พ่อกับแม่ต้องไปทำงานไกลถึงต่างประเทศเกือบสัปดาห์ จึงได้ฝากฝัง 'นิชา' ลูกสาวสุดที่รักไว้กับ 'สมยศ' เพื่อนสนิทที่ 'เคย' เอ็นดูนิชาในเหมือนลูกหลานแท้ ๆ ส่วนสถานะใหม่ที่เขากำลังจะมอบให้เธอ ก็คือ...
“น้องแนนจำทางได้ใช่ไหมลูก พ่อกับแม่ไม่ได้ไปด้วยเป็นห่วงหนูจัง”
“โธ่ แม่คะ แนนไปบ้านคุณลุงตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วนะแค่นี้จิ๊บ ๆ ค่ะ” เสียงหวานเอ่ยตอบมารดาขณะที่สายตายังคงโฟกัสกับการขับรถบนถนนใหญ่
“จิ๊บ ๆ ก็จิ๊บ ๆ พ่อกับแม่ฝากคิดถึงคุณลุงด้วยนะลูก”
“ค่ะแม่ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะเดี๋ยวถึงแล้วแนนจะโทรบอก” พูดจบเธอก็วางสายโทรศัพท์เพื่อที่จะมีสมาธิกับการขับรถได้เต็มที่
รถคันสวยมุ่งหน้าไปยังบ้านของลุงยศคนที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายที่ทำงานของคุณพ่ออย่างคุ้นเคยถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาสักพักตั้งแต่เธอเข้ามหาวิทยาลัย แต่ด้วยเพราะเป็นเส้นทางที่เธอขับผ่านบ่อย ๆ เลยทำให้จำได้อัตโนมัติว่าต้องขับไปยังไง
วันนี้ที่เธอต้องไปบ้านลุงยศเนื่องจากคุณพ่อกับคุณแม่ต้องไปทำงานที่ต่างประเทศถึงสามวันพวกท่านจึงกลัวว่าเธอที่ต้องอยู่บ้านคนเดียวจะอันตรายเกินไป เลยฝากเธอไว้กับลุงยศซึ่งเป็นหัวหน้าที่สนิทกันของคุณพ่อให้ช่วยดูแล
ริมฝีปากสวยฉีกยิ้มกว้างเมื่อเธอมองเห็นบ้านปูนสองชั้นขนาดกลางที่ตั้งตระหง่านอยู่ทางขวามือ
เธอบีบแตรรถสองสามครั้งไม่นานชายวัยสามสิบกว่า ๆ ผู้เป็นเจ้าของบ้านก็วิ่งออกมาเปิดประตูให้
“สวัสดีค่ะลุงยศ” แนนยกมือไหว้เจ้าของบ้านหลังจากที่ลงจากรถแล้ว
ลุงยศที่อยู่ในชุดกางเกงผ้าแพรขายาวสีเข้ม เสื้อยืดคอกลมสีขาวให้ความรู้สึกราวกับผู้ใหญ่ใจดี ทำให้เธอที่ไม่ได้เจอกับลุงยศนานรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“สวัสดีจ้ะหนูแนน” สมยศยกมือรับไหว้เด็กสาวรุ่นลูกอย่างยิ้มแย้ม สายตากวาดมองหญิงสาวที่เขาไม่ได้เจอเกือบสามปีตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า กระโปรงนักศึกษาที่สั้นแค่คืบ กับเสื้อรัดรูปตามสมัยนิยมทำเอาคนที่แอบมองกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
เด็กที่ใส่ชุดนักเรียนคอซองวันนั้นหายไปแล้ว เหลือเพียงหญิงสาวสุดเซ็กซี่ตรงหน้าเขานี้เท่านั้น
ไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่าจะเป็นคนเดียวกัน
“หนูขอรบกวนสักสองสามวันนะคะ”
เสียงหวานที่ลอยเข้ามาในโสตประสาท ทำให้คนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ได้สติขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ คนกันเองทั้งนั้นอีกอย่างเราเป็นสาวเป็นแส้อยู่บ้านคนเดียวมันอันตราย” สมยศบอกอย่างใจดีทั้งสายตายังไม่ละจากหน้าอกคู่งามที่เด่นนูนออกมาเกินหน้าเกินตา จนเขากลัวว่ากระดุมเม็ดนั้นจะรั้งเอาไว้ไม่ไหว
“แล้วนี่เราเอาอะไรมาบ้างล่ะ มา ๆ เดียวลุงขนช่วย”
“ไม่เป็นไรค่ะลุง หนูมีกระเป๋าเดินทางแค่ใบเดียวเองสบายมาก” แนนปฏิเสธคนที่กำลังจะเข้ามาช่วยอย่างเกรงใจ ขณะที่ดึงกระเป๋าออกจากกระโปรงรถ
“ว้าย!”
เพราะน้ำหนักของกระเป๋าหนักกว่าที่คิดไว้ทำให้เธอรับน้ำหนักของมันไม่ไหว บวกกับรองเท้าส้นสูงแหลมปรี๊ดที่ใส่อยู่จึงทำให้เธอเสียหลักล้มไปนอนก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น
“หนูแนน!” สมยศที่เห็นหญิงสาวร้องเสียงหลง ก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยอย่างตื่นตกใจ
“เดินไหวไหม” เขาถามพยุงร่างบางให้ลุกขึ้นยืน โดยเอาแขนข้างหนึ่งมาพาดคอของเขา ขณะที่สมยศก็ใช้มือประคองเอวเล็กเอาไว้ไม่ให้ล้ม
“ไหวค่ะ อ๊ะ!” แนนร้องขึ้นเมื่อยืนเต็มความสูงรู้สึกว่าขาของเธอเจ็บกว่าที่คิดจนหญิงสาวทรงตัวเองไว้ไม่อยู่ ยังดีที่มีลุงยศคอยประคองเธอเอาไว้ไม่อย่างนั้นคงต้องร่วงลงไปนอนกับพื้นอีกสักหน
แต่ว่า
“ระวังหน่อย”
เสียงเตือนเบา ๆ ดังอยู่ข้างหูไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกขนลุกซู่เท่ากับตอนที่รู้ว่ามือของลุงยศตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่เอวของเธอแต่เป็น…หน้าอก
ลุงยศกำลังจับหน้าอกของเธอ
นิชาหน้าแดงซ่านอย่างเขินอายเพราะตั้งแต่โตขึ้นมานอกจากแฟนหนุ่มของเธอที่เลิกกันไปแล้วคนอื่นก็ไม่เคยมีโอกาสได้จับ แต่เธอคิดว่าครั้งนี้มันเป็นอุบัติเหตุเพราะลุงยศหวังดีช่วยไม่ให้เธอล้มดังนั้นเธอจึงไม่ควรโกรธคุณลุง
ถ้าจะบอกอีกคนว่ากำลังจับหน้าอกเธออยู่ก็รู้สึกกระดากปากดังนั้นแนนจึงได้ปล่อยให้เลยตามเลย
ทางฝั่งสมยศเมื่อรู้ว่าสาวเจ้าไม่เอาเรื่องอะไรที่เขาเผลอกอบกุมหน้าอกคู่งามไว้เต็มมือ ก็ยิ่งได้ใจ เขาพาลูกสาวของลูกน้องคนสนิทเดินเข้าไปในบ้านอย่างช้า ๆ แกล้งเดินเซบ้าง จะล้มบ้างเพื่อที่จะได้ถือโอกาสบีบขย้ำภูเขาไฟลูกโตที่แน่นทะลักจนล้นมือเขาตอนนี้
กว่าจะเดินเข้ามาในบ้านได้นิชาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะไม่หลุดเสียงครางออกมา เพราะทุกครั้งที่คุณลุกออกแรงบีบขย้ำหน้าอกของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจความรู้สึกดีแปลก ๆ ก็วิ่งเข้ามาเกาะกุมจิตใจอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
โดยเฉพาะตรงใจกลางความสาวที่เริ่มเปียกชื้นขึ้นมาเพียงแค่ถูกสัมผัสหน้าอก
อยากจะตีตัวเองให้ตาย
“นั่งก่อน ๆ เดี๋ยวลุงไปเอาน้ำมาให้”
ร่างของเธอถูกว่างลงที่โซฟาตัวยาวก่อนที่ลุงยศจะรีบผละออกไปยกน้ำมาให้ นิชามองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไปเรื่อย ๆ อย่างรู้สึกเสียดาย
อยากให้จับมากกว่านี้
ขย้ำแรงมากกว่านี้
นิชายกมือขึ้นสัมผัสหน้าอกตัวเองตำแหน่งเดียวกับอีกคนที่เพิ่งเดินห่างออกเคยสัมผัส มันรู้สึกดีกว่าทุกครั้งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอรีบลดมือลงไว้ที่หน้าขาดังเดิมอย่างรวดเร็วพร้อมกับสลัดความคิดแปลก ๆ ของหัวเองให้ออกไปจากหัว
นี่แกโสดมานานจนเพ้อเลยหรือไง... หญิงสาวบ่นกับตัวเองในใจ
มันคงเป็นเพราะเธอโสดทำให้ห่างหายจากเรื่องพวกนี้ไปสักพักทำให้เวลาโดนแตะนิด ๆ หน่อย ๆ อารมณ์ที่เลยขึ้นง่ายกว่าปกติ
ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแหละ
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี