ผมไม่นับผู้หญิงที่เคยลงลิ้นเป็นพี่สาวหรอกนะ... ผมไม่นับผู้หญิงที่เคยลงลิ้นเป็นพี่สาวหรอกนะ...
ผมไม่นับผู้หญิงที่เคยลงลิ้นเป็นพี่สาวหรอกนะ... ผมไม่นับผู้หญิงที่เคยลงลิ้นเป็นพี่สาวหรอกนะ...
รถเก๋งญี่ปุ่นสีขาวคันเล็กเปิดไฟเลี้ยวแล้วหมุนพวงมาลัยหักเข้าจอดเทียบที่หน้าบ้านหลังสุดท้ายในซอยของโครงการ บ้านจัดสรรชื่อดังแห่งหนึ่งแถบชานเมือง
ประตูรถฝั่งคนขับถูกเปิดออก ร่างเล็กบอบบางผิวขาวจัดอย่างคนมีสายเลือดแผ่นดินใหญ่จากฝั่งพ่อ สวมเชิ้ตขาว ทับด้วยสูทสีแดง กระโปรงสอบแค่เข่าสีเดียวกับสูทซึ่งเป็นเครื่องแบบของบริษัท ใบหน้าสวย นัยน์ตาคมหวานจากทาง ฝั่งแม่ที่มีเชื้อสายมอญ หากบัดนี้ดวงตานั้นฉายชัดถึงความหงุดหงิดตึงเครียด คิ้วได้รูปขมวดมุ่น เธอยืนกอดอกจ้องมองผ่านประตูรั้วเข้าไปในบ้านด้วยความหงุดหงิดเต็มทน
ลิวาดา หรือหลิว คือชื่อของเธอ
ปีนี้เธออายุย่างยี่สิบหก พ่อของเธอเสียชีวิตไปเมื่อสี่ปี ที่แล้ว หลังจากนั้นเมื่อต้นปีแม่ก็แต่งงานใหม่กับชาวต่างชาติวัยเกษียณคนหนึ่งที่ชื่อลุงเท็ด เขาเคยแต่งงานกับสาวไทยและเลิกรากันไปหลายปี มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคนอายุน้อยกว่าเธอหกปีที่ชื่อ แดเนียล
ลุงเท็ดจัดได้ว่าเป็นชาวต่างชาติที่พอมีพอกินค่อนไปทางร่ำรวย เขาซื้อบ้านหลังใหญ่ในโครงการมีชื่อเสียงแล้วพาแม่กับเธอเข้ามาอยู่ด้วย และให้แม่ของเธอลาออกจากงานพนักงานบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่งเพื่อมาดูแลเขาพร้อมให้เงินเดือนใช้ซึ่งมากกว่าเงินเดือนเดิมของแม่ถึงสามเท่า หลิวเองยินดีที่ แม่จะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิตและคอยดูแล และลุงเท็ดก็ดีกับท่านเหลือเกิน เรื่องเหมือนจะจบอย่างมีความสุขเช่นในนิยาย แต่กลับมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นจนกระทั่งเธอไม่สามารถอยู่ร่วมชายคาเป็นครอบครัวที่นี่ได้ตามที่แม่ต้องการ
ทั้งหมดทั้งมวลมีสาเหตุมาจากไอ้เด็กลูกครึ่งตัวเท่าควายคนนั้น คนที่มีฐานะเป็นน้องชายต่างสายเลือดของเธอ
แดเนียล หรือนายแดนตัวแสบนั่น
“ หลิว เข้าไปดูบ้านให้แม่หน่อยนะลูก ไปนอนวีคละครั้งก็ยังดี เข้าไปสักวันศุกร์ ค้างสักคืน เสาร์เย็น ๆ ค่อยกลับ แม่กับลุงเท็ดต้องบินไปบ้านลุงที่ต่างประเทศเพื่อจัดการเอกสารภาษีบางอย่างและถือโอกาสไปเยี่ยมญาติด้วยสักสองเดือน แดเนียลอยู่บ้านคนเดียว ”
นั่นคือคำวอนขอแกมบังคับของผู้เป็นแม่ที่โทรหาเธอ ทั้งที่บ้านหลังเบ้อเริ่มนี้ตั้งอยู่ในโครงการอันมีชื่อ บริการจากส่วนกลางนั้นมีทั้งกล้องวงจรปิด ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวัน ทว่า สิ่งเหล่านั้นอาจไม่สามารถป้องกันเรื่องวุ่นวายจากคนที่อยู่ ในบ้านได้
แดเนียลอยู่บ้านคนเดียว นั่นมันคือเหตุผลวายป่วงที่เธอต้องมาที่แห่งนี้ทั้งที่ไม่อยากเหยียบย่างมาอีกแม้สักครั้ง
“ เด็กนั่นมันจะเผาบ้านหรือไงล่ะแม่ ถึงต้องให้หลิว ไปดูด้วย ” นั่นคือสิ่งที่เธอถามประชดประชัน และคำตอบที่แม่ให้กลับมาคือ
“ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรถึงขั้นนั้น แดนอาจจะมีเกเรเสเพลบ้างตามประสา มีจัดปาร์ตี้บ้างอะไรบ้าง แม่แค่กลัวว่าจะเละเทะเกินเลยไปสักหน่อย เอาน่า ก็แค่ไปดูน้องบ้างจะเป็นไรไป ไหน ๆ ก็เป็นพี่เป็นน้องกันแล้ว ”
ใครอยากจะเป็นพี่เป็นน้องกับนายนั่นกันล่ะ !
เธอแย้งอยู่ในใจ
“ แดนน่ะเป็นเด็กดีนะหลิว แม่ไม่เข้าใจว่าทำไมหลิวต้องมองน้องในแง่ร้ายขนาดนั้น อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยทำอะไรให้ลุงเท็ดกับแม่เดือดร้อน ”
เด็กดีงั้นเหรอ !?
แต่จะโทษแม่ก็ไม่ได้ เพราะท่านไม่ได้เจออย่างที่เธอเจอกับแดเนียลนี่นา เด็กนั่นมันร้ายเกินอายุ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าหวานก็ร้อนวูบ สลัดศีรษะตัวเองแรง ๆ เพื่อหวังขับไล่ความรู้สึกบ้า ๆ นั้นให้หลุดหายจากความทรงจำเสียที
ความรู้สึกที่น้องชายต่างสายเลือดคนนั้นตราตรึงไว้บนร่างกายของเธอในคืนนั้น !
“ หลิว ฟังแม่อยู่หรือเปล่า ทำไมเงียบ ” ปลายสาย ส่งเสียงเรียกเมื่อไม่มีการตอบรับจากลูกสาว เธอรีบดึงตัวเองให้พ้นจากภวังค์ทันที
“ อยู่จ้ะแม่ อยู่ โอเค เดี๋ยวหลิวเข้าไปดูให้ แม่ไม่ต้องห่วงนะ เดินทางปลอดภัยเที่ยวให้สนุก ฝากบอกลุงเท็ดด้วย ”
“ ขอบใจมากนะลูก ”
ลิวาดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนหยิบกุญแจบ้านที่ ลุงเท็ดเคยให้ไว้อีกชุดหนึ่งขึ้นมา กดรีโมทประตูรั้วก่อนกลับเข้าไปในรถแล้วขับเข้าไปจอดที่โรงรถ มุ่นคิ้วอีกครั้งเมื่อเห็นรถยนต์ยี่ห้อแพงสองคันจอดอยู่ก่อนแล้ว
ไอ้เด็กเวรนั่นคงจะนัดเพื่อนมามั่วสุมกันล่ะมั้ง !
ลิวาดายืนนิ่งราวกับกำลังรวบรวมความกล้า นึกโมโหเมฆ ชายคนรักที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกันแต่คนละแผนก เธออยู่แผนกการเงิน เมฆอยู่แผนกทรัพยากรบุคคล ฝ่ายจัดอบรม เขามักจะต้องออกเดินทางไปจัดอบรมตามสาขาอื่นเสมอ และคราวนี้ก็ติดสัมมนาเลยมาเป็นเพื่อนไม่ได้
“ ไปเถอะหลิว เท่าที่เคยเจอ แดเนียลเค้าก็ดูไม่มีพิษ มีภัยอะไรนี่นา ออกจะเฟรนด์ลี่ด้วยซ้ำไป ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลยนี่ ” นั่นคือคำตอบจากคนรัก แน่นอนว่าเขาไม่เคยระแคะระคายเรื่องราวน่าละอายระหว่างเธอกับน้องชาย ต่างสายเลือดมาก่อน
หวังไหว้วานให้เพื่อนสนิทในแผนกอีกคนที่ชื่อ วิว มาด้วย หล่อนก็ดันติดธุระเสียได้
ลิวาดาเปิดประตูแล้วเดินอย่างเงียบกริบเข้าไปในบ้าน ทันทีที่ประตูถูกเปิด เสียงเพลงกระหึ่มราวอยู่ในผับบาร์ ก็กระแทกเข้ามาในโสตประสาท กลิ่นอะไรต่อมีอะไรคละคลุ้งไปหมดยากจะแยกแยะ ทั้งแอลกอฮอล์ ควัน และบางอย่างที่เธอไม่รู้จัก
หญิงสาวส่ายศีรษะอย่างหงุดหงิด สาวเท้าไปหาต้นเสียง แล้วก็ต้องอ้าปากหวอเมื่อเลี้ยวซ้ายไปยังห้องโถงรับแขก ของบ้านกับภาพที่เห็นตรงหน้า
หญิงสาวหกคน ชายสี่คน นั่งบนพื้นบ้าง บนโซฟาบ้าง แต่ละคนอยู่ในสภาพกึ่งเปลือยสวมเสื้อผ้าไม่ครบทุกชิ้น มีขวดแอลกอฮอล์ทั้งเบียร์เหล้าตั้งอยู่ตรงกลางวงนับไม่ถ้วน
แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจที่สุดคือชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ที่ยืนอยู่กลางวงในสภาพเปลือยท่อนบนอวดมัดกล้าม แน่นหนั่นไปทุกส่วนสัดและรอยสักสวยรูปงูพันดอกไม้สีม่วงดอกเล็ก ๆ ชนิดหนึ่งที่เธอไม่รู้จักที่อกด้านขวา
เขาเงยหน้าขึ้นมองแขกไม่ได้รับเชิญคนใหม่ที่เพื่อน คนอื่น ๆ ไม่รับรู้การมาถึงเพราะมัวแต่โฟกัสอยู่ที่การสูบและ ดื่มกิน ทั้งเสียงเพลงดังลั่นนั้นด้วย
มุมปากได้รูปแสยะยิ้มนิด ๆ มือซ้ายเอื้อมไปเสยปอยผมที่หล่นมาปรกหน้าผากขึ้น สองดวงตาคมสีอำพันของเขาจ้องมองมายังผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่สาว ก่อนจะปลดตะขอตามด้วย รูดซิปกางเกงยีนส์แล้วดึงมันลงช้า ๆ
ลิวาดาอ้าปากค้าง เอวกางเกงค่อยเลื่อนลงต่ำ ไรขน สีดำที่เห็นประปรายในตอนแรกเริ่มหนาขึ้นเมื่อเขาดึง ขอบกางเกงยีนส์เลื่อนต่ำลง
มันต่ำเกินไปแล้ว !
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เว่ยหลินหลางบุตรีราชครูเว่ยอี้ ฝาแฝดคนพี่ที่ถูกปกปิดไร้สิ้นตัวตนว่าไม่เคยถือกำเนิดบนผืนแผ่นดิน ด้วยนางเกิดมาพร้อมดวงชะตาอันแข็งกล้าเป็นดวงล้มบัลลังก์หงส์ของแคว้นต้าโจว นางจึงถูกส่งตัวไปพำนักอยู่ที่หอดวงดาวให้ผู้คุมกฎเลี้ยงดู และนางก้าวออกจากหอดวงดาวในรอบ 17 ปี เพื่อกลับมาล้มบัลลังก์หงส์ที่ทำลายตระกูลของนางจนล่มสลาย โดยไม่รู้ตัวเลยว่าการก้าวออกมาจากหอดวงดาวครั้งนี้ ทำให้นางได้พานพบกับดาวคู่ชะตา ซึ่งเป็นนักรบปีศาจผู้เลื่องลือและก้าวขึ้นครองบัลลังก์ของแคว้นเทียนอวี๋อันยิ่งใหญ่ ลี่หยวนฮ่องเต้ผู้มีสมญานามฮ่องเต้อำมหิต ข้าจะต้องค้นหาและตามไปช่วยนางให้ได้ ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใดต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ข้ามทะเลทราย มหาสมุทรนับหมื่นลี้ ข้าก็จะนำหัวใจของข้ากลับคืนมาเคียงคู่ที่ ตำหนักเย่วเชียงแห่งนี้ด้วยกันดั่งเดิม!!!!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เจียอี หญิงสาวที่เติบโตมาในชนบทกับคุณตาคุณยาย เธอมีช่องในโซเซียลถ่ายทอดชีวิตชนบท การทำไร่ ทำนา ทำสวน ทำอาหาร จนมีผู้ติดตามเกือบล้านคน แต่แล้วในหนึ่งที่เธอถ่ายทำตอนขึ้นเขาหาของป่า เธอพลัดตกจากเขาจนวิญญาณของเธอทะลุมิติไปในยุคโบราณ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด