พบูตกงาน เลยตัดสินใจหอบเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ลงเรือไปเที่ยวกับเรือสำราญ ที่เธอบังเอิญได้ตั๋วฟรีมาจากการเล่นเกม มันเป็นความโชคดีเรื่องเดียวที่เกิดขึ้นชีวิต ตลอดเวลายี่สิบสี่ปีของเธอ ท้องทะเลกับกลิ่นเกลือ อาจจะช่วยเยียวยาหัวใจแห้งแร้งของเธอก็ได้ ใครจะไปคิด...ทริปสุดสนุกที่วาดฝันไว้ กลับกลายเป็นบ่วงโซ่ร้อยเธอไว้จนดิ้นไม่หลุด ท่ามกลางผู้คนจากทั่วสารทิศ อาเชอร์กลับมองเห็นแค่คนคนเดียว ผู้หญิงสาว ที่สวยเหมือนกับดอกไม้ สวยสะกดสายตาเขา จนหลงเพริดไปกับเสน่ห์เย้ายวนนั่น มันไม่ง่ายเหมือนที่เคยเป็น หญิงผู้นั้นต่อต้าน จนอาเชอร์เริ่มโมโห เขาจงใจเข้าหาและหลอกล่อหล่อน พอได้ทุกสิ่งสมใจแล้ว อาเชอร์ตั้งใจจะสลัดหล่อนทิ้ง แต่มันไม่ง่ายแบบนั้นเลย...
ตอนที่ 1.ความซวยกระทบหัวไหล่
“ได้ๆ ฉันลาออกเองค่ะ ถ้าคุณต้องการให้ฉันก้มหัวให้ยายป้าคนนั้น ก็เสียใจด้วยค่ะ” พบูส่ายหน้า ปลดเข็มกลัดติดหน้าอกโยนใส่หน้าหัวหน้าขาวีนที่ต้องการให้เธอ ออกไปก้มหัวให้ลูกค้าปากมากคนนั้น
พบูพยายามทนจนสุดที่จะทนไหว เธอเริ่มทำงานที่ร้านรองเท้าแห่งนี้เข้าเดือนที่สอง ต้องผจญกับลูกค้าเรื่องมากหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่เคยเจอใครที่ปากมากและดูถูกคนอื่นแบบนี้มาก่อน
“พบู ถ้าเธอคิดว่าแค่ลาออกแล้วจบ เธอคิดผิดนะ” เสียงเย็นชาไร้ความรู้สึก
“ทำไมคะ คุณจะแบนฉันหรือไงคะ ฉันไม่คิดจะทำงานสายนี้อีกแล้วค่ะผู้จัดการ ฉันไม่ชอบวิธีการดูถูกของคนรวยพวกนี้เลย ฉันทำอย่างอื่นก็ได้ เรื่องตกงานแค่นี้ไม่ทำให้ฉันอดตายหรอก” คำขู่พวกนี้ไม่ได้ผลกับเธอ พบูไม่มีใครให้ต้องแคร์ เธอตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ นับตั้งแต่อายุสิบห้าปีบริบูรณ์
พบูเป็นเด็กกำพร้า ไม่รู้ที่มาที่ไปของตัวเอง เธอโตมาท่ามกลางพี่น้องนับร้อยชีวิต และเมื่อถึงเวลา เธอก็ต้องออกมาเผชิญโชค ไม่อย่างนั้นเด็กที่อายุน้อยกว่าจะไม่มีที่นอน
โชคดีที่พบูเป็นเด็กว่าง่าย หลังจากอายุถึงเกณฑ์ พบูก็ไปอาศัยอยู่กับแม่ชีที่คอนแวนซ์ เธออาศัยใบบุญของแม่ชีเรียนต่อที่นั่น แม้จะถูกดูแคลนจากคนรอบข้างตลอดเวลาที่ศึกษาต่อ แต่เวลาแสนเศร้าเหล่านั้นก็ไม่ทำให้พบูยอมแพ้ เธอกัดฟันเรียนจนจบ ด้วยเกรดที่ไม่มีใครกล้ากระแหนะกระแหน แถมยังได้ป้ายประกาศเชิดชูความขยันติดมือกลับออกมาด้วย
สมัยที่เรียนในระดับวิทยาลัย’ สังคมแบบเดิมทำให้พบูไม่มีเพื่อนมากนัก หลายคนถอยหนี ไม่พยายามคบค้าสมาคมกับเธอ เนื่องจากความจนที่แปะติดหน้าผากของเธอนั่นเอง
พบูกระเสือกกระสนจนกระทั่งเรียนจบ
เกรดไม่ได้งดงามเหมือนเพื่อนคนอื่นที่เรียนอย่างเดียว แต่ก็สุดความสามารถที่พบูทำได้ เธอนอนวันละไม่เกินสี่ชั่วโมงถึงสามปีเต็ม ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่มีที่ซุกหัวนอน ต้องใช้น้ำลูบท้องประทังความหิว
พบูพยายามอดทนทำงานเต็มความสามารถ แต่การถูกเหยียดหยามไม่ใช่สิ่งที่พบูจะยอมทน เธอพยายามกลั้นใจไม่ฟังคำแดกดันนั่นแล้ว
แต่ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหว เธอเผลอตัวตอบโต้ และทำให้ลูกค้าสูงส่งคนนั้นโมโห
“บูพี่อยากเตือน บูหยิ่งในศักดิ์ศรีได้ก็ต่อเมื่อท้องบูอิ่ม แต่หากท้องบูยังกิ่ว และไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ที่บูควรทำคือ ‘อดทน’ นะ” คำเตือนของผู้จัดการทำให้พบูเลือดขึ้นหน้า
เธอไม่มีทางขายศักดิ์ศรีแม้ตัวเองจะต้องอดตาย
“ขอบคุณค่ะ บูจะจำคำสอนของพี่ไว้ค่ะ”
“ใจเย็นๆ ออกไปขอโทษคุณนายตันหยงซะ เรื่องมันจะได้จบ” เสียงถอนใจกับสีหน้าลำบากใจของผู้จัดการทำให้พบูตัดสินใจอีกแบบ
“อย่าดีกว่าค่ะ บูกลัวกลั้นไม่ไหวแล้วจะไปกันใหญ่ บูขอเป็นฝ่ายไปดีกว่าค่ะพี่”
“บู คุณนายตันหยงไม่ใช่แค่รวยธรรมดาหรอกนะ” ผู้จัดการพยายามเตือน
“ไม่ต้องห่วงบูค่ะพี่ บูกำลังอยากพักพอดี บูจะไม่มาเหยียบที่นี่ให้พี่เดือดร้อนอีกค่ะ” พบูตัดสินใจแล้ว คำถากถางนั่นเกินกว่าที่เธอจะรับได้ เธอเกิดมาขาดทุกสิ่งแล้วไง เธอไม่เคยแบมือขอใครกิน ต่อให้เธอแร้นแค้นไม่มีที่ซุกหัวนอน พบูก็ตั้งใจไว้ เธอไม่มีทางก้มหัวให้กับใครหน้าไหนก็ตามที่ตั้งใจเอาเงินฟาดใส่หน้าเธอ
“บู”
“อย่ากล่อมบูเลยพี่ บูตัดสินใจแล้ว”
เสียงถอนใจดังๆ กับคำเตือนที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ระตัวด้วยแล้วกัน ยายคุณนายนั่น เบื้องหลังน่ากลัวกว่าที่บูคิด”
พบูพยักหน้ารับ เดินเข้าไปด้านในหลังเปลี่ยนเสื้อผ้าและคืนป้ายพนักงานเสร็จ พบูก็เดินออกมาด้านนอก เธอหันไปเหยียดยิ้มให้คุณนายตันหยงที่นั่งกอดอกคอแข็งอยู่ด้านใน ก่อนจะเดินลอยชายออกไปทันที
นั่นเป็นจุดกำเนิดเรื่องหายนะในชีวิตพบู
เธอกระตุกหนวดและฉีกหน้าใครบางคนเข้า ความพยาบาทนั่นชักพาให้พบูต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์สุดกระอักกระอ่วนยิ่งกว่า
พบูพยามเดินช้าๆ ให้ตัวเองใจเย็นขึ้น เธอเดินมาได้สักพักก็เริ่มหิว เธอกวาดตามองหาอาหารราคาถูก ที่สตางค์ในกระเป๋าของเธอตอนนี้พอจะซื้อได้ แต่คงเป็นเรื่องยาก เพราะไม่ว่าอาหารหรือสินค้าในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ก็เกินกำลังเธอทุกชิ้น เธอล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง จ้องธนบัตรที่เหลือน้อยนิดแล้วคำนวนรายจ่ายจนกว่าเธอจะหางานใหม่ได้ เธอคงต้องรัดเข็มขัดมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
“เชิญทางนี้ค่ะ ถ้าใครกินเกี๋ยวเตี๋ยวชามยักษ์นี่หมดภายในสิบนาที กินฟรีพร้อมกับมีรางวัลใหญ่ให้ค่า”
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"