จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
1
“โธ่! ไม่แน่จริงนี่หว่า เก่งจริงอย่าหนีสิวะ ไอ้ลูกหมา ไอ้หน้าตัวเมีย”
ผู้พูดถลกแขนเสื้อทั้งสองขึ้น ชี้นิ้วไปยังร่างชายคนหนึ่งที่วิ่งหนีเธออย่างไม่คิดชีวิต จากนั้นเท้าเอวมองคนผู้นั้นอย่างแค้นเคือง พร้อมพูดไล่หลังดังลั่น
“อย่าให้เจออีกครั้งนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่ แม่จะเตะให้ก้นยุบ ม้ามทะลุ ฟันหัก แก้มโย้เลยคอยดู”
เสียงที่ดังลั่นซอยเรียกความสนใจจากบ้านใกล้เรือนเคียงที่ดูเหมือนจะชาชินกับเสียงและท่าทางนักเลงโตของหญิงสาว อีกทั้งยังไม่มีใครกล้าว่าเธอสักคน ใครล่ะจะไปกล้ายุ่งกับนักมวยหญิงสมัครเล่นหรือมาเฟียแห่งซอยต้นมะขาม ใครกล้าแหยมจะเจอทั้งหมัดทั้งเท้าที่สุดแสนจะหนักของเธอไม่รู้ตัว
“พี่ปรางไปทำอย่างนั้นกับพี่ลาภได้ยังไง ดูสิวิ่งหนีไปโน่นแล้ว”
องุ่นหรืออิสรียา น้องสาวคนเล็กของภัทรียา เจ้าของค่ายมวย จ่าดาบ ศิษย์จอมทอง ที่รับสืบทอดจากบิดา เอ่ยกับพี่สาวซึ่งยืนทำท่าทางเอาเรื่องหน้าบ้าน
“ก็ไอ้คนนี้ไม่ใช่เหรอที่แกบอกว่าชอบมายุ่งวุ่นวายกับแกจนแกรำคาญ พี่ก็จัดการให้แล้วไง เห็นรึเปล่าว่ามันวิ่งหางจุกตูดไปโน่นแล้ว โธ่! นึกว่าจะแน่”
ภัทรียาไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลกิจการของบิดาเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวหน้าครอบครัว เลี้ยงมารดา เลี้ยงน้องสาวคนเล็ก และเลี้ยงลูกสาวของน้องสาวคนรองที่เสียชีวิตไปเมื่อสี่ปีก่อน เธอจึงเป็นคนเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ไม่ยอมคน และเป็นที่พึ่งของทุกคนในครอบครัว ใครมาแหยมกับคนในครอบครัวของเธอ รับรองได้ว่าเจ็บจนจุก
“ใช่พี่ลาภที่ไหนกันล่ะพี่ปราง พี่ลาภเขามาส่งองุ่นต่างหาก” น้องสาวแย้ง ท่าทีของภัทรียาเปลี่ยนไปทันที เธอทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ลดมือที่เท้าเอวลง
“แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก” นางมารร้ายแห่งซอยต้นมะขามแก้ตัวหน้าตาเฉย “องุ่นบอกพี่ช้าเองนะช่วยไม่ได้ พี่ฝากไปขอโทษไอ้ลาภคนนั้นด้วยก็แล้วกัน พี่ไปละ” จากนั้นก็เดินเข้าบ้านหน้าตาเฉย
“พี่มะปรางเป็นอย่างนี้ทุกที น่าจะฟังกันก่อน”
อิสรียารู้ดีว่าพี่สาวสุดแสบหวังดีและเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน เพราะพี่สาวคนนี้ไม่ต้องการให้เธอเป็นเหมือนวิริยา พี่สาวคนที่สองที่จบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุเมื่อหลายปีก่อน ภัทรียาจึงคุมเข้มผู้ชายที่เข้ามาใกล้ชิดเธอ สแกนจนแทบจะเห็นกระดูกก็ว่าได้ ด้วยกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
“อะไรกันอีกล่ะองุ่น พี่แกไปสร้างวีรกรรมอะไรอีก”
วลัยพร มารดาสุดที่รักถามขณะเดินออกมาจากบ้าน สวนทางกับลูกสาวคนโตพอดี
“จะอะไรอีกล่ะแม่ พี่ปรางลุยผิดคนน่ะสิ ไม่ถามอะไรสักคำ มาถึงก็ออกฤทธิ์เลย” คนถูกถามตอบมารดาด้วยสีหน้าละห้อยละเหี่ย
“แหมๆ นิสัยตบไว้ก่อนพ่อสอนไว้แก้ไม่หายเลยนะ ไม่ถามไม่ไถ่ ซัดได้แม่เป็นซัด ห้าวอย่างนี้แล้วเมื่อไหร่จะมีผัววะ สงสัยต้องซื้อหมู่บ้านคานทองนิเวศน์ให้พี่แกอยู่ซะแล้ว” ผู้เป็นแม่พูดเชิงประชด
“ถ้ารอให้มีผู้ชายมาจีบ มีหวังขึ้นคานเหมือนที่แม่พูดแน่ๆ” ลูกสาวคนเล็กเห็นพ้องด้วย
“แม่ก็ว่าอย่างนั้น ใครจะกล้ามาจีบ ใครพูดไม่เข้าหูเข้าหน่อยก็ไล่ชก ไล่เตะเขาซะงั้น แถมยังไล่ตะเพิดจนผู้ชายหงอกันทั้งบาง พี่แกมีแววเป็นสาวโสดโหนคานทองแน่ๆ” วลัยพรคาดเดาอนาคตลูกสาวคนโตแบบตาเห็น และคิดว่าไม่ผิดจากที่คาดเดาเป็นแน่
“เอาน่าแม่ ไม่แน่นะ บางทีอาจมีพระเอกใจกล้าเข้ามาประชิดตัวพี่ปราง ไม่กลัวหมัด ไม่กลัวเท้าของพี่ปรางแล้วจีบพี่ปรางก็ได้นะแม่” อิสรียาพูดอย่างมีความหวัง แม้ว่าจะน้อยนิดก็ตาม
“แล้วแต่บุญแต่กรรมก็แล้วกัน เข้าบ้านเถอะ แม่ทำกับข้าวเสร็จแล้วจะได้กินกัน” คนเป็นแม่พูดตัดบท ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าบ้านชั้นเดียว ซึ่งสร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของนางและสามีที่เสียชีวิต วลัยพรไม่รู้ว่าจะรักษาบ้านนี้ไว้กับตัวได้นานแค่ไหน เนื่องจากหนี้สินที่มากกว่ารายรับกำลังบีบรัดนางและคนในครอบครัวอย่างหนัก ทว่าทุกชีวิตที่อาศัยในบ้านหลังนี้ ไม่มีใครสักคนที่ย่อท้อหรือสิ้นหวัง ทุกคนมีความหวังว่าสักวันหนึ่งจะปลดหนี้สินทุกบาททุกสตางค์ให้จงได้
สุมณฑาเดินถือถุงส้มตำปลาร้ารสแซ่บ น้ำตกหมู ไก่ย่าง และข้าวเหนียวร้อนๆ เข้ามาในค่ายมวยจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง อาหารโปรดของเธอกับภัทรียาเพื่อนรัก เธอรู้สึกกระชุ่มกระชวยทุกครั้งเมื่อเดินเข้ามาในค่ายมวย เพราะได้เห็นผู้ชายล่ำบึ้กอวดมัดกล้ามซ้อมมวยกันอย่างขะมักเขม้น บางคนเตะกระสอบทราย บางคนกระโดดเชือก บางคนซ้อมมวยอยู่บนเวทีกับเทรนเนอร์ ส่วนคนที่เธอมาหาก็กำลังซ้อมลงนวมกับจ่าเอก ครูมวยที่ปั้นมะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง ตั้งแต่เริ่มหัดชกมวยครั้งแรก พอภัทรียาเห็นเพื่อนเดินมาหาจึงหยุดซ้อม แล้วเท้าเอวมองหน้าเพื่อน
“ไหนแกบอกฉันว่าจะมาตอนเย็น แล้วมาทำไมตอนนี้”
ภัทรียาทัก คนถูกทักยังไม่ตอบคำถาม แต่กลับพนมมือไหว้และทักทายจ่าเอกก่อน
“สวัสดีค่ะครูจ่า ไม่เจอครูตั้งนาน คิดถึงกระแตบ้างไหมจ๊ะ”
“เอ็งนี่ท่าจะรั่วหนักเหมือนไอ้ปรางมันนะ เอ็งกับข้าเพิ่งเจอกันเมื่อวานนี่เอง ยังจะมาพูดว่าไม่ได้เจอตั้งนาน” จ่าเอกเขกหัวสุมณฑาไม่แรงมากอย่างมันเขี้ยวคำพูดเกินจริงของสุมณฑา
“อ้าวครู ไหงมาว่าปรางรั่วล่ะ คนสวยๆ อย่างปรางไม่มีรั่วหรอก มีแต่น่ารัก สวยสะดุดตา สะดุดใจ” คนถูกพาดพิงโวยกลับ แถมท้ายด้วยการพูดเข้าข้างตัวเอง ทำให้โดนจ่าเอกเขกหัวอีกคน
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนละกัน พรุ่งนี้ต้องมาซ้อมแต่เช้านะ ใกล้วันแข่งแล้วจะมัวมาอ่อนซ้อมไม่ได้”
“รับทราบครับผม” เจ้าของค่ายมวยพูดเสียงหนักแน่นพร้อมตะเบ๊ะ ก่อนจะพนมมือไหว้จ่าเอกที่เดินไปยังห้องพักนักมวยเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวกลับบ้าน
“ฉันซื้อส้มตำป้าเอียดมาฝากแกด้วยนะ ไปกินกันดีกว่า” สุมณฑาโชว์ถุงส้มตำให้เพื่อนดู
“แกบอกฉันว่าจะมาตอนเย็นไม่ใช่เหรอ แล้วมาทำไมซะหัววัน” ภัทรียาถามคำถามเดิมอีกครั้ง ขณะถอดนวมแล้วนำไปวางไว้ตรงชั้นวางนวม
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
“บ้าอำนาจชะมัด” หญิงสาวแอบบ่น กระแทกตัวลงนั่งริมสุดของขอบโซฟา ทิ้งระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด “นี่แม่คุณ มานั่งใกล้หน่อยสิ นั่งไกลอย่างนั้นแล้วจะบริการฉันได้ยังไง ไม่เห็นเหรออาหารหมดถ้วยแล้ว” ถ้ารู้มาก่อนว่าคนที่จองห้องวีไอพีคือเขาคนนี้ เธอไม่ยอมเป็นพนักงานเสิร์ฟจำเป็นแน่นอน หญิงสาวเขยิบร่างกายเข้ามาอีกนิด ตักอาหารใส่ถ้วย ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าเขาเหมือนเดิม “ป้อนด้วยสิ” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี “ดิฉันมีหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ตามที่เห็นสมควรนะคะ การป้อนอาหารเป็นนอกหน้าที่ของดิฉัน” สร้อยระย้าพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเข้ม จ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มกับท่าทีแสนพยศของเธอ ขยับร่างกายเข้ามาประชิดร่างบางอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว “ว้าย!!..ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องเสียงหลง ผลักร่างหนาให้ออกห่าง แกะมือใหญ่ที่รัดเอวของเธอไว้แน่น แต่ยิ่งพยายามเอวของเธอก็ต้องถูกรัดแน่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นร่างงามลอยขึ้นเหนือเบาะ เนื่องจากเขาอุ้มร่างของเธอมานั่งบนตัก “พยศนักนะ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขามาก่อน เห็นจะมีเพียงผู้หญิงกลิ่นกายเย้ายวนใจคนนี้ ยิ่งชิดใกล้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน ความต้องการปะทุขึ้นมาทันที เรียวปากใหญ่ปิดสนิทปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากต่อว่า ทำให้เขาสอดแทรกลิ้นร้อนชื้นเข้าไปภายในโพรงปากอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นหนาตวัดพัดโบกกับลิ้นนุ่มที่ตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากจูบนี้เป็นจูบแรกของชีวิตสาว สมองของเธอนั้นเริ่มมีกลุ่มหมอกควันสีขาวเข้ามาปกคลุม ความว่างเปล่ากำลังเข้ามาแทนที่ ไม่มีสตินึกคิด ความหวานนุ่มชวนหอมหวานที่เขาได้สัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นจากการหลับใหล เสียงครางที่ดังทักท้วงในลำคอสาว เสมือนยากระตุ้นให้ความดันโลหิตของเขาเสียดทานกับความต้องการทางเพศ ร้อนรุ่มไปทั้งกาย มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางไปมา ก่อนจะวกมากอบกุมทรวงอกขนาดพอเหมาะกับฝ่ามือของเขา ไม่ใหญ่มากเกินไปจนล้นมือและไม่เล็กจนเสียอารมณ์
เขาคือลูกชายของผู้มีพระคุณ...เขาคือคนที่อยู่สูงเกินกว่าจะเอื้อมถึง เขาเย็นชาและเขารังเกียจเธอมาตลอด แต่ทำไมวันนี้เขาถึงได้... สั่งให้คนที่เขารังเกียจมาตลอดอย่างเธอ... “จูบฉัน” “คะ?” “จนกว่าฉันจะพอใจ!”
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
วิญญาณฮองเฮาชั่วร้ายต้องเข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูหลินจื่อเว่ยที่ตายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องต่อกรกับแม่เลี้ยงใจยักษ์และโหดเหี้ยม งานนี้นางจึงต้องงัดฝีไม้ลายมือเก่า ๆ เอามาใช้ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ช่างยากเย็นนัก เมื่อนางมิได้ต่อสู้กับแม่เลี้ยงใจโฉดเพียงคนเดียว เมื่อบัดนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับท่านอ๋องคู่หมั้น ที่วิปริตเย็นชาและยังเป็นโรคประสาทบ้าตัณหาผู้หนึ่ง!
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
เมื่อฉันต้องมาอยู่บ้านเช่าในราคาถูกแสนถูกในความที่เงินน้อย ฉันจึงไม่มีสิทธิ์เลือกมากนัก ฉันได้บ้านเช่าราคาถูกแถมรูทเมทสุดหล่อลากที่วันๆพาสาวๆมานอนเล่นจ้ำจี้กันไม่ซ้ำหน้าแทบจะทุกคืน!!!!! “ทำไมนายไม่ใส่ถุง?” “ก็พี่ยังไม่เคยผ่านผู้ชายคนไหนมาก่อน…พี่ปลอดภัยผมเลยไม่ใส่” “แต่นายผ่านผู้หญิงมาเยอะ..นายไม่ปลอดภัย!” “ถึงผมจะมีอะไรกับผู้หญิงมาเยอะ…แต่ผมสวมใส่ถุงทุกครั้งและทุกน้ำนะครับ…”