ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / กลลวงอสูรซ่อนใจ
กลลวงอสูรซ่อนใจ

กลลวงอสูรซ่อนใจ

5.0
29 บท
1.8K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

หลังจากเข้าสู่โหมดครอบครัวแสนสุข ดร.ทรงพิชิต ธันยธร กับภรรยาสุดที่รักก็มีทายาทที่เป็นดั่งสายเลือดรักด้วยกันสองคน “กลลวงอสูรซ่อน” เป็นเรื่องของลูกสาวคนโตของพระ-นางในเรื่อง “อุบัติรักใต้เงาอสูร” (มีทั้งอีบุ๊กและหนังสือเสียงให้โหลด ท่านใดยังไม่เคยผ่านตาก็ลองเข้าไปโหลดฟังหรืออ่านตัวอย่างได้ฟรีในMebค่ะ) สำหรับเรื่องราวของพชรดนัย หรือ เพชร น้องชายนางเอกเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องยาว ออกแนวทะเลทราย ถ้าชีวิตราบรื่นก็คงได้อ่านกันภายในปีนี้ ตอนนี้อ่านเรื่องราวของหนูจุ๋ม ลูกสาวสุดที่รักของพ่อทรงแม่พจีไปก่อนนะคะ ด้วยรักและขอบคุณ ^^__^^ พันแสงจันทร์ <>สปอย<> “ปากจุ๋มดูน่าจูบจัง” “อะ...อะไรนะคะ?” “อยู่ใกล้กันแค่นี้ยังไม่ได้ยินอีก พี่ไม่ได้พูดเป็นกระซิบซะหน่อย” “ได้ยินค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินถูกต้อง” “ถ้าจุ๋มได้ยินพี่ชมปากจุ๋มน่าจูบ ก็ถือว่าเป็นการได้ยินที่ถูกต้องแล้วล่ะ อะไร? ไม่เคยมีใครบอกเลยเหรอว่าปากจุ๋ม...” “พอแล้วค่ะ ไม่ต้องย้ำอีกก็ได้” หล่อนค้อนเขาตรงๆ ตามด้วยเสียงเสียงบ่นอุบ “จริงๆ เลยนะ คุณนี่ ทำไมถึงชอบพูดให้จุ๋มตีหน้าไม่ถูกเรื่อยเลย แล้วสุภาพบุรุษน่ะเขาไม่พูดหรือแสดงอะไรให้ผู้หญิงขัดเขินหรอกนะคะ” “พี่ยังไม่เคยพูดสักทีว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ แล้วถ้าการเป็นสุภาพบุรุษจะทำให้ชมผู้หญิงสักคนตามความรู้สึกไม่ได้ พี่ก็ไม่อยากเป็นหรอก” “ไม่อยากเป็นสุภาพบุรุษ แล้วอยากเป็นคนเถื่อนอย่างนั้นหรือคะ อันที่จริงมาดคุณก็ให้อยู่นะ ถ้าจะแสดงตัวเป็นมนุษย์ยุคหินอาศัยอยู่ตามถ้ำ นุ่งหนังสัตว์แทนเสื้อผ้าอย่างคนศิวิไลซ์แล้ว” “เป็นได้ก็ดีสิ ชอบผู้หญิงคนไหนก็เอากระบองตีหัวลากเข้าถ้ำไปเลยไม่มีความผิด” “แหม! คิดอยู่เรื่องเดียวเองหรือคะ” “ใครบอก พี่คิดหลายเรื่องเลยละ แต่พูดไปจุ๋มก็จะยิ่งว่าพี่ไม่เป็นสุภาพบุรุษนะสิ”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

“ออกหมัดตรงๆ ครับคุณจุ๋ม ทุ่มแรงทั้งหมดไปที่หมัด น่าน... อย่างนั้นแหละ ใช่เลย ... คุณเพชร ไหนลองกำหมัดตั้งการ์ดแล้วชกออกไปข้างหน้าอย่างที่คุณพี่ทำเมื่อสักครู่ดูซิครับ ไม่ต้องเกร็ง”

เด็กหญิงวัยรุ่นตอนต้น ผิวผ่อง หน้าตาสวยสะดุดตา ทำตามคำครูผู้สอนอย่างแข็งขัน ขณะเด็กชายวัยอ่อนกว่ามีท่าทางเบื่อๆ แต่ก็ทำตามไป

ขณะนั้นเอง สาวใช้คนหนึ่งก็เดินเร็วๆ ลงบันใดหน้าตึก ส่งเสียงมาแต่ไกลพร้อมชูโทรศัพท์ประกอบ

“คุณจุ๋ม... คุณเพชรค้า... คุณตาโทรมาค่า ท่านจะพูดด้วย”

แทบว่าไม่ทันสิ้นเสียงรายงานของสาวใช้ร่างอวบ เด็กชาย-หญิง ทั้งสองก็วิ่งตื๋อแข่งกันไปรับสายผู้เป็นตา เด็กหญิงซึ่งปราดเปรียวว่องไวกว่าเป็นฝ่ายชนะ

“คุณตาขา...จุ๋มพูดค่ะ” เสียงแจ๋วๆ ออกจะหอบอยู่บ้าง

เด็กหญิงพูดคุยอยู่สักนาทีเศษๆ ก็ส่งโทรศัพท์ให้น้องชายต่อ

“คุณตาจะพูดด้วยแน่ะ”

เด็กชายรับโทรศัพท์มาจากพี่สาว

“คุณตาคร้าบ ผมเพชรคร้าบ”

คนเป็นพี่ไม่สนใจว่าน้องชายจะพูดคุยอะไรกับคุณตา เพราะออกวิ่งจี๋กลับเข้าบ้านไปทันที เมื่อเจอมารดาที่ห้องหนึ่งภายในบ้านเด็กหญิงก็ส่งเสียงรัว แต่พอมารดาสั่นหน้า พูดตอบอย่างมีเหตุมีผล สีหน้าแจ่มกระจ่างก็ม่อยลงทันที แต่ยังไม่ละความพยายามที่จะอ้อนมารดาเสียงอ่อนอ่อย แถมยังมองมารดาตาโศกที่มักจะใช้ได้ผลเวลาอยากให้คนใกล้ชิดตามใจ

“เอาอย่างนี้” ผู้เป็นแม่พูด “ลองไปถามคุณพ่อดูละกัน ถ้าคุณพ่ออนุญาตก็ไปได้”

“จริงๆ นะคะ แม่ขา...ขอบคุณค่ะ รักแม่ที่สุดในโลกเล้ย” บอกเสียงลิงโลดราวกับว่าได้รับอนุญาตแล้วยังไงยังงั้น

จากนั้นร่างบางก็ออกวิ่งต่อ แต่คราวนี้ทะลุกออกประตูด้านหลัง ไม่ถึงห้านาทีที่หน้าประตูเรือนหลังเล็ก ด้านหลังตึกใหญ่ ปลูกเอาไว้ติดชายคลองเลยทีเดียวก็มีเสียงเอะอะจากชายร่างผอมสูงที่ยืนเตร่คล้ายยามรักษาการณ์

“คุณจุ๋ม ยังเข้าไปไม่ได้นะครับ คุณพ่อมีแขก”

“จุ๋มเข้าไปแป๊บเดียวแหละ นายศักดิ์”

สิ้นคำบอกกล่าวแก่ชายที่คอยรับใช้บิดา ประตูบานใหญ่ก็ถูกกระชากเปิดออก ศักดิ์ได้แต่ยืนทำตาปริบๆ หูได้ยินเสียงเล็กๆ ดังออกมาจากข้างใน

“พ่อขา!”

สีหน้าศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ ทรงพิชิต ธันยธร อ่อนโยนลงขณะมองลูกสาววิ่งเข้ามาในห้องทำงานของเขา ภายในห้องลักษณะบ่งชัดว่าเป็นห้องทดลอง บนชั้นตามผนังเต็มไปด้วยหลอดแก้วบรรจุสารนานาชนิดหลากสีสัน

ในวัยห้าสิบเอ็ด ดอกเตอร์ทรงพิชิตยังดูเหมือนหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้นๆ เรือนร่างที่เคยสูงเพรียวมีเนื้อเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

สิบกว่าปีก่อนเขาคือศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเคมีคอล เจเนติค ฯ และ ไบโอเคมีคอล เอนจิเนียริ่ง ทำงานให้กับสถาบันทดลองค้นคว้าชีวภาพ-เคมี ที่ฟีนิกซ์ ปัจจุบัน เขาคือประธานบริษัท ‘สุทธิภาคย์ คอสเมติก คอมพานี’ โดยรับตำแหน่งต่อจากพ่อตาของเขา ‘ ดอกเตอร์ จิรฉัตร สุทธิภาคย์’ ที่ได้เกษียณตัวเองไปเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว

ทรงพิชิตอาจไม่ใช่นักธุรกิจสมองคม แต่เขาก็เป็นนักบริหารที่ชาญฉลาด กระทั่ง ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด’ ที่เคยเป็นเพียงธุรกิจขนาดกลางของครอบครัว ก้าวสู่ความเป็นบริษัทผลิต และจำหน่ายเครื่องสำอางขนาดใหญ่ ทำตลาดในหลายประเทศทั้งในเอเชีย อเมริกา และแอฟริกา

ด้านครอบครัวก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหน้าที่การงาน เพราะเขากับภรรยาครองรักกันมาเกือบสิบห้าปีอย่างมีความสุข มีพยานรักด้วยกันสองคน หญิงหนึ่งชายหนึ่ง

“ว่าไงลูก”

น้ำเสียงที่ดอกเตอร์วัยห้าสิบเอ็ดถามออกไปอ่อนโยนพอๆ สีหน้าแววตาเลยทีเดียว

“จุ๋มอยากไปค้างบ้านคุณตาคุณยายค่ะ” รีบบอกธุระของตนโดยไม่สนใจจะมอง ‘แขก’ ของบิดา

“ทำไมจุ๋มไม่ไปขอแม่เขาล่ะ”

“ขอแล้วค่ะ” คนตัวบางทำปากยื่นก่อนกล่าวต่อในลักษณะฟ้องกรายๆ “แต่แม่บอกว่าเสาร์อาทิตย์ที่แล้วจุ๋มก็พึ่งไปมา เสาร์อาทิตย์นี้ควรจะเป็นคิวของน้องได้ไปบ้าง แต่จุ๋มอยากไปจริงๆ นะคะพ่อขา พ่ออนุญาตนะคะ แม่บอกว่าถ้าพ่อให้ไปจุ๋มก็ไปได้”

“บอกเหตุผลจริงๆ กับพ่อมาก่อนว่าทำไมถึงอยากไปค้างที่บ้านคุณตาคุณยายนัก”

“ถ้าจุ๋มบอก พ่อต้องอนุญาตนะคะ”

ตากลมโตเริ่มฉายแววขี้โกง คนเป็นพ่อหัวเราะ

“ก็ได้ แต่ต้องบอกเหตุผลจริงๆ นะ”

“เหตุผลจริงๆ สิคะ จุ๋มไม่โกหก”

“ไหน ว่าไปซิ”

“พรุ่งนี้คุณตาจะไปดูม้าที่คอกธนสานต์ ถ้าถูกใจก็จะซื้อ จุ๋มอยากไปด้วยค่ะ”

“ที่อยากไปด้วยนี่เพื่อจะรบเร้าคุณตาซื้อลูกม้าให้สักตัวน่ะสิ” ผู้เป็นพ่อรู้ทัน

“ก็...” เรียวปากบางสีสดอย่างเด็กอนามัยดีแย้มออกเขินๆ เผยฟันซี่เล็กน่าเอ็นดู “คุณตาเคยสัญญานี่คะ ถ้าจุ๋มสอบได้คะแนนดีขึ้น เกรดเฉลี่ยสองเทอมของปีนี้เกินสองจุดห้า จุ๋มอยากได้อะไรคุณตาก็จะให้ทุกอย่าง แล้วนี่เกรดก็ออกมาแล้ว ได้ตั้งสองจุดห้าสอง คุณตาก็ต้องทำตามสัญญา”

“เกรดเฉลี่ยสองจุดห้าสองนี่ถือว่าสอบได้คะแนนดีแล้วหรือ” ผู้เป็นพ่อถามเสียงขัน “พ่อนึกว่าคำว่าสอบได้คะแนนดีๆ จะต้องเกรดเฉลี่ยตั้งแต่สาม หรือสามจุดห้าขึ้นไปเสียอีก”

“แหม... พ่อคะ” เสียงคนเรียนดีขึ้นแย้งทันที “ที่เรียนได้เกรดสูงๆ ก็ใช่ว่าจะเก่ง หรือฉลาดสามารถเอาตัวรอดได้เสมอไปนะคะ แล้วจุ๋มก็พัฒนาขึ้นตั้งเยอะถ้าเทียบกับตอนอยู่มอหนึ่งมอสอง”

“เพิ่มขึ้นเยอะจริงๆ จากสองจุดสี่ขยับขึ้นมาสองจุดห้าสอง” ดวงตาคมของคนเป็นพ่อแทบจะเปล่งเสียงหัวเราะ แต่ผู้เป็นบุตรไม่นำพาถามต่อโดยเร็ว

“ตกลงพ่ออนุญาตให้จุ๋มไปค้างที่บ้านชานเมืองคุณตาคุณยายได้ใช่ไหมคะ?”

ผู้เป็นพ่อทำท่าคิด ก่อนพยักหน้า ไม่ทันพูดอะไรก็แทบจะหงายหลัง เมื่อร่างบางโถมเข้าหาพร้อมส่งเสียงใส

“คุณพ่อใจดีที่หนึ่งเล้ย!”

จากนั้นกลีบปากฉ่ำสีชมพูอ่อนเนื้อแท้ก็นาบเข้ากับข้างแก้มบิดา กดหอมฟอดติดๆ กันก่อนผละออกห่าง

“ขอบคุณค่ะ จุ๋มรักพ่อที่สุด!”

ได้สมใจแล้วนั่นแหละจึงมีแก่ใจหันไปให้ความสนใจแขกของบิดา พบว่าเป็นชายหนุ่มรุ่นพี่ตัวโตๆ ไม่ใช่คนวัยเดียวกับบิดา ก็ยิ้มตาหยีให้ทีหนึ่งก่อนหันหลังเดินแกมเต้นกลับออกประตูไปอย่างร่าเริง ทันได้ยินเสียงพูดห้าวๆ ตามหลัง

“น้องน่ารักนะครับ โตขึ้นคงจะสวยทีเดียว”

เด็กหญิง จอมสุรางค์ ธันยธร ไม่รอฟังบิดาจะตอบอย่างไร เพราะขณะนั้นใจลอยลิ่วไปถึงบ้านชานเมืองของคุณตาคุณยายล่วงหน้าแล้วเรียบร้อย

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY