ชายหนุ่มนกเขาไม่ขัน แต่พอได้อ่านนิยายของเธอนกเขามันก็พร้อมรบ ส่วนเธอกำลังประสบปัญญากับการเขียนนิยายอีโรติก ทั้งสองตกลงเป็นคู่นอนแต่แล้วเขากลับอยากได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต
ชายหนุ่มนกเขาไม่ขัน แต่พอได้อ่านนิยายของเธอนกเขามันก็พร้อมรบ ส่วนเธอกำลังประสบปัญญากับการเขียนนิยายอีโรติก ทั้งสองตกลงเป็นคู่นอนแต่แล้วเขากลับอยากได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต
“พี่ขอพูดตรงๆ นะพราว”
“ได้ค่ะพี่ดา”
“ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบทั้งพล็อต เนื้อหา ปมต่างๆ รวมไปถึงการบรรยาย พราวทำได้ดี”
“แต่...” เพราะคุ้นเคยกันมาหลายปี พราวหรือพราวรวีจึงรู้ว่าต่อจากนี้สิ่งที่ญาดาหรือพี่ดาเพื่อนรุ่นพี่ ซึ่งตอนนี้ควบตำแหน่งบรรณาธิการของสำนักพิมพ์แห่งนี้ต้องมีอะไรพูดต่อจากนั้นแน่ๆ
“เฮ้อ! เอาตรงๆ นะพราว ถ้าคนอ่านเพิ่งมาติดตามอ่านผลงานของพราวตอนนี้ก็คงชอบ เพราะมันสนุกและน่าตื่นเต้น แต่ถ้าคนที่ตามผลงานมาตั้งแต่หลายปีก่อน พวกเขาก็คงจะเริ่มเบื่อกันบ้าง”
“เบื่อเหรอคะ”
“อือ เพราะพี่สนิทกับพราวก็เลยพูดตรงๆ แบบนี้ โดยเพราะช่วงอีโรติก พี่ว่ามันไม่ค่อยถึงอารมณ์เท่าไหร่ คนอ่านเริ่มจับทางได้แล้ว”
“พราวต้องทำยังไงคะ ต้องแก้ใหม่ทั้งหมดเลยไหมคะพี่ดา”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกนะพราว แค่ปรับตรงอารมณ์ของตัวละครช่วงอีโรติกก็พอ ใส่อารมณ์ความรู้สึกเพิ่มเข้าไปอีกนิด”
“งานยากเลยนะคะพี่ดา เฮ้อ..” พราวรวีถอนหายใจ
“พี่ว่าหาแฟนสักคนสิพราว ประสบการณ์ตรงอาจช่วยได้คุณชวินทร์เขาก็สนใจพราวอยู่เหมือนกันนะ”
“พราวยังไม่อยากหาสำนักพิมพ์ใหม่ตอนนี้ค่ะพี่ดา”
พราวรวีรู้ว่าคุณชวินทร์ลูกชายของคูณวศินเจ้าของสำนักพิมพ์นั้นสนใจตัวเองอยู่ แต่ที่เธอต้องรีบปฏิเสธเพราะเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนั้น อีกทั้งเท่าที่รู้มาคุณชวินทร์ก็ควงผู้หญิงแทบไม่ซ้ำหน้า ถ้าขืนเธอเข้าไปร่วมวงด้วยอีกคนคงได้วุ่นวายกันน่าดู
“หรือถ้ายังไม่มีคนที่ถูกใจจะให้พี่ช่วยติดต่อให้ก็ได้นะ พี่มีคนรู้จักเยอะเลย โสดๆ ทั้งนั้น”
“อย่าเลยค่ะพี่ดา พราวอยู่แบบนี้สบายดีอยู่แล้ว”
“งั้นก็ตามใจจ้ะ แต่ถ้าเปลี่ยนใจก็บอกพี่ได้ ส่วนเรื่องงานพราวแก้ไขเนื้อหาเสร็จแล้วค่อยเอามาให้พี่ดูอีกทีนะ”
“กำหนดเมื่อไหร่คะพี่”
“พี่ให้เวลาหนึ่งเดือน ถ้าช้ากว่านั้นจะไม่ทันออกงานสัปดาห์หนังสือ”
“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอคะ สงสัยงานนี้พราวแย่แน่เลยค่ะ”
“อย่าเพิ่งท้อสิ พี่ว่าพราวทำได้อยู่แล้ว ปรับปรุงแค่ช่วงอีโรติกเท่านั้น ส่วนอื่นมันดีอยู่แล้ว”
“จะพยายามนะคะ”
“พี่เชื่อใจนะ มีอีกอย่างที่จะบอกพราว แต่เรื่องนี้ห้ามบอกใครนะ” ญาดายื่นใบหน้ามา ส่วนพราวรวีก็ยื่นหน้าของตัวเองออกไปอย่างตั้งใจฟัง
“ได้ยินคุณวศินบอกว่าถ้างานพราวออกมาทัน เขาจะพิมพ์หนังสือเรื่องก่อนหน้าของพราวอีกครั้ง จะได้ดึงยอดขายในงานหนังสือ น่าจะสักสามหรือสี่เล่มนี่แหละ”
“จริงเหรอคะพี่ดา” เธอดีใจจนเก็บอาการแทบไม่อยู่
“จริงสิ พี่ถึงอยากให้พราวทำเรื่องนี้ออกมาดีที่สุด”
“ขอบคุณนะคะที่แอบบอก งั้นพราวขอตัวก่อนนะคะ”
“สู้ๆ นะน้องรัก”
“ค่ะพี่ดา”
หญิงสาวหันมายิ้มให้กับรุ่นพี่ก่อนที่จะรีบเปิดประตูออกไป
ใบหน้าสวยรูปไข่กับแพขนตางอนงามยิ้มอย่างมีความสุข เพราะถ้าหนังสือได้วางขายในงานสัปดาห์หนังสือนั่นก็หมายความว่าเธอจะได้เงินเพิ่มอีกมาก
แต่แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่อนึกได้ว่างานที่ต้องแก้ไขนั้นมันยากแค่ไหน
พราวรวีเป็นนักเขียนแนวอีโรติกเธอมีผลงานตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์แห่งนี้มาสิบกว่าเล่ม เริ่มตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาปี 2 พอเรียนจบก็หันมาเอาดีทางด้านแต่งนิยายอย่างจริงจัง นอกจากงานเขียนนิยายแล้วพราวรวียังรับแปลนิยายทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน
ไม่ใช่แค่งานเขียนแต่พราวรวียังมีร้านขายเครื่องเขียนของตัวเองหนึ่งร้านโดยใช้พื้นที่ชั้นล่างสุดของหอพักขนาด 4 คูหาซึ่งตอนนี้ด้านบนมีผู้เช่าอยู่เต็มทุกห้อง
เดิมทีด้านล่างหอพักเป็นร้านเกมที่บิดาและมารดาเป็นคนดูแล แต่พอท่านทั้งสองเสียชีวิตลงพราวรวีก็เลยขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดแล้วเปิดเป็นร้านเครื่องเขียน เพราะเธอไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์อีกทั้งเครื่องก็เริ่มตกรุ่น หญิงสาวจึงขายทุกอย่างแล้วนำเงินมาลงทุนเปิดร้านเครื่องเขียนและกิ๊ฟช็อปเนื่องจากเป็นคนชอบเข้าร้านแนวนี้อยู่เป็นประจำ
หลังจากออกจากสำนักพิมพ์แล้วก็แวะที่ร้านเพราะเป็นทางผ่านก่อนกลับบ้านของเธอ
“พี่พราวคะ หวานฝากร้านแป๊บหนึ่งได้ไหมคะ หวานจะไปเข้าห้องน้ำ”
“จ้ะ ไปเถอะ”
น้ำหวานเป็นเด็กที่พราวรวีจ้างมาเฝ้าร้านให้ส่วนตัวเธอเองจะเข้ามาที่นี่เป็นบางครั้ง เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานที่บ้านของตัวเองซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านมากนัก
“อ้าว คุณพราว มาพอดีเลยวันนี้น้าได้ส้มมาหลายกิโลเลย ว่าจะเอาไปให้ที่บ้าน รอน้าเดี๋ยวนะคะเดี๋ยวไปเอามาให้”
“ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ พราวยังไม่รีบกลับ แล้วน้าทำความสะอาดหอเสร็จแล้วเหรอคะ”
“ยังเหลือชั้นบนอีกชั้นค่ะ พอดีเด็กๆ กำลังอ่านหนังสือกันอยู่น้าเลยไม่อยากรบกวน นี่ก็ว่าจะมาช่วยน้ำหวานเฝ้าร้าน” น้าแก้วตาบอกกับหญิงสาวผู้เป็นนายจ้าง เธอทำงานที่หอพักแห่งนี้มาได้หลายปีแล้ว หน้าที่ก็คือดูแลความสะอาดทั่วไป หญิงวัยกลางคนพักอยู่ชั้นล่างสุดของหอพักซึ่งพราวรวีไม่ได้คิดค่าเช่าเพราะถือว่าเป็นการเฝ้าหอพักให้เธอไปในตัว
“น้าแก้วไปพักก่อนก็ได้นะคะ ก่อนกลับพราวจะแวะไปเอาส้มเองค่ะ”
“คุณพราวไม่มีธุระไปที่ไหนใช่ไหมคะ”
“ไม่มีค่ะ”
พอแก้วตาออกไปไม่นานน้ำหวานก็กลับมาที่ร้าน เด็กสาวถือส้มมาสองถุงขนาดย่อม
“น้าแก้วกลัวพี่พราวลืมแวะไปเอาส้มค่ะ เลยฝากน้ำหวานเอามาให้”
“ขอบใจจ้ะ พี่กลับก่อนนะ วันพุธคงไม่เข้ามาแล้ว”
“ค่ะพี่พราว”
พอออกจากร้านของตัวเองมาได้นิดหน่อยพราวรวีก็แวะที่ร้านอาหารเจ้าประจำที่อยู่หน้าปากซอยเข้าหมู่บ้าน
“พี่เจนนี่คะ ของพราวได้ยังคะ” เพราะโทรมาสั่งตั้งแต่อยู่ที่ร้านเครื่องเขียนพอมาถึงก็เลยรีบทวงเนื่องจากใกล้เวลาพักเที่ยงลูกค้าของพี่เจนนี่จะเยอะเป็นพิเศษ
“เรียบร้อยแล้วค่ะ แกงเขียวหวานไก่กับผัดผักรวมพี่แถมกุนเชียงทอดให้ด้วยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่เจนนี่ใจดีตลอดเลย”
“พี่มีข้อแม้นะคะ”
“อะไรคะ”
“เรื่องต่อไปพี่ขอแบบจัดหนักได้ไหม พอพระเอกหล่อรวยๆ”
“มันแน่อยู่แล้วค่ะ พระเอกของพราวต้องหล่อรวย ขืนเอาแบบธรรมดาที่เจอทั่วๆ ก็ไม่ฟินสิคะ”
“น้องพราวคะ ขอเพิ่มอีกนิดไหมคะ
“ได้เลยค่ะ สำหรับพี่เจนนี่พราวจัดให้ ว่าแต่ขออะไรคะ”
“ขอแบบเอวดุๆ ได้ไหมคะ เหมือนเรื่องแรกๆ ที่น้องพราวแต่งมันแซ่บถึงใจมากเลยค่ะ ไม่เอาแบบที่ตัดเข้าโคมไฟแล้วนะคะ”
“ได้เลยค่ะ พราวจัดให้ตามคำขอเลยค่ะ”
“พี่หยอดกระปุกไว้เยอะเลยหนังสือน้องพราวออกเมื่อไหร่พี่จะรีบไปซื้อเลยนะคะ แต่บอกก่อนนะคะถ้าไม่แซ่บ เอวไม่ดุพี่โกรธจริงๆ ด้วย”
“พี่เจนนี้รอเลยนะคะ ครั้งนี้พราวจัดให้แบบถึงใจเลยค่ะ”
“มันต้องอย่างนั้นสิคะ”
พราวรวีถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อยกว่าของวัน หญิงสาวเอาผลงานตีพิมพ์เรื่องแรกของตัวเองมาอ่านอีกรอบ ยอมรับว่าตอนนั้นตัวเองเขียนฉากอีโรติกออกมาได้อย่างดี แม้จะไม่มีประสบการณ์ แต่อาศัยว่าตัวเองอ่านมาเยอะและดูมาเยอะ แต่มาเล่มหลังๆ ความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจก็หายไป
ไม่รู้เพราะตัวเองไม่เคยมีความรักหรือเพราะไม่เคยได้ทำแบบนั้นในชีวิตจริงกันแน่ฉากวาบหวิวพวกนั้นเลยดูไร้อารมณ์ตามไปด้วย
บางทีพราวรวีก็รู้สึกผิดต่อนักอ่าน เพราะเรื่องที่เธอแต่งขึ้นส่วนใหญ่ก็อาศัยถามเพื่อนบ้าง ดูหนังโป๊บ้าง แม้จะดูเป็นสาวเปรี้ยวมั่นใจในตัวเอง แต่ในชีวิตจริงเธอก็มีแฟนกับเขาแค่คนเดียวแต่ก็ไม่เคยมีอะไรกับแฟนมาก่อน เพราะตอนนั้นยังเรียนไม่จบ และนั้นก็เป็นเหตุผลให้แฟนหนุ่มของเธอบอกเลิก เธอร้องไห้เสียใจกับรักแรกอยู่สองวัน จากนั้นก็ลืมทุกอย่างจนถึงตอนนี้ก็นานหลายปีแล้วที่หัวใจของเธอมันแห้งเหี่ยวและไม่เคยมีใครได้เข้ามาเยี่ยมเยือนเลยแม้แต่คนเดียว
ความผิดพลาดในคืนนั้นทำให้ชีวิตของวิรัลพัชรเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำใครคือผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่เขาจำได้และเมื่อรู้ว่าเธอกำลังท้องลูกของเขาชายหนุ่มก็ก้าวเข้ามาในชีวิตเพียงเพื่อต้องการลูกของเธอเท่านั้น
นานนับปีแล้วที่อรณิชาไม่ได้รับความสุขจากสามี เขาอ้างว่าเพราะงานแต่จริงๆ แล้วเขามีคนอื่นโดยที่อรณิชาไม่รู้ หญิงสาวจึงให้เวลาเขาและเธอหนึ่งเดือนเพื่อจัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิตคู่ หญิงสาวจึงกลับมาที่เมืองไทย และได้เจอกับอดีตคน รักความสุขความผูกพัน ทางใจในอดีตกับกลายเป็นความสัมพันธ์ทางกายในปัจจุบัน ความใกล้ชิดในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ทั้งสองเผลอใจก้าวข้ามเส้นที่ขีดไว้ไม่สนใจทถูกผิดมองแค่บนเตียงเพียงอย่างเดียว
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY