..ตรงไหนก็ต้องได้ ถ้าเราจะเอา ! ..
รถจักรยานยนต์สีดำแล่นช้า ๆ เข้ามาในซอย มีเด็กหนุ่มเป็นผู้ขับ เด็กสาวเป็นผู้ซ้อน ทั้งคู่สวมชุดมัธยมปลาย ก่อนที่รถจะค่อย ๆ จอดที่หน้าบ้านแบบทาวเฮ้าส์สองชั้น
ผู้ซ้อนลงจากรถแล้วถอดหมวกกันน็อคยื่นให้ผู้ขับ เผยให้เห็นใบหน้าใสไร้เครื่องประทินผิวใด ตากลมโตขนตางอนเป็นแพ จมูกไม่ได้โด่งเชิดมากแต่ก็เล็กยาว รับกับปากอวบอิ่มที่มีรอยยิ้มอยู่เสมอ เธอไม่ได้สะสวยโดดเด่น แต่ก็มองดูสบายตาน่ารักสมวัย ยิ่งอยู่ภายใต้ทรงผมสั้นถูกระเบียบ เธอยิ่งดูไร้เดียงสา ผู้ขับรับหมวกกันน็อคไปแขวนไว้ที่กระจก ก่อนจะปลดของตนออกไปแขวนที่ข้างหนึ่ง เผยให้เห็นเครื่องหน้าเหมาะเจาะอย่างที่บุรุษเพศพึงมี ภายใต้กรอบใบหน้ายาว คิ้วเข้มพาดขวางอยู่บนดวงตาคมกริบ มีแววหวานออดอ้อนระคนซุกซนอยู่ในนั้น จมูกโด่งเป็นสันยาว ริมฝีปากหยักโค้งได้รูปยกขึ้นยิ้ม ยิ่งทำให้ใบหน้าคมสันนั้นมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว เขาใช้สายตาหวานจ้องมองมาที่เธอก่อนเอ่ยออดอ้อน “ ขอเค้าเข้าไปส่งตัวเองข้างในได้ไหม ตัวเองป่วย เค้าเป็นห่วง นะคะ คนดี ” เล่นเอาคนถูกอ้อนหน้าแดงหูแดงไปหมด
ฉันชื่อ ส้ม เป็นเด็กสาวคนนั้น ส่วนคนขับชื่อ สิงห์ เราทั้งคู่คบหากันเป็นแฟนได้ร่วมปีแล้ว
“ ไม่ได้หรอก เดี๋ยวพ่อกลับมาเห็นโดนด่าเปิงแน่ ตัวเองกลับไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเจอกันที่โรงเรียน ” ฉันปฏิเสธ ก่อนหันมาไขกุญแจประตูบ้าน แต่เขาไม่ฟัง เขาลงจากรถแล้วเดินมายืนด้านหลัง ยกมือทั้งสองขึ้นคร่อมตัวฉันไว้ สิงห์สูง ร้อยแปดสิบสี่ แถมยังเล่นกีฬาอยู่เสมอ เลยทำให้เขาทั้งสูงใหญ่กำยำ ส่วนฉันแค่ร้อยห้าสิบห้า เมื่อโดนเขาคร่อมแบบนั้นเลย ทำให้ดูเหมือนว่าฉันตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาอยู่กลาย ๆ สิงห์ก้มหน้าลงมาใกล้พร้อมออดอ้อนข้างหู
“ พ่อตัวเองกว่าจะกลับก็ค่ำ นี่มันพึ่งสี่โมงเย็นเอง ขอเค้าเข้าไปแป๊บเดียวนะ สิบนาที นะ นะ ”
ด้วยความที่ใกล้ขนาดนั้นเลยทำให้ลมหายใจของเขากระทบกับผิวเนื้อ มันทำให้ใจฉันเต้นแรงขึ้น มือที่ไขกุญแจอยู่สั่นเทา กว่าจะไขได้ต้องรวบรวมสมาธิมากโข ในที่สุดมันก็เปิดออก ฉันรีบพุ่งเข้าบ้าน สิงห์ก็เช่นกัน
“ สิงห์ ” ฉันเรียกอย่างเหนื่อยอ่อนกับความดื้อรั้นของเขา
“ จ๋า ” ตอบรับมาพร้อมยิ้มตาหยีอย่างยียวน
“ แค่สิบนาทีนะ ”
“ เย้ ” ส่งเสียงดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่น ฉันอมยิ้ม ก่อนจะไขเปิดประตูบ้านแล้วเดินเข้าไป เขาเดินตามต้อย ๆ
“ นั่งก่อนสิ ” ฉันผายมือไปยังโซฟาในห้องรับแขก
“ นั่งเยอะแล้ว นอนได้ป่ะ ” คนทะเล้นส่งเสียงมายียวน
“ ก็เอาดิ ”
“ เอาได้เหรอ ”
“ ไอ้บ้า ทะลึ่ง ”
“ ทะลึ่งอะไร เอา ก็หมายถึง นอน นี่ไง ตัวเองนั่นแหละ คิดอะไรอยู่ ใครทะลึ่งกันแน่ ”
“ ไม่อยากเถียงด้วยหรอก เพราะไม่เคยชนะ ไม่มีอะไรในตู้เย็นเลย มีแต่แอปเปิ้ล ตัวเองกินไหม เดี๋ยวเค้าปอกให้ ”
“ ไม่อะ เค้าไม่อยากกินแอปเปิ้ล ” สิงห์ตอบพลางลุกเดิน มาหาฉันที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เลยถามกลับไปอย่างพาซื่อ
“ ทำไมล่ะ ไม่ชอบเหรอ ”
“ เค้าอยากกินส้มมากกว่า ”
สิงห์ตอบพร้อมส่งยื่นจมูกเข้ามาเฉียดแก้ม ฉันรีบเบี่ยงตัวหลบแล้วเดินหนีมานั่งที่โซฟา คนเจ้าเล่ห์ยิ้มกริ่มก่อนเดินตามเข้ามานั่งเสียจนติดกัน
“ ตัวเอง เขยิบออกไปอีกได้ไหม ” ฉันรีบบอก เมื่อรู้สึกว่ามันแนบชิดมากกว่าที่ควรเป็น และหัวใจของฉันมันก็เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกหน้าอก
แต่เขากลับไม่ได้ทำตามที่ขอ ทั้งยังเขยิบเข้ามาใกล้อีก ฉันขยับหนีแต่ก็จนมุมเพราะตอนนี้ตัวติดกับพนักโซฟาแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาคมสันที่มีสายตาแพรวพราวระยับก้มลงมาใกล้ จมูกโด่งกดลงบนแก้มนวล ฉันยกมือขึ้นผลักไสไหล่หนาให้ออกห่าง
“ ตัวเอง ไม่เอา ”
“ ทำไมล่ะ เราเป็นแฟนกันนะ ตัวเองไม่รักเค้าเหรอ ”
“ รักสิ แต่เค้าว่ามันไม่เหมาะสม ”
“ ไม่เหมาะยังไง เค้ารักตัวเองจะตาย ขอให้เค้าชื่นใจหน่อยนะคนดี นิดเดียวเอง นะ นะคะ ”
แขนแข็งแรงล้อมรัดฉันไว้จนหมดสิ้น เขากดจมูกลงบนซอกคอข้างหนึ่งแล้วซุกไซ้ไปทั่ว ฉันที่ไม่เคยผ่านมือชาย ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรแบบนี้มาก่อน จึงได้แต่อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนนั้น สติเตลิดจนกระทั่งไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในท่านอนเหยียดยาวบนโซฟา โดยมีร่างสูงใหญ่ทาบทับอยู่เบื้องบน
สิงห์ค่อย ๆ พรมจูบลูบไล้ไปทั่วซอกคอ ก่อนเลื่อนมายังแก้มทั้งสองข้าง ประทับไปบนหน้าผาก เลื่อนลงมาที่จมูก แล้วกระซิบชิดริมฝีปากของฉัน
“ สิงห์รักส้มนะ รักคนเดียว และจะรักตลอดไป ส้มล่ะ รักสิงห์บ้างไหม ”ตาคมเป็นประกายฉ่ำหวานที่ประสานมายังสายตาฉัน มันช่างเว้าวอนออดอ้อนแสนหวาน ชั่วโมงนี้ นาทีนี้อะไรก็คงต้องให้หมด หมดแล้วทั้งหัวใจ
“ ส้มก็รักสิงห์ รักที่สุด ”
แล้วเขาก็ทาบปากลงบนกลีบปากของฉัน เม้มดูดมัน เบา ๆ จนถ้วนทั่ว ก่อนสัมผัสนั้นจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ ลิ้นร้อน จาบจ้วงเข้ามาในโพรงปากของฉัน ก่อนจะรุกเร้าซุกซนซอกซอนไปทั่ว ล้อไล่รัดรึงกับลิ้นน้อย ๆ ของฉัน
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา