ดันรัก (เจ้จ๋า+ไอ้เป๊ก) “ผมชอบแบบนี้ ชอบสาวอวบ” “เค้าอ้วนหรอ” รอยยิ้มที่มีบนใบหน้าสวยจางลงไป เมื่อได้ยินแบบนั้น ทำให้กังวลขึ้นมาอีกว่าตัวเองอ้วนเผละขึ้นมาแล้วหรืออย่างไร “เปล่า ไม่ได้อ้วนเลย แต่อวบตรงนี้” เขาขยำมือลงไปตรงจุดที่ว่า อวบตรงนี้ ทำเอาคนโดนกระทำต้องบิดกายหลบน้อยๆ ด้วยความเขินอาย “อวบเป็นส่วนๆ อะ” “คนบ้า ปล่อยเลยนะ” จารุณาพยายามดึงมือเขาออกจากจุดอันตรายช่วงบน แต่ดูเหมือนคนที่เด็กกว่าจะไม่นำพาแรงขัดขืนเท่ามดนั้น -------------------- ดันรัก 2 (พิกเจอร์+ป๊อกจี้) “งั้นสัญญากับพี่ได้ไหมคะ ว่าต่อไปนี้จีจี้จะไม่เอาแต่ใจ แล้วจากนี้และตลอดไปก็จะให้พี่เอาแต่เรา” เปรมยุดายกมือขึ้นปิดปากหยักทันทีเมื่อเขาเอ่ยจบ เกรงว่าจะได้ฟังคำพูดห่ามๆ อย่างอื่นอีก นี่มันคืนแต่งงานบ้านไหนเนี่ย เธอต้องมานอนตัวแดงหน้าแดงฟังเขารำพันอะไรเสี่ยวๆ “อายอะไร พูดความจริง ตอบมา สัญญา” รัตนทัตไม่ยอมให้แม่เมียตัวน้อยปฏิเสธ และระหว่างที่เธอเม้มปากแน่นไม่ยอมเอื้อมเอ่ย มือหนาก็ลูบไล้ไล่สัมผัสไปถึงไหนต่อไป คนที่ตั้งใจว่าจะไม่คุยกับเขาแล้วเพราะกลัวเขาจะพูดทะลึ่งตึงตังเลยจำต้องอ้าปาก “พี่พิก พอแล้วค่ะ” ประท้วงเขาเบาๆ เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำนั้นตรงข้ามกับคำที่บอกเธอว่าเหนื่อยและไม่มีแรงไปมากโข “พออะไรครับ หืม” ยังจะมาย้อนถามอีกนะคนบ้ากามนี่! ก็รู้ว่าเขามีสิทธิ์ ไม่ได้คิดจะปฏิเสธความต้องการของเขาหรอก แต่เปรมยุดาอยากรู้จริงๆ ว่าผู้ชายเป็นแบบนี้กันทุกคนหรือเปล่า หรือเฉพาะพี่พิกเท่านั้น เลยอดถามเขาไม่ได้ว่า “ทำไมพี่พิกถึงได้หมกมุ่นกับเรื่องบนเตียงจังคะ” “งั้นเปลี่ยนไปที่ระเบียงไหมล่ะ”
“ดีเจ้”
เสียงทักทายจากไอ้เด็กเปรต ตะโกนมาแต่ไกล ทันทีที่เห็นเจ้จ๋า หรือจารุณา เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ เดินเข้ามาในออฟฟิศด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ซึ่งสาเหตุก็มาจากการจราจรที่ติดขัด ไหนจะเส้นทางที่ใช้ดันมีอุบัติเหตุรถชนกัน ทำให้เธอต้องมาถึงสำนักงานช้ากว่าใครเพื่อน
“เออ” จารุณาตอบกลับห้วนๆ
“โห เจ้ หน้าตาดูอารมณ์ดี แต่พูดจาไม่เพราะเลย”
“อารมณ์ดีบ้านแกสิ”
“เป็นอะไรอะเจ้ หน้าบูดมากๆ เดี๋ยวแก่ไวนะครับผม”
อุดมศักดิ์ว่ายิ้มๆ ก่อนจะนั่งเท้าคางมองคนที่เดินมายืนเท้าสะเอว มองหน้า (อก) ของอีกฝ่ายนัยน์ตาเยิ้ม
“แกมองอะไรไอ้เด็กเปรต คิดอกุศลกะฉันอยู่ใช่มะ” จารุณาตวาดแว้ด
“เปล่าาาาาาาา” คนตอบลากเสียงยาว
“เปล่าอะไร ยังจะมาเถียงอีก”
“ไม่ได้คิดอกุศลจริงๆ เจ้ แค่คิดอยากจะกราบเฉยๆ”
ไอ้เด็กเปรตมันว่าหน้าตาเฉย แถมยังทำตาพริ้มกว่าเดิมอีกต่างหาก
“กราบอะไรวะ”
“กราบสวัสดีที่อกอะเจ้”
“อ๊ายยยย ไอ้เปรตเป๊ก แกตาย!”
จารุณากรีดร้องลั่น ทั้งเจ็บใจทั้งอายเสียงหัวเราะที่ดังครึกครื้นกันทั้งสำนักงาน แต่ไอ้เด็กปากมอมมันดันรู้ตัว กระโจนหนีออกไปไกล วิ่งตามไปได้หน่อยเดียวเธอก็หอบแฮกด้วยเพราะแก่กว่ามันหลายปี ไอ้บ้านั่นก็ไวปานลิง
ฝากไว้ก่อนเถอะ เผลอเมื่อไหร่จะเอาคืนให้กระอักเลย
จารุณาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโมโห ก่อนจะสะบัดหน้าหนีไอ้คนทะลึ่งที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แต่วิ่งไปอยู่เสียห่างไกลเพราะกลัวจะโดนตบกบาล
----------------
แนะนำตัวละคร
เจ้จ๋า จารุณา เทียมสิริน
สาวใหญ่หัวใจสะดิ้ง อายุ 32 ปี ดีกรีปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง ซ้ำยังเซ็กซี่ รูปร่างหน้าตาขยี้ใจชาย เดินไปทางไหนก็โดดเด่นมาแต่ไกล เพราะขนาดของหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่มหึมา แต่น่าเสียดาย ที่เกิดมาจนสามสิบกว่าก็ยังหาผัวไม่ได้สักที เฮ้อ
ไอ้เป๊ก อุดมศักดิ์ วรดิษฐานันท์กุล
เด็กหนุ่มจบใหม่หัวใจซิ่ง อายุ 23 ปี หนุ่มหน้ามนคนยิ้มง่าย เป็นขวัญใจของทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ แต่ยกเว้นเจ้จ๋าที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้ามัน (ในบางเวลา) แต่แปลกที่ไอ้เด็กเป๊ก หรือฉายาไอ้เด็กเปรตที่เจ้จ๋าชอบเรียก มันกลับชอบมาป้วนเปี้ยนให้รำคาญใจ จนแทบจะอยู่ไม่สุข หรือสาวใหญ่จะแพ้ใจให้หนุ่มหน้าใสวัยละอ่อนกันนะ
ชายอื่นมีตั้งมากมาย แต่เราดันมารักไอ้บ้านี่!!!!
ภาคต่อ ดื้อรัก (เด็กดื้อ) แต่แยกอ่านได้ไม่งงนะคะ * เด็กเอ๋อแถมสติไม่สมประกอบ ที่กำลังก่อกวนให้หัวใจคนไม่เอาถ่านเต้นไม่เป็นจังหวะ * “พี่โจมองอะไรเหรอคะ” “มองคน” “หนูไม่เห็นใครเลย” เพราะนิรตานั้นไม่ได้สนใจอะไร เธอจึงไม่คิดฟังว่าใครพูดถึงใคร ต่างกับเตชัสผู้ถูกพาดพิงที่ได้ยินชัดแจ๋วเต็มสองรูหู “เมื่อกี้มันมีคนบ้าแอบนินทาพี่” “นินทาคืออะไร...” “พูดถึงลับหลังในทางที่ไม่ดี” “ก็เลยโกรธเหรอคะ” “ใช่” “พี่โจต้องไม่โกรธนะคะ โบราณเขาถือว่า โกรธคือโง่ โมโหคือโง้โง่ค่ะ” ----------------- “เอาใหญ่แล้วนะหนูนิ่ม เห็นพี่ยอมหน่อยแล้วไม่เกรงใจ เดี๋ยวเหอะ” “ก็พี่โจ...” นิรตาทำท่าจะเถียง ก่อนจะหน้าหงอยลงเมื่อเขาทำหน้าดุใส่ทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดแท้ๆ “เดี๋ยวจะโดน ไม่โดนสักทีไม่ดีขึ้นเลย” “โดนอะไรคะ” “ไม่บอก” นิรตาได้ยินเช่นนั้นก็จะลุกขึ้นเพื่อว่าจะกลับบ้าน แต่เตชัสก็คว้าเอวเธอไว้และดึงให้นั่งลงบนตักแกร่งเสียก่อน แม้สาวน้อยจะพยายามดิ้นบิดกายออกห่าง แต่เขาก็กระชับอ้อมแขนกอดรัดแน่นขึ้น “โกรธเหรอ...โกรธคือโง่ โมโหคือโง้โง่นะ” ว่าจบก็หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อเห็นใบหน้าหวานสวยนั้นงงงวยผสมกับความมุ่ยๆ เหมือนงอนๆ ใบหน้าของนิรตาตอนนี้ทำให้เขาบรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่าเห็นแล้วขำอีหลี * ซีรีส์ในชุดยังไงก็รัก 1. ดื้อรัก (เด็กดื้อ) - ตีพิมพ์และวางแผง ต.ค.2560 (ทำมือ) #6 2. เอ๋อรัก (เด็กบ๊อง) - ตีพิมพ์และวางแผง ก.ค.2566 (ทำมือ) #16 3. รักนะคะคนเถื่อนของฉัน - ตีพิมพ์และวางแผง ส.ค.2559 (ทำมือ) #5
"จะออกไปไหนน่ะเล่ย์ ข้างนอกอากาศเย็น เล่ย์ไม่สบายอยู่นะ" เธอบอกเสียงอ่อนโยน "เรื่องของเล่ย์ เล่ย์ก็จะไปตามประสาคนโสด" เขาตอบอย่างงอนๆ "เป็นอะไรอีกฮะ อย่ามาเอาแต่ใจกับลินนะ ลินไม่ชอบ" บอกเสียงเข้ม พลางจ้องหน้าเขาเขม็ง "ใครจะไปดีเหมือนไอ้นพล่ะ" "หยุดพูดถึงนพแบบนั้นนะ ทำไมเล่ย์ต้องพาดพิงถึงเค้า" "เล่ย์เป็นเพื่อนลิน เล่ย์ก็ต้องพูดถึงแฟนลินได้สิ ทำไม หรือเพื่อนคนนี้มันไม่มีสิทธิ์ ใช่สิ เล่ย์มันก็แค่เพื่อนนี่ เพื่อนที่ลินไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา" เขาว่าเธอระรัวอย่างที่ไม่เคยทำมานานแล้ว "นี่เล่ย์ไปกันใหญ่แล้วนะ นพเค้าไม่ใช่แฟนลิน นพเค้ามีคนรักอยู่แล้ว ทำไม เป็นเพื่อนลินมันไม่ดีตรงไหน หรืออยากจะเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นผัวหรือไง ฮะ" พัฒนะอ้าปากค้าง หน้าขึ้นสีเข้มขึ้นมาทันใด เมื่อเจอคำพูดตรงไปตรงมาแบบนั้น ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นเรียบเฉย เมื่อเข้าใจว่าเธอแค่หวง กลัวเขาจะไปเที่ยวเตร่เดินควงสาวอื่นๆ เหมือนที่แล้วๆ มา ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งมากมายกว่านั้น
“เป็นอะไร” เธอหันไปมองหน้าเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึง ยังจะกล้ามาถามอีก! “พิมพ์ต่างหากที่ต้องถามคุณว่าคุณเป็นอะไร ทำไมต้องทำกับพิมพ์แบบนี้ พิมพ์ทำอะไรผิด” “ก็แต่งด้วยแล้วก็น่าจะพอใจ ยังจะต้องการอะไรอีก ทำไมแค่นี้ก็ต้องคิดเล็กคิดน้อย” “พิมพ์ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อย พิมพ์แค่ไม่เข้าใจ” “แล้วต้องการเข้าใจแบบไหน คิดเองเออเองจบแล้วนี่” เขาสวนกลับรวดเร็วจนเธออ้าปากค้าง ก็จริง เธอไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย ไม่เลยจริงๆ ตอนนี้เขาเหมือนคนแปลกหน้า ไม่ใช่คนที่เธอเคยรู้จักมาตลอดอีกแล้ว “งั้นเราก็คงไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีกแล้วค่ะ” เธอว่าก่อนจะลุกเดินหนีเขาเข้าไปในห้องนอน “ฮันนี่ ฟังผมก่อน” เขาตามมากระชากแขนไว้ให้เธอหยุดเดิน แต่เธอก็สะบัดออกและถอยห่างจากเขา “ไม่! พิมพ์จะกลับบ้าน พิมพ์ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแม้แต่วินาทีเดียว ฮือๆ” เธอตะโกนใส่หน้าเขาพร้อมอาการสะอึกสะอื้นที่ตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง หันหลังเตรียมจะเดินไปที่โซนแต่งตัว เพื่อเก็บเสื้อผ้า ของที่เป็นของของเธอจริงๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่เขาซื้อให้ พิมพ์อรตั้งใจว่าจะขนกลับไปที่บ้านให้หมด ให้มันจบๆ กันไป แต่โซนิคที่โมโหจนเลือดขึ้นหน้า เดินมากระชากข้อมืออีกครั้งและตวาดด้วยความฉุนเฉียว “จะไปไหน!” “ปล่อยพิมพ์นะ อย่ามาทำกับพิมพ์เจ็บๆ แบบนี้ คุณไม่มีสิทธิ์” คำพูดของเธอทำให้เขาตาลุกวาว “ไม่มีสิทธิ์งั้นเหรอ ดี! ก็ให้มันรู้ว่าผัวอย่างผมจะแตะต้องคุณไม่ได้” เขาว่าเสียงดุดันพร้อมกับกระชากร่างงามเข้ามาปะทะอกกว้าง แล้วรวบกอดเอาไว้แน่น
“ดีจัง” ซีลีนาผงกหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้เขา พร้อมทั้งคำพูดแปลกๆ เหมือนจะเป็นคนละเรื่อง ทำให้คิ้วเข้มได้รูปขมวดเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ “ซินนี่ดีใจจังที่คุณห่วงซินนี่ คราวหลังถ้าซินนี่น้อยใจคุณอีก ซินนี่จะแกล้งกลับบ้านดึกๆ คุณจะได้รอและก็เป็นห่วง” ป้าบ! มือหนาฟาดลงบนสะโพกเด้งๆ นั้นทันทีที่หญิงสาวพูดจบ กวนประสาทจริงๆ ทำให้ชาวบ้านเขาอดหลับอดนอนยังไม่สำนึกอีก “อื้อ เจ็บ อย่าตีสิคะ จับตรงนี้ดีกว่า” มือบางจับมือหนาลงมาวางแหมะลงบนภูเขาก้อนใหญ่ ก่อนที่ฝ่ายสามีจะรีบชักมือออกหนี ไม่ต่างจากเจอของร้อน ตกใจเพื่อ? พิลึกจริงเชียว ก็จับอยู่ทุกวัน “ไปอาบน้ำได้แล้ว ดึกแล้วนะ จะได้นอนซะที” บอกพลางพยายามผลักร่างที่ทำท่าจะยั่วเขากลางดึก แต่ดูท่าทางแม่นางจะพยศขึ้นมาอีก กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าซีลีนาโกรธงอนอะไร “เอ็ดรังเกียจเหรอคะ ซินนี่เข้าใจว่าคุณชอบกลิ่นกายซินนี่เสียอีก ทุกทีซินนี่เห็นคุณหอมไปทุก...” “พอเถอะน่า” เขารีบหยุดคำพูดวาบหวิวที่พาให้ใจวาบหวาม ยามจินตนาการลงลึกไปในรายละเอียดตามคำเย้าที่เธอว่า
“อย่าคิดมาก” “แล้วคิสมั้ย” ขอโทษที่เธอปากไวไปหน่อยนะ จะเขินย้อนหลังก็ไม่ทันแล้วมั้ง “หือ?” “คิสมั้ย” นี่แน่ะ! ย้ำให้มันชัดเจนกันไป ก็แค่พูดเฉยๆ นี่นา ไม่เป็นไรหรอกน่า “แน่ใจนะว่าอยากให้คิส” -------------- “โบนัสพนักงานดีเด่น” คงอยากตอบแทนที่เธอมาทำความสะอาดห้องให้ตลอดช่วงที่เรียนมาด้วยกันสินะ แม้จะดีใจมากแค่ไหนแต่ก็อดแซวเขาไม่ได้ “โบนัสมันก็ต้องเป็นตังค์สิ” “จะเอามั้ยล่ะ อยากได้กี่แสน” “อ่า เยอะไป จ้าวขอแค่ยี่สิบ” พูดจบก็ยื่นมือแบออกไปตรงหน้าเขา ก็เลยโดนฟาดฝ่ามือเบาๆ “ไปอาบน้ำได้นะ” จ้าวจันทร์ทำท่าทางครุ่นคิด พลันหวนนึกไปถึงเมื่อครั้งที่หลับคาทีวีแล้วน้ำไม่ได้อาบก็เลยพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องของเขาอย่างว่าง่าย พอเข้ามาถึงก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าที่อ่างล้างหน้ามีผ้าขนหนูและแปรงสีฟันวางทับกันไว้ และมีโพสต์อิตแปะไว้ด้วยว่า “จั่นเจา” แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ทำไมถึงทำให้เธอยิ้มกว้างได้มากขนาดนี้นะ โธ่เอ๊ย ที่แท้ก็แอบชอบเราเหมือนกันแน่ๆ เตรียมของส่วนตัวให้ขนาดนี้ไม่ใช่แฟนจะทำแทนได้อ่อ ไม่ชอบกันตรงไหนเอาปากกามาเคาะหัวเลยดิ ที่ผ่านมาคือมีใจชัวร์ ฟันธง! ---------------- ฝากหมูตุ๋นลูกแม่อวบพ่อคิง น้องชายของหมูน้อยไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะค้า ขอบคุณมากๆ เลยค่า
“พี่เรียวดุไหมคะ” เขาชะงักไปนิดหนึ่งเมื่อได้ยินเธอถามขึ้นมาอย่างนั้น “ดื้อไหมล่ะ ถ้าไม่ดื้อก็ไม่ดุ” “น้องไม่ดื้อค่ะ” อ้อมแอ้มบอกเขาเสียงแผ่วเบา “จริงเหรอ...ดื้อเงียบล่ะไม่ว่า” พอพูดจบเขาก็จ้องหน้าเธอด้วยสายตาดุๆ อย่างจับผิด นั่นทำให้หญิงสาวรีบก้มหน้าหลบตาทันที แต่ครั้นรับรู้ได้ว่าเขายังคงจ้องอยู่อย่างนั้น เลยจำต้องช้อนสายตาขึ้นมองเขา แล้วจึงได้เห็นว่าแววตาคมดุในตอนแรกตอนนี้มีความขบขันเจืออยู่ในนั้น ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นยีผมเธอเบาๆ แล้วเอ่ย “รีบกลับบ้าน เริ่มมืดแล้ว” ------- “อ้าย” ไม่หัน “อุ้ยอ้าย” ไม่หัน “หมูน้อย” “แง้ อย่ามาเรียกเค้าแบบนั้นนะ” หันขวับมาค้อนและต่อว่าเขาเสียงงอแงทันที และนั่นก็ทำให้คนที่ตั้งใจง้อหลุดยิ้มขำ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าคุณพ่อตาชอบเรียกเธอแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร “เป็นอะไร หืม” “น้องไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย” “จ้ำม่ำน่ารักนะ ไม่ชอบเหรอ” ------------------ “วันเกิดพี่เรียวปีนี้อ้ายมีของขวัญให้ด้วยนะคะ” “อะไรเอ่ย” เขาเลิกคิ้วอย่างสงสัย “ของขวัญวันเกิดของพี่เรียวได้แก่...อ้ายผูกโบค่ะ คิกๆ” ว่าจบก็ยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะลั่น ยิ่งเมื่อได้เห็นว่าตอนนี้เขามีสีหน้าเมื่อยๆ อึ้งๆ เพลียๆ ก็ยิ่งหัวเราะหนักกว่าเดิม “ล้อเล่นค่า อ้ายมีของขวัญมาให้จริงๆ” “ของขวัญอะไรหรือครับ” เขาหรี่ตามองคนตัวแสบตรงหน้าอย่างไม่มั่นใจนัก “ของขวัญวันเกิดไงคะ” “เข้าใจ แต่มันคืออะไรกันแน่ เมื่อกี้ก็บอกว่าอ้ายผูกโบ” เขาทวนคำพลางลอบยิ้มเมื่อได้เห็นแก้มเนียนๆ นั้นระเรื่อขึ้นทั้งสองข้าง “มัน เอ่อ เป็นของหวานน่ะค่ะ” “ของหวาน?” ------------------- ฝากหมูน้อยลูกแม่อวบพ่อคิง (อวบอยู่ไหนจ๊ะ) กับพี่เรียวลูกแม่มนพ่อริว (บ่วงรักเมียเฉิ่ม) ไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะค้า ขอบคุณมากๆ เลยค่า
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ