“ขอร้องอย่าทำ” จากจะอธิบายว่าทำไมถึงไม่ได้ขออนุญาตก็ต้องเปลี่ยนการขอร้องให้ปรเมศหยุดการกระทำตรงหน้า “ฉันไม่ชอบคนแหกกฎ โดยเฉพาะเด็กที่เกิดเมื่อวานอย่างเธอ” “หนูขะขอโทษ อ๊ะ"
“ขอร้องอย่าทำ” จากจะอธิบายว่าทำไมถึงไม่ได้ขออนุญาตก็ต้องเปลี่ยนการขอร้องให้ปรเมศหยุดการกระทำตรงหน้า “ฉันไม่ชอบคนแหกกฎ โดยเฉพาะเด็กที่เกิดเมื่อวานอย่างเธอ” “หนูขะขอโทษ อ๊ะ"
"ฉันทำไม่ได้"
"ทำไมถึงทำไม่ได้ พ่อเลี้ยงก็ทำให้มันจบๆ ไปก็สิ้นเรื่อง"
ร่างเปลือยไร้เสื้อผ้าอาภรณ์โวยวายกับคนตรงหน้า เธอยืนแก้ผ้าเพื่อให้ปรเมศได้ทำเรื่องอย่างว่า แต่อีกฝ่ายกับยืนตัวแข็งทื่อไม่มีอารมณ์ร่วมในครั้งนี้
"กานต์ขอร้อง กานต์เบื่อที่ต้องตอบคำถามพ่อๆ แม่ๆ ว่าทำไมยังไม่มีลูก"
"ไม่ต้องขอร้อง"
ปรเมศปฏิเสธกับเรื่องบนเตียง มันอาจจะเป็นความตายด้านไปแล้วก็ได้ เขาไม่เคยมีอารมณ์กับผู้หญิงไหนนอกจากแฟนเก่าที่เสียชีวิตไปเมื่อสิบปีที่แล้ว กานต์กนก ภรรยาคนปัจจุบันที่แต่งกันด้วยธุรกิจ ผู้ใหญ่ทั้งสองคลุมถุงชนในการแต่งงานครั้งนี้ ปรเมศเองไม่ได้มีใครมานับสิบปีและยินยอมแต่งงานกับกานต์กนกเพราะแม่ร้องขอเพื่อทำให้มันจบๆ ไปเพราะไม่อยากมีปัญหา แม้กานต์กนกจะมีใจให้ปรเมศอยู่บ้าง แต่ก็รู้ตัวว่าเป็นได้แค่ภรรยาในนาม ผู้เป็นสามีชัดเจนมาตลอดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอมันธุรกิจไม่ได้รักหรือรู้สึกลึกซึ้งอะไร แต่ทว่ากานต์กนกก็คิดเสมอว่าความดีของเธอจะทำให้สามีใจอ่อนเข้าสักวัน แต่มันก็นานร่วม 3 ปี ปรเมศยังเป็นคนใจแข็งเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือปากคอเลาะร้ายไม่เคยถนอมน้ำใจกันสักครั้ง
"พ่อเลี้ยงเราแต่งงานกันมา 3 ปีไม่เคยมีอะไรกัน"
"......."
"กานต์จืดซืดขนาดนั้นเลยเหรอ"
"......."
"รูปร่างหน้าตาของกานต์ มันกระตุ้นต่อมความเงี่ยนของพ่อเลี้ยงไม่ได้เลยเหรอ"
ปรเมศเบือนสายตาไปทางอื่น กานต์กนกกระทืบเท้ากระเพื่อมสั่นไหวไปทั้งร่าง ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนขี้เหร่หรือไม่มีความเซ็กซี่จนไม่เร้าใจแต่อย่างใด ชายหนุ่มยึดถือในใจเสมอจะไม่ทำอะไรผู้หญิงที่ไม่ได้รักและกานต์กนกคือหนึ่งในเงื่อนไขนั้น เขาไม่รักเธอมันก็ไม่แปลกที่ปรเมศจะไม่ยอมมีอะไรด้วย ต่อให้คนตรงหน้ายั่วยุจนความเป็นบุรุษเพศแข็งขึ้น เขาก็จะไม่ทำ
"พูดจาอะไรให้เกียรติตัวเองด้วย มันดีแค่ไหนที่ผมไม่ย่ำยีและถีบหัวส่ง อย่าทำให้ผมเหลืออดหรือต้องร้ายไปมากกว่านี้"
ปรเมศแค่นเสียงตามไรฟันกับพฤติกรรมของกานต์กนกที่ยัดเยียดตัวเองเกินงาม ทะเบียนสมรสเป็นแค่กระดาษใบเดียว กานต์กนกจะเป็นเจ้าชีวิตของเขาไม่ได้
"นะคะพ่อเลี้ยง ทำลูกให้กานต์เถอะ กานต์อายที่ทุกคนต่างรุมถาม" เข้ากอดปรเมศแน่น ใบหน้าซุกลำคอขบเม้มเป็นการยั่วเย็ดให้เกิดอารมณ์ มือน้อยๆ แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวลายสำหรับใส่ทำงานในไร่ของปรเมศ กลิ่นเหงื่อจากการตากแดดปะทะจมูกเป็นกลิ่นจางๆ ก็ไม่อาจต้านทานอารมณ์กำหนัดที่เกิดขึ้นของกานต์กนกได้ ในยามที่กระดุมหลุดทุกเม็ดแผงอก ก็ปรากฏหน้าอกหนาเป็นลอนๆ มีแต่กล้ามเนื้อ ขณะนี้มันล่อตาล่อใจหญิงตรงหน้าเป็นอย่างมาก กานต์กนกยกฝ่ามือน้อยๆ แนบแผงอกลูบวนไล่ ทั้งยังเขี่ยสะกิดยอดเม็ดสีน้ำตาลเข้มปรเมศเป็นการลากชายหนุ่มเข้าห้วงเสน่หา
"ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปจากห้องฉัน"
ผลักคนร่างเปลือยออกจากออกอ้อมกอดและจับกานต์กนกแต่งตัวราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ จากนั้นปรเมศก็ลากคนตัวเล็กกว่าออกจากห้อง เสียงร้องโวยวายดังลั่นทั่วบ้าน คนงานที่สนิทก็ต่างรู้ดีว่าทั้งคู่เป็นผัวเมียแค่ในนามเท่านั้น
"พ่อเลี้ยง" ตะคอกเสียงอย่างไม่พอใจ เขาทำกับเธออย่างไม่ใช่เมีย
"นี้เมีย" ชี้หน้าตัวให้ปรเมศหันมอง ว่าคนที่ยืนตรงนี้ตรงนี้คือเมียในสมรสถูกต้องตามกฎหมาย
"ก็ยังเห็นว่าเป็นเมีย ถึงไม่ทำอะไรต่ำๆ ไปมากกว่านี้ อย่าทำให้เหลืออดแค่กระดาษแผ่นเดียวมันไม่ได้มีค่ากับฉันขนาดนั้น"
ตอกกลับอย่างไม่แยแสความรู้อีกคน เลือกที่จะแต่งงานกับเขาตั้งแต่แรกก็ต้องรับให้ได้กับปากไม่มีหูรูดและความไม่ถนอมน้ำใจใคร ปรเมศเป็นคนตรงๆ ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบ ยกเว้นก็แต่จะมีบางสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าไม่สมควรจะพูดก็จะกลายเป็นคนอีกบุคลิก
"สะอาด"
"......"
"สะอาด!!!" เรียกคนขับรถประจำไร่ภูมิดินที่อยู่ด้านหน้าของบ้าน
"ครับพ่อเลี้ยง" คนขับรถวิ่งหน้าตื่น ในมือยังถือผ้าเช็ดรถกำลังทำความสะอาดและขัดเหงาหลังจากล้างคราบดินคราบโคลนเสร็จ
"ไปส่งคุณกานต์ที่บ้าน" พูดจบก็เดินย้อนกลับเข้าห้องทำงาน หย่อนกายลงเก้าอี้หนังสีดำเอนศีรษะผิงพนักแหงนใบหน้าขึ้นและพ่นลมหายใจออกปลายจมูกเฮือกใหญ่ เขาต้องเผชิญกับปัญหาโลกแตกปัญหาการอยากได้หลานสืบทอดสกุลให้ตระกูลภูมิดิน ทั้งยังต้องประสาทเสียกับอีกคนที่อยากเสียตัวให้เขาตลอดเวลา
มันยากมากที่จะต้องฝืนใจทำเรื่องอย่างว่ากับคนที่ไม่ได้รัก ปรเมศไม่ใช่ผู้ชายมักมาก ไม่ค่อยสนใจเรื่องประเภทนี้สักเท่าไหร่วันๆ ตั้งหน้าตั้งตาเข้าไร่เข้าสวนธุรกิจที่สานต่อจากคุณปู่
ไร่ภูมิดินทำเกษตรเกี่ยวกับผักผลไม้เป็นหลัก ปลูกพืชออร์แกนิคสลับการปลูกตามธรรมชาติ รูปแฟนเก่ายังคงตั้งไว้บนโต๊ะทำงานไม่เคยอยากมันออกไปไหนและทุกคนก็รู้ว่าผู้หญิงนี้คือรักแรกและรักเดียวของปรเมศที่มี
"ผมคิดถึงคุณ" มือหนาสัมผัสเข้าที่กรอบรูป ใช้หัวแม่มือลูบใบหน้าบนกรอบรูป ปรเมศส่งยิ้มให้กับคนในกระดาษแผ่นเล็กด้วยความคิดถึง สิบปีที่ห่างกันไปความรู้สึกไม่เคยลดน้อยลง
ตกดึก
ปรเมศลืมตาขึ้นหลังจากหลับพักสายตาไปชั่วครู่ แสงที่สว่างจ้าจากโคมไฟดวงสวยดับลงเหลือเพียงความมืดอย่างแปลกประหลาด บรรยากาศในเงียบเป็นปกติอย่างเช่นทุกวันไม่ลมฟ้าลมฝนที่จะทำให้ไฟฟ้าดับลงได้
"ไฟดับ"
แต่เปล่าเลย ไฟในห้องกลับติดๆ ดับๆ ราวกับมีคนมาเปิดปิดสวิชไฟเล่น ปรเมศเหยียดกายลุกจากเก้าเปิดประตูออกมาด้านนอก ในขณะที่เดินสำรวจไฟในบ้านก็พลันเห็นเงาสีดำเปิดประตูหน้าบ้านออกไป ตอนนี้เขากำลังคิดว่าอาจเป็นขโมย ผลผลิตในไร่เริ่มออกอาจจะเป็นไปได้ว่าต้องมีโจรเข้ามาขโมยของ
ชายหนุ่มรีบย้ำเท้ากึ่งวิ่งกึ่งเดินตามเงาตะคุ่มให้ทันออกมาด้านหลังและหวังจะจับส่งตำรวจให้ได้หากเป็นโจรจริงๆ
"หยุด" เข้าประชิดร่างปริศนาห่างกันไม่กี่คืบ ก็ตกใจเมื่อร่างนั้นหันมาปรากฏเป็นใบหน้าอดีตคนรักที่เสียชีวิตไปแล้ว
"มินตรา" ไม่ได้ตกใจกลัวแต่อย่างใดกลับดีใจด้วยซ้ำที่ได้เจอเธออีกครั้ง นานมากที่ไม่เจอมินตราแม้กระทั่งในความฝัน คนตรงหน้าส่งยิ้มให้ปรเมศอย่างสดใสอย่างที่ไม่เคยเห็นกับรอยยิ้มแบบนี้
"คุณมาหาผม"
"......" ไม่มีเสียงตอบกลับ มีแต่รอยยิ้มในมุมปากที่ส่งให้ปรเมศเรื่อยๆ มินตรายังคงเหมือนเดิมยิ้มสวยไม่มีที่ติแม้ไม่ได้เจอกันนานนับสิบปี
"ผมคิดถึง"
เดินเข้าใกล้มินตรา สองแขนอ้าเตรียมสวมกอดคนที่คิดถึง เพียงแต่โอบร่างคนรักแทนที่จะได้กอดรัดตัวเธอแต่กลายเป็นการสวมกอดตัวเอง มินตราหายไปต่อหน้าตาต่อปรเมศอย่างเหลือเชื่อ
"มิน มิน!!" ตะโกนเรียกสุดเสียง พลางกวาดสายตามองหาหมุนตัวเป็นรอบ 360 องศา ไปแล้ว!! มินตราหายไปจากปรเมศอีกครั้ง
"มิน!!!!"
เฮือก!! สะดุ้งตื่นกลางดึก ปรเมศยังนั่งบนเก้าอี้ทำงาน เขาเผลอหลับไปตั้งแต่นอนไหนก็ไม่รู้ มีเพียงแฟ้มออเดอร์จากลูกค้าสั่งผลผลิตในไร่กางไว้บนโต๊ะ เมื่อกี้เขาแค่ฝัน ฝันถึงคนรักที่จากไปนานแสนนาน เป็นครั้งแรกตั้งแต่มินตราจากไปแล้วเก็บมาฝันเพราะความคิดถึงสุดหัวใจ
เหงื่อซึมตามกรอบหน้า ปรเมศยกหลังมือปาดเช็ดมันออก จากนั้นเก็บแฟ้มต่างๆ ที่กองอยู่ตรงหน้าให้เป็นระเบียบ ก่อนจะปิดไฟและล็อคประตูห้องทำงานไม่ให้ใครเข้ามาโดยพลการแล้วเดินขึ้นห้องนอนในเวลาเที่ยงคืน
"คืนนั้นผมเป็นของพี่แล้ว คืนนี้พี่เป็นของผมได้ไหม" ภาคต่อรุ่นลูกของพ่อเลี้ยงปรเมศ ลูกชายคนเดียวที่ถูกส่งไปเรียนเมืองนอก เพื่อกลับมาสานต่องานที่ไร่ ความบังเอิญของปฐพีที่ทำให้พบกับพยาบาล เขาขอความช่วยเหลือเพราะจะถูกตามยิงกบาลเพราะดันไปยุ่งกับเมียชาวบ้านโดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าคนคุยมีผัว ทว่าได้วนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ครั้นหญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาในไร่ภูมิดิน ทำหน้าที่เป็นพยาบาลส่วนตัวให้พ่อ ความบังเอิญที่ได้เจอ แต่ต่อจากนี้จะเป็นความตั้งใจ
เพราะคำว่าครอบครัวเคยสมบูรณ์ ปวีร์ในวัยเด็กรับไม่ได้เมื่อพ่อแม่แยกทางกันเพราะเหตุผลของผู้ใหญ่ กระทั่งพ่อมีภรรยาเลยโทษผู้หญิงของพ่อว่าเป็นมือที่สาม ความเกลียดชังถูกระบายออกมาทางการกระทำ เมื่อแม่เลี้ยงมีลูกติด เกิดสัมพันธ์ลับๆระหว่างเขากับเฌอเอมหญิงสาววัยยี่สิบสองปี เธอผู้มีโลกอันสดใส แค่ต้องทุกข์ระทมเพราะต้องทอดเรือนร่างให้ผู้ชายที่เธอเคยเคารพและรักมาก เมื่อแม่ของเธอก้าวเท้ามาเป็นแม่เลี้ยงของเขา บัดนั้นปวีร์ก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคน
ธนานักธุรกิจหนุ่มใหญ่ที่แต่งงานกับภรรยาแต่ไม่สามารถมีลูกได้ด้วยเหตุผลหลายประการ กระทั่งตัดสินใจรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม แต่โชคชะตากลับพลัดพรากภรรยาที่อยู่กินกันมาหลายปีไปด้วยอุบัติหตุุ เป็นเหตุให้ธนาต้องเลี้ยงบุญธรรมมาโดยลำพัง จนเติบโตเป็นสาว เพราะความไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขมาตั้งแต่แรก ทำให้ความหวั่นไหวเกินขึ้นและเกินเลยจนเปลี่ยนสถานมาเป็นผัวเมีย
หิรัญ เศษตรศวรรษศิลา หนุ่มใหญ่วัย 49 ปี ผู้ประสบความสำเร็จทุกด้านทั้งเรื่องการงานการเงินอำนาจและบารมี แต่อาภัพเรื่องความรักแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้งก็ถูกนอกใจทั้ง 2 ครั้ง เมื่อเจ็บมาหลายครั้งหลายหนก็อยากจะปิดตายเรื่องหัวใจและมุ่งหน้าทำธุรกิจให้เป็นหนึ่งที่สุด ทว่าโชคชะตาก็พาให้เขามาเจอแม่หม้ายลูกติด ความรักเกิดจากความสงสารคำนี้มีอยู่จริง จนกระทั่งเปิดใจอีกครั้งแต่สุดท้ายประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอย
ประธานบริษัทที่ต้องการเลขาคนใหม่เข้ามาทำงานในสัญญาจ้าง 6 เดือน เมื่อคนเก่าต้องลาคลอด ทว่าโชคชะตากับนำพาอดีตคนรักเข้ามาอีกครั้งในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป
© 2018-now MeghaBook
บนสุด