เนื้อตัวเต้นเร่าเตลิดเพลิดไปตามสัมผัสร้อนแรง เธอบังคับให้หยุดคิดถึงคนอื่นนอกจากคุณวายุ แต่เมื่อริมฝีปากของวายุแตะเข้ากับกลีบกาย พร้อมทั้งตวัดลิ้นเลียไปทั่วซอกหลืบ กลีบเนื้อบอบบางแต่อวบอูมของ 'หมูชมพู' จึงกระดิกแอ่นหยัดบั้นท้ายกระดกซอกหลืบสวนทางกับเรียวลิ้นของวายุ "คุณอุ่น และหอมมากหมูชมพู" พรรณชมพูส่ายวนโคกเนินที่เบียดบดไปกับริมฝีปากหนา ลิ้นของเขาปาดไปมาบนติ่งกระสันเหมือนกับปาดหน้าเค้ก เธอดิ้นพรวดพราดกัดริมฝีปากจนเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลิ้นสากๆ ห่อม้วนชำแรกเข้าไปในร่องสาวอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นริมฝีปากที่ถูกกัดจะห้อเลือดก็แยกอ้า พรรณชมพูเผลอกรีดร้องครวญครางถึงใครบางคน ที่จมอยู่ในห้วงความคิดไม่เคยเลือนหาย "อ๊า พี่เสือ" วายุผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังแอ่นลำคอและลำตัวทอดโค้ง แววตาของเขาไหววาบเป็นไฟ และเขาก็กัดกลีบกายบางๆ สีชมพูจนหมูชมพูของเขาสะดุ้งเฮือกสุดตัว "อ๊ะ เฮือก" เธอถูกกัด
โทรศัพท์มือถือในมือของพรรณชมพู กรกนก เปียกชื้นไปหมด เมื่อเจ้าของกำมันแน่นจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อารมณ์ของเธอไม่ได้โกรธใครเป็นร้อยชาติ แต่เลเวลแรงอารมณ์นั้นไม่ต่างกัน เพียงแต่พรรณชมพูไม่ได้โกรธ แค่ตื่นเต้นที่เพิ่งหัดทำอะไรทำนองนี้เป็นครั้งแรก
เธอคุยกับเขาผ่านเว็บไซต์แลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางเพศเว็บหนึ่ง เป็นเว็บที่เธอเพิ่งทราบว่ามีคนมากมายพออกพอใจกับการแลกคู่ เปลี่ยนประสบการณ์ให้คู่ของตน สามีที่ชอบแบ่งปันภรรยาให้ผู้ชายอื่นร่วมหลับนอนด้วย หรือภรรยาที่ชอบเห็นสามีทำอะไรกับผู้หญิงอื่นแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ
พรรณชมพูไม่ได้อยากมีส่วนร่วมหรืออยากได้ประสบการณ์จากชายหนุ่มช่ำชองเหล่านั้น แต่เธอท่องเว็บไซต์ในขณะที่กำลังตกงาน ความเพลิดเพลินทำให้พลัดหลงเข้าไปในอาณาจักรของเรื่องบนเตียง หากพอจะถอนตัว ความอยากรู้อยากเห็นก็ตามจิกและรุมทึ้งเสียจนตัดใจไม่ขาด แล้วมันก็ทำให้เธอได้รู้จักกับเขา เดือนเด่นของเว็บไซต์นี้ ‘พี่เสือ’ ของสาวๆ
พรรณชมพูสวมหน้ากากหนังสีดำประดับพู่เป็นริ้วๆ สีชมพู ดวงตาที่อยู่กลางช่องว่างของหน้ากากทั้งสองข้างกระพือถี่ราวกับปีกผีเสื้อ วันนี้เธอแต่งตัวสวยและเตรียมความพร้อมทางร่างกาย ไม่แน่ว่ามันจะเกิดเรื่องราวนอกเหนือข้อกำหนด เพราะแค่เข้ามาอยู่ในรีสอร์ตที่เปิดให้พักชั่วคราวหรือค้างคืนก็ร้อนๆ หนาวๆ ที่นี่ไม่ใช่ม่านรูดแค่การตกแต่งที่ดูหรูหรา หากแต่เมื่อเปิดทีวีแล้วเลื่อนช่องหาดูรายการที่น่าสนใจ พรรณชมพูกลับพบว่าเป็นช่องหนังเรทเอ็กซ์ที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
“ถ้าคุณเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ ก็บอกผมนะคุณหมูชมพู”
หมูชมพู คือชื่อเล่นของเธอที่เพื่อนรักตั้งให้ และพรรณชมพูก็ติดชื่อนี้เสียด้วย แต่พอคนอื่นเรียกขานเธอกลับขัดเขินจริงๆ จังๆ
“ค่ะพี่เสือ”
พี่เสือ เขาเป็นใครมาจากไหนเธอไม่รู้ หน้าตาของเขาจริงๆ เป็นยังไงเธอก็เห็นไม่ชัดเพราะตอนนี้พี่เสือก็ใส่หน้ากากเหมือนกัน การคาดหน้ากากปิดบังใบหน้าเป็นข้อกำหนดที่เธอร้องขอจากพี่เสือ กิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่กี่นาทีนี้ เธอขอให้ทุกคนสวมหน้ากาก เพราะยังทำใจไม่ได้ที่จะยอมให้คนอื่นเห็นหน้าตาจริงๆ ของตน และทำใจที่จะเห็นหน้าคนอื่นขณะกำลังทำกิจกรรมไม่ได้เสียด้วย
วายุ คือชื่อจริงที่เขาไม่เคยเปิดเผยให้ใครฟัง คนในเว็บก็ยังไม่เคยมีใครรู้จักชื่อจริงๆ ของเขา นอกจาก ‘พี่เสือ’ ผู้ชายมาดแมน รูปร่างกำยำน่าลูบคลำ และทีเด็ดของเขาอยู่ที่เซ็กส์ซึ่งมักจะทำให้สาวๆ ติดใจ
ดวงตาของวายุลอบมองพรรณชมพูบ่อยๆ ท่าทางตัวสั่นงันงกของเธอกำลังทำให้เขาต้องคิดใหม่ พรรณชมพูบอกว่าเธออายุเกิน 23 เรียนจบและกำลังหางานทำ แต่หน้าตาที่เห็นแค่ช่วงริมฝีปากกับแววตาไหวหวั่นทำให้เกิดคำถามมากมาย แต่ถึงกระนั้นเมื่อพรรณชมพูเป็นฝ่ายต้องการ ผู้ชายอย่างวายุก็ไม่คิดปฏิเสธ
ผู้หญิงอีกคนเดินออกมาจากห้องน้ำ เธอสวมหน้ากากเช่นกัน ผมเธอสั้นแค่คอและเหยียดตรงสีดำสนิท ผิวของเธอสีน้ำผึ้งอ่อนดุจเคลือบคาลาเมล พรรณชมพูรู้จักชื่อเธอจากพี่เสือตอนที่นัดหมายกันมาที่นี่ เธอชื่อเนย
เนยยิ้มให้พรรณชมพูเล็กน้อย และตวัดตามองพี่เสือนัยน์ตาฉ่ำ แก้มของเธอแดงขึ้น พี่เสือมองพรรณชมพูอีกครั้ง เธอพยักหน้าให้ เขาจึงประคองแก้มเนยแล้วบรรจงจูบปากที่เนยกัดเบาๆ เมื่อครู่
พี่เสือจูบเนย มือของพี่เสือกระตุกปมผ้าขนหนู เนยเปลือยเปล่า ทรวดทรงองค์เอวของเธออะร้าอร่าม เต้านมของเธออวบอัดกลมสวย พรรณชมพูคิดว่าเต้ากลมๆ นั่นคงเสริมแต่ง เพราะมือของพี่เสือที่กำลังบีบขยำเต้านมคู่นั้นไม่ได้ทำให้เนื้อนุ่มๆ เหลวยุบไปตามแรงกด
มือของพี่เสือเคลื่อนไหวไปทั่วร่างของเนย ริมฝีปากของพี่เสือไต่ลงยังลำคอของเนย และพอเนยล้มลงบนเตียง ใบหน้าของพี่เสือก็ซุกไซ้ไปทั่วทรวงอกของเนย พรรณชมพูถอนใจยาว ปลายนิ้วที่ประสานกันกำลังเกร็งแข็ง เธอคิดอะไรอยู่ตอนที่นัดหมายกับพี่เสือ เธออยากรู้จักเขา อยากเจอเขาตัวเป็นๆ เดือนเด่นของเว็บไซต์แลกเปลี่ยนคู่จะหล่อเหลาขนาดไหน เอาเข้าจริงความหล่อเหลาของเขาก็ไม่ได้มีความหมายเท่ากับ เซ็กส์ที่กำลังจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊ะ” เสียงครางเบาๆ ของเนยกระตุกลำคอของพรรณชมพูให้เชิดตึง เธอมองไปตามการเคลื่อนไหวของฝ่ามือพี่เสือ เขาลูบเนินอันโหนกอูมของเนย
โอ้แม่เจ้า พรรณชมพูเผลอกดสายตามองเนินลับของตัวเอง
โคกเนินของเนยนูนลอยขึ้นเมื่อเนยแอ่นหน้าขาสูงสู้มือพี่เสือ ปลายนิ้วของพี่เสือยามที่กรีดเข้าไปในร่องสวาทที่ปกคลุมด้วยขนค่อนข้างดก พรรณชมพูกลั้นหายใจจนแน่นท้อง ไม่รู้ว่าทำไมสัมผัสของพี่เสือถึงกำลังเคลื่อนไหวอยู่บนร่างเธอ ไม่ใช่เนย
“อ๊า พี่เสือ บี้ติ่งเนยแรงๆ เนยเสียว”
เสียงของเนยสั่นพร่าแต่ยังแหลมเล็ก พรรณชมพูขมวดคิ้วเข้าหากัน ยามเห็นปลายลิ้นของพี่เสือไต่ลงเบื้องล่าง นิ้วมือของเขายังบี้บดติ่งเนื้อที่ซุกซ่อนอยู่ในกลีบแคมของเนย พรรณชมพูตัวสั่น เมื่อเห็นเนยหลั่งน้ำใสๆ เคลือบนิ้วมือของพี่เสือ
“ซี้ดดดดด พี่เสือขา เนยเสียว อ๊า”
กลางป่าเขาเขียวขจี ระหว่างการหลบหนีไล่ล่า กองเพลิงแห่งไฟสวาท นั้นเร่าร้อนแผดเผา สองร่างดื่มด่ำรสสวาท สองหัวใจผูกพันยึดมั่น เร่าร้อน...รุนแรง… หากแต่แม้นออกจากป่า เปลวไฟสวาทนั้นก็ยังไม่มอดไหม้
เขา...พ่อเลี้ยงดรัณ พัชรอมรินทร์ ผู้ชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่มีอดีตสุดแสนจะเจ็บปวด บาดแผลที่ทิ่มแทงหัวใจมาตลอดระยะเวลาหลายปีมันกำลังจะกลัดหนอง ถ้าไม่ทำการรักษาให้หาย เธอ...พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ สาวน้อยวัยใสผู้มีโลกส่วนตัวที่แสนจะงดงาม และหลงรักผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมาตลอด ‘ความรักคือการให้’ นี่คือนิยามความรักของเธอ เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าเธอไม่กลับมารับรู้ว่าเขาเป็น ‘หม้าย’ และเรื่องราวก็คงไม่วุ่นวายกว่า ถ้าเธอกับเขาไม่ต้องเปลี่ยนสถานะจาก ‘น้าเขยกับหลานเมีย’ มาเป็น ‘สามีกับภรรยา’ มันอาจจะเป็นความสมหวังถ้าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ใจดีที่หลงรักมาตลอด แทนการแต่งงานกับผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไม่รู้สาเหตุว่าอะไรถึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนละคน เถื่อนและไร้เหตุผลสิ้นดี “เมียของฉันต้องเก่งเรื่องบนเตียง ต้องทำกับข้าวอร่อย ต้องทำงานในไร่ได้ไม่ต่างจากคนงาน ที่จริงจะต้องทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง ขยัน ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้แม่บ้านทำเอง เธอก็ต้องเป็นแบบนั้น” “ก็ได้ พลับทำให้ได้” “เริ่มเลย” “ปล่อยสิคะ ไม่ปล่อยแล้วจะทำได้ไง” ถ้าเขายังกอดเธอแน่นแบบนี้ ยังหายใจรดใบหน้าเธอแบบนี้ แล้วจะออกไปทำทุกอย่างที่ต้องการได้ยังไง “หน้าที่แรกที่บอก จำได้ไหม”
“เจ้านายอย่าคิดว่า ความคิดความรู้สึกของเจ้านายนั้นถูกหมดทุกอย่างนะคะ” สาวน้อยเริ่มไม่พอใจ ที่เขาหาเรื่องรวนเธอ ชวนนท์ยืนขึ้น ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหยุดอยู่หน้าหญิงสาว ห่างกันแค่มือเอื้อมถึง ความสูงใหญ่ของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งเล็กลงไปอีก “เธออย่าปฏิเสธฉันเลยดลลดา ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามา ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเธอกลัวฉัน” “ดิฉันไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลัวคุณ” หญิงสาวเชิดหน้าตอบ “แน่ใจเหรอ” “ค่ะ” แล้วลำแขนเรียวกลมกลึง ก็ถูกมือใหญ่กระชากเข้าหาตัวชายหนุ่ม จนทรวงอกนุ่มหยุ่นแนบชิดกับอกกว้างแข็งแรงของเขา ดลลดาขืนตัวเอาไว้เต็มกำลังที่มี แม้จะเหลืออยู่น้อยนิดก็ตาม ดวงตาคู่สวยมองสบดวงตาคมกริบด้วยความหวาดกลัว “นั่นไง เธอกลัวฉันจริงๆ” ชวนนท์เห็นความกลัวในดวงตาของหญิงสาว “เจ้านาย ปล่อยค่ะ” เสียงใสๆ นั้นสั่นระรัว
‘กาย’ หนุ่มใหญ่ผู้ไม่เคยมีศรัทธาในความรัก เขากระหายในความเจ็บปวด ยิ่งเธอทรมาน ก็ยิ่งมีความสุข เสียงครวญครางของเธอเป็นเหมือนอาหารรสเลิศที่ขาดไม่ได้ ทว่า...เธอกลับเรียกแรงศรัทธาในความรักให้เดินเข้าหาเขา ‘มารียัน’ เด็กสาวผู้ที่ตกหลุมพรางของผู้ใหญ่ กลายเป็นทาสของซาตานผู้ไร้หัวใจ เป็นชู้กับน้าเขยตัวเอง บทรักของเขาเรียกน้ำตาจากเธอทุกครั้ง ทว่า...มันกลายเป็นยาเสพติดที่เธอขาดไม่ได้ จะทำยังไงให้ซาตานที่รักตอบแทนความรักอันเจ็บปวดของเธอได้บ้าง
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!