มาเฟียหนุ่มคลั่งรัก หลงรักเพื่อนของแฟนเพื่อนจนยากจะถอนตัว ตอนแรกก็เจียมตัวดี แค่ได้ชอบเธอก็พอแล้ว เธอมันนางฟ้าเขามันซาตาน แต่ดันตกกระไดพลอยโจรไปกับแผนการจับคู่ของเพื่อน จากที่ไม่เคยคิดจะครอบครอง กลับกลายเป็นต้องแย่งมา ...
มาเฟียหนุ่มคลั่งรัก หลงรักเพื่อนของแฟนเพื่อนจนยากจะถอนตัว ตอนแรกก็เจียมตัวดี แค่ได้ชอบเธอก็พอแล้ว เธอมันนางฟ้าเขามันซาตาน แต่ดันตกกระไดพลอยโจรไปกับแผนการจับคู่ของเพื่อน จากที่ไม่เคยคิดจะครอบครอง กลับกลายเป็นต้องแย่งมา ...
จ๊วบ~
"อ๊าาา~ นิ้งครับพี่จะไม่ไหว"
มือหนาลูบที่กลุ่มผมดำของหญิงสาวที่กำลังนั่งลงตรงกลางหว่างขาของมาเฟียหนุ่ม
มือเรียวกำรอบแก่นกายใหญ่รูดมันเข้าออกอย่างช้าๆ
เรียวลิ้นเล็กตวัดทักทายหัวเห็ดปลายบานของไทเลอจนเปียกชุ่มไปด้วยคราบน้ำลายใส
"ซี๊ดดดดด~ ขะ ... ขอแตกใส่ปากนะครับ"
ไทเลอจับศีรษะของคนตัวเล็กเอาไว้มั่นก่อนจะเป็นฝ่ายขยับสะโพกเข้าออกเริ่มจากจังหวะเนิบนาบลามไปจนถึงหนักหน่วง หญิงสาวจับต้นขาของเขาแน่นจิกเล็บลงบนต้นขาแกร่งจนเกิดรอยแดง แต่ในจังหวะนี้ไทเลอไม่สนใจอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว
สะโพกหนาเริ่มกระแทกกระทุ้งในโพรงปากบางด้วยจังหวะระรัวไทเลอเชิดหน้าอยากจะปลดปล่อยเต็มที่ เขาจับศีรษะของคนตัวเล็กขยับโยกไปตามแรงอารมณ์ปรารถนาก่อนจะปลดปล่อยห้วงอารมณ์แห่งความหฤหรรษ์ออกมาให้เธอได้กลืนกิน
"อะ ... อ๊าาา! นิ้งงงง ช่วยกลืนให้พี่หน่อยครับ อ่าาา!"
ครืด~ ครืด~ ครืด~
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นข้างๆ มาเฟียหนุ่มที่เพิ่งจะปลดปล่อยห้วงอารมณ์แห่งความหฤหรรษ์ออกมา มือหนาควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองก่อนจะกดรับสายโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่าใครเป็นคนโทรเข้ามาขัดจังหวะความสุขของตัวเอง
"ฮัลโหล"
น้ำเสียงยานคางถูกปล่อยออกจากปากของมาเฟียหนุ่มที่เป็นผู้กดรับสายเรียกเข้าเมื่อครู่ ก่อนที่เสียงปลายสายจะตอบกลับมาทำเอาไทเลอต้องรีบดีดตัวลุกขึ้นในทันที
"ไอ้ไทค์มึงยังไม่ถึงโกดังอีกเหรอวะ ลูกค้าจะมาถึงในอีกสามชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว มึงจะไม่มาเช็กของหน่อยเหรอ"
"เฮนรี่เหรอ"
"เออ กูเองมึงจะนอนตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้เลยรึไง นี่มึงนอนหรือซ้อมตายกูถามจริง"
"เออๆ เดี๋ยวกูไป"
ไทเลอกดวางสายก่อนจะก้มหน้ามองดูที่เป้ากางเกงของตัวเอง เขาฝันเปียกอีกแล้ว ตั้งแต่กลับมาจากห้างที่ถูกออสตินกับเจสสิก้าฝากให้ดูแลน้องจีน่าวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอกับคะนิ้งอีกเลยได้แต่ตามติดชีวิตเธอผ่านไอจีเพียงเท่านั้น
กลิ่นหอมของเธอยังคงตราตรึงติดใจ ผิวเนียนนุ่มของเธอยังคงทำให้เขาคะนึงหา น้ำเสียงหวานใสดังระฆังแก้วของเธอยังทำให้เขาอยากได้ยินทุกๆ ครั้ง หากได้ยินเสียงเธอมาครางข้างๆ เขาเหมือนอย่างที่เขาฝันถึงเป็นประจำมันก็คงจะดีไม่น้อย
ไทเลอก้มหน้าใช้สองมือหนาปิดหน้าของตัวเองก่อนก้มมองความเปียกแฉะจากผลกระทบที่เขามัวแต่เฝ้าฝันถึงเธออยู่ร่ำไปจนไม่อาจจะห้ามใจไว้ได้ แต่ก็ต้องคอยหักห้ามหัวใจของตัวเองเอาไว้เธอมันสายขาว เขามันสายดำ เขาเป็นซาตานส่วนเธอคือนางฟ้าที่แสนน่ารักน่าทะนุถนอม
"พอๆๆ กูจะต้องเลิกฝันเปียกให้ได้"
เห้อ! พูดแล้วก็เครียดโตขนาดนี้ยังฝันเปียกอยู่อีกมีลูกก็อายลูกมีหลานก็อายหลานไม่อยากจะคิดเลยว่าหากได้เจอหน้าเธออีกครั้งเขาจะเป็นยังไง นี่ขนาดแค่เจอตัวจริงเพียงไม่กี่ครั้ง นี่แค่ขนาดตามติดชีวิตเธออยู่ห่างๆ เขายังเก็บเอาเธอมาฝันได้ขนาดนี้
ขณะที่ไทเลอกำลังขับรถมุ่งหน้าไปที่โกดังเก็บของเถื่อนแถวคลองเตยเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาไถหน้าจอกดเข้าไปที่โพรไฟล์ของคะนิ้งที่เขามักจะทำเป็นประจำ
"ทำไมวันนี้มาแถวนี้ มากับใครวะ"
เมื่อภาพในโซเชียลบ่งบอกว่าหญิงสาวอยู่ร้านกาแฟแถวๆ คลองเตยไทเลอก็รีบหมุนพวงมาลัยมุ่งหน้าไปที่สถานที่ที่เธอไปวันนี้ เขามักจะทำแบบนี้เป็นประจำเฝ้าคอยตามดูเธออยู่ห่างๆ หากใครรู้เข้าก็คงคิดว่าเขาเป็นโรคจิตไปแล้วแน่ๆ
"มากับใครวะ"
ชายหนุ่มที่ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปนั่งในร้านกาแฟร้านเดียวกันโดยเว้นระยะห่างเพียงสองสามโต๊ะไทเลอก้มหน้ามองดูนาฬิกาข้อมือของตัวเองก่อนจะขมวดคิ้วจนชนกัน
"มากินกาแฟตอนหกโมงเย็นเนี่ยนะ"
มาเฟียหนุ่มเคาะนิ้วไปที่โต๊ะเบาๆ อย่างไม่แรงมากนัก เขามักจะจ้องมองเธออยู่อย่างนี้เป็นประจำ ตามเธอไปทุกที่ราวกับเป็นแฟนคลับของเธอทุกครั้ง เวลาที่เขาว่างเขามักจะทำอย่างนี้ไม่รู้จักเหน็ดไม่รู้จักเหนื่อย เพียงเพราะการจับคู่ของออสตินกับเจสสิก้าวันนั้นมันทำให้เขาแทบคลั่งเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ เธอ
"ฉิบหาย!"
จะไม่ฉิบหายได้ยังไงในเมื่อคะนิ้งมองมาเจอเขาแล้วส่งยิ้มหวานมาให้เขา ให้ตายเถอะจะละลายแล้วโว้ย อย่ายิ้มได้ไหมวะ ไม่อยากจะคิดเลยถ้าคะนิ้งรู้ว่าเขาเอาเธอมาฝันเปียกเป็นเดือนๆ เธอจะเข้าใจหรือรังเกียจเขาไหม
ตึก ตึก ตึก ตึก
ไม่ใช่เสียงหัวใจ แต่เป็นเสียงรองเท้าผ้าใบสีขาวที่คะนิ้งใส่อยู่เดินตรงมาทางเขา วันนี้เธอใส่กางเกงยีนขาสั้นอวดต้นขาขาวอวบกับเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนนิดหน่อย ข้างในใส่เป็นเสื้อสายเดี่ยว ให้ตายเถอะอยากจะจับตีก้นนักทำไมต้องแต่งตัวโชว์นั่นโชว์นี่ด้วยวะ
"ใช่พี่ไทค์รึเปล่าคะ พี่จำนิ้งได้ไหมคะเพื่อนของเจสซี่"
คะนิ้งเดินตรงมาทักทายเขาตามมารยาทเธอย่อตัวลงเล็กน้อยแล้วทักทายเขาทำเอาคนที่จินตนาการไปถึงไหนต่อไหนทำตัวไม่ถูกได้แต่กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ หัวใจแกร่งมันเต้นแรงราวกับมีคนมาตีกลองชุดอยู่ในหัวใจของเขา
"เอ่อ ... พี่มาคนเดียวเหรอคะ มาทำอะไรแถวนี้"
"น้องนิ้ง พะ ... พะ คะ .. คือ พะ .. พี่มารอเพื่อนน่ะครับ"
ทักทายประโยคแรกเขาก็สอบตกแล้ว ติดอ่างเฉยแค่คนสวยเดินมาคุยด้วยแค่นั้นเองไอ้ไทค์มึงต้องใจเย็นเอาไว้นะเว้ย มึงอย่าประหม่า อาการประหม่าของมึงจะทำให้เขารู้ว่ามึงคลั่งเขามากแค่ไหน
"มารอเพื่อนเหรอคะ ดีเลยนิ้งก็รอเจสซี่อยู่เหมือนกันค่ะ"
"เอ่อ ครับ"
"พี่ไทค์เป็นคนไม่ค่อยพูดแบบนี้อยู่แล้วเหรอคะวันนั้นที่เราไปด้วยกันพี่ก็ไม่ค่อยพูดนิ้งแค่สงสัยน่ะค่ะอย่าถือสาเลยนะ"
'พี่พูดไม่ค่อยเก่ง แต่พี่ทำอย่างอื่นเก่งมากครับ อยากให้น้องนิ้งมาลองกับพี่นะครับรับรองความหรรษา'
อยากตอบไปแบบนี้ฉิบหายแต่ทำไม่ได้ต้องคีพลุคเอาไว้ เผื่อแห้วจะได้ไม่อายมาก โถ่แม่คุณจะรู้ไหมว่าตอนนี้เขาเกร็จจนฉี่เหนียวไปหมดแล้วยังจะชวนคุยเก่งจริงๆ เลย
"ครับ พี่ไม่ค่อยพูดแล้วน้องนิ้งสบายดีนะครับ"
"นิ้งสบายดีค่ะพี่ไทค์ ว่าแต่พี่ไทค์ดูผอมไปไหมคะเนี่ย"
"พี่ทำงานหนักน่ะครับ แล้วนี่สั่งอะไรหรือยังสั่งได้เลยนะเดี๋ยวพี่จ่ายให้"
คะนิ้งส่งยิ้มหวานมาให้เธอยกสองมือขึ้นกระพุ่มไหว้ขอบคุณไทเลอที่แสดงความมีน้ำใจ ไทเลอก็ยกมือขึ้นรับไหว้เธอตามธรรมเนียมไทย แม้เขาจะไม่ใช่คนไทยแต่ก็พอจะรู้ธรรมเนียมนี้อยู่บ้างติดแค่ว่าเขาไม่ใช่คนไทยฉะนั้นคนไม่รู้ทำอะไรก็ไม่ผิดใช่ไหม ...
"เอ่อ พี่ไทค์คะปล่อยมือนิ้งได้แล้วค่ะ"
❤ โปรเจกต์สุดฮอตต้อนรับวาเลนไทน์ Match Love Valentines ❤ เรื่องราวของสาวขี้เหงาทั้งสี่คนที่เกิดอาการ เปลี่ยวใจอยากมีใครสักคน เลยต้องเข้าแอปหาคู่อย่าง MATCH LOVE เพื่อตามหาคู่เดตที่มาทำให้วาเลนไทน์ของพวกเธอ ไม่ต้องเหงาใจอีกต่อไป และแอปนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแมตช์รักของพวกเธอ...แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังจากแอปหาคู่สักหน่อย? ไปลุ้นกันว่าแอปนี้จะช่วยให้พวกเธอสละโสดได้ไหม...!!!!
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ซุนเหยา เจ้าของร้านอาหารจีน ที่มีอยู่หลายสาขาทั่วประเทศ เธอทำงานหนักจนหมกสติไป เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในเกี้ยวแปดคนหาม สวมชุดแดงมงคล กำลังจะเข้าพิธีแต่งาน
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด