มินตราอยากเป็นอย่าง ‘ใจเริง’ นางร้ายในละครหลังข่าว เธออยากร้ายแบบนั้นเพื่อตอกหน้าผู้ชายเจ้าชู้อย่างนนทวัฒน์ หลานชายคนเดียวของผู้มีพระคุณของเธอ แต่เมื่อทำไม่ได้เพราะคำว่า ‘บุญคุณ’ ค้ำคอ มินตราเลยต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ เธอจะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้ผู้ชายคนนั้นข่ม หากต้องแต่งงานกันจริง ก็จะขอแต่งงานแค่ในนามเป็นเมียตีทะเบียน แต่จะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนั้นล่วงเกินสักตารางนิ้วเดียว นนทวัฒน์ไม่คิดว่าผู้หญิงเฉิ่มเชยตรงหน้าจะกล้ายื่นข้อเสนอน่าหัวเราะให้ตนเอง...หล่อนทำเหมือนตัวเองฉาบด้วยทอง จนเขาอยากแตะต้องแทบอดใจไม่ไหว เอาสิ...หากหล่อนอยากเล่นเกมนี้นัก เขาก็จะเล่นด้วย แต่เกมนี้จะต้องจบแบบที่เขาต้องการ ไม่ใช่อย่างที่หล่อนต้องการหรอก เขาไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่หล่อนคิด ไม่มีครั้งไหนที่เขานอนบนเตียงกับผู้หญิง แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น...พรหมจรรย์เรอะ!! ไม่อยากได้หรอกนะ แต่อยากสอนให้หล่อนรู้ ผู้ชายไม่ชอบให้ผู้หญิงมาหยาม...
บทที่1.วันวุ่นวายที่คฤหาสน์ส่งไพศาล
“คุณย่าครับนี่มันพศ.2020แล้วนะครับ ไม่มีครอบครัวไหนจับลูกหลานคลุมถุงชนหรอกครับ”
เสียงขุ่นขวางดังลั่น หลังนั่งฟังสุภาพสตรีวัยเจ็ดสิบสองปีพูดจนจบ นนทวัฒน์ ส่งไพศาส ทายาทคนเดียวของส่งไพศาสกรุป ที่มีอุตสาหกรรมการเกษตรส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นข้าว หรือผลผลิตทางการเกษตร ชายหนุ่มผู้นี้เป็นรุ่นที่สามที่รับช่วงมาจากบิดา เขาพัฒนาจนกิจการมีผลประกอบการมากกว่าบิดาทำไว้ถึงสามเท่า
“ใครไม่ทำก็ช่างสิ ฉันจะทำ ฉันทนไม่ได้หรอก หากหลานสะใภ้ของฉันจะขยันใช้เงินแต่ไร้สมองน่ะ”
แสงแขพูดเสียงแข็ง มองสบตาหลานชายตรงๆ พร้อมกับบ่นในใจ หากนนทวัฒน์ได้ครึ่งหนึ่งของสามีนางเรื่องการมองผู้หญิง แสงแขสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเลยสักนิด แต่นี่...เพราะหลานชายไร้สายตาในการคัดกรองผู้หญิงของเขา คงเพราะมัวแต่มองอวัยวะกลางอกเสียมากกว่า แสงแขไม่เข้าใจนักหรอก ผู้หญิงสมัยนี้ประหยัดหรือเพราะต้องการอวดของดีประจำตัวกันแน่ เสื้อผ้าที่พวกหล่อนใส่ถึงได้ทั้งแคบและสั้นจนน่าหวาดเสียว
“ย่าครับเมียคือคนที่ทำให้สามีที่ทำงานงกๆ รู้สึกผ่อนคลาย เธอไม่ต้องทำงานหรอก ขอแค่ทำให้ผมรู้สึกสุดขีดบนเตียงได้ก็พอ อยากได้อะไรก็เอาไปเถอะ ผมคิดว่าผมมีสตางค์จ่ายให้เธอ ทดแทนแรงกายที่เธอทุ่มเทให้ผมครับ”
“ตานนท์ นี่ย่านะยะ อย่ามาทะลึ่งใส่ย่า คนเรามันไม่ได้มีแค่เรื่องอย่างว่าในชีวิตเมื่อไหร่ล่ะ บอกได้เลย คนที่แกต้องแต่งงานด้วยคือคนที่ย่าเตรียมไว้ให้เท่านั้น”
นนทวัฒน์เบ้ปาก เดาใจแสงแขออกเหมือนนั่งอยู่กลางใจท่าน ผู้หญิงคนนั้นคงไม่พ้น ‘มินตรา’ เด็กสาวที่เข้านอกออกในบ้านนี้มาเป็นสิบๆ ปีแต่เขาไม่ถูกชะตากับหล่อน ผู้หญิงอะไรไม่รู้ ทั้งคร่ำเคอะและทำให้รู้สึกอับเฉา สวมแต่เสื้อสีเรียบกระโปรงยาวกรอมเท้า ผมรวบตึงไว้หลังทายท้อยและแว่นตาหนาเตอะ หากเจอกันจังๆ แล้วหล่อนหลบไม่ทันล่ะก็ หล่อนจะก้มหน้าต่ำ เห็นแค่ปลายจมูก ไม่รู้ว่ากลัวเขาหรือเป็นสัญชาตญาณผีกระสือกันแน่ ไม่รู้เป็นไรสิ ทุกครั้งที่เจอผู้หญิงคนนั้น เขาจะหงุดหงิดทุกที
“ถ้าต้องแต่งกับมินตราผมขอเป็นโสดจนตายดีกว่าครับ”
“เอะ! หนูมินไม่ดีตรงไหน ฉลาดแล้วก็เอาใจเก่งด้วย”
“แม่นั่นดีสำหรับคุณย่าครับ แต่ไม่ดีพอสำหรับผม เอาเป็นว่า ผมไม่แต่งครับ”
“ตามใจแกนะตานนท์ แกไม่แต่งกับหนูมินก็ได้ สมบัติส่วนของฉันจะได้ยกให้คนยากจนไปเลย” แสงแขพูดเสียงเด็ดขาด
“ได้ไงครับคุณย่า ส่วนนั้นต้องยกให้ผมสิ คุณปู่สั่งไว้แล้วนี่ครับ”
นนทวัฒน์ไม่ได้เสียดายสมบัติในส่วนที่แสงแขครอบครองหรอก เขามีมากพอแล้ว แต่หากท่านทำตามที่พูดไว้จริง ‘ส่งไพศาสกรุป’ จะถูกคนนอกเข้ามาครอบครองร่วม หุ้นส่วนของเขากับบิดามีไม่มากพอที่จะรั้งตำแหน่งประธานบริหารไว้ได้
“ส่วนของปู่แก ฉันจะยกให้แกเหมือนเดิม นี่ฉันพูดถึงส่วนของฉันยะ”
ชายหนุ่มถอนใจแรงๆ ทุกคนในส่งไพศาสรู้ดี สามีผู้ซื่อสัตย์อย่างทนนน์ ถือหุ้นแค่10% นอกนั่นแสงแขเป็นผู้ครอบครอง 41% ที่แสงแขถือ มีผลกับตำแหน่งประธานบริหาร พ่อ แม่และเขาเองรวมกันยังมีหุ้นไม่ถึง30% เลย หากได้ส่วนของคุณปู่มาด้วยก็ไม่สามารถคานอำนาจของคนใหม่ที่จะเข้ามาในตำแหน่งประธานบริหารได้เลย
“คุณย่าไม่ควรบีบผมด้วยวิธีนี้เลยครับ”
“ฉันมีทางเลือกให้แกอยู่นะตานนท์ แกไม่เลือกก็ไม่ต้องมาสนใจฉัน ฉันจะยกสมบัติให้ใครมันก็เรื่องของฉัน”
“มันจะวุ่นวายนะสิครับ”
“ก็อย่าให้มันวุ่นสิโว้ย”
“คุณย่า”
“กลับไปคิดดีๆ ตานนท์ ย่าทำแบบนี้เพราะย่าหวังดีกับแกนะ”
แสงแขพูดเสียงอ่อน เพื่ออนาคตของส่งไพศาส นางปล่อยให้หลายชายร่วมหอลงโรงกับผู้หญิงอย่างรติรัตน์ไม่ได้ ตระกูลชัญญาปัทม์ เหลือแค่เปลือก คนในสังคมรู้ดี พวกเขาพยายามหาครอบครัวร่ำรวยเพื่อเกาะ และเจ็กพ็อตนั่นดันมาตกที่ตระกูลส่งไพศาสของนาง ไม่คิดเหมือนกันว่าผู้ชายที่โชกโชนเรื่องผู้หญิงจะมาตกม้าตายง่ายดายเช่นนี้
“ผมเกลียดผู้หญิงคนนั้นครับ”
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี