“เธอแน่ใจหรือดาวว่าเธอท้องกับฉันไม่ใช่คนอื่น” ‘ดาว’ คือชื่อที่เขารู้จัก และเขาก็ไม่เคยพยายามจะถามหล่อนซอกแซก ไปกว่ายอมรับในชื่อที่หล่อนบอกเขา “แน่ใจค่ะ ดิฉัน...ดาวไม่มีใครอื่นนอกจากคุณ” เขาหัวเราะเสียงกระด้างอย่างไม่นึกขัน พูดเสียงบาดลึกหัวใจคนฟัง “ตลกไปหน่อยมั้งสาวน้อย มีอย่างหรือที่ผู้หญิงอาชีพอย่างเธอจะมีแค่ฉันคนเดียว จู่ๆ หล่อนก็เงยหน้าขึ้น มองสบตาเขาด้วยแววตาเอ่อไปด้วยหยาดน้ำใสๆ ที่เจ้าตัวคงพยายามจะไม่ให้ไหลรินออกมาสร้างความขายหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ “คุณเข้าใจผิดนะคะ” หล่อนตอบเสียงดังขึ้นคล้ายลืมตัว ก่อนรีบลดเสียงลงเท่าเดิม “ดาว... ดิฉัน ไม่ได้มีอาชีพอย่างที่คุณคิด” “ยิ่งแย่ไปใหญ่” อภิศรส่ายหน้า พยายามจะพูดกับสาวน้อยตรงหน้าเขาอย่างใจเย็น แต่น้ำเสียงยังออกกังวานหยันเยาะ “นี่แน่ะดาว เธอคงไม่ลืมใช่มั้ยว่าที่ฉันได้ตัวเธอไปนอนด้วยในคืนนั้น ก็เพราะเธอเป็น... เธอขายความสาวของเธอให้กับฉันมีคุณวิมลฉวีเป็นตัวกลางในการซื้อขายระหว่างเรา เธอคงไม่ลืมเธอได้เงินจากฉันขณะที่ฉันได้ความสุขจากเธอด้วยธุรกิจประเภทอย่างว่า” “ค่ะ” หล่อนรับ ปากสั่น แก้มซีดซับสีเรื่อ “ดิฉันมะ...ไม่เคยลืม เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่ดิฉันต้องบากหน้ายอมทนอายเพราะไม่มีทางเลือกดีไปกว่านั้นด้วยความจำเป็นบีบบังคับ” เขามองดวงตาสีน้ำตาลกลมโตนั้นแล้ว ก็คิดว่าหล่อนพูดจริง เกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องมาทำอาชีพที่ผู้หญิงดีๆ คงไม่คิดเฉียดกรายไปใกล้ถ้ามีทางเลือกอื่น “สามหมื่น” เขาบอกจำนวนเงินที่ต้องแลกกับความสุขที่ได้จากหล่อน “ไม่ถึงหรอกค่ะ คุณวิมลฉวีหักค่านายหน้าไปเจ็ดพันบาท” นัยน์ตาเข้มคมวาบขึ้นแล้วก่อนแสงเมื่อเกิดความเวทนาสายน้อยเบื้องหน้าจับใจ แต่แค่เวทนาจะเพียงหรือไม่ที่เขาจะต้องแต่งงานรับหล่อนเป็นเมียตามกฎหมาย
อภิศร ณัฐชาติ บอกตัวเองไม่ถูก ว่าเขากำลังรู้สึกเช่นไร ขณะทอดสายตาข้ามโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ไปยังร่างบอบบางของเด็กสาวที่อยู่หน้าโต๊ะ
หล่อนกำลังก้มหน้านิดๆ ปากอิ่ม แต่ออกจะซีดเซียวเม้มเข้าหากัน
เขามองไม่เห็นว่าหล่อนวางมือตัวเองในลักษณะไหนเพราะโต๊ะบังไว้มิด แต่เขาก็อยากจะคิดว่า หล่อนคงกำลังกำมือทั้งสองเข้าหากัน และบีบมันไว้แน่น
แววตาคมของเขาที่เคยมองข้ามหัวคนอย่าไม่ยี่หระในบางครั้ง บัดนี้น่าจะเต็มไปด้วยความมึนงง
เขาไม่เคยถูกใครทุบหัวมาก่อน แต่ก็อยากจะคิดว่าเวลาถูกทุบจังๆ ชนิดเอาพอน่วมๆ ไม่ให้ถึงเลือดตกยางออกอาการก็น่าจะเป็นอย่างที่เขาเป็นอยู่ในขณะนี้
ก็จะไม่ให้เขาทั้งมึนทั้งงงราวถูกทุบด้วยค้อนปอนด์หุ้มด้วยแผ่นยางหนานุ่มได้อย่างไร ในเมื่อเวลานี้ มีเด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่า หล่อนท้องกับเขา
อภิศรอยากจะพูดไปแรงๆ ทำนองว่าหล่อนโกหก แต่เขาก็พูดไม่ออก เพราะเขาจำหล่อนได้
“เด็กคนนี้มาใหม่จริงๆ นะคะคุณศร รับรองได้ยังสดซิง ถ้าไม่ซิงจริงนะคะดิฉันยินดีคืนเงินให้ทุกบาททุกสตางค์เลยค่ะ”
นั่นคือประโยคของเจ้าของร้านอาหารในตัวอำเภอ ที่อยู่ห่างไกลออกมาจากตัวจังหวัด เกือบร้อยกิโลเมตรที่มีธุรกิจอื่นแอบแฝง
อภิศรพอจะรู้จักเจ้าของร้านที่ชื่อคุณวิมลฉวี แต่เรียกกันสั้นๆ ว่า คุณมล มาแล้วหลายเดือน นับแต่เขามาประจำไซท์งานในป่าลึก
อภิศรไมได้เป็นลูกเจ้าของบริษัท ที่มาทำการขุดเจาะสำรวจหาแหล่งแร่ ที่มีรายงานเข้าไป แต่เขาคือตัวนายใหญ่เจ้าของบริษัทมีเขากับน้องชายร่วมหุ้นกันสองคน
เขาไม่จำเป็นที่จะต้องมาเองก็ได้ หากว่าเขาจะไม่กำลังเบื่อกรุงเทพเหลือกำลัง
ความเบื่อของเขา สืบเนื่องมาจาก วิฬารี มณีพิชัย
อภิศรละเรื่องงานของเขาที่ทำท่าว่าจะประสบผลสำเร็จกับการสำรวจพบปริมาณแร่ธาตุในดินแห่งใหม่ กับเรื่องวิฬารีไว้ก่อน เพื่อขบคิดปัญหาเฉพาะหน้าที่กำลังเกิดขั้นในขณะนี้
“เธอแน่ใจหรือดาวว่าเธอท้องกับฉันไม่ใช่คนอื่น”
เขาถามหล่อนครั้งที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้แล้ว ด้วยประโยคนี้นับแต่หล่อนเดินจ๋องๆ ผ่านประตูออฟฟิศตู้คอนเทรนเนอร์ของเขาเข้ามา ซึ่งเขาจำหล่อนได้แต่ทีแรก แม้ว่าร่างกายของหล่อนที่เคยเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลด้วยเลือดฝาดแห่งวัยสาวแรกผลิจะดูซูบเซียวและผอมบางลงไปจนผิดหูผิดตาก็ตามที
“แน่ใจค่ะ”
หล่อนตอบคำถามของเขาเช่นทุกครั้ง แผ่วเครือ แทบจะไม่พ้นริมฝีปาก
ดวงตาที่เขาเคยนึกชมในใจตั้งแต่คืนแรกที่ได้ใกล้ชิดหล่อนว่างามเหมือนตาลูกกวางระแวงภัย หลุบมองเฉพาะผิวใต้โต๊ะทำงานของเขา เลยได้เห็นเพียงแพขนตาดกหนา และยาวงอนสีดำสนิทเป็นตับ
“ทำไมเธอถึงแน่ใจอย่างนั้นนักหือ ดาว”
‘ดาว’ คือชื่อที่เขารู้จัก และเขาก็ไม่เคยพยายามจะถามหล่อนซอกแซก ไปกว่ายอมรับในชื่อที่หล่อนบอกเขา
“ดิฉัน...ดาวไม่มีใครอื่นนอกจากคุณ”
เขาหัวเราะเสียงกระด้างอย่างไม่นึกขัน พูดเสียงบาดลึกหัวใจคนฟัง
“ตลกไปหน่อยมั้งสาวน้อย มีอย่างหรือที่ผู้หญิงอาชีพอย่างเธอจะมีแค่ฉันคนเดียว
จู่ๆ หล่อนก็เงยหน้าขึ้น มองสบตาเขาด้วยแววตาเอ่อไปด้วยหยาดน้ำใสๆ ที่เจ้าตัวคงพยายามจะไม่ให้ไหลรินออกมาสร้างความขายหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่
“คุณเข้าใจผิดนะคะ”
หล่อนตอบเสียงดังขึ้นคล้ายลืมตัว ก่อนรีบลดเสียงลงเท่าเดิม
“ดาว... ดิฉัน ไม่ได้มีอาชีพอย่างที่คุณคิด”
“ยิ่งแย่ไปใหญ่”
อภิศรส่ายหน้า พยายามจะพูดกับสาวน้อยตรงหน้าเขาอย่างใจเย็น แต่น้ำเสียงยังออกกังวานหยันเยาะ
“นี่แน่ะดาว เธอคงไม่ลืมใช่มั้ยว่าที่ฉันได้ตัวเธอไปนอนด้วยในคืนนั้น ก็เพราะเธอเป็น... เธอขายความสาวของเธอให้กับฉันมีคุณวิมลฉวีเป็นตัวกลางในการซื้อขายระหว่างเรา เธอคงไม่ลืมเธอได้เงินจากฉันขณะที่ฉันได้ความสุขจากเธอด้วยธุรกิจประเภทอย่างว่า”
“ค่ะ”
หล่อนรับ ปากสั่น แก้มซีดซับสีเรื่อ
“ดิฉันมะ...ไม่เคยลืม เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่ดิฉันต้องบากหน้ายอมทนอายเพราะไม่มีทางเลือกดีไปกว่านั้นด้วยความจำเป็นบีบบังคับ”
เขามองดวงตาสีน้ำตาลกลมโตนั้นแล้ว ก็คิดว่าหล่อนพูดจริง เกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องมาทำอาชีพที่ผู้หญิงดีๆ คงไม่คิดเฉียดกรายไปใกล้ถ้ามีทางเลือกอื่น
“สามหมื่น”
เขาบอกจำนวนเงินที่ต้องแลกกับความสุขที่ได้จากหล่อน
“ไม่ถึงหรอกค่ะ คุณวิมลฉวีหักค่านายหน้าไปเจ็ดพันบาท”
นัยน์ตาเข้มคมวาบขึ้นแล้วก่อนแสงเมื่อเกิดความเวทนาสายน้อยเบื้องหน้าจับใจ
แต่แล้วเขาก็กลับมาสำนึกถึงความจริง ว่าคนที่เขากำลังนึกเวทนานี้ กำลังจะทำให้เขายุ่งยากก็หงุดหงิดขึ้นมาอีก ถอนใจออกมาหนักๆ เพื่อระงับอารมณ์