เธอ…เลขาสุดมั่นแสนร้าย เขา…เจ้านายคนใหม่ขี้เก๊ก
เธอ…เลขาสุดมั่นแสนร้าย เขา…เจ้านายคนใหม่ขี้เก๊ก
ตอนสายๆ ที่ส่วนต้อนรับของโรงแรมสุดหรูก็ยุ่งและวุ่นวายเหมือนทุกวันมันคือเวลาที่ลูกค้าเช็คเอ้าท์และเป็นช่วงที่ทัวร์จากบริษัทต่างๆ จะมารับลูกค้าไปท่องเที่ยว ทุกคนต่างก็อยากได้รับบริการที่รวดเร็วและพนักงานคนสวยก็พยายามอย่างสุดความสามารถ
“อุษาสวรรค์ รัตนสุข” ผู้จัดการฝ่ายต้อนรับสุดมั่นฝีมือการทำงานกว่าสิบปี เป็นที่ไว้วางใจจากเจ้าของโรงแรมเป็นอย่างมาก ช่วงเช้าเธอมีหน้าที่ดูแลลูกค้าส่วนตอนบ่ายจะขึ้นไปเป็นเลขาให้ผู้บริหารสุดหล่อ ซึ่งเขากำลังจะวางมือแล้วส่งต่อให้น้องชายที่จะกลับมาสัปดาห์นี้
“คุณวิน น้องแพร สวัสดีค่ะ” อุษาสวรรค์หรือแอ้มเพิ่งจะได้พักหายใจเพราะเพิ่งเคลียร์ลูกค้าชุดสุดท้ายแล้วเจ้านายก็เดินเข้ามาพอดี
“ทานอะไรรึยังครับคุณแอ้ม” วินสตันทักทายลูกน้องด้วยความเป็นห่วง
“นั่นสิ ลืมเลยเที่ยงกว่าแล้วเหรอเนี่ย” แอ้มมองนาฬิกาบนผนังแล้วเอามือทาบอกแล้วเลื่อนลงไปตรงหน้าท้องที่ตอนนี้ร้องโครกครากเชียว
“ทำงานจนลืมกินข้าวอีกแล้วนะคะพี่แอ้ม” แพรนวลติงด้วยความไม่ชอบใจเพราะอุษาสวรรค์บ้างานเหลือเกิน ถ้างานไม่เสร็จอย่าหวังเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะกินจะนอนกับเขา
“โอ๊ยๆๆ หนูดาวจ๋าช่วยน้าแอ้มด้วย น้าแอ้มโดนดุอีกแล้ว” อุษาสวรรค์ลงไปนั่งคุกเข่าแล้วเขี่ยแก้มเด็กหญิงทะเลดาวด้วยความมันเขี้ยว เธอไม่เคยพบเจอเด็กที่ไหนน่ารักและยิ้มง่ายแบบหนูดาวมาก่อนเลย
“คุณแอ้มไปทานข้าวเถอะครับแล้วบ่ายสองค่อยขึ้นไปข้างบน” วินสตันกล่าวแล้วเข็นรถลูกสาวเข้าลิฟต์ส่วนข้างกายคือภรรยาที่ถือสัมภาระเด็กอ่อนและกระเป๋าเอกสารหนึ่งใบ
ห้องทำงานของวินสตันเปลี่ยนไปมากพอดู ตอนนี้ห้องกระจกที่เคยเป็นห้องครัวกลายเป็นห้องเด็กอ่อนที่ภรรยากับลูกสาวจะวุ่นกันอยู่ในนั้น ส่วนโต๊ะที่ภรรยาเคยนั่งทำรายงานโดนยกออกไปแล้วแทนที่ด้วยโต๊ะตัวใหม่พร้อมเครื่องใช้สำนักงานครบครัน ตรงนี้คือที่นั่งของอุษาสวรรค์
วินสตันจะยกโรงแรมให้น้องดู เขาและครอบครัวจะย้ายไปอยู่ที่เขาใหญ่แบบถาวรจะได้ดูแลสนามกอล์ฟที่เพิ่งเริ่มสร้างได้เต็มที่และที่สำคัญภรรยาของเขาชอบที่นั่นมาก
“พี่แอ้มนี่น่าตีนักเชียว” แพรนวลยังไม่ยอมหยุดบ่น เธอไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้กินข้าวตรงเวลาสักวันแต่ก็น่าแปลกที่ไม่เห็นจะป่วยจะไข้สักที
“บ่นทุกวันเลยไม่เบื่อเหรอครับที่รัก”
“พี่วินว่าแพรเหรอ”
“โอ๋ๆๆ พี่ผิดไปแล้ว ขอโทษนะครับ”
ชายหนุ่มรวบตัวภรรยาแล้วมอบจุมพิตแสนดูดดื่มให้ ถึงจะอยู่ด้วยกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงมาเป็นปีๆ แต่เขาก็ไม่เคยเบื่อเธอแม้สักนาทีเดียว
“พี่วิน” เมื่อริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเป็นอิสระพวงแก้มของเธอก็ขึ้นสีแดงเข้ม เขาชอบจู่โจมโดยไม่ให้ตั้งตัวตลอดเลย
“จ๋า เรียกนี่อยากให้จูบอีกครั้งใช่ไหมครับ”
“ทำงานเลยค่ะ แพรจะไปเล่นกับลูกแล้ว” แพรนวลว่าแล้วเข็นลูกเข้าห้องกระจกเพื่อกลบความอาย ต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหนเธอก็ประหม่าอยู่ดีเวลาแนบชิดกัน
วินสตันจึงนั่งประจำที่ ส่วนแพรนวลพาทะเลดาวเข้าห้องกระจก สองแม่ลูกจะทำกิจกรรมด้วยกันอาทิเช่น ระบายสี อ่านหนังสือ ฟังเพลง ที่ต้องหอบลูกมาทำงานทุกวันก็เพราะสามีอ้อนวอนว่าไม่อยากให้เธอกับลูกอยู่ห่างสายตา
“ก็พี่คิดถึง ยิ่งตอนทำงานเหนื่อยๆ แล้วได้กอดแพรกับลูกมันดีมากเลยนะครับ” นั่นคือคำที่เขาใช้แล้วใครจะใจร้ายได้ลงคอและที่สำคัญเธอก็ไม่อยากอยู่ไกลเขาด้วย
โรงอาหารของพนักงาน
อุษาสวรรค์ยืนอยู่กลางห้องโถงสีขาวสะอาดและกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะกินอะไรดีและเธอก็ตกเป็นเป้าสายตาให้หนุ่มๆ โลมเลียเหมือนทุกวัน
เธอคือสาวไทยแท้หน้าสวยเฉี่ยววัยยี่สิบแปดปี ผมของเธอซอยสั้นและทำสีโทนน้ำตาลแดงแต่ส่วนที่เย้ายวนที่สุดก็คือริมฝีปากรูปกระจับที่เผยอนิดๆ
ร่างสูงระหงยืนคิดเพียงอึดใจแล้วก้าวอย่างว่องไวไปซุ้มอาหารที่ต้องการ อุษาสวรรค์เป็นคนกระฉับกระเฉง คิดเร็วถ้าต้องตัดสินใจเรื่องไหนก็จะคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วลงมือทำทันทีแต่การคิดของเธอใช้เวลาไม่นานเพราะเธอไม่ชอบความยืดยาด
“นั่งด้วยนะแอ้ม” อชิระหรือโอผู้จัดการฝ่ายขายเอ่ยขอโดยไม่รอคำตอบ อุษาสวรรค์ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอก็รู้จักและสนิทสนมกับอีกฝ่ายพอสมควร
“วันนี้กับข้าวเยอะมากเลยเนอะ” อชิระชวนคุย
“อืม” อุษาสวรรค์ตอบแบบผ่านๆ เพราะหัวสมองของเธอกำลังวางแผนงานรอบบ่ายอยู่
“คืนนี้ไปเที่ยวกันไหมแอ้ม เด็กๆ ในแผนกก็ไป วันเกิดตุ๊ดตู่อ่ะ”
“ขอโทษนะโอ ช่วงนี้แอ้มงานยุ่งเดี๋ยวคุณบรูโน่จะมาแล้วแอ้มต้องเตรียมเอกสารบรีฟงานเยอะมาก ฝากสุขสันต์วันเกิดตุ๊ดตู่ด้วยนะ”
“เสียดายจัง” อชิระตอบแบบเซ็งๆ เขาหาทางชวนอุษาสวรรค์ไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ แต่เหมือนเธอจะรู้ตัวเพราะถ้าไปกันตามลำพังเธอไม่เคยไปด้วยสักครั้ง จะมีก็แต่งานวันเกิดงานเลี้ยงสังสรรค์ที่เธอจะยอมมาด้วย พูดง่ายๆ ก็คือเธอไม่เปิดโอกาสให้เลยสักนิดแม้จะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม
อชิระชื่นชมและหลงรักอุษาสวรรค์มาหลายปีแน่แหละเพราะเธอสวยสะดุดตา เดินไปทางไหนหนุ่มๆ ก็มองจนตาเหล่แต่เธอมีดีกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นความคิดอันเฉียบคม ความแม่นยำเรื่องงาน
อุษาสวรรค์เป็นผู้หญิงที่มีพลังล้นเหลือ ตั้งแต่รู้จักกันแทบไม่เคยเห็นเธอทำหน้าเศร้าเหงาหงอยเลยสักวัน เธอสดใส คล่องแคล่ว ไหวพริบดี เซ็กซี่แต่ก็แฝงความบริสุทธิ์อ่อนหวานซ่อนอยู่ข้างในเพราะถึงจะเป็นคนหัวสมัยใหม่แต่ก็รักนวลสงวนตัวสุดๆ
“งานยุ่งไหมคะ” เมื่อตกผลึกความคิดเรียบร้อย อุษาสวรรค์จึงพาตัวเองกลับมาอยู่กับคนตรงหน้า เธอรู้ว่าอชิระชอบเธอแต่เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขาสักนิดบทสนทนาที่ปลอดภัยจึงควรเป็นเรื่องงานเพราะเธอไม่อยากให้ความหวังใคร
“ยุ่งแต่ไม่เท่าแอ้มหรอก” ชายหนุ่มตอบแล้วส่งยิ้มหวานให้
อุษาสวรรค์คันปากเหลือเกินเธออยากบอกว่าให้เลิกหวังลมๆ แล้งๆ สักทีแต่ก็ยั้งปากไว้เพราะการทำลายหัวใจคนอื่นมันไม่ดีแน่ ตราบใดที่เธอวางตัวอยู่ในฐานะเพื่อนร่วมงานก็จะไม่มีใครต้องเจ็บปวด
“หาเวลาพักบ้างนะแอ้ม”
“ขอบใจจ้า แล้วเจอกันนะ” อุษาสวรรค์บอกแล้วลุกออกไป
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ” “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย” “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้” “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่” “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้ “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้” ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
... ในวันครบรอบแต่งงาน ฮั่วเยี่ยนสือ สามีผู้มั่งคั่งทิ้งเธอไป แล้วหาคนรักแรกของเขา ผู้ชายที่ไม่รักนวลสงวนตัวก็เหมือนสิ่งไร้ค่า ผู้ชายที่เธอเคยอ่อนข้อให้แต่ก็ไม่สนใจเธอ งั้นเธอไม่ต้องการแล้ว จึงขอหย่าทันที ฮั่วเยี่ยนสือไม่สนใจ ซูหว่านหนิงกลับเข้าสู่วงการบันเทิงและเฉิดฉาย รักแรกในอุดมคติชอบแกล้งอ่อนแองั้นเหรอ งั้นก็ให้เธอเผยธาตุแท้จริงให้ทุกคนได้เห็น อดีตสามีที่เป็นคนปากแข็งที่สุด "เมื่อเธอเบื่อแล้วเธอจะกลับมาหาฉัน" แต่ภรรยาที่เคยเต็มใจทำทุกอย่างให้เขานั้นไม่กลับมาอีกแล้ว ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในอาชีพเท่านั้น แต่ยังมีคนมากมายมาตามจีบเธออีก ดาราระดับโลกแสดงความรักอย่างแรงกล้า ผู้บริหารบริษัทสื่อพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธอยิ้ม แม้แต่ทายาทเศรษฐีอันดับหนึ่งก็ต้องการเธอเท่านั้น จากนั้นฮั่วเยี่ยนสือเริ่มตระหนก เปลี่ยนจากคนเย็นชากลายเป็นคนที่คอยติดตามไม่ห่าง ใช้ทุกวิถีทางเพื่อตามจีบภรรยา ซูหว่านหนิงไม่แม้แต่จะมอง "เมื่อก่อนคุณเฉยเมยกับฉัน ตอนนี้คุณไม่คู่ควรกับฉันแล้ว" ฮั่วเยี่ยนสือขอร้องเธออย่างบ้าคลั่ง "หนิงหนิง เราแต่งงานใหม่เถอะ" ซูหว่านหนิงแสดงท่าทางหยิ่ง "คุณฮั่ว ฉันไม่เคยกลับไปหาของที่ทิ้งไปแล้ว"
ชีวิตเธอกำลังมีความสุข แต่แล้วก็ประสบอุบัติเหตุมาอยู่ในยุคโบราณ อยู่โบราณไม่ว่าถ้ามาอยู่ในร่างเด็กที่แม่ป่วย พ่อพิการ แถมตัวเองก็เป็นคนเดียวที่พอจะหาอาหารให้พวกเขาได้!!
คริสโตเฟอร์ อัศวโยธิน สามีของฉัน คือเพลย์บอยตัวพ่อที่ฉาวที่สุดในกรุงเทพฯ เขามีชื่อเสียงเรื่องการควงเด็กสาวอายุสิบเก้าเป็นฤดูกาล ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฉันเชื่อมาตลอดว่าฉันคือข้อยกเว้นที่สามารถทำให้เขาหยุดได้ ภาพลวงตานั้นพังทลายลง เมื่อพ่อของฉันต้องการการปลูกถ่ายไขกระดูก ผู้บริจาคที่เข้ากันได้สมบูรณ์แบบคือเด็กสาวอายุสิบเก้าชื่อไอริน ในวันผ่าตัด พ่อของฉันเสียชีวิต เพราะคริสเลือกที่จะนอนอยู่บนเตียงกับเธอ แทนที่จะพาเธอไปโรงพยาบาล การหักหลังของเขายังไม่จบแค่นั้น ตอนที่ลิฟต์ร่วง เขาดึงเธอออกไปก่อนแล้วทิ้งให้ฉันร่วงลงไป ตอนที่โคมระย้าถล่มลงมา เขาใช้ตัวเองบังร่างเธอแล้วก้าวข้ามฉันที่นอนจมกองเลือดไป เขายังขโมยของขวัญชิ้นสุดท้ายที่พ่อผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้ฉันไปให้เธอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเรียกฉันว่าคนเห็นแก่ตัวและไม่รู้จักบุญคุณ โดยไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของฉันจากไปแล้ว ฉันจึงเซ็นใบหย่าเงียบๆ แล้วหายตัวไป วันที่ฉันจากมา เขาส่งข้อความมาหาฉัน "ข่าวดีนะ ผมหาผู้บริจาคคนใหม่ให้พ่อคุณได้แล้ว เราไปนัดวันผ่าตัดกันเถอะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY