ผมชื่อเซบาสเตียนเป็นหมอฟันที่ “หนักเอา เบาสู้”
ผมชื่อเซบาสเตียนเป็นหมอฟันที่ “หนักเอา เบาสู้”
คุณเชื่อเรื่องรักแรกพบไหม ?
สำหรับผมที่เป็นหมอฟัน มีชีวิตมาสามสิบสามปียังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้สักครั้ง ใครกันที่จะทำให้หัวใจเต้นแรงเพียงสบตากันครั้งเดียว
ใช่ว่าผมไม่เคยมีความรัก ก็มีมาหลายหนลองมาหลายทีแต่จบไม่ดีสักราย ผมนอกใจเขาบางทีเขาก็นอกใจผม เข้ากันไม่ได้ก็หลายคน สรุปแล้วผมไม่เคยโชคดีในเรื่องนี้เลย
หวังว่าการมาพักผ่อนครั้งนี้จะได้พบเรื่องดีๆ กับเขาบ้าง
เกาะสมุย
ชายหนุ่มออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดเพื่อหลบหนีความวุ่นวายในเมืองหลวงรวมถึงบริเวณรอยต่อเขตปริมณฑล นี่ไม่ใช่วันหยุดเป็นวันพุธกลางสัปดาห์ถ้าออกสักเจ็ดโมงคงเกือบเที่ยงกว่าจะพ้นกรุงเทพ
สายลมยามเช้าแสงแดดอ่อนๆ ช่วยให้จิตใจสดชื่น หลังจากต้องง้างปากคนไข้มาหลายเดือนติด ในที่สุดผมก็ได้พักร้อนกับเขาสักที ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคราวนี้ลาได้ตั้งห้าวัน ผมจะอาบแดด เล่นน้ำ สูดไอทะเลให้ชุ่มปอดไปเลย
เที่ยงกว่าก็มาถึงดอนสักมันเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่ผู้คนบนฝั่งกับบนเกาะใช้ข้ามไปมา เรือเฟอร์รี่กำลังเข้าเทียบส่วนผมก็เตรียมเหยียบคันเร่งเพื่อนำรถเข้าไปจอดในเรือ อันที่จริงนั่งเครื่องบินเร็วกว่าแต่ผมชอบขับรถชอบมองวิวข้างทางและที่พลาดไม่ได้ก็คือแวะดื่มกาแฟไปเรื่อยๆ เจอร้านถูกใจก็ลงไปพักขายืดเส้นยืดสาย
เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งในการลอยล่องอยู่กลางทะเลไม่น่าเบื่อสักนิด เมื่อจอดรถเรียบร้อยก็เดินขึ้นไปบนเรือที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น ซุ้มขายอาหารและขนม โทรทัศน์ให้ชมฆ่าเวลาแต่ที่ชอบที่สุดก็คือมีห้องนวด ผมเลือกนวดเท้าเพราะใช้เหยียบใช้เดินมาครึ่งค่อนวัน
“สวัสดีค่ะคุณเซบาสเตียน สุธีร์ มอนต์โกเมอรี่ โรงแรมหาดสวยยินดีต้อนรับค่ะ” เมื่อมาถึงท่าเรือหน้าทอนที่เป็นศูนย์กลางของเกาะสมุย ผมก็ขับรถไปอีกสิบห้านาทีแล้วก็ถึงที่พักที่จองไว้
“เรียกซะเต็มยศเลย เรียกธีร์ก็พอครับ” ชายหนุ่มบอกแล้วยิ้มโชว์ฟันขาว
“อุ๊ยตาย ! พูดไทยได้ด้วย ขอโทษค่ะ” พนักงานต้อนรับเผลอทำกิริยาตกใจจนเกินงามจึงรีบกล่าวขออภัย
“ไม่เป็นไรครับ ก็หน้าฝรั่งจ๋าขนาดนี้แต่ดันพูดไทยชัดปร๋อใครจะไม่งงบ้าง ใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มพูดไปยิ้มไป
“กุญแจห้องค่ะ อาหารเช้าตั้งเวลาหกโมงถึงสิบโมงเช้านะคะ คุณเซบาสเตียนต้องการรับประทานเวลาไหนขอให้แจ้งทางเราในตอนเย็นของแต่ละวันนะคะ” ผมจองวิลล่าริมหาดไว้มันเป็นห้องพักที่แพงที่สุดการบริการจึงดีที่สุดเช่นกัน ผมไม่ต้องไปรับประทานอาหารรวมกับลูกค้าคนอื่นแต่จะมีพนักงานนำมาส่งให้ถึงหน้าห้องเลยทีเดียว
“ผมแจ้งตอนนี้ได้เลยไหมครับ”
“ได้เลยค่ะคุณเซบาสเตียน” แม้ลูกค้าจะให้เรียกแค่ชื่อเล่นแต่พนักงานก็ยังเกรงใจอยู่ดี
“ผมขอเป็นตอนเจ็ดโมงครึ่งทุกวันเลยครับ ถ้าเป็นไปได้”
“ได้แน่นอนค่ะ ดิฉันลงบันทึกให้แล้ว ขอให้มีความสุขกับการพักผ่อนนะคะ”
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มรับกุญแจห้องแล้วขยิบตาให้สาวๆ
“ส้ม ! แกไม่รู้จักคุณธีร์เหรอ” อมราหรืออ้อมที่ยืนข้างๆ กลับมาพูดเป็นปกติก็ตอนที่พ่อเทพบุตรเดินไปไกลแล้ว ก่อนหน้านั้นอมรามัวแต่ตกตะลึงในความสมบูรณ์แบบของเซบาสเตียนจนพูดไม่ออก
“หึ … นายแบบเหรอ ฉันไม่ค่อยได้ตามพวกนี้” สุชาดาตอบ
“หมอฟัน นายแบบและที่สำคัญรวยมาก … มากแบบ ก. ไก่ ล้านตัว แม่เป็นคนไทยพ่อเป็นคนอังกฤษมั้งไม่แน่ใจเขาเป็นลูกครึ่งที่พูดไทยชัดแจ๋วเพราะคุยกับแม่ด้วยภาษาไทย คุยกับพ่อด้วยภาษาอังกฤษแล้วก็เยอรมัน”
“โอ้โฮ ! นี่แกอยู่ข้างบ้านเขาเหรอ รู้เยอะรู้ดี”
“เห็นบุ๊คกิ้งตั้งแต่เดือนก่อนว่าเขาจะมา ฉันนี่ตั้งตารอเลย พ่อคุณเอ๊ย ! หล่อกว่าในหนังสือล้านเท่า” อมรายังเพ้อไม่หยุด
“หนังสืออะไร ใครหล่อเหรอ” แสงจันทร์แทรกเข้ามาตรงกลางระหว่างเพื่อนสองคน
“คุณเซบาสเตียน ลูกค้าที่มาเช็กอินน์เมื่อกี้ ออร่าเหมือนหล่นลงมาจากสวรรค์” สุชาดาบอกเพื่อนที่มาทีหลัง
“อ้อ … ก็ลูกค้าไง เห็นแล้วว่ามีชื่ออยู่ ตื่นเต้นอะไรกัน” แสงจันทร์วางกระเป๋าแล้วหยิบแฟ้มออกมากางเพื่อดูงานของช่วงเช้า
“เซ็งสุด นี่แกสองคนไม่รู้จักคุณธีร์จริงๆ เหรอ” อมราถาม
“หึ ไม่รู้จัก” แสงจันทร์กับสุชาดายืนยันด้วยเสียงหนักแน่น
“คืองี้จันทร์ส่วนส้มแกฟังให้ชัดๆ อีกที คุณเซบาสเตียนเป็นหมอฟัน เป็นนายแบบ รวยมาก หล่อมาก สุภาพมากแล้วก็ยิ้มหวานสุดๆ สมแล้วที่เป็นหมอฟันเพราะฟันขาวสะอาดเรียงซี่สวยงาม” อมราร่ายยาวแบบไม่พักหายใจ
“ฉันต้องหาข้อมูลบ้างแล้ว” สุชาดาหยิบมือถือขึ้นมาจิ้มอย่างรวดเร็ว ไม่กี่อึดใจประวัติต่างๆ ตั้งแต่เด็กจนโตของเซบาสเตียนก็มาอยู่ในมือ
“โอ้โฮ ! นี่ไม่ใช่คนแล้ว เทพเจ้าลงมาเกิดในร่างมนุษย์ชัดๆ เล่นกีฬาเก่ง แกฟังนะว่าเขาเล่นอะไรบ้าง ฟุตบอล บาสเกตบอล กอล์ฟ ว่ายน้ำ ฟันดาบ วิ่ง เคยลงแข่งไตรกีฬาแล้วก็คือเป็นหมอฟันด้วย ทำทั้งหมดได้ยังไงวะ นี่แค่เดินขึ้นบันไดเข่าก็ลั่นแล้วไม่ต้องนึกถึงวิ่งเลยและที่สำคัญ ฉันอ่อนกว่าเขาเป็นสิบปี” สุชาดาอ่านประวัติสุดยอดเยี่ยมของเซบาสเตียนด้วยความชื่นชมปนอิจฉา
ตอนอยู่ลอนดอนเซบาสเตียนถ่ายแบบเป็นอาชีพเสริมพอกลับมาเมืองไทยก็มุ่งมั่นกับหหน้าที่หมอฟันเพียงอย่างเดียวเพราะอยากพัฒนาฝีมือให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ
“ไหมล่ะ บอกแล้วว่าเขาน่ะดีพร้อม” อมราสำทับ
“ว่าไหมจันทร์” สุชาดาถามเพื่อน
“ไรเหรอ” แสงจันทร์เงยหน้าขึ้นมาถามแบบงงๆ เพราะไม่ได้ฟังที่เพื่อนคุยเลยสักคำ
“โอ๊ย ! ยายชีแสงจันทร์ ละทางโลกแล้วไปถือศีลแปดไหม”
“อะไรเล่าก็ไม่รู้จักจะสนใจทำไม เขาก็เหมือนลูกค้าคนอื่นๆ ตื่นเต้นไรหนักหนา นายแบบ พระเอก ก็มาพักโรงแรมเราออกจะบ่อย ละครก็ยังเคยมาถ่ายมีแต่คนหน้าตาดีๆ ทั้งนั้น ยังไม่ชินอีกเหรอ”
“แต่นี่คือเซบาสเตียน สุธีร์ มอนต์โกเมอร์รี่ ไม่เหมือนกันแน่นอนจ้ะเพราะเขาไม่ได้แค่หล่อแต่เพอร์เฟคทุกอย่างและๆๆ ที่สำคัญก็คือยังโสดด้วยจ้า” อมราพูดด้วยตาเป็นประกาย
“แล้วไงคิดว่าเขาจะมองเด็กกะโปโลแบบพวกเรางั้นสิ”
“โอ๊ย ! แกเนี่ย ไม่เคยให้ความหวังเพื่อนเลยนะจันทร์” อมราทำหน้างอที่เพื่อนมาดับฝันกลางวัน
“เตรียมเอกสารเถอะ เดี๋ยวลูกค้ากลุ่มนี้ก็มาแล้ว ไม่น่าเกินชั่วโมง” สามสาวจึงเลิกคุยแล้วกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
... ในวันครบรอบแต่งงาน ฮั่วเยี่ยนสือ สามีผู้มั่งคั่งทิ้งเธอไป แล้วหาคนรักแรกของเขา ผู้ชายที่ไม่รักนวลสงวนตัวก็เหมือนสิ่งไร้ค่า ผู้ชายที่เธอเคยอ่อนข้อให้แต่ก็ไม่สนใจเธอ งั้นเธอไม่ต้องการแล้ว จึงขอหย่าทันที ฮั่วเยี่ยนสือไม่สนใจ ซูหว่านหนิงกลับเข้าสู่วงการบันเทิงและเฉิดฉาย รักแรกในอุดมคติชอบแกล้งอ่อนแองั้นเหรอ งั้นก็ให้เธอเผยธาตุแท้จริงให้ทุกคนได้เห็น อดีตสามีที่เป็นคนปากแข็งที่สุด "เมื่อเธอเบื่อแล้วเธอจะกลับมาหาฉัน" แต่ภรรยาที่เคยเต็มใจทำทุกอย่างให้เขานั้นไม่กลับมาอีกแล้ว ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในอาชีพเท่านั้น แต่ยังมีคนมากมายมาตามจีบเธออีก ดาราระดับโลกแสดงความรักอย่างแรงกล้า ผู้บริหารบริษัทสื่อพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธอยิ้ม แม้แต่ทายาทเศรษฐีอันดับหนึ่งก็ต้องการเธอเท่านั้น จากนั้นฮั่วเยี่ยนสือเริ่มตระหนก เปลี่ยนจากคนเย็นชากลายเป็นคนที่คอยติดตามไม่ห่าง ใช้ทุกวิถีทางเพื่อตามจีบภรรยา ซูหว่านหนิงไม่แม้แต่จะมอง "เมื่อก่อนคุณเฉยเมยกับฉัน ตอนนี้คุณไม่คู่ควรกับฉันแล้ว" ฮั่วเยี่ยนสือขอร้องเธออย่างบ้าคลั่ง "หนิงหนิง เราแต่งงานใหม่เถอะ" ซูหว่านหนิงแสดงท่าทางหยิ่ง "คุณฮั่ว ฉันไม่เคยกลับไปหาของที่ทิ้งไปแล้ว"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY