ผมไม่นับผู้หญิงที่เคยลงลิ้นเป็นพี่สาวหรอกนะ... ผมไม่นับผู้หญิงที่เคยลงลิ้นเป็นพี่สาวหรอกนะ...
ผมไม่นับผู้หญิงที่เคยลงลิ้นเป็นพี่สาวหรอกนะ... ผมไม่นับผู้หญิงที่เคยลงลิ้นเป็นพี่สาวหรอกนะ...
รถเก๋งญี่ปุ่นสีขาวคันเล็กเปิดไฟเลี้ยวแล้วหมุนพวงมาลัยหักเข้าจอดเทียบที่หน้าบ้านหลังสุดท้ายในซอยของโครงการ บ้านจัดสรรชื่อดังแห่งหนึ่งแถบชานเมือง
ประตูรถฝั่งคนขับถูกเปิดออก ร่างเล็กบอบบางผิวขาวจัดอย่างคนมีสายเลือดแผ่นดินใหญ่จากฝั่งพ่อ สวมเชิ้ตขาว ทับด้วยสูทสีแดง กระโปรงสอบแค่เข่าสีเดียวกับสูทซึ่งเป็นเครื่องแบบของบริษัท ใบหน้าสวย นัยน์ตาคมหวานจากทาง ฝั่งแม่ที่มีเชื้อสายมอญ หากบัดนี้ดวงตานั้นฉายชัดถึงความหงุดหงิดตึงเครียด คิ้วได้รูปขมวดมุ่น เธอยืนกอดอกจ้องมองผ่านประตูรั้วเข้าไปในบ้านด้วยความหงุดหงิดเต็มทน
ลิวาดา หรือหลิว คือชื่อของเธอ
ปีนี้เธออายุย่างยี่สิบหก พ่อของเธอเสียชีวิตไปเมื่อสี่ปี ที่แล้ว หลังจากนั้นเมื่อต้นปีแม่ก็แต่งงานใหม่กับชาวต่างชาติวัยเกษียณคนหนึ่งที่ชื่อลุงเท็ด เขาเคยแต่งงานกับสาวไทยและเลิกรากันไปหลายปี มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนอายุน้อยกว่าเธอหกปีที่ชื่อ แดเนียล
ลุงเท็ดจัดได้ว่าเป็นชาวต่างชาติที่พอมีพอกินค่อนไปทางร่ำรวย เขาซื้อบ้านหลังใหญ่ในโครงการมีชื่อเสียงแล้วพาแม่กับเธอเข้ามาอยู่ด้วย และให้แม่ของเธอลาออกจากงานพนักงานบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อมาดูแลเขาพร้อมให้เงินเดือนใช้ซึ่งมากกว่าเงินเดือนเดิมของแม่ถึงสามเท่า หลิวเองยินดีที่ แม่จะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิตและคอยดูแล และลุงเท็ดก็ดีกับท่านเหลือเกิน เรื่องเหมือนจะจบอย่างมีความสุขเช่นในนิยาย แต่กลับมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นจนกระทั่งเธอไม่สามารถอยู่ร่วมชายคาเป็นครอบครัวที่นี่ได้ตามที่แม่ต้องการ
ทั้งหมดทั้งมวลมีสาเหตุมาจากไอ้เด็กลูกครึ่งตัวเท่าควายคนนั้น คนที่มีฐานะเป็นน้องชายต่างสายเลือดของเธอ
แดเนียล หรือนายแดนตัวแสบนั่น
“ หลิว เข้าไปดูบ้านให้แม่หน่อยนะลูก ไปนอนวีคละครั้งก็ยังดี เข้าไปสักวันศุกร์ ค้างสักคืน เสาร์เย็น ๆ ค่อยกลับ แม่กับลุงเท็ดต้องบินไปบ้านลุงที่ต่างประเทศเพื่อจัดการเอกสารภาษีบางอย่างและถือโอกาสไปเยี่ยมญาติด้วยสักสองเดือน แดเนียลอยู่บ้านคนเดียว ”
นั่นคือคำวอนขอแกมบังคับของผู้เป็นแม่ที่โทรหาเธอ ทั้งที่บ้านหลังเบ้อเริ่มนี้ตั้งอยู่ในโครงการอันมีชื่อ บริการจากส่วนกลางนั้นมีทั้งกล้องวงจรปิด ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวัน ทว่า สิ่งเหล่านั้นอาจไม่สามารถป้องกันเรื่องวุ่นวายจากคนที่อยู่ ในบ้านได้
แดเนียลอยู่บ้านคนเดียว นั่นมันคือเหตุผลวายป่วงที่เธอต้องมาที่แห่งนี้ทั้งที่ไม่อยากเหยียบย่างมาอีกแม้สักครั้ง
“ เด็กนั่นมันจะเผาบ้านหรือไงล่ะแม่ ถึงต้องให้หลิว ไปดูด้วย ” นั่นคือสิ่งที่เธอถามประชดประชัน และคำตอบที่แม่ให้กลับมาคือ
“ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรถึงขั้นนั้น แดนอาจจะมีเกเรเสเพลบ้างตามประสา มีจัดปาร์ตี้บ้างอะไรบ้าง แม่แค่กลัวว่าจะเละเทะเกินเลยไปสักหน่อย เอาน่า ก็แค่ไปดูน้องบ้างจะเป็นไรไป ไหน ๆ ก็เป็นพี่เป็นน้องกันแล้ว ”
ใครอยากจะเป็นพี่เป็นน้องกับนายนั่นกันล่ะ !
เธอแย้งอยู่ในใจ
“ แดนน่ะเป็นเด็กดีนะหลิว แม่ไม่เข้าใจว่าทำไมหลิวต้องมองน้องในแง่ร้ายขนาดนั้น อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยทำอะไรให้ลุงเท็ดกับแม่เดือดร้อน ”
เด็กดีงั้นเหรอ !?
แต่จะโทษแม่ก็ไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้เจออย่างที่เธอเจอกับแดเนียลนี่นา เด็กนั่นมันร้ายเกินอายุ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าหวานก็ร้อนวูบ สลัดศีรษะตัวเองแรง ๆ เพื่อหวังขับไล่ความรู้สึกบ้า ๆ นั้นให้หลุดหายจากความทรงจำเสียที
ความรู้สึกที่น้องชายต่างสายเลือดคนนั้นตราตรึงไว้บนร่างกายของเธอในคืนนั้น !
“ หลิว ฟังแม่อยู่หรือเปล่า ทำไมเงียบ ” ปลายสาย ส่งเสียงเรียกเมื่อไม่มีการตอบรับจากลูกสาว เธอรีบดึงตัวเองให้พ้นจากภวังค์ทันที
“ อยู่จ้ะแม่ อยู่ โอเค เดี๋ยวหลิวเข้าไปดูให้ แม่ไม่ต้องห่วงนะ เดินทางปลอดภัยเที่ยวให้สนุก ฝากบอกลุงเท็ดด้วย ”
“ ขอบใจมากนะลูก ”
ลิวาดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนหยิบกุญแจบ้านที่ ลุงเท็ดเคยให้ไว้อีกชุดหนึ่งขึ้นมา กดรีโมทประตูรั้วก่อนกลับเข้าไปในรถแล้วขับเข้าไปจอดที่โรงรถ มุ่นคิ้วอีกครั้งเมื่อเห็นรถยนต์ยี่ห้อแพงสองคันจอดอยู่ก่อนแล้ว
ไอ้เด็กเวรนั่นคงจะนัดเพื่อนมามั่วสุมกันล่ะมั้ง !
ลิวาดายืนนิ่งราวกับกำลังรวบรวมความกล้า นึกโมโหเมฆ ชายคนรักที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกันแต่คนละแผนก เธออยู่แผนกการเงิน เมฆอยู่แผนกทรัพยากรบุคคล ฝ่ายจัดอบรม เขามักจะต้องออกเดินทางไปจัดอบรมตามสาขาอื่นเสมอ และคราวนี้ก็ติดสัมมนาเลยมาเป็นเพื่อนไม่ได้
“ ไปเถอะหลิว เท่าที่เคยเจอ แดเนียลเค้าก็ดูไม่มีพิษ มีภัยอะไรนี่นา ออกจะเฟรนด์ลี่ด้วยซ้ำไป ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลยนี่ ” นั่นคือคำตอบจากคนรัก แน่นอนว่าเขาไม่เคยระแคะระคายเรื่องราวน่าละอายระหว่างเธอกับน้องชาย ต่างสายเลือดมาก่อน
หวังไหว้วานให้เพื่อนสนิทในแผนกอีกคนที่ชื่อ วิว มาด้วย หล่อนก็ดันติดธุระเสียได้
ลิวาดาเปิดประตูแล้วเดินอย่างเงียบกริบเข้าไปในบ้าน ทันทีที่ประตูถูกเปิด เสียงเพลงกระหึ่มราวอยู่ในผับบาร์ ก็กระแทกเข้ามาในโสตประสาท กลิ่นอะไรต่อมีอะไรคละคลุ้งไปหมดยากจะแยกแยะ ทั้งแอลกอฮอล์ ควัน และบางอย่างที่เธอไม่รู้จัก
หญิงสาวส่ายศีรษะอย่างหงุดหงิด สาวเท้าไปหาต้นเสียง แล้วก็ต้องอ้าปากหวอเมื่อเลี้ยวซ้ายไปยังห้องโถงรับแขก ของบ้านกับภาพที่เห็นตรงหน้า
หญิงสาวหกคน ชายสี่คน นั่งบนพื้นบ้าง บนโซฟาบ้าง แต่ละคนอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยสวมเสื้อผ้าไม่ครบทุกชิ้น มีขวดแอลกอฮอล์ทั้งเบียร์เหล้าตั้งอยู่ตรงกลางวงนับไม่ถ้วน
แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจที่สุดคือชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ที่ยืนอยู่กลางวงในสภาพเปลือยท่อนบนอวดมัดกล้าม แน่นหนั่นไปทุกส่วนสัดและรอยสักสวยรูปงูพันดอกไม้สีม่วงดอกเล็ก ๆ ชนิดหนึ่งที่เธอไม่รู้จักที่อกด้านขวา
เขาเงยหน้าขึ้นมองแขกไม่ได้รับเชิญคนใหม่ที่เพื่อน คนอื่น ๆ ไม่รับรู้การมาถึงเพราะมัวแต่โฟกัสอยู่ที่การสูบและ ดื่มกิน ทั้งเสียงเพลงดังลั่นนั้นด้วย
มุมปากได้รูปแสยะยิ้มนิด ๆ มือซ้ายเอื้อมไปเสยปอยผมที่หล่นมาปรกหน้าผากขึ้น สองดวงตาคมสีอำพันของเขาจ้องมองมายังผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่สาว ก่อนจะปลดตะขอตามด้วย รูดซิปกางเกงยีนส์แล้วดึงมันลงช้า ๆ
ลิวาดาอ้าปากค้าง เอวกางเกงค่อยเลื่อนลงต่ำ ไรขน สีดำที่เห็นประปรายในตอนแรกเริ่มหนาขึ้นเมื่อเขาดึง ขอบกางเกงยีนส์เลื่อนต่ำลง
มันต่ำเกินไปแล้ว !
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
ถูกพ่อแท้ ๆ ขายให้กับชายแก่คราวพ่อเพื่อไปเป็น 'เมียน้อย' เธอไม่อยากเสียซิงให้ชายแก่คราวพ่อ จึงเลือกเสียมันให้กับหนุ่มหล่อที่ 'ขายตัว' แต่เธอดันตกใจจนหมดสติทั้งที่เขาเสียบเข้าไปได้แค่ส่วนหัว บ้าบอฉิบ ! เมื่อได้สติ ขวัญเอยอับอายเป็นอย่างมาก สบถสาบานเอาไว้ว่าจะไม่ทำอะไรไร้สติเช่นนี้อีกแล้ว และภาวนาอย่าได้พบได้เจอเขาอีกเลย แต่ดูเหมือนเทวดาไม่เป็นใจ เพราะหนุ่มเจนรักคนนั้น กลับกลายมาเป็นนักศึกษาในคลาสที่เธอสอน แถมบ้านอยู่ติดกับเธออีกด้วย เวรล่ะสิ !
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY