ผมชื่อเซบาสเตียนเป็นหมอฟันที่ “หนักเอา เบาสู้”
ผมชื่อเซบาสเตียนเป็นหมอฟันที่ “หนักเอา เบาสู้”
คุณเชื่อเรื่องรักแรกพบไหม ?
สำหรับผมที่เป็นหมอฟัน มีชีวิตมาสามสิบสามปียังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้สักครั้ง ใครกันที่จะทำให้หัวใจเต้นแรงเพียงสบตากันครั้งเดียว
ใช่ว่าผมไม่เคยมีความรัก ก็มีมาหลายหนลองมาหลายทีแต่จบไม่ดีสักราย ผมนอกใจเขาบางทีเขาก็นอกใจผม เข้ากันไม่ได้ก็หลายคน สรุปแล้วผมไม่เคยโชคดีในเรื่องนี้เลย
หวังว่าการมาพักผ่อนครั้งนี้จะได้พบเรื่องดีๆ กับเขาบ้าง
เกาะสมุย
ชายหนุ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดเพื่อหลบหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงรวมถึงบริเวณรอยต่อเขตปริมณฑล นี่ไม่ใช่วันหยุดเป็นวันพุธกลางสัปดาห์ถ้าออกสักเจ็ดโมงคงเกือบเที่ยงกว่าจะพ้นกรุงเทพ
สายลมยามเช้าแสงแดดอ่อนๆ ช่วยให้จิตใจสดชื่น หลังจากต้องง้างปากคนไข้มาหลายเดือนติด ในที่สุดผมก็ได้พักร้อนกับเขาสักที ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคราวนี้ลาได้ตั้งห้าวัน ผมจะอาบแดด เล่นน้ำ สูดไอทะเลให้ชุ่มปอดไปเลย
เที่ยงกว่าก็มาถึงดอนสักมันเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่ผู้คนบนฝั่งกับบนเกาะใช้ข้ามไปมา เรือเฟอร์รี่กำลังเข้าเทียบส่วนผมก็เตรียมเหยียบคันเร่งเพื่อนำรถเข้าไปจอดในเรือ อันที่จริงนั่งเครื่องบินเร็วกว่าแต่ผมชอบขับรถชอบมองวิวข้างทางและที่พลาดไม่ได้ก็คือแวะดื่มกาแฟไปเรื่อยๆ เจอร้านถูกใจก็ลงไปพักขายืดเส้นยืดสาย
เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งในการลอยล่องอยู่กลางทะเลไม่น่าเบื่อสักนิด เมื่อจอดรถเรียบร้อยก็เดินขึ้นไปบนเรือที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น ซุ้มขายอาหารและขนม โทรทัศน์ให้ชมฆ่าเวลาแต่ที่ชอบที่สุดก็คือมีห้องนวด ผมเลือกนวดเท้าเพราะใช้เหยียบใช้เดินมาครึ่งค่อนวัน
“สวัสดีค่ะคุณเซบาสเตียน สุธีร์ มอนต์โกเมอรี่ โรงแรมหาดสวยยินดีต้อนรับค่ะ” เมื่อมาถึงท่าเรือหน้าทอนที่เป็นศูนย์กลางของเกาะสมุย ผมก็ขับรถไปอีกสิบห้านาทีแล้วก็ถึงที่พักที่จองไว้
“เรียกซะเต็มยศเลย เรียกธีร์ก็พอครับ” ชายหนุ่มบอกแล้วยิ้มโชว์ฟันขาว
“อุ๊ยตาย ! พูดไทยได้ด้วย ขอโทษค่ะ” พนักงานต้อนรับเผลอทำกิริยาตกใจจนเกินงามจึงรีบกล่าวขออภัย
“ไม่เป็นไรครับ ก็หน้าฝรั่งจ๋าขนาดนี้แต่ดันพูดไทยชัดปร๋อใครจะไม่งงบ้าง ใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มพูดไปยิ้มไป
“กุญแจห้องค่ะ อาหารเช้าตั้งเวลาหกโมงถึงสิบโมงเช้านะคะ คุณเซบาสเตียนต้องการรับประทานเวลาไหนขอให้แจ้งทางเราในตอนเย็นของแต่ละวันนะคะ” ผมจองวิลล่าริมหาดไว้มันเป็นห้องพักที่แพงที่สุดการบริการจึงดีที่สุดเช่นกัน ผมไม่ต้องไปรับประทานอาหารรวมกับลูกค้าคนอื่นแต่จะมีพนักงานนำมาส่งให้ถึงหน้าห้องเลยทีเดียว
“ผมแจ้งตอนนี้ได้เลยไหมครับ”
“ได้เลยค่ะคุณเซบาสเตียน” แม้ลูกค้าจะให้เรียกแค่ชื่อเล่นแต่พนักงานก็ยังเกรงใจอยู่ดี
“ผมขอเป็นตอนเจ็ดโมงครึ่งทุกวันเลยครับ ถ้าเป็นไปได้”
“ได้แน่นอนค่ะ ดิฉันลงบันทึกให้แล้ว ขอให้มีความสุขกับการพักผ่อนนะคะ”
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มรับกุญแจห้องแล้วขยิบตาให้สาวๆ
“ส้ม ! แกไม่รู้จักคุณธีร์เหรอ” อมราหรืออ้อมที่ยืนข้างๆ กลับมาพูดเป็นปกติก็ตอนที่พ่อเทพบุตรเดินไปไกลแล้ว ก่อนหน้านั้นอมรามัวแต่ตกตะลึงในความสมบูรณ์แบบของเซบาสเตียนจนพูดไม่ออก
“หึ … นายแบบเหรอ ฉันไม่ค่อยได้ตามพวกนี้” สุชาดาตอบ
“หมอฟัน นายแบบและที่สำคัญรวยมาก … มากแบบ ก. ไก่ ล้านตัว แม่เป็นคนไทยพ่อเป็นคนอังกฤษมั้งไม่แน่ใจเขาเป็นลูกครึ่งที่พูดไทยชัดแจ๋วเพราะคุยกับแม่ด้วยภาษาไทย คุยกับพ่อด้วยภาษาอังกฤษแล้วก็เยอรมัน”
“โอ้โฮ ! นี่แกอยู่ข้างบ้านเขาเหรอ รู้เยอะรู้ดี”
“เห็นบุ๊คกิ้งตั้งแต่เดือนก่อนว่าเขาจะมา ฉันนี่ตั้งตารอเลย พ่อคุณเอ๊ย ! หล่อกว่าในหนังสือล้านเท่า” อมรายังเพ้อไม่หยุด
“หนังสืออะไร ใครหล่อเหรอ” แสงจันทร์แทรกเข้ามาตรงกลางระหว่างเพื่อนสองคน
“คุณเซบาสเตียน ลูกค้าที่มาเช็กอินน์เมื่อกี้ ออร่าเหมือนหล่นลงมาจากสวรรค์” สุชาดาบอกเพื่อนที่มาทีหลัง
“อ้อ … ก็ลูกค้าไง เห็นแล้วว่ามีชื่ออยู่ ตื่นเต้นอะไรกัน” แสงจันทร์วางกระเป๋าแล้วหยิบแฟ้มออกมากางเพื่อดูงานของช่วงเช้า
“เซ็งสุด นี่แกสองคนไม่รู้จักคุณธีร์จริงๆ เหรอ” อมราถาม
“หึ ไม่รู้จัก” แสงจันทร์กับสุชาดายืนยันด้วยเสียงหนักแน่น
“คืองี้จันทร์ส่วนส้มแกฟังให้ชัดๆ อีกที คุณเซบาสเตียนเป็นหมอฟัน เป็นนายแบบ รวยมาก หล่อมาก สุภาพมากแล้วก็ยิ้มหวานสุดๆ สมแล้วที่เป็นหมอฟันเพราะฟันขาวสะอาดเรียงซี่สวยงาม” อมราร่ายยาวแบบไม่พักหายใจ
“ฉันต้องหาข้อมูลบ้างแล้ว” สุชาดาหยิบมือถือขึ้นมาจิ้มอย่างรวดเร็ว ไม่กี่อึดใจประวัติต่างๆ ตั้งแต่เด็กจนโตของเซบาสเตียนก็มาอยู่ในมือ
“โอ้โฮ ! นี่ไม่ใช่คนแล้ว เทพเจ้าลงมาเกิดในร่างมนุษย์ชัดๆ เล่นกีฬาเก่ง แกฟังนะว่าเขาเล่นอะไรบ้าง ฟุตบอล บาสเกตบอล กอล์ฟ ว่ายน้ำ ฟันดาบ วิ่ง เคยลงแข่งไตรกีฬาแล้วก็คือเป็นหมอฟันด้วย ทำทั้งหมดได้ยังไงวะ นี่แค่เดินขึ้นบันไดเข่าก็ลั่นแล้วไม่ต้องนึกถึงวิ่งเลยและที่สำคัญ ฉันอ่อนกว่าเขาเป็นสิบปี” สุชาดาอ่านประวัติสุดยอดเยี่ยมของเซบาสเตียนด้วยความชื่นชมปนอิจฉา
ตอนอยู่ลอนดอนเซบาสเตียนถ่ายแบบเป็นอาชีพเสริมพอกลับมาเมืองไทยก็มุ่งมั่นกับหหน้าที่หมอฟันเพียงอย่างเดียวเพราะอยากพัฒนาฝีมือให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ
“ไหมล่ะ บอกแล้วว่าเขาน่ะดีพร้อม” อมราสำทับ
“ว่าไหมจันทร์” สุชาดาถามเพื่อน
“ไรเหรอ” แสงจันทร์เงยหน้าขึ้นมาถามแบบงงๆ เพราะไม่ได้ฟังที่เพื่อนคุยเลยสักคำ
“โอ๊ย ! ยายชีแสงจันทร์ ละทางโลกแล้วไปถือศีลแปดไหม”
“อะไรเล่าก็ไม่รู้จักจะสนใจทำไม เขาก็เหมือนลูกค้าคนอื่นๆ ตื่นเต้นไรหนักหนา นายแบบ พระเอก ก็มาพักโรงแรมเราออกจะบ่อย ละครก็ยังเคยมาถ่ายมีแต่คนหน้าตาดีๆ ทั้งนั้น ยังไม่ชินอีกเหรอ”
“แต่นี่คือเซบาสเตียน สุธีร์ มอนต์โกเมอร์รี่ ไม่เหมือนกันแน่นอนจ้ะเพราะเขาไม่ได้แค่หล่อแต่เพอร์เฟคทุกอย่างและๆๆ ที่สำคัญก็คือยังโสดด้วยจ้า” อมราพูดด้วยตาเป็นประกาย
“แล้วไงคิดว่าเขาจะมองเด็กกะโปโลแบบพวกเรางั้นสิ”
“โอ๊ย ! แกเนี่ย ไม่เคยให้ความหวังเพื่อนเลยนะจันทร์” อมราทำหน้างอที่เพื่อนมาดับฝันกลางวัน
“เตรียมเอกสารเถอะ เดี๋ยวลูกค้ากลุ่มนี้ก็มาแล้ว ไม่น่าเกินชั่วโมง” สามสาวจึงเลิกคุยแล้วกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
เมื่อถูกคู่หมั้น(ที่ไม่ได้รัก แต่หมั้นเพราะผู้ใหญ่) หักหลังด้วยการซ่อนผู้หญิงเอาไว้ข้างหลังเป็นหางว่าว ทำให้อัปสรสวรรค์ รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก ผู้หญิงเก่งรอบด้านอย่างเธอทำไมถึงถูกหักหน้าเช่นนี้ได้ หญิงสาวไปดื่มเหล้ากลบความโมโห แต่ดันดื่มมากเกินไปจึงเมาเละ มารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็แดดแจ๋ฟ้าแจ้งจางปางแล้ว อาการปวดหัวตึบ ๆ ยังไม่น่าช็อคซีนีม่า เท่ากับมีผู้ชายหน้าตาเหมือนเทวดาแปลงกายนอนอยู่ข้างๆ แถมเนื้อตัวและสภาพเตียงก็ทำให้คิดดีไม่ได้เลย! เธอรีบหนีออกมาโดยพลันและคิดว่าเรื่องคงจบแล้ว แต่ไหงเจ้ากรรมนายเวรในรูปแบบผู้ชายหล่อโฮกกกยังตามติดมาถึงบริษัทล่ะ แถมยังข่มขู่ว่าถ้าไม่รับเขาเข้ามาเป็นผู้ช่วยส่วนตั๊วส่วนตัว จะแฉวีรกามบนเตียงของเธอให้โลกรู้ แล้วแบบนี้เธอมีทางเลือกอื่นไหมล่ะ ก็ไม่มี๊ นอกจากยอมให้เจ้ากรรมนายเวรสุดหล่อมาอยู่ใกล้ๆ ประดุจดั่งหอกข้างแคร่ ที่พร้อมเสียบพร้อมแทงทุกที่ทุกเวลา แม้แต่บนระเบียงก็แทงจนยับไม่มีละเว้น ใครก็ได้... มาอันเชิญเจ้ากรรมนายเวรตนนี้ไปสักทีเถอะ เธอไม่ไหวแล้ว เมื่อยขามาก!
คำโปรย : .....ใครจะไปคิด! ว่าไก่ย่างเพียงไม้เดียว มันจะทำให้ชีวิตของเธอถึงจุดจบ! และนำพาเธอย้อนเวลาไปเกิดใหม่ในร่างของคนที่อยู่ในยุคประวัติศาสตร์ และที่สำคัญ เธอได้สามีเป็นของแถม! **** อารัมภบท : .....เรื่องราวของนักศึกษาสาวที่ชีวิตพลิกผันอย่างไม่คาดฝัน เมื่อเธอหมดลมหายใจเพราะไก่ย่างเพียงไม้เดียว! แต่เธอกลับได้ย้อนเวลาเกิดใหม่ในร่างของลูกสาวเจ้าพระยาที่อยู่ในยุคก่อน แถมร่างนั้นก็ยังมีสามีแล้ว แต่เป็นสามีแสนจะเย็นชา ที่ไม่เคยสนใจหรือใส่ใจให้ความรักกับภรรยาที่เป็นเจ้าของร่างเดิมเลย แล้วใครสน? สำหรับเธอ คิดเพียงว่าได้มาเกิดใหม่อีกครั้ง ก็ดีแค่ไหนแล้ว ใครจะไม่รักก็ช่างเขาสิ ..โนสน ..โนแคร์จ้า แต่ทว่า! ยิ่งเธอไม่สนใจเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหันกลับมาสนใจเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความแปลกใหม่ของเธอทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน จนกระทั่งคนที่เคยเย็นชามาตลอด จู่ๆ ก็กลายเป็นคนคลั่งรักในที่สุด.. #ตัวละครหลัก : *พระยาพิพัฒน์พงศ์ หรือ เจ้าคุณพิพัฒน์ อายุ 36 ปี มีบรรดาศักดิ์เป็นขุนนางระดับสูง รูปหน้าหล่อขั้นเทพ ฉลาด สุขุมรอบคอบ เงียบขรึม มีเสน่ห์ ผิวขาว รูปร่างกำยำ * จันทร์วรา อุษาวิบูลย์ หรือ เจ้าจันทร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบ ภายใน สวยหวาน ร่าเริง กล้าพูดกล้าทำ ตากลมโต ปากจิ้มลิ้ม ผิวขาว รูปร่างผอมเพียว อกอวบอิ่ม _____________________ นิยายเรื่องนี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ห้ามทำการคัดลอด เลียนแบบ หรือดัดแปลงเนื้อหาส่วน ใดส่วนหนึ่งของงานเขียนนี้ รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่ารูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น ผู้เขียน : รดามณีนัฐฐ์ ภาพปก : Onlyboy ปรับแต่งภาพปก : Dayny_white ปกอิมเมจ : เยเรมีย์ ________💫________
[นักธุรกิจหนุ่มระดับต้นแสนร้ายกาจ VS นักปรุงน้ำหอมสาวพิการเลอโฉม บริสุทธิ์ทั้งคู่] บุคคลลึกลับส่งคลิปวิดีโอสามีนอกใจมาให้ ทำลายชีวิตที่ดูสงบของยูหยุนหนิง ทำให้เธอเข้าใจเรื่องหนึ่ง คนรักที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจะหลอกเรา เพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันจะหลอกเรา แต่นายแบบไหล่กว้างเอวคอดขายาวไม่มีทางหลอกเรา เพียงแต่ชายหนุ่มรูปหล่อขายตัวเพื่อเลี้ยงสุนัขคนนี้ กลิ่นน้ำหอมบนตัวของคุณ ทำไมถึงเหมือนกับนักธุรกิจหนุ่มระดับต้นของตระกูลเสี่ยวเลย? * ตอนที่เธอเปล่งประกายเจิดจรัส เขาเป็นลูกที่ถูกทอดทิ้งของตระกูล กล้าแค่ขโมยจูบแรกของเธอในความมืด เมื่อเธอตกจากที่สูง เขาทิ้งทุกอย่างกลับประเทศ แต่กลับเห็นเธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของคนอื่นทั้งน้ำตา ตอนเธอถูกหักหลังอย่างเจ็บปวด เขามีอำนาจอยู่ในมือ เขาคือคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เป็นคนที่ช่วยชีวิตตอนที่เธอเสี่ยงอันตราย เป็นกำลังใจที่มั่นคงที่สุดของเธอ เมื่อเธอลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาคุกเข่าข้างหนึ่ง จริงใจเป็นอย่างมาก “ได้โปรดแต่งงานกับผม” * “อยากรู้ไหมว่า ตอนที่เธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของผู้ชายสารเลวคนนั้น ผมกำลังคิดอะไรอยู่? ” “คิดอะไรอยู่เหรอคะ? ” “อย่าให้ผมมีโอกาสนะ” “แล้วถ้าไม่มีโอกาสละคะ? ” “ถ้าอย่างนั้นก็สร้างโอกาสขึ้นมา” เพราะในโลกนี้ ไม่มีใครรักยูหยุนหนิงได้มากกว่าเสี่ยวฉืออีกแล้ว
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
เกริ่น.... ....ยะ..อย่านะ..พี่กำลังเข้าใจผิดอยู่..อึก..~ ผมไม่สนใจที่เธอพูด ผู้หญิงคนนี้แสดงละครเก่งจริงๆ ผมเกือบจะเชื่อเธอแล้วว่าเธอไม่ได้ขายตัว ผม: เลิกเล่นได้แล้ว เรามามีความสุขกันดีกว่า ...ยะ..อย่า..หนูไม่ได้ขายตัวจริงๆ หนูไม่ได้แสดงละครอะไรทั้งนั้น หนูพูดเรื่องจริง ปล่อยหนูไปเถอะ !! ผมกดท่อนเอ็นเข้าไปที่ช่องเสียวสีชมพูชวนหลงไหลนั้น กึด~ “อ๊า~ เข้าอยากจังวะ” ผมก็มมองดูรอยเชื่อมระหว่างผมกับเธอ “เชี้ย...เลือด !!” ผมมองหน้าผู้หญิงคนนั้น เธอนอนน้ำตาคลอ ตัวสั่นไปหมด "อยากได้เท่าไหร่...แลกกับเซ็กส์ครั้งนี้" เธอเงียบไม่ตอบผม เอาแต่นอนสะอื้น "กูถามว่ามึงจะเอาเท่าไหร่ แลกกับความบริสุทธิ์ของมึง"
จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจภายหลังจากมารดาเสียชีวิตเด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดพร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลกอีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกพรากไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY