"เขาลือกันว่าคู่หมั้นของคุณฮั่วเป็นคนบ้านนอก ไม่มีการศึกษาและแถมยังหน้าตาขี้เหร่ซะอีก"เมื่อซูฉิงปรากฏตัวอยู่ ในงานเลี้ยง ทุกคนในงานล้วนตกตะลึงไปหมด! "พระเจ้า ขี้เหร่ซะทีไหน!" "ได้ข่าวว่าราชาภาพยนตร์เป็นน้องของเธอด้วย" "พ่อของเธอเป็นมหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับแรกของโลกเลยนะ" "leo นักออกแบบหญิงที่ลึกลับคนนั้นก็คือเธอ!" เมื่อตัวจริงของเธอค่อย ๆ ถูกเปิดเผย ทุกคนพากันตกตะลึงไปหมด แต่แล้วก็เป็นเป็นไง ฮั่วหยุนเฉิงไม่ได้รักเธอสักหน่อย ในวันเดียวกัน ฮั่วซื่อ กรุ๊ปก็โพสต์ข้อความหนึ่งในทวิตเตอร์ว่า"เราสองคนรักกันมาก และกำลังเตรียมจะแต่งงาน" คนภายนอก:"......!!!"
สถานีรถไฟความเร็วสูงเมือง A
ผู้หญิงสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ มือลากกระเป๋าเดินทางคนหนึ่งเดินออกมา
เธอหน้าตาน่ารัก ผมลอนสลวยพลิ้วไหวอยู่ด้านหลัง ภายใต้คิ้วใบหลิ่วที่งดงามนั้นมีดวงตาสดใสคู่งาม จมูกโด่ง ริมฝีปากที่แดงราวกับผลเชอร์รี่ แม้จะเป็นใบหน้าที่ไม่ได้แต่งหน้าเลย แต่ก็ทำให้คนอดใจที่จะมองไม่ได้
“สวัสดีครับ คุณคือคุณซูใช่มั้ยครับ? ผมเป็นคนขับรถของตระกูลฮั่ว”
ซูฉิงพยักหน้า เธอเดินตามคนขับรถไปขึ้นรถโดยไม่ใส่ใจ สีหน้าท่าทางของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนล้า
เมื่อรถขับออกไปจากสถานีรถไฟความเร็วสูง ระหว่างทาง คนขับรถอดไม่ได้ที่จะมองผู้หญิงที่หลับตาอยู่ด้านหลังผ่านกระจกมองหลัง
นี่ก็คือคู่หมั้นของคุณฮั่ว
ฮั่วหยุนเฉิงนั้นเป็นใครน่ะเหรอ? เขาเป็นถึงประธานของฮั่วซื่อ กรุ๊ป ที่อายุเพียงยี่สิบเอ็ดปี แต่เป็นคนที่เด็ดขาดมาก มีวิธีการที่ชาญฉลาด ในแวดวงธุรกิจไม่มีใครไม่เกรงกลัวเจ้าพ่อคนนี้
พูดไปแล้วก็น่าตลก เมื่อหลายปีก่อน ท่านผู้เฒ่าฮั่วกลับเคยหมั้นหมายคู่แต่งงานไว้ให้กับฮั่วหยุนเฉิง และคนที่หมั้นหมายด้วยคือซูฉิง ผู้หญิงที่ไม่มีเบื้องหลังอะไรเลย แล้วยังนั่งรถไฟความเร็วสูงมาจากชนบทอีกด้วย
คนขับรถมองหน้าตาที่ไร้เดียงสาของซูฉิง และอดไม่ได้ที่ทำเสียงจิจิขึ้น ซินเดอเรลล่าจะแต่งงานกับตระกูลผู้สูงสักดิ์ ช่างยากจริง ๆ !
แต่ในเวลานี้ ซูฉิงที่นั่งอยู่ด้านหลังค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มองเมืองที่แปลกตาด้วยสีหน้าที่สงบ
ในไม่ช้ารถก็มาถึงตระกูลฮั่ว คนขับรถช่วยยกกระเป๋าให้กับซูฉิง
ทันทีที่เธอเดินเข้าประตูมาก็ถูกขวางไว้ หน้าประตูมีสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์คนหนึ่งยืนอยู่ เธอมองซูฉิงตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูถูกเหยียดหยามแวบหนึ่ง
“แม่บ้านหลี่”
“คุณนาย มาถึงแล้ว”
ในมือของแม่บ้านหลี่ถือขวดน้ำยาฆ่าเชื้อ และฉีดพ่นไปทั่วทั้งร่างของซูฉิง
คุณแม่ฮั่วที่อยู่ข้าง ๆพูดขึ้นว่า “ยังมีรองเท้า ผม และที่อื่น ๆ ด้วยต่างก็อย่าให้หลุดลอดพ้นสายตาไปแม้จุดแต่จุดเดียว”
กลิ่นแสบจมูกลอยโชยมา ซูฉิงเอามือขึ้นมาปิดหน้าแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นี่พวกคุณป่วยรึไง?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ คุณแม่ฮั่วก็โกรธทันที
“มาจากชนบทอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ทักก็ไม่ทักทาย ไม่มีการศึกษาเอาเสียเลย พวกฉันแค่กลัวว่าบนตัวของเธอจะมีเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ถ้ามันแพร่เชื้อเข้าสู่คนตระกูลฮั่วของพวกฉันขึ้นมาจะทำยังไง? ”
ถ้าเป็นปกติแล้ว ซูฉิงก็คงสะบัดตูดเดินออกไปตั้งนานแล้ว แต่นี่ไม่มีทางอื่น
“คุณป้าค่ะ งั้นปากของคุณป้าก็ควรพ่นยาฆ่าเชื้อหน่อยนะคะ เหม็นขนาดนี้...”
หลังจากพูดจบ ซูฉิงก็ก้าวเข้าไปข้างในทันที
“เธอ…” คุณแม่ฮั่วโกรธมากถึงขนาดชี้ไปที่หลังของซูฉิง ส่วนแม่บ้านหลี่ก็รีบเข้ามาปลอบทันที
ในบ้านหลังนี้ ยังมีผู้หญิงอีกคนที่รุ่นราวคราวเดียวกับซูฉิง ผู้หญิงคนนั้นสวมแบรนด์เนมทั้งตัว และก็มองซูฉิงอย่างดูถูกเหยียดหยามเช่นกัน
“เธอก็คือซูฉิง คู่หมั้นของพี่ชายงั้นเหรอ?” เมื่อมองเสื้อผ้าที่ไม่มีแบรนด์ของซูฉิง ฮั่วเชี่ยนก็แสดงสีหน้าท่าทางดูถูกเหยียดหยาม แล้วพูดขึ้นต่อไปอีกว่า “จิจิ คุณปู่แก่แล้วจริง ๆ สายตาไม่ดีเกินไปแล้ว ได้ยินมาว่าเธอยังนั่งรถไฟมาด้วย ไม่บอกก่อน ตระกูลฮั่วของเราสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินให้เธอได้นะ แต่ก็อย่างว่า ชนบทอย่างนั้นน่าจะไม่มีสนามบินมั้ง”
ซูฉิงมองฮั่วเชี่ยนเหมือนมองคนโง่อย่างไรอย่างนั้น
คนของตระกูลฮั่วนี่เย่อยิ่งทุกคนเลยใช่มั้ย?
บ้านเธอไม่มีสนามบินจริง แต่ตาเฒ่าได้เหมารถไฟความเร็วสูงที่มายังเมือง A ทั้งหมดให้เธอ ไม่มีใครสามารถสัมผัสได้ถึงการนั่งรถไฟความเร็วสูงคนเดียวแบบซูฉิง
หากเธอต้องการ ตาเฒ่าก็จะเรียกเครื่องบินส่วนตัวมาส่งเธอแล้ว
ซูฉิงขี้เกียจจะอธิบายกับคนเหล่านี้ เธอเดินขึ้นชั้นบนไปทันที
เมื่อฮั่วเชี่ยนเห็นว่าเธอถูกเพิกเฉย ก็เดินตามไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“ห้องของฉันอยู่ไหน?” ซูฉิงเปิดปากถามคนรับใช้ที่อยู่ด้านหลัง
คนรับใช้ไม่ทันจะตอบ ฮั่วเชี่ยนก็เดินเข้ามาข้างหน้า และเปิดปากพูดขึ้นว่า “นี่ไง”
เปิดประตูห้อง ฮั่วเชี่ยนก็พูดขึ้นว่า “เธอคงไม่เคยอยู่ในห้องที่ใหญ่และดีขนาดนี้มาก่อนสินะ! เธอต้องทะนุถนอมเวลาที่ได้อยู่ในตระกูลฮั่วไว้ให้ดีนะ ฉันฮั่วเชี่ยน เป็นน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของพี่ฮั่วหยุนเฉิง เธอต้องเอาใจฉันให้มาก เข้าใจไหม วันหนึ่ง…”
ฮั่วเชี่ยนยังพูดไม่จบ ซูฉิงก็เดินเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตู เสียงปังดังขึ้น ทำเอาฮั่วเชี่ยนยิ่งโกรธมากยิ่งขึ้น
“อ้าย! มันมาจากชนบท ทำไมถึงกล้าดีขนาดนี้ คุณปู่ดูคน ดูยังไงกันเนี่ย!”
คนรับใช้ก้มหน้า “คุณหนู นี่เป็นห้องของคุณฮั่วนะคะ?”
ฮั่วเชี่ยนมองไปที่ประตูแวบหนึ่งอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“อย่าพูดมากไป พี่ชายไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้องของของเขามากที่สุด ถึงตอนนั้นก็บอกว่ามันเป็นคนอยากพักห้องนี้เอง”
ขณะที่พูด ดวงตาของฮั่วเชี่ยนก็เป็นประกาย
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"