ประธานบริษัทที่ต้องการเลขาคนใหม่เข้ามาทำงานในสัญญาจ้าง 6 เดือน เมื่อคนเก่าต้องลาคลอด ทว่าโชคชะตากับนำพาอดีตคนรักเข้ามาอีกครั้งในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง
ประธานบริษัทที่ต้องการเลขาคนใหม่เข้ามาทำงานในสัญญาจ้าง 6 เดือน เมื่อคนเก่าต้องลาคลอด ทว่าโชคชะตากับนำพาอดีตคนรักเข้ามาอีกครั้งในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง
"อ่ะ อื้อออออ"
“….” ปากกาหล่นจากมือดังแป๊กไหลไปกับพื้น
“อ๊าาาาาส์” เสียงคำรามครางลอดประตูห้องทำงานออกมาด้านนอก คล้ายเป็นเสียงด้านในทำกิจกรรมบางอย่าง เลขาหน้าห้องท้องแก่สะดุ้ง ปากกาในมือหล่นเก็บแทบไม่ทันเมื่อได้ยินกระทบเข้ารูหูเป็นระดับผู้บริหาร นั่งตัวเกร็งเลิ่กลั่กทำอะไม่ถูกในยามที่ได้ยินเสียงส่อไปทางลามกเช่นนี้
"เอกสารฝาก coppy ได้แล้วครับคุณเลขา" เจษคนสนิทของชนินธรวางแฟ้มการประชุมหลายฉบับของบอร์ดผู้บริหารที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
"ขอบคุณค่ะ" อาการเลิ่กลั่กยิ้มมุมปากเล็กน้อยทำเจษสงสัย
"เป็นอะไรอ่ะเมย์"
"....."
“ปวดท้องคลอดเหรอ”
“ยัง” มองไปยังประตูสีทองเหลืองอร่ามติดป้ายชื่อผู้บริหาร ชนินธร นักขัตปรารถ แล้วเลิกคิ้วเล็กน้อยไปการเชื้อเชิญอีกคนให้มองตามไปยังต้นเสียง
อื้อออ อ๊าส์
"บอสอยู่ข้างในเหรอ" เจษเอ่ยถามด้วยสีหน้าตื่นเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ ลอดออกมาเป็นระยะ มองไปยังบานประตูที่ถูกปิดสนิทอย่างสงสัยว่าด้านในกำลังทำอะไร
"ใช่ บอสอยู่ในห้อง" กระซิบตอบ
"อย่าบอกนะว่าบอสอยู่กับ..."
อ๊าาาาาส์ แม่งงงงง!!!!
เมฑญาใช้ฝ่ามือตีหัวไหล่เจษดังตุบตับตื่นเต้นเมื่อได้ยินเสียงครางกระเส่าดังออกมาอีกครั้ง แม้จะไม่รู้ว่าที่จริงแล้วบอสทำอะรไอยู่ก็อดคิดไปแบบนั้นได้
"บอสกำลังทำ.."
"พี่เจษไม่เอาไม่พูด บอสมาได้ยินเมย์จะโดนไล่อออกตอนท้องแก่ไม่ได้" ส่งสัญญาณด้วยการยกนิ้วแนบริมฝีปากเป็นการบอกให้อีกฝ่ายหยุดพูด
สุดยอดเลยว่ะ อ๊าาาส์
ตาเบิกโพลงกลมเป็นลูกปิงปองในยามเสียงครางอื้ออ้าครั้งใหญ่ดังขึ้น คนด้านนอกทั้งสองยกมือกุมริมฝีปากด้วยความตกใจ ต่างคนก็ต่างคิดว่าเจ้านายต้องพาผู้หญิงเข้ามาทำเรื่องอย่างว่าเพราะเคยเห็นชนินธรควงมาห้องทำงานอยู่สองสามครั้ง
"บอสชนินสุดๆ เลยอ่ะ ในห้องทำงานก็ไม่เว้น"
"รอบก่อนมีคนตาดีเห็นบอสพาเด็กเข้าห้อง ตอนออกมาเหงื่อแตกเต็มตัวเลยพี่เจษ รอบนี้ก็คง.." กำลังจะเล่าเรื่องครั้งก่อนให้เจษฟัง
แกร๊ก!!!
"อึ้ม" เสียงกระแอมโทนทุ้มต่ำดังขึ้นพร้อมกับชะโงกหัวออกมาในสภาพเปลือยกายท่อนบนและเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่ออาบร่างกำยำเป็นลอนเนื้อแน่นเป็นลูกบ่งบอกว่าบอสหนุ่มดูแลตัวเองอย่างดีเพราะหลายปีก่อนค่อนข้างป่วยกระเสาะกระแสะจนต้องหันกลับมารักสุขภาพ จากที่สุ่มหัวก็ผละตัวออกคนละทางด้วยอาการลนลานแม้จะพยายามทำตัวเป็นปกติก้มหน้าก้มตาทำงานก็ไม่อาจหลอกตาชนินธรได้ว่ากำลังถูกลูกน้องพูดถึง ทว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย
"เจษ มึงไปเอาเกลือแร่ผสมน้ำมาให้กูด้วย" สั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงหอบ
"ท้องเสียหรือครับบอส"
"เปล่า กูเสียเหงื่อเยอะไปหน่อย"
"เห็นไหมพี่" เมฑญากระซิบเบาลอดไรฟัน ยืนยันว่าไม่ได้เข้าใจชนินธรผิดแน่ๆ
"เร็วๆ ไอ้เจษ" ยกดัมเบลหนักเกือบ 5 กิโล ออกมาโชว์ว่ากำลังออกกายในยามว่าง เมื่อเห็นเช่นนั้นทั้งเจษและเมฑญาก็ถอนหายใจอย่างโล่งออก บอสชนินแค่ออกกำลังกายดูแลสุขภาพ ส่วนเกลือแร่ที่ต้องการก็เป็นเกลือแร่สำหรับคนเสียเหงื่อสำหรับออกกำลังกายเท่านั้น
"ได้ครับบอส ผมจะรีบไปเอามาให้"
เจษวิ่งแจ้นลงชั้นล่างของบริษัทอย่างรวดเร็ว ปล่อยเมฑญายิ้มแห้งไม่กล้ามองตาสีคมกริบเมื่อครั้นคิดไปไกลถึงไหนต่อไหน
"เอกสารบนโต๊ะ รอไอ้เจษมันถือเข้ามา" บอกเลขาท้องแก่ อีกไม่นานเมฑญาก็จะลาคลอดฉะนั้นหลังจากนี้งานคั่งค้างต้องรีบเคลียร์และจัดการให้เสร็จภายใน 1 เดือนเมื่อมีคนมารับช่วงต่อจะได้ไม่เป็นปัญหาทั้งเลขาชั่วคราวคนใหม่และเจ้านายอย่างบอสชนิน
"ค่ะบอส"
ปิดประตูแล้วหยิบดัมเบลยกขึ้นยกลงบริหารหารกล้ามโตๆ อีกครั้ง ชนินธรเป็นผู้ชายคลั่งการออกกำลังเป็นนิสัย ว่างเมื่อไหร่ต้องให้ตัวเองได้เสียเหงื่อคล้ายเป็นยาชูกำลังความเป็นหนุ่ม แม้จะมีอายุเลยเลขสามไปหลายปียังดูเหมือนจะยี่สิบต้นๆ เพราะดูแลตัวเองอย่างดีมาตลอดหลายปี
Rrrrrrrr
“ค่ะแม่”
[เดือนที่สองแล้วนะตา ทำไมไม่ส่งเงินให้แม่กับน้อง]
ปลายสายคือสายรุ้งแม่ผู้เลี้ยงมานับสิบปี หลังจากพ่อเสียด้วยอุบัติเหตุทุกอย่างก็ดูแย่ลงไปหมด 2 ปีที่ผ่านตาหวานทำงานอย่างหนักเพื่อส่งให้ทางบ้านอีกทั้งน้องสาวคนเดียวกำลังจะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยยิ่งสอบติดคณะแพทย์ค่าใช้จ่ายยิ่งหนักไปอีก
“แม่รอก่อนสิ อีกตั้ง 10 วันจะสิ้นเดือน หนูเพิ่งได้งานทำ”
[อย่าโกหกฉันนะนังตา ถ้ารู้ว่าโกหกฉันจะขายที่พ่อแกให้หมด] ตาหวานกำลังถูกขู่อีกแล้วมรดกจากคุณตาที่มอบให้พ่อตอนนี้ตกอยู่ในมือของสายรุ้ง แล้วแบบนี้ตาหวานจะยอมได้ยังไง
“หนูไม่โกหก สิ้นเดือนนี้หนูจะโอนทบของเดือนที่แล้วเป็นสามหมื่น”
[แล้วค่าเทอมน้อง]
“อีกตั้งหลายเดือน แม่ใจเย็นๆ หน่อย”
[เออ สิ้นเดือนแกห้ามลืมนะนังตา]
“ไม่ลืม แค่นี้นะแม่หนูต้องกลับไปทำงานแล้ว” ตัดสายทิ้งแล้วหย่อนก้นนั่งลงโซฟาทว่าคือโซฟาในบ้าน ตาหวานยังไม่มีงานทำเหมือนที่บอกแม่ ไม่เชิงว่าโกหกแต่ไม่อยากให้น้องไม่สบายใจ ตุ๊กตุ่นน้องสาวต่างบิดาวัยสิบแปดที่กำลังจะก้าวเข้ารั้วมหาวิทยาลัยและสอบติดแพทย์มหาวิทยาลัยดังในประเทศไทย คิดมาแล้วได้แต่ถอนหายใจอีก 10 วันต้องส่งเงินทั้งบ้านทบสองเดือนเป็นเงินสามหมื่น
“เอาจากไหนล่ะยัยตาหวาน” คุยกับตัวเองไปสักพัก เปิดมือถือเปิดไลน์ไล่ดูประวัติการคุยไลน์ทักขอยืมเงินเพื่อนสนิทสองสามคนก็ไร้การตอบกลับ เพียงเท่านี้ก็รู้ได้เพื่อนที่คิดว่าจะช่วยเหลือกันในยามลำบากก็หนีหายและตีตัวห่างจะเหลือแค่เพียงพี่สาวคนสนิทอีกคนที่เคยเป็นพี่รหัสสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่ยังติดต่อกันมาตลอด แต่เมื่ออีกฝ่ายมีครอบครัวทั้งยังท้องแก่ใกล้คลอดค่าใช้ต่างๆ เตรียมเลี้ยงดูลูกคงต้องใช้มากเป็นผลที่ทำให้ตาหวานไม่อยากไปรบกวนอะไรพี่สาวคนนี้มาก
คนตัวบางเหมือนไร้หนทางออก สิ่งเดียวที่คงหวังได้คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตาหวานเดินไปยังห้องพระจุดธูปสามดอกตามความเชื่อคนไทยแล้วก้มกราบพระพุทธรูปองค์เก่าที่พ่อเคยให้ไว้ก่อนจะย้ายตัวเองมาหางานทำที่กรุงเทพ
“หลวงพ่อคะ หนูจนปัญญาจนหนทางจริงๆ น้องก็ต้องเรียนหนูก็ต้องใช้ต้องกิน ตอนนี้หนูเหลือเงินไม่ถึงหมื่น สิ้นเดือนนี้อีก บุญกุศลที่เคยทำมาหนุนนำให้หนูมีงานมีเงินช่วยให้หนูผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปได้ด้วยเถอะ” ยกมือท่วมหัวแล้วปักธูปลงกระถางไม่ถึง 1 นาทีข้อความไลน์ดังขึ้น
ยัยตา แกว่างงานใช่ไหม พี่มีงานให้แกทำ
ดวงตาเบิกกว้างในทันทีเมื่อเห็นข้อความโชว์บนหน้าจอคือพี่สาวคนสนิท ศักดิ์สิทธิ์จริงๆพระที่พ่อให้มาศักดิ์สิทธิ์จนเหลือเชื่อ
"คืนนั้นผมเป็นของพี่แล้ว คืนนี้พี่เป็นของผมได้ไหม" ภาคต่อรุ่นลูกของพ่อเลี้ยงปรเมศ ลูกชายคนเดียวที่ถูกส่งไปเรียนเมืองนอก เพื่อกลับมาสานต่องานที่ไร่ ความบังเอิญของปฐพีที่ทำให้พบกับพยาบาล เขาขอความช่วยเหลือเพราะจะถูกตามยิงกบาลเพราะดันไปยุ่งกับเมียชาวบ้านโดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าคนคุยมีผัว ทว่าได้วนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้นหญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาในไร่ภูมิดิน ทำหน้าที่เป็นพยาบาลส่วนตัวให้พ่อ ความบังเอิญที่ได้เจอ แต่ต่อจากนี้จะเป็นความตั้งใจ
เพราะคำว่าครอบครัวเคยสมบูรณ์ ปวีร์ในวัยเด็กรับไม่ได้เมื่อพ่อแม่แยกทางกันเพราะเหตุผลของผู้ใหญ่ กระทั่งพ่อมีภรรยาเลยโทษผู้หญิงของพ่อว่าเป็นมือที่สาม ความเกลียดชังถูกระบายออกมาทางการกระทำ เมื่อแม่เลี้ยงมีลูกติด เกิดสัมพันธ์ลับๆระหว่างเขากับเฌอเอมหญิงสาววัยยี่สิบสองปี เธอผู้มีโลกอันสดใส แค่ต้องทุกข์ระทมเพราะต้องทอดเรือนร่างให้ผู้ชายที่เธอเคยเคารพและรักมาก เมื่อแม่ของเธอก้าวเท้ามาเป็นแม่เลี้ยงของเขา บัดนั้นปวีร์ก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน
ธนานักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่แต่งงานกับภรรยาแต่ไม่สามารถมีลูกได้ด้วยเหตุผลหลายประการ กระทั่งตัดสินใจรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม แต่โชคชะตากลับพลัดพรากภรรยาที่อยู่กินกันมาหลายปีไปด้วยอุบัติหตุุ เป็นเหตุให้ธนาต้องเลี้ยงบุญธรรมมาโดยลำพัง จนเติบโตเป็นสาว เพราะความไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขมาตั้งแต่แรก ทำให้ความหวั่นไหวเกินขึ้นและเกินเลยจนเปลี่ยนสถานมาเป็นผัวเมีย
หิรัญ เศษตรศวรรษศิลา หนุ่มใหญ่วัย 49 ปี ผู้ประสบความสำเร็จทุกด้านทั้งเรื่องการงานการเงินอำนาจและบารมี แต่อาภัพเรื่องความรักแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้งก็ถูกนอกใจทั้ง 2 ครั้ง เมื่อเจ็บมาหลายครั้งหลายหนก็อยากจะปิดตายเรื่องหัวใจและมุ่งหน้าทำธุรกิจให้เป็นหนึ่งที่สุด ทว่าโชคชะตาก็พาให้เขามาเจอแม่หม้ายลูกติด ความรักเกิดจากความสงสารคำนี้มีอยู่จริง จนกระทั่งเปิดใจอีกครั้งแต่สุดท้ายประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอย
“ขอร้องอย่าทำ” จากจะอธิบายว่าทำไมถึงไม่ได้ขออนุญาตก็ต้องเปลี่ยนการขอร้องให้ปรเมศหยุดการกระทำตรงหน้า “ฉันไม่ชอบคนแหกกฎ โดยเฉพาะเด็กที่เกิดเมื่อวานอย่างเธอ” “หนูขะขอโทษ อ๊ะ"
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?
หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย
นิยายเรื่องนี้มีพระนาง2คู่ "อย่าหวังจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจับฉัน ผู้หญิงของฉันทุกคนก็สาวบริสุทธิ์ทั้งนั้นแล้วอย่าลืมคุมกำเนิด ถ้าไม่อยากทำแท้ง! เพราะฉันไม่มีทางมีทายาทกับผู้หญิงชั้นต่ำ" VS "อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ แม้แต่ตัวนายถ้าฉันต้องการ นายก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด