มาเฟียหนุ่มคลั่งรัก หลงรักเพื่อนของแฟนเพื่อนจนยากจะถอนตัว ตอนแรกก็เจียมตัวดี แค่ได้ชอบเธอก็พอแล้ว เธอมันนางฟ้าเขามันซาตาน แต่ดันตกกระไดพลอยโจรไปกับแผนการจับคู่ของเพื่อน จากที่ไม่เคยคิดจะครอบครอง กลับกลายเป็นต้องแย่งมา ...
มาเฟียหนุ่มคลั่งรัก หลงรักเพื่อนของแฟนเพื่อนจนยากจะถอนตัว ตอนแรกก็เจียมตัวดี แค่ได้ชอบเธอก็พอแล้ว เธอมันนางฟ้าเขามันซาตาน แต่ดันตกกระไดพลอยโจรไปกับแผนการจับคู่ของเพื่อน จากที่ไม่เคยคิดจะครอบครอง กลับกลายเป็นต้องแย่งมา ...
จ๊วบ~
"อ๊าาา~ นิ้งครับพี่จะไม่ไหว"
มือหนาลูบที่กลุ่มผมดำของหญิงสาวที่กำลังนั่งลงตรงกลางหว่างขาของมาเฟียหนุ่ม
มือเรียวกำรอบแก่นกายใหญ่รูดมันเข้าออกอย่างช้าๆ
เรียวลิ้นเล็กตวัดทักทายหัวเห็ดปลายบานของไทเลอจนเปียกชุ่มไปด้วยคราบน้ำลายใส
"ซี๊ดดดดด~ ขะ ... ขอแตกใส่ปากนะครับ"
ไทเลอจับศีรษะของคนตัวเล็กเอาไว้มั่นก่อนจะเป็นฝ่ายขยับสะโพกเข้าออกเริ่มจากจังหวะเนิบนาบลามไปจนถึงหนักหน่วง หญิงสาวจับต้นขาของเขาแน่นจิกเล็บลงบนต้นขาแกร่งจนเกิดรอยแดง แต่ในจังหวะนี้ไทเลอไม่สนใจอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว
สะโพกหนาเริ่มกระแทกกระทุ้งในโพรงปากบางด้วยจังหวะระรัวไทเลอเชิดหน้าอยากจะปลดปล่อยเต็มที่ เขาจับศีรษะของคนตัวเล็กขยับโยกไปตามแรงอารมณ์ปรารถนาก่อนจะปลดปล่อยห้วงอารมณ์แห่งความหฤหรรษ์ออกมาให้เธอได้กลืนกิน
"อะ ... อ๊าาา! นิ้งงงง ช่วยกลืนให้พี่หน่อยครับ อ่าาา!"
ครืด~ ครืด~ ครืด~
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นข้างๆ มาเฟียหนุ่มที่เพิ่งจะปลดปล่อยห้วงอารมณ์แห่งความหฤหรรษ์ออกมา มือหนาควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองก่อนจะกดรับสายโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าใครเป็นคนโทรเข้ามาขัดจังหวะความสุขของตัวเอง
"ฮัลโหล"
น้ำเสียงยานคางถูกปล่อยออกจากปากของมาเฟียหนุ่มที่เป็นผู้กดรับสายเรียกเข้าเมื่อครู่ ก่อนที่เสียงปลายสายจะตอบกลับมาทำเอาไทเลอต้องรีบดีดตัวลุกขึ้นในทันที
"ไอ้ไทค์มึงยังไม่ถึงโกดังอีกเหรอวะ ลูกค้าจะมาถึงในอีกสามชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว มึงจะไม่มาเช็กของหน่อยเหรอ"
"เฮนรี่เหรอ"
"เออ กูเองมึงจะนอนตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้เลยรึไง นี่มึงนอนหรือซ้อมตายกูถามจริง"
"เออๆ เดี๋ยวกูไป"
ไทเลอกดวางสายก่อนจะก้มหน้ามองดูที่เป้ากางเกงของตัวเอง เขาฝันเปียกอีกแล้ว ตั้งแต่กลับมาจากห้างที่ถูกออสตินกับเจสสิก้าฝากให้ดูแลน้องจีน่าวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอกับคะนิ้งอีกเลยได้แต่ตามติดชีวิตเธอผ่านไอจีเพียงเท่านั้น
กลิ่นหอมของเธอยังคงตราตรึงติดใจ ผิวเนียนนุ่มของเธอยังคงทำให้เขาคะนึงหา น้ำเสียงหวานใสดังระฆังแก้วของเธอยังทำให้เขาอยากได้ยินทุกๆ ครั้ง หากได้ยินเสียงเธอมาครางข้างๆ เขาเหมือนอย่างที่เขาฝันถึงเป็นประจำมันก็คงจะดีไม่น้อย
ไทเลอก้มหน้าใช้สองมือหนาปิดหน้าของตัวเองก่อนก้มมองความเปียกแฉะจากผลกระทบที่เขามัวแต่เฝ้าฝันถึงเธออยู่ร่ำไปจนไม่อาจจะห้ามใจไว้ได้ แต่ก็ต้องคอยหักห้ามหัวใจของตัวเองเอาไว้เธอมันสายขาว เขามันสายดำ เขาเป็นซาตานส่วนเธอคือนางฟ้าที่แสนน่ารักน่าทะนุถนอม
"พอๆๆ กูจะต้องเลิกฝันเปียกให้ได้"
เห้อ! พูดแล้วก็เครียดโตขนาดนี้ยังฝันเปียกอยู่อีกมีลูกก็อายลูกมีหลานก็อายหลานไม่อยากจะคิดเลยว่าหากได้เจอหน้าเธออีกครั้งเขาจะเป็นยังไง นี่ขนาดแค่เจอตัวจริงเพียงไม่กี่ครั้ง นี่แค่ขนาดตามติดชีวิตเธออยู่ห่างๆ เขายังเก็บเอาเธอมาฝันได้ขนาดนี้
ขณะที่ไทเลอกำลังขับรถมุ่งหน้าไปที่โกดังเก็บของเถื่อนแถวคลองเตยเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาไถหน้าจอกดเข้าไปที่โพรไฟล์ของคะนิ้งที่เขามักจะทำเป็นประจำ
"ทำไมวันนี้มาแถวนี้ มากับใครวะ"
เมื่อภาพในโซเชียลบ่งบอกว่าหญิงสาวอยู่ร้านกาแฟแถวๆ คลองเตยไทเลอก็รีบหมุนพวงมาลัยมุ่งหน้าไปที่สถานที่ที่เธอไปวันนี้ เขามักจะทำแบบนี้เป็นประจำเฝ้าคอยตามดูเธออยู่ห่างๆ หากใครรู้เข้าก็คงคิดว่าเขาเป็นโรคจิตไปแล้วแน่ๆ
"มากับใครวะ"
ชายหนุ่มที่ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปนั่งในร้านกาแฟร้านเดียวกันโดยเว้นระยะห่างเพียงสองสามโต๊ะไทเลอก้มหน้ามองดูนาฬิกาข้อมือของตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วจนชนกัน
"มากินกาแฟตอนหกโมงเย็นเนี่ยนะ"
มาเฟียหนุ่มเคาะนิ้วไปที่โต๊ะเบาๆ อย่างไม่แรงมากนัก เขามักจะจ้องมองเธออยู่อย่างนี้เป็นประจำ ตามเธอไปทุกที่ราวกับเป็นแฟนคลับของเธอทุกครั้ง เวลาที่เขาว่างเขามักจะทำอย่างนี้ไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อย เพียงเพราะการจับคู่ของออสตินกับเจสสิก้าวันนั้นมันทำให้เขาแทบคลั่งเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ เธอ
"ฉิบหาย!"
จะไม่ฉิบหายได้ยังไงในเมื่อคะนิ้งมองมาเจอเขาแล้วส่งยิ้มหวานมาให้เขา ให้ตายเถอะจะละลายแล้วโว้ย อย่ายิ้มได้ไหมวะ ไม่อยากจะคิดเลยถ้าคะนิ้งรู้ว่าเขาเอาเธอมาฝันเปียกเป็นเดือนๆ เธอจะเข้าใจหรือรังเกียจเขาไหม
ตึก ตึก ตึก ตึก
ไม่ใช่เสียงหัวใจ แต่เป็นเสียงรองเท้าผ้าใบสีขาวที่คะนิ้งใส่อยู่เดินตรงมาทางเขา วันนี้เธอใส่กางเกงยีนขาสั้นอวดต้นขาขาวอวบกับเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนนิดหน่อย ข้างในใส่เป็นเสื้อสายเดี่ยว ให้ตายเถอะอยากจะจับตีก้นนักทำไมต้องแต่งตัวโชว์นั่นโชว์นี่ด้วยวะ
"ใช่พี่ไทค์รึเปล่าคะ พี่จำนิ้งได้ไหมคะเพื่อนของเจสซี่"
คะนิ้งเดินตรงมาทักทายเขาตามมารยาทเธอย่อตัวลงเล็กน้อยแล้วทักทายเขาทำเอาคนที่จินตนาการไปถึงไหนต่อไหนทำตัวไม่ถูกได้แต่กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ หัวใจแกร่งมันเต้นแรงราวกับมีคนมาตีกลองชุดอยู่ในหัวใจของเขา
"เอ่อ ... พี่มาคนเดียวเหรอคะ มาทำอะไรแถวนี้"
"น้องนิ้ง พะ ... พะ คะ .. คือ พะ .. พี่มารอเพื่อนน่ะครับ"
ทักทายประโยคแรกเขาก็สอบตกแล้ว ติดอ่างเฉยแค่คนสวยเดินมาคุยด้วยแค่นั้นเองไอ้ไทค์มึงต้องใจเย็นเอาไว้นะเว้ย มึงอย่าประหม่า อาการประหม่าของมึงจะทำให้เขารู้ว่ามึงคลั่งเขามากแค่ไหน
"มารอเพื่อนเหรอคะ ดีเลยนิ้งก็รอเจสซี่อยู่เหมือนกันค่ะ"
"เอ่อ ครับ"
"พี่ไทค์เป็นคนไม่ค่อยพูดแบบนี้อยู่แล้วเหรอคะวันนั้นที่เราไปด้วยกันพี่ก็ไม่ค่อยพูดนิ้งแค่สงสัยน่ะค่ะอย่าถือสาเลยนะ"
'พี่พูดไม่ค่อยเก่ง แต่พี่ทำอย่างอื่นเก่งมากครับ อยากให้น้องนิ้งมาลองกับพี่นะครับรับรองความหรรษา'
อยากตอบไปแบบนี้ฉิบหายแต่ทำไม่ได้ต้องคีพลุคเอาไว้ เผื่อแห้วจะได้ไม่อายมาก โถ่แม่คุณจะรู้ไหมว่าตอนนี้เขาเกร็จจนฉี่เหนียวไปหมดแล้วยังจะชวนคุยเก่งจริงๆ เลย
"ครับ พี่ไม่ค่อยพูดแล้วน้องนิ้งสบายดีนะครับ"
"นิ้งสบายดีค่ะพี่ไทค์ ว่าแต่พี่ไทค์ดูผอมไปไหมคะเนี่ย"
"พี่ทำงานหนักน่ะครับ แล้วนี่สั่งอะไรหรือยังสั่งได้เลยนะเดี๋ยวพี่จ่ายให้"
คะนิ้งส่งยิ้มหวานมาให้เธอยกสองมือขึ้นกระพุ่มไหว้ขอบคุณไทเลอที่แสดงความมีน้ำใจ ไทเลอก็ยกมือขึ้นรับไหว้เธอตามธรรมเนียมไทย แม้เขาจะไม่ใช่คนไทยแต่ก็พอจะรู้ธรรมเนียมนี้อยู่บ้างติดแค่ว่าเขาไม่ใช่คนไทยฉะนั้นคนไม่รู้ทำอะไรก็ไม่ผิดใช่ไหม ...
"เอ่อ พี่ไทค์คะปล่อยมือนิ้งได้แล้วค่ะ"
❤ โปรเจกต์สุดฮอตต้อนรับวาเลนไทน์ Match Love Valentines ❤ เรื่องราวของสาวขี้เหงาทั้งสี่คนที่เกิดอาการ เปลี่ยวใจอยากมีใครสักคน เลยต้องเข้าแอปหาคู่อย่าง MATCH LOVE เพื่อตามหาคู่เดตที่มาทำให้วาเลนไทน์ของพวกเธอ ไม่ต้องเหงาใจอีกต่อไป และแอปนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแมตช์รักของพวกเธอ...แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังจากแอปหาคู่สักหน่อย? ไปลุ้นกันว่าแอปนี้จะช่วยให้พวกเธอสละโสดได้ไหม...!!!!
นิยายเรื่องนี้มีพระนาง2คู่ "อย่าหวังจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจับฉัน ผู้หญิงของฉันทุกคนก็สาวบริสุทธิ์ทั้งนั้นแล้วอย่าลืมคุมกำเนิด ถ้าไม่อยากทำแท้ง! เพราะฉันไม่มีทางมีทายาทกับผู้หญิงชั้นต่ำ" VS "อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ แม้แต่ตัวนายถ้าฉันต้องการ นายก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
เพราะว่า...การช่วยตัวเอง...ในที่ทำงานมันผิด!! “โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณได้” นี่จึงเป็นบทลงโทษที่เธอต้องรับมันไป...โทษฐานที่ทำให้ท่านประธานอย่างเขาจับได้...!!
-- ในศตวรรษที่ 26 ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ กลายเป็นลูกเลี้ยงที่ไร้ค่าของตระกูลผู้มีชื่อเสียง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง โลกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ย่ำยีชายทรยศ ข่มเหงหญิงเลว จัดการกับพวกที่ทำให้ชีวิตติดขัด เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามใจปรารถนา ควบคุมเทพสัตว์นับพัน ถลุงยาวิเศษ วางข่ายศักดิ์สิทธิ์ วาดยันต์ผี ทุกอย่างนางทำได้อย่างชำนาญ อยู่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งห้าภพ โลกนี้นางครอบครอง ไม่สามารถบำเพ็ญตบะงั้นหรือ แต่นางเป็นผู้ครอบครองพลังครบทุกธาตุ ไม่มีคุณสมบัติมากพอบำเพ็ญลัทธิหรือ นางนอกจากบำเพ็ญลัทธิอสูรลัทธิเทพลัทธิวิญญาณลัทธิมารทั้งสีแล้ว ยังสร้างลัทธิภูตผีอีกด้วย ไร้ค่า ไม่มีความสามารถงั้นหรือ นางคือราชาผี ที่สืบทอดพลังหยินขั้นสูง แค่กระดิกนิ้ว พญาวิญญาณแค้นนับหมื่นก็พรั่งพรูมาปรนนิบัติ เพียงแต่ว่าจักรพรรดิผู้ลึกลับที่ตามตื้อนางนั้น มันคือยังไงกัน เฝิงอี้ "เพิ่งเจอหน้ากันก็ถอดเสื้อข้า เช่นนั้นเราสู้กันบนเตียงอีกรอบดีหรือไม่" เย่วเฉิงเฟิงยิ้มยั่ว "ผู้ชายมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของข้า ท่านจักรพรรดิ ท่านเดินทางดีๆ ลาก่อนนะ"
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด