหลุดเข้าไปในนิยาย ได้เป็นถึงนางเอกของเรื่องเรื่อง การจะกลับออกไปคือต้องให้จบแบบ happy ending แต่ทำไม๊ พระเอกกลับบอกว่าฉันจืดชืด ไร้รสนิยม แต่เขาดันไปต้องใจยัยตัวร้ายซะงั้น
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY