“ตูม” ร่างของอักษราที่ยังไม่ได้สติ แล้วยังจะถูกมัดมือมัดเท้าและปิดปาก ถูกโยนลงมาจากเรือด้วยมือของเจ้าของเกาะ ลูกน้องทั้งสามมองตากันไปมา อยากจะไปช่วยสาวน้อยผู้น่าสงสารใจจะขาด แต่ถ้าช่วยมีหวังพวกเขาต้องโดนบาทาของเจ้านายแน่นอน อักษรารู้สึกตัวเมื่อร่างกายกระแทกกับผืนน้ำ น้ำเค็มๆ ซึมผ่านเนื้อผ้าเข้ามาในปากและจมูกจนเธอเกิดอาการสำลัก เปลือกตาสาวเปิดขึ้นในเวลาต่อมาแต่ก็ต้องหลับลงอีกครั้ง เพราะน้ำทะเลเข้าไปในดวงตาของเธอจนเกิดความแสบ อักษรารีบทะลึ่งตัวขึ้นเหนือน้ำ โดยไม่รู้ว่าเวลานี้ตนเองตกอยู่ในสภาพอย่างไร “อื้อๆ อื้อๆ” ทันทีที่ขาทั้งสองข้างยืนอยู่บนทรายใต้น้ำ และรู้ว่าตัวเองถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือกทั้งข้อมือและเท้า ปากก็เช่นกันหาได้มีอิสระถูกปิดทับด้วยผ้าผืนใหญ่ “อ๊าย!” ความที่ข้อเท้าเล็กถูกมัดด้วยเชือก ส่งผลให้เธอยืนได้ไม่ถนัดนัก เสียการทรงตัวจนร่างคะมำลงไปในผืนน้ำ แต่เธอก็พยายามยืนขึ้นอีกแต่สุดท้ายก็เป็นเหมือนเดิม อักษราจึงเลือกที่จะนั่งลงบนผืนทรายใต้น้ำที่มีความลึกประมาณครึ่งเมตร อักษรานั่งมองร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำน่าเกรงขาม ใบหน้าของเขามีหนวดเคราขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกริบมองมายังเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เขากระโดดลงมาจากเรือเร็วก่อนจะเดินลุยน้ำทะเลมาหาเธอ “ไง ตื่นแล้วเหรอ นึกว่าจะตายเพราะยาสลบซะแล้ว” เสียงห้าวใหญ่พูดขึ้น ในขณะที่มาหยุดยืนเท้าเอวตรงหน้าเธอ อักษราเงยหน้ามองชายหน้าตาน่ากลัวที่จ้องหน้าเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออย่างหวาดกลัว ไม่เข้าใจว่าเขาทำเช่นนี้กับเธอทำไม จะถามก็ไม่ได้เพราะปากถูกปิดด้วยผ้าผืนใหญ่
1
“ฮือ…ฮือ” เสียงร้องไห้ที่ดังมาทางสายโทรศัพท์เรียกความตกใจให้กับคนที่อยู่ปลายสายเป็นอย่างมาก หัวใจของคนเป็นพี่เหมือนมีใครเอามีดมากรีดเลยก็ว่าได้
“แต้วเป็นอะไร ใครทำแต้วบอกพี่มา พี่จะไปจัดการมัน?” เสียงเหี้ยมเกรียมของนายหัวปุณณ์เอ่ยถาม ใบหน้าคมคร้ามแข็งกระด้างน่ากลัว
“พี่ปุณณ์ มัน มัน…ฮือ”
ปนัดดาพูดได้เพียงเท่านี้ก็ปล่อยโฮยกใหญ่ ส่งผลให้คนที่รอคำตอบถึงกับนั่งไม่ติดพื้น การที่น้องสาวสุดที่รักร้องห่มร้องไห้หนักขนาดนี้ ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ใจของคนเป็นพี่ยิ่งเจ็บจี๊ดขึ้นหลายเท่า
“มีอะไรแต้ว บอกพี่มา บอกพี่มา?” เขาถามซ้ำๆ หลายรอบ
“พี่ปุณณ์ น้ำหอมมันแย่งแฟนแต้ว ฮือ…มันจะแย่งพี่พีไปจากแต้ว”
น้ำหอม ใครคือน้ำหอม แล้วน้ำหอมคนนี้มาแย่งคนรักของปนัดดาน้องสาวเขาได้อย่างไร ในเมื่อทั้งคู่จะแต่งงานกันในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
“เดี๋ยวก่อนนะแต้ว พี่งงไปหมดแล้ว ใจเย็นๆ แล้วเล่าให้พี่ฟังตั้งแต่ต้นสิว่าคนที่ชื่อน้ำหอมมาแย่งพีไปจากแต้วได้ยังไง”
เสียงพี่ชายถามมาตามสาย ปนัดดาหยุดร้องไห้ หยุดสะอื้น เปิดปากเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ปุณณ์ฟัง
สีหน้าของคนที่ฟังอยู่เข้มขึ้นทีละนิด มือใหญ่กำโทรศัพท์ไร้สายแน่น กรามทั้งสองข้างขบและเสียดสีกันจนเป็นสันนูน ที่แท้คนที่ชื่อน้ำหอมคือผู้หญิงไม่มียางอาย ใช้มารยายั่วยวนว่าที่น้องเขยของเขา จนทำให้พีรวัฒน์ทะเลาะกับปนัดดาบ่อยครั้ง แล้วเป็นที่มาของความเสียใจของน้องสาว
“พี่ปุณณ์ต้องจัดการให้แต้วนะคะ ไม่อย่างนั้นพี่พีต้องทิ้งแต้วไปอยู่กับมันแน่ๆ ค่ะ ฮือ” ปนัดดาเอ่ยบอกพี่ชายหลังจากเล่าทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟัง
“พี่จัดการให้แต้วแน่ๆ พี่ไม่ยอมให้ผู้หญิงที่ชื่อน้ำหอมมาแย่งพีไปจากแต้วเด็ดขาด” คนที่รักน้องยิ่งชีพกล่าวเสียงเข้ม ปนัดดายิ้มแก้มแทบฉีก
“จริงๆ นะคะพี่ปุณณ์ พี่ปุณณ์อย่าโกหกแต้วนะคะ”
“พี่เคยโกหกแต้วเหรอ พี่พูดจริงทำจริงแต้วก็รู้”
ใช่ เธอรู้ดีว่าพี่ชายสุดที่รักของตนนั้นพูดจริงทำจริงและเป็นคนจริงมากแค่ไหน ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถปกครองลูกน้องได้เด็ดขาดชนิดที่ไม่เคยมีปัญหาตามมาแม้ว่าลูกน้องส่วนมากจะเป็นพวกที่ผ่านคุกผ่านตะรางมาแล้วหลากหลายโทษทัณฑ์
“พี่ปุณณ์ต้องรีบจัดการให้แต้วนะคะ ก่อนที่มันจะแย่งพี่พีไปจากแต้ว พี่พีทำท่าจะหลงมันมากด้วย บึ้งตึงใส่แต้วทุกวันเลยค่ะ ฮือ”
ปนัดดาทำเสียงเศร้าพร้อมส่งเสียงร้องไห้ กระตุ้นให้พี่ชายทำตามคำพูดเร็วๆ เพื่อที่เธอจะได้สบายใจเรื่องของอักษรา หนามยอกใจ
“ไม่ต้องห่วงพี่จะจัดให้เสร็จภายในสามวัน” ปุณณ์บอกระยะเวลาให้น้องสาวสบายใจ
“แล้วพี่ปุณณ์จะจัดการมันยังไงคะ?”
“ขอพี่คิดดูก่อนก็แล้วกัน แค่ไม่ให้น้ำหอมมายุ่งกับพีไม่ใช่เหรอ?”
“แค่นั้นไม่พอค่ะ พี่ปุณณ์ต้องทำมากกว่านั้น พี่ปุณณ์ทำตามแผนที่แต้วคิดไว้นะคะ รับรองว่ามันไม่กล้ามายุ่งกับพี่พีแน่นอนค่ะ”
หากเธอจะคิดกำจัดเสี้ยนหนามให้พ้นไปจากหัวใจ ต้องขจัดให้แบบถาวรจะได้ไม่กลับมาทิ่มแทงหัวใจของเธออีก
“วิธีไหนล่ะแต้ว?” พี่ชายถามกลับ
“ทำอย่างนี้นะคะพี่ปุณณ์…”
ปุณณ์นั่งฟังแผนการของน้องสาวด้วยท่าทีนิ่งเฉย แผนการของปนัดดาดูจะโหดร้ายไปสักหน่อย แต่เขาก็คิดว่ามันเหมาะสมกับพฤติกรรมชอบแย่งคนรักของคนอื่น สมน้ำสมเนื้อกับสิ่งที่หญิงสาวชื่อเล่นว่า น้ำหอม ควรจะได้รับ
“ได้ ไม่มีปัญหา พี่จัดการให้” นายหัวสุดโหดพูดขึ้นหลังจากที่น้องสาวบอกเล่าแผนการจบ เขามีคติประจำใจว่า คนทำน้องสาวเขาเจ็บ คนผู้นั้นยิ่งเจ็บมากกว่า
ปนัดดายิ้มอย่างพอใจกับคำตอบรับของปุณณ์ “เดี๋ยวแต้วจะส่งรูปของมันไปให้พี่ปุณณ์ทางมือถือนะคะ”
เจ้าของเสียงพูดจบก็ตัดสายทิ้ง ต่อจากนั้นก็รีบส่งภาพถ่ายของศัตรูหัวใจที่เธอแอบถ่ายไว้ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของปุณณ์ทันที เพราะเขาเป็นคนเดียวที่จะทำให้คนที่ตนเองเกลียดชัง หลุดออกไปจากวงโคจรของพีรวัฒน์
“ไอ้เข้ ไอ้เข้โว้ย” เสียงเรียกราวกับฟ้าผ่า ทำให้เจ้าของชื่อรีบเร่งฝีเท้าวิ่งมาหาเจ้านายของตนทันที
“ครับนายหัว”
“พรุ่งนี้กูจะเข้ากรุงเทพฯ ไปบอกไอ้หลามกับไอ้เหลือมให้เตรียมตัว มึงด้วยนะ มึงไปกับกูด้วย” นายหัวจอมโหดสั่งลูกน้อง
“ครับนายหัว” เมื่อรับคำสั่งจากเจ้านายเรียบร้อย ไอ้เข้หรือสมศักดิ์ก็เดินไปยังบ้านพักคนงานที่อยู่ท้ายเกาะ
ปุณณ์ก้มหน้ามองภาพหญิงสาวแสนสวยบนหน้าจอมือถือที่ถูกส่งตรงมาจากโทรศัพท์ของน้องสาว เขาไม่คิดเลยว่า ผู้หญิงที่เขาเห็นจะมีนิสัยชอบแย่งคนรักของคนอื่น ยั่วยวนเก่งชนิดที่เรียกว่า ตัวแม่ เพราะลักษณะภายนอกดูเรียบร้อย แต่ก็อย่างว่า คนสมัยนี้ดูยาก หน้าตาสวยไม่ใช่ว่านิสัยจะสวยตามไปด้วย อาทิเช่นผู้หญิงที่เขากำลังมองเป็นต้น
“เธอได้เจอฉันแน่น้ำหอม”
............
“สวัสดีครับคุณครู” เสียงของเด็กชายชั้นอนุบาลสองทับหนึ่งดังขึ้น ขณะที่มือน้อยๆ พนมไหว้คุณครูอักษรา ครูสาวแสนสวยประจำโรงเรียนอนุบาลหมีน้อย
“สวัสดีครับน้องป๋อง” ครูสาวทักทายกลับ ยกมือรับไหว้และระบายยิ้มให้ผู้ปกครองที่เดินทางมาส่งบุตรหลาน “สวัสดีค่ะคุณยาย วันนี้มาส่งน้องป๋องเองหรือคะ?”
“ใช่จ้ะ พอดีว่าพ่อของน้องป๋องไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดและกลับดึก วันนี้ยายเลยต้องไปรับไปส่งเอง”
“ตอนเลิกเรียนคุณยายไม่ต้องมารับน้องป๋องนะคะ เดี๋ยวน้ำหอมจะไปส่งน้องป๋องที่บ้านเองค่ะ”
อักษราขันอาสา เพราะสงสารและเห็นใจคนสูงวัยตรงหน้าที่แข้งขาไม่ค่อยดี ต้องใช้ไม้เท้าพยุงเดิน หากเธอเดินไปส่งน้องป๋องก็คงไม่ลำบากอะไร เนื่องจากบ้านของน้องป๋องอยู่ห่างจากโรงเรียนเพียงแค่หนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
แรกเริ่มเขา 'ซื้อ' เธอมาเพื่อบำบัดความใคร่ เมียชั่วคราวที่มีไว้แก้เหงา แต่สุดท้ายแล้ว...เมียชั่วคราวนั่นแหละ ที่อยากได้เป็นเมียจริงๆ ผู้หญิงสู้ชีวิตอย่างนับดาว...ไม่ยอมแพ้โชคชะตาที่นำพาตนเองไปรับบทน่าอดสู เธอถูกหลอกจากคนที่ไว้ใจที่สุด!! กับการ 'ขายตัว' เขาเหยียดหยามสารพัด ดุถูกจนเธอเจ็บช้ำเจียนตาย เธอเลือกทางหนี เพื่อจบปัญหาน่าปวดหัวครั้งนี้.... ขอเริ่มต้นใหม่ กับชีวิตแบบใหม่ แต่ทำไมล่ะ?...ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยเธอ ในเมื่อเขาชิงชังเธอนักหนานี่นา?????
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"