เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า“เจียงซุ่ย ทำไมถึงอย่ากับคุณยู่น่ะ” เจียงซุ่ยยิ้ม“เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก” อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที “คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ”
“จินเฉิน วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานสามปีของพวกเรานะ ฉันเตรียมเซอร์ไพรส์เอาไว้ให้คุณด้วย กลับมาได้ไหม?”
หลังจากส่งข้อความไปแล้ว เจียงซุ่ยจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ รอคอยด้วยความคาดหวัง
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เจียงซุ่ยคอยเปิดโทรศัพท์ดูเป็นครั้งคราว กลัวว่าตัวเองจะพลาดข่าวสารอะไรไป
แต่ก็เหมือนเดิม เธอไม่เคยได้รับการตอบกลับใด ๆ จากยู่จินเฉินเลย
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมา เจียงซุ่ยรู้สึกมีความสุขมาก หัวใจเธอพองโตขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ แววตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับ
หรือว่า จิ่นเฉินจะกลับมาแล้วเหรอ?
เจียงซุ่ยอดใจรอไม่ไหว รีบไปเปิดประตูทันที
แต่คนที่ยืนอยู่หน้าประตูกลับไม่ใช่ยู่จินเฉิน แต่เป็นบอดี้การ์ดชุดดำของเขาแทน
“คุณผู้หญิง เชิญคุณไปโรงพยาบาลด้วยครับ” หัวหน้าบอร์ดี้การ์ดพูดขึ้นมา
เจียงซุ่ยตกใจ เธอถอยหลังไปเล็กน้อย แต่ก็ยังถูกคนเข้ามาล็อคตัว แล้วก็ลากเธอไปขึ้นรถจนได้
ตลอดทาง ไม่ว่าเธอจะถามอะไร พวกเขาก็ไม่ให้คำตอบเธอเลยสักอย่าง
แล้วรถก็ขับมาถึงโรงพยาบาลด้วยความรวดเร็ว
บอร์ดี้การ์ดชุดดำพาเจียงซุ่ยไปยังหน้าห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง แล้วก็ผลักเธอไปติดกับกำแพง
เจียงซุ่ยยืนพิงกำแพงนิ่งอยู่ในสภาพน่าอนาถ เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นยู่โหล น้องสาวของสามีเธอกำลังมองมาที่เธออย่างไม่สบอารมณ์
“ทำไมมาช้าขนาดนี้ล่ะ?”
หัวใจของเจียงซุ่ยเหมือนดิ่งลงไปในเหวลึกทันที “โหลโหล ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? แล้วทำไมจู่ ๆ บอดี้การ์ดพวกนั้นถึงพาฉันมาที่นี่ล่ะ จินเฉินป่วยเหรอ?”
ยู่โหลมองเธอด้วยสายตารังเกียจ แล้วก็พูดขึ้นมาอย่างตามเรื่องตามราวว่า “พี่ฉันไม่ได้ป่วยหรอก แต่เป็นเพราะไตของเธอกับพี่เมิ่งหนิงเข้ากันได้ดีต่างหากล่ะ วันนี้ ที่ฉันพาเธอมาที่นี่ ก็เพื่อให้เธอบริจาคไตให้พี่เมิ่งหนิงไง”
“อะไรนะ?” เจียงซุ่ยตัวแข็งทื่อ เธอพูดออกมาด้วยความยากลำบากว่า “... นี่คือสิ่งที่จินเฉินต้องการงั้นเหรอ?”
แต่งงานกันมาสามปี เธอรู้มาโดยตลอดว่าในใจของยู่จินเฉินมีแต่เสิ่นเมิ่งหนิงเท่านั้น ตอนที่เสิ่นเมิ่งหนิงป่วย และเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่ต่างประเทศนั้น เขาก็มักบินไปเยี่ยมเธอบ่อยครั้ง บ้านเขาก็ไม่ได้กลับ เมื่อเสิ่นเมิ่งหนิงกลับมา เขาก็รับเธอกลับมาอยู่ที่บ้าน แล้วก็คอยดูแลเธอด้วยตัวเอง
แต่เจียงซุ่ยก็ยังคงหวังว่า สักวันหนึ่งสามีของเธอจะเห็นความดีของเธอบ้าง ด้วยเหตุนี้ เธอจึงคอยดูแลเรื่องงานบ้านทั้งหมด แล้วก็คอยปรนนิบัติรับใช้คนในครอบครัวเขาเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งเธอก็ยอมทุ่มสุดตัวทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจ
แต่ครั้งนี้ เขากลับต้องการที่จะช่วยชีวิตของเสิ่นเมิ่งหนิงไว้ ด้วยการเอาไตของเธอไปข้างหนึ่งเนี่ยนะ?
เธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ
ยู่โหลหลบสายตาของเธอเล็กน้อย จากนั้นก็ทำตัวหยิ่งผยองมากขึ้น “แน่นอนสิ! คนที่พี่ชายของฉันชอบก็คือพี่เมิ่งหนิง ไม่ใช่เธอ! ตอนแรก ถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่ารีบร้อนอยากจะอุ้มหลาน แล้วพี่เมิ่งหนิงต้องไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ พี่ชายของฉันจะแต่งงานกับคุณแบบส่งเดชไปทำไมล่ะ ไม่เช่นนั้น เด็กกำพร้าที่มาจากชนบทอย่างเธอ จะเข้ามาอยู่ในตระกูลยู่ได้ยังไง!”
เจียงซุ่ยมองดูริมฝีปากของเธอที่ขยับไปมาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า แต่สิ่งที่ยู่โหลพูดนั้น เธอกลับได้ยินไม่ชัด ราวกับว่ายู่โหลพูดมาจากอีกโลกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้นแหละ
ยู่โหลเอามือทั้งสองข้างกอดอกเอาไว้ “เธอแต่งงานเข้ามาตั้งสามปีแล้ว แต่กลับยังไม่มีลูกสักคน แถมเรื่องอาหารการกินหรือเรื่องงานบ้าน เธอก็เทียบกับสาวใช้ไม่ติดเลยสักนิด ตอนนี้ถึงเวลาที่จะได้ทำตัวให้มีประโยชน์แล้ว ก็ช่วยรู้จักหน้าที่ด้วย ยอมให้ความร่วมมือ บริจาคไตให้กับพี่เมิ่งหนิงดี ๆ พี่ชายของฉันจะไม่ทำให้เธอเสียเปรียบแน่ มิฉะนั้น หลังจากการรักษาสิ้นสุดลงแล้ว ถ้าพี่ชายของฉันทิ้งเธอไปแต่งงานกับพี่เมิ่งหนิงขึ้นมา เธอก็จะไม่ได้อะไรเลยนะ!”
ตอนที่กำลังจะตอบกลับไป ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อของเจียงซุ่ยก็สั่นขึ้นมา
เธอหยิบมันออกมาดู แล้วก็พบว่าเป็นการแจ้งเตือนการโอนเงินผ่านธนาคาร
“... มีเงินโอนเข้ามา 10,000,000”
ยู่จินเฉินโอนเงินให้เธอสิบล้าน!
นี่คือเงินซื้อไตของเธองั้นเหรอ?
เธอควรต้องรู้สึกเป็นเกียรติไหม ที่ไตของเธอมีค่ามากขนาดนี้?
หัวใจของเจียงซุ่ยราวกับถูกเจาะด้วยเข็มเหล็กจำนวนนับไม่ถ้วน ทิ่มแทงเข้ามาจนเลือดไหลชุ่มไปหมด เธอเริ่มรู้สึกร้อย ๆ ที่เบ้าตา มีเพียงแค่ความภูมิใจและความรู้สึกนับถือในตนเองที่เหลืออยู่เท่านั้น ที่ช่วยทำให้เธอไม่ร้องไห้ออกมา
เวลานี้ยู่โหลหมดความอดทนแล้ว เธอกวัดมือเรียกบอดี้การ์ดชุดดำเข้ามา “ดูเธอเอาไว้ให้ดี ฉันจะไปพบหมอก่อน เราจะดำเนินการผ่าตัดทันที อย่าปล่อยให้เธอหนีไปเด็ดขาด”
เธอจงใจพูดเสียงดัง ราวกับว่าเธอกำลังพูดให้เจียงซุยได้ยินโดยเฉพาะ เมื่อพูดจบแล้ว เธอก็จากไปอย่างภาคภูมิใจ
แต่เจียงซุ่ยไม่อยากนั่งรอความตายอยู่เฉย ๆ เธอจึงอาละวาดขึ้นมา ผลักบอร์ดี้การ์ดออก เธอจะไปถามยู่จินเฉินให้มันรู้เรื่องด้วยตัวเธอเอง
เธอเดินโซซัดโซเซ บุกเข้าไปในห้องผู้ป่วย
ในห้องผู้ป่วย เจียงซุ่ยได้เห็นด้วยตาของตัวเองว่า สามีที่เธอคิดถึง กำลังคอยเฝ้าอยู่ข้าง ๆ ผู้หญิงอีกคนอยู่
เสิ่นเมิ่งหนิงเอนตัวอยู่ในอ้อมแขนของยู่จินเฉิน ราวกับเธอเป็นกระต่ายน้อยที่น่าสงสารและน่าเอ็นดูมากอย่างไรอย่างนั้นแหละ
ยู่จินเฉินกอดเธอเอาไว้ ปลอบเธอด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “เมิ่งหนิง ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาคุณให้หายดีให้ได้ ผมหาไตที่เหมาะสมได้แล้วนะ คุณกำลังจะหายในไม่ช้านี้แล้ว”
เวลานี้ เจียงซุ่ยรู้สึเหมือนตัวเองตกลงไปในถ้ำน้ำแข็งที่เย็นสุดหัวใจ
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!