ลูกสาวเพื่อนพ่อตามจีบเขาตั้งแต่เด็กยันโต เล็กๆ ก็ดูน่ารักดี แต่ทำไมยิ่งโตยิ่งน่ารำคาญ พฤติกรรมก้าวร้าวขนาดนี้ใครได้เป็นเมียมีแต่ซวย กับซวย!
ลูกสาวเพื่อนพ่อตามจีบเขาตั้งแต่เด็กยันโต เล็กๆ ก็ดูน่ารักดี แต่ทำไมยิ่งโตยิ่งน่ารำคาญ พฤติกรรมก้าวร้าวขนาดนี้ใครได้เป็นเมียมีแต่ซวย กับซวย!
ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าส้นเข็มดังกระทบพื้นในโถงทางเดิน หญิงสาวในชุดเดรสเซ็กซี่สีดำเดินตรงไปที่ประตูห้องวีไอพี
กึก!
สองเท้าสวยหยุดยืนอยู่หน้าห้องเธอใช้มือผลักประตูบานใหญ่เข้าไปเจอกับชายหนุ่มคนที่เธอตามหานัวเนียกับหญิงสาวหุ่นสวยอยู่ที่โซฟากลางห้อง
"ออกไป!"
หญิงสาวแผดเสียงลั่นยืนกอดอกมองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ทว่าชายหนุ่มหันมาสบตากับเธอเพียงนิดแต่ไม่สนใจยังคงตั้งหน้าตั้งตาซุกไซร้ลำคอระหงของหญิงสาวหุ่นดีใต้ร่าง
หญิงสาวเดินเข้าไปกระชากตัวชายหนุ่มให้ออกห่างก่อนที่จะฉุดกระชากร่างบางที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยให้ออกห่างจากชายหนุ่ม
เพี้ยะ! มือเรียวฟาดลงที่ใบหน้าสวยของสาวหุ่นดีจนหน้าหัน ก่อนจะยืนจ้องตาเขม็งบ่งบอกว่าเธอไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
"อ่ะ แก!"
"ฉันสั่งให้ออกไป แกเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับว่าที่คู่หมั้นฉัน!"
"ป้องคะ"
ปกป้องนั่งลงกับโซฟาเขาถอนหายใจออกอย่างเหนื่อยใจก่อนจะทำมือให้หญิงสาวคนดังกล่าวออกไปนอกห้อง
"เราจะได้เห็นดีกัน"
"ฉันจะรอ"
ทันทีที่หญิงสาวเสื้อผ้าหลุดลุ่ยออกไปแล้วภายในห้องวีไอพีกว้างขวางเหลือเพียงแค่สองชายหญิงที่จ้องหน้ากันนิ่ง
"กลับไป!"
ชายหนุ่มทำสีหน้าเบื่อหน่ายราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่เขาเจอมาตลอดอย่างไรอย่างนั้น เด็กสาวน่ารักคนนั้นหายไปไหน ทำไมเหลือเพียงแค่หญิงสาวคนนี้
น่ารำคาญสิ้นดี!
"คุณลุงปราชญ์ให้มัสมาตามพี่ป้องกลับบ้านค่ะ"
"ไม่กลับ จะไปไหนก็ไป"
"ถ้าพี่ป้องไม่กลับ มัสก็ไม่กลับ"
"ม่านมัสลิน!"
สองสายตาประสานกันมั่น เกลียดแสนเกลียด ผู้หญิงที่น่ารังเกียจคนนี้ ปกป้องจ้องมองใบหน้าสวยของคนตรงหน้าแววตาไร้ความรู้สึก เขากำหมัดแน่นก่อนจะเดินเฉียดเธอออกไปโดยไม่รอเธอแม้แต่วินาทีเดียว
ดวงตากลมโตมองตามแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มซึ่งเคยเป็นพี่ชายคนที่เธอรักอย่างสุดหัวใจ แต่ม่านมัสลินกลับกลายเป็นคนที่เขาแสนเกลียดชังจนเข้ากระดูกดำ
หยาดน้ำสีใสไหลคลอหน่วยตา ปลายจมูกของเธอแดงก่ำอย่างยากจะห้ามเอาไว้ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วใช้หลังมือปาดเช็ดรอยน้ำตาก่อนที่มันจะร่วงหล่นลงมาเปรอะเปื้อนพวงแก้มแล้วเดินตามชายหนุ่มผู้เป็นดั่งดวงใจของเธอออกไป
"พี่ป้อง รอมัสด้วยค่ะ"
เธอก้าวขาฉับๆ ตามเขาออกมา เมื่อถึงหน้าทางเข้าคลับเธอก็มองซ้ายมองขวาไม่เห็นเจอปกป้อง ไม่มี แม้แต่เงา ...
หัวใจดวงน้อยกระตุกร่วง เธอไม่เจอเขา ไม่เจอแม้แต่เงา เป็นแบบนี้อีกแล้ว เขาทิ้งเธอแบบนี้อีกแล้ว สองมือเรียวยกขึ้นปิดใบหน้าสวย
ทนไม่ไหวแล้ว ...
เขาทำแบบนี้กับเธอบ่อยเกินไปแล้ว ...
ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาก็รักเธอดีไม่ใช่เหรอ แล้วทำไม ...
"อกหักเหรอ น้อง"
เสียงทุ้มนุ่มพูดแทรกขึ้นทำให้ม่านมัสลินต้องลดมือลงแล้วเชิดหน้าขึ้นแม้จะใช้หลังมือปาดน้ำตาไปแล้วก็ตาม
" ... "
"พี่ไปส่งไหม"
ม่านมัสลินเดินหนีออกไปทันที เธอรีบก้าวขาไปที่รถมินิคูเปอร์สีดำของตัวเอง แต่ยังไม่ทันถึงรถก็ถูกชายหนุ่มคนเดิมคว้าแขนเรียวเอาไว้
หมับ!
"หยิ่งซะด้วย จะรีบไปไหน"
"ปล่อยฉัน!"
"สวยขนาดนี้พี่ปล่อยก็โง่แล้วน้อง ไปกับพี่ดีกว่า"
ชายแปลกหน้าใช้สายตามองสำรวจเรือนร่างสวยของม่านมัสลินเขาพยายามฉุดกระชากลากหญิงสาวไปด้านหลังโรงจอดรถ ม่านมัสลินน้ำตาคลอ เธอกลัว กลัวเหลือเกิน เธอพยายามดิ้น รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีดิ้นเพื่อเอาตัวรอดจากผู้ชายแปลกหน้าคนนี้
"ช่วยด้วย! พี่ป้อง อึก ... พี่ป้อง ช่วยมัสด้วย"
"อย่าโวยวาย ไม่งั้นเธอเจ็บหนักกว่านี้แน่"
"ปล่อยฉันนะ! ช่วยด้วย พี่ปะ ...!"
มือหนาปิดปากรูปกระจับของเธอ หญิงสาวน้ำตาไหลพราก กลิ่นมือของชายคนนี้ช่างเหม็นกลิ่นบุหรี่ เธอพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ดีดดิ้นเพื่อเอาชีวิตรอด
"อือออออ!"
เธอพยายามดีดดิ้นจนสุดความสามารถ ร่างกายเธอไร้เรี่ยวแรงแม้จะต่อสู้ขัดขืนคนตรงหน้า ดวงตากลมโตประดับไปด้วยแพขนตาเรียงตัวสวยค่อยๆ ปิดลง หยาดน้ำตาไหลกลิ้งลงจนเปียกแฉะมือหนาหยาบกร้านที่ปิดปากเธอเอาไว้
ตุบ!
ผลัวะ!
พลั่ก!
ปัก ปัก ปัก ปัก!
"ออกไป!"
ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ
เสียงรองเท้าหนาของชายแปลกหน้าวิ่งหนีอุตลุด มือหนาของชายที่มาใหม่จับร่างบอบบางของเธอขึ้นแนบอกเดินหายลับไป
- บ้านวัฒนะกุล -
"น้องละตาป้อง"
"คุณพ่อให้มัสไปตามผมมามีอะไรรึเปล่าครับ"
"พ่อถามว่าน้องละ"
ปกปราชญ์ พร้อมด้วยสร้อยม่วงภรรยาที่รอลูกชายกับหลานสาวของตัวเองกลับมา แต่ทว่าเมื่อประตูบ้านเปิดกลับมีเพียงแค่ปกป้องคนเดียวเท่านั้น
"ไม่รู้ครับ"
"นี่แกทิ้งน้องเหรอตาป้อง!"
"หลานสาวพ่อเขาเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว พ่อจะเอาอะไรกับผมอีก!"
ปกป้องจ้องตาปกปราชญ์ผู้เป็นพ่อตาเขม็งก่อนจะกระแทกเท้าปึงปังเดินขึ้นห้องพักฝั่งขวาของตัวเอง
"คุณคะ"
"หยุดเถอะคุณสร้อย ผมไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น"
"ก็ถ้าแม่มัสไม่ตามติดตาป้องขนาดนั้น ก็คงไม่เป็นแบบนี้ แล้วไหนจะยังเรื่องของหนูเบญที่แม่นั่นไปก่อเรื่องไว้อีก"
สร้อยม่วงจีบปากจีบคอพูด สายตาของเธอบ่งบอกว่าแสนเกลียดชังว่าที่สะใภ้คนนี้เสียนี่ หากพ่อของเธอไม่มีบุญคุณ หากพ่อของเธอไม่ใช่เพื่อนรักที่ตายแทนกันได้กับปกปราชญ์เธอก็คงไม่ยอมรับเรื่องนี้แน่
ปกป้องทิ้งตัวลงบนที่นอนของตัวเอง นี่เขากลับบ้านมาร่วมชั่วโมงแล้วแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงรถคันเล็กของม่านมัสลินขับตามเข้ามาติดๆ เหมือนอย่างเคย มือหนาเลื่อนดูโทรศัพท์มือถือของตัวเองกดเข้าไปที่แอปพลิเคชันของม่านมัสลินแต่ก็ไม่พบการเคลื่อนไหวอื่นใด
เขาทิ้งโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงแล้วไปยืนอยู่ตรงขอบหน้าต่างที่สามารถมองออกไปยังตำแหน่งหน้าบ้านได้ แต่ก็ไร้วี่แววรถคันเล็กที่เคยขับเข้ามาติดๆ อย่างที่ควรจะเป็น
หายไปซะได้ก็ดี ...
อย่าอยู่ขวางหูขวางตาเขานักเลย
ปกป้องยกมุมปากอย่างเหยียดลึกเขาเดินไปอาบน้ำอาบท่า จนร่างกายสะอาด ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาแขวนผนังบ่งบอกเวลาตีสองกว่าแล้ว
หายไปไหนวะ สองชั่วโมงแล้วนะเนี่ย ...
ปกป้องเดินไปที่ขอบหน้าต่างอีกครั้งเขากวาดสายตาไปที่โรงจอดรถ ที่จอดรถประจำของเธอยังว่างเปล่า ชายหนุ่มรู้สึกใจหวิวๆ เขาหันไปมองที่ประตูรั้วก็ไร้วี่แววหญิงสาวที่จะกลับมาเลย
ก็ดี ถ้าจะหายไปแบบนี้ ก็ขอให้หายไปให้ตลอดก็แล้วกัน!
แฟนเก่า (เคย) ร้าย จะกลับมาง้อขอเธอคืนดี เขาจะขนกลเม็ดเท่าที่คิดได้มาตามตื้อ มารื้อความทรงจำ (ที่ดีๆ) ของเขากับเธอ จะมาทวงเธอคืน และจะมารักษาแผลใจของเธอที่เขาเป็นคนทำไว้ให้หายขาด อย่าคิดหนี เพราะเธอหนีเขาไม่พ้นหรอก ไม่ว่าจะหนีไปไหนครั้งนี้เขาก็จะตามติดเป็นเงาจนเธอต้องยอมคืนดีกับเขาจนได้อย่างแน่นอน
เขาเห็นเธอเป็นเพียงของตายไม่ว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหน กลับมาทีไรก็ยังคงเจอเธอเสมอ เมื่อแรกรักอะไรก็ดี แต่ทำไมตอนนี้ทุกอย่างถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ มันเพราะเขาหมดรักเธอแล้วหรือเพราะเธอเป็นเพียงของที่เขาจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ เธอเจ็บซ้ำๆ มากขนาดนี้ เธอโง่และไม่เห็นคุณค่าของตัวเองมากขนาดนี้ ควรจะพอได้แล้วใช่ไหม เธอเจ็บพอหรือยัง? เธอยังควรให้โอกาสเขาอยู่ไหม?
เขาเป็นทนายหนุ่มหล่อมากความสามารถที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา ฐานะทางบ้าน สังคม เรียกได้ว่าเนื้อหอมในหมู่สาวๆ ไม่ว่าจะโสด ซิง หรือมีคู่ครองแล้วหากเสนอให้เขาก็พร้อมจะสนองทุกเมื่อ สาวๆ ต่างอยากควบคุม และครอบครองเขา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนอย่างเขาน่ะ 'รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน' ก็ตาม คนอย่างเขาไม่เคยคิดหยุดอยู่ที่ใคร ความซิงไม่สามารถผูกมัดเขาได้ จนกระทั่ง... เธอเดินเข้ามาในชีวิตเขา
❤ โปรเจกต์สุดฮอตต้อนรับวาเลนไทน์ Match Love Valentines ❤ เรื่องราวของสาวขี้เหงาทั้งสี่คนที่เกิดอาการ เปลี่ยวใจอยากมีใครสักคน เลยต้องเข้าแอปหาคู่อย่าง MATCH LOVE เพื่อตามหาคู่เดตที่มาทำให้วาเลนไทน์ของพวกเธอ ไม่ต้องเหงาใจอีกต่อไป และแอปนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแมตช์รักของพวกเธอ...แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังจากแอปหาคู่สักหน่อย? ไปลุ้นกันว่าแอปนี้จะช่วยให้พวกเธอสละโสดได้ไหม...!!!!
เธอทำให้เขารัก เธอทำให้เขาแค้น และก็เป็นเธอที่กลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขา เขาที่พยายามลืมความรักของเธอกดความเจ็บแค้นเอาไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจ เธอทำให้เขารู้จักคำว่า "ทั้งรัก ทั้งแค้น" เป็นอย่างดี ในเมื่อเธอเลือกจะกลับมาเขาก็จะสาดความเจ็บแค้นคืนกลับไปให้เธอได้รู้สึก ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บช้ำที่ไม่มีวันลืมได้ลง
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
วิโมกข์คือชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดที่ผิดหวังจากความรักอย่างรุนแรง เขากลายเป็นคนอ่อนแอไร้หลัก หมกมุ่นอยู่กับสุรานานนับเดือน แต่หลังจากนั้นก็ได้สติเพราะคำพูดแทงใจของเด็กสาววัยสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง เจ็ดปีต่อมาเขาได้กลายเป็นนายหัวผู้ทรงอิทธิพลในธุรกิจค้าหอยเป๋าฮื้อ และต้องเผชิญหน้ากับอดีตคนรักที่เข้ามาอยู่ในบ้านของเขาอีกครั้ง... ชาร์มมิ่งในวัยยี่สิบสี่ปีเดินทางจากนิวยอร์กสู่สงขลาอีกครั้งหลังจากเจ็ดปีผ่านไป เพราะถูกเพื่อนรักขอร้องให้มาแสดงละครขัดขวางอดีตคนรักของพี่ชาย เธอไม่อยากทำแบบนี้เลยเพราะพอใจที่จะแอบรักเขาไปแบบนี้มากกว่า แต่จะทำไงได้ล่ะ.. ในเมื่อเธอก็ถูกผู้เป็นย่าคอยจับคู่อยู่เรื่อยไป จึงตัดสินใจเลือกในสิ่งที่หัวใจปรารถนา... การแสดงที่มาจากส่วนลึกของจิตใจจริงๆ จึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่วินาทีที่เธอเจอหน้าเขา
ความทะเยอทะยานผลักดันให้นางปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาทว่ายังมิทันจะได้เสวยสุข กลับถูกฮ่องเต้ผู้เป็นสวามีสวมข้อหากบฏวางลงบนศีรษะนาง เกิดใหม่คราวนี้นางไม่ขอเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ชีวิตนี้ที่ได้มาใหม่อีกครั้ง นางจะลิขิตเอง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด