"หวานรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว SET คุณพ่อลูกติด" นิยายรักพาฝันที่จะพาทุกคนมารู้จักพวกเขา ผลงานจากปลายปากกาของสรีสามัญ เมื่อดณิชา (เดย์) เป็นหนี้ท่วมหัว หญิงสาวกู้หนี้ยืมสินไปทั่วงานนี้เธอจึงต้องเอาตัวเข้าแลกด้วยการเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ให้กับมิกซ์ มาริค ชายหนุ่มที่เธอไม่ชอบหมอนี่ตั้งแต่แรกเห็น ร่วมพิสูจน์ความน่ารักของพวกเขาทั้งสามคนได้ในหนังสือเล่มนี้กับ "หวานรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว SET คุณพ่อลูกติด" นิยายเล่มนี้สรีสามัญได้จับมือกับนักเขียนมากความสามารถหลายท่านเลยค่ะ ซึ่งนิยาย "หวานรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว" นี้จะอยู่ใน SET คุณพ่อลูกติด โดยมีนิยายเรื่อง 1.) จีบได้ครับคุณพ่อของผมโสด #ญาธิดา 2.) ลุ้นรักแด๊ดดี๊เลี้ยงเดี่ยว #พิมรภัค 3.) หวานรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว #สรีสามัญ 4.) คุณพ่อหนูโสดโปรดจีบเถอะค่ะ #ณชามา 5.) รักวุ่นวายของปะป๊า(แวนไพร์)เลี้ยงเดี่ยว #เพชรวิฬาร์ 6.) หยอดรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว #cnkmidmile 7.) คุณน้าขา...คุณพ่อหนูเป็นประธานบริษัท #อรอินทุ์ 8.) คนนี้มามี้หนู #รณิชา 9.) ปะป๊าหนูโสด อยู่ในโหมดอยากได้แม่ใหม่ #Reenrin 10.) แฟนเก่าแด๊ดดี๊ คือมามี้คนใหม่ของหนู #พิมพ์พิรดา +++++++++++++++++++++++++++ โปรย ดวงตาสุกใสกลมโตเปล่งประกายระยับยามเมื่อเวลานี้เดย์กำลังมองเห็นสิ่งที่หล่อนต้องการอยู่เบื้องหน้าของเธอเอง มือเรียวยาวของเดย์เอื้อมหมายจะหยิบหนังสือท่องเที่ยวภาษาอังกฤษเล่มหนึ่งขึ้น ทว่ามืออีกข้างที่ไวกว่าของคนข้าง ๆ กับฉวยหยิบหนังสือเล่มนั้นไปเสียก่อน หญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่า ชายผู้ที่หยิบหนังสือไปต่อหน้าต่อตาของเธอนั้นช่างไร้มารยาทสิ้นดี ดวงตาสองข้างของหญิงสาวกวาดสายตามองบุรุษข้าง ๆ ที่สวมเสื้อโค้ทยาวคลุมตัว บนศีรษะของชายหนุ่มสวมหมวกปีกกว้างใบโตใบใหญ่สำหรับผู้ชาย ผู้ชายคนนี้แต่งตัวราวกับว่าหลุดออกมาจากแฟชั่นอีแมกกาซีน ออนไลน์ก็ไม่ปาน ใบหน้าของชายผู้นี้คมเข้ม คิ้วเรียวเรียงกันเป็นเส้นโค้ง จมูกของเขาโด่งรั้น เชิดขึ้นคล้ายกับลูกเสี้ยวชาวต่างชาติ ริมฝีปากของนายนั่นบางเฉียบแถมยังมีสีหวานอมชมพู ดูรวม ๆ แล้ว ชายหนุ่มคนนี้จัดได้ว่าหล่อเหลาปานวัวตายควายล้มได้เลย ติดก็แต่มารยาทนี่แหละที่ทรามที่สุด อย่างเดย์ไม่เคยเห็นใครเป็นมาก่อนในชีวิตนี้ "นี่คุณเล่มนี้ฉันเห็นก่อนนะ" เดย์เอ่ยท้วงเขาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก "แต่ผมว่าผมเห็นเล่มนี้ก่อนคุณนะครับ คุณผู้หญิง" เสียงเข้มกล่าวโต้ตอบอย่างไม่พอใจที่หญิงสาวตรงหน้าแสดงความเป็นเจ้าของหนังสือเล่มที่เขาจองเอาไว้มานานแล้ว "นี่คุณหมายความว่ายังไง" เดย์เอ่ยถามเขาพลางยกมือขึ้นยืนเท้าสะเอวขึ้นมาอย่างนึกฉุน "ใจเย็น ๆ กันก่อนนะคะคุณลูกค้า" พนักงานสาวแคชเชียร์ที่ยืนคิดเงินเอ่ยเสียงดังขึ้นทะลุกลางปล้อง "คุณผู้หญิงรับเล่มอื่นเถอะนะคะ พอดีเล่มนี้คุณผู้ชายเขาจองไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้วค่ะ" พนักงานสาวสวยแคชเชียร์ที่ทำหน้าที่ยืนเครื่องคิดเงินกล่าว "แต่หนังสือมีตั้งหลายเล่มนะคะ" เดย์กล่าวอย่างชี้แจงอย่างไรเธอมาก่อน เธอเห็นมันก่อนและหญิงสาวควรจะได้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้ก่อนชายสวมโค้ทผู้นี้ซิ มันถึงจะถูกต้อง! "ขออภัยค่ะคุณผู้หญิงแต่คุณผู้ชายเขาต้องการหนังสือเล่มที่มีหมายเลขสิบสามเท่านั้นค่ะ" พนักงานแคชเชียร์เอ่ยด้วยเสียงสั่นพร่า เดย์ชะงักทันทีที่เห็นหมายเลขบนหนังสือนิตยสารท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ เคปทาวน์ที่หล่อนกำลังหามาอ่านเพื่อเสริมความรู้นั้นมีหมายเลขระบุกำกับไว้เป็นเลขหนึ่งนำหน้า และเลขสามตามท้าย หญิงสาวรู้สึกเหมือนว่าโลกจะถล่ม ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายบ้าบออะไรจองแม้กระทั่งเลขระบุตรงหน้าหนังสือ "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเอาเล่มอื่นก็ได้ค่ะ ถ้าเล่มนี้มีคนจองแล้ว" เดย์กล่าวอย่างตัดบทเมื่อเห็นสายตาดุคมทอดมองมายังเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า "ขออภัยจริง ๆ นะคะ คุณผู้หญิง" หญิงสาวแคชเชียร์กล่าวพลางโค้งให้กับเดย์อย่างสุภาพ "ทางด้านคุณผู้ชายรับเพียงเล่มเดียวใช่ไหมคะ" พนักงานในร้านหนังสือชื่อดังเอ่ยถาม "อ๋อ ถ้าไม่รังเกียจผมขอเหมาทุกเล่มในชั้นนี้เลยครับ" ชายหนุ่มตรงหน้ากล่าวอย่างไม่รอรี ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ขอบคุณจากหัวใจ ดวงดาหลา นักเขียน ติดต่อนักเขียน : เพจ Agif ดวงดาหลา สรีสามัญ รติธร หรือ Facebook : Anchittha Riabroi [เเวะมาคอมเม้นพูดคุยกันได้นะคะ]
ร้านก๋วยจั๊บบ้านป้าป้อม
“ขณะนี้เกิดการระบาดของโรคระบาดโควิดสิบเก้าทำให้บริษัทหลายบริษัทเลย์ออฟพนักงานเป็นจำนวนมากค่ะ คุณพาทิศ” เสียงของผู้ประกาศข่าวเอ่ยขึ้นดึงความสนใจของหญิงสาวที่กำลังนั่งเขี่ยผักไปมาอย่างไม่ชอบใจนัก
“อย่างนี้ก็แย่เลยนะซิครับคุณไข่ไก่ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอาชีพอะไรบ้างที่ถูกเลย์ออฟออกจากบริษัท ได้แก่ อาชีพไกด์มัคคุเทศก์ อาชีพครูสอนภาษา อาชีพ…”
เสียงโทรทัศน์รุ่นเก่ายังคงดังวนไปมาในหัวของหญิงสาวผมยาวสีน้ำตาลเข้มเหลือบทองอ่อน ๆ
“ป้า…เดย์ขออีกชาม” เสียงหวานของหญิงสาวเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็วพลางยกมือชูนิ้วชี้ขึ้นเด่นหรา
“ได้ ๆ” เสียงของป้าป้อมผู้เป็นเจ้าของร้าน ก๋วยจั๊บป้าป้อม ร้านอาหารชื่อดังกลางซอยย่านสุขุมวิทเอ่ยขึ้น
ร้านอาหารป้าป้อมได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นก็เพราะว่าเส้นก๋วยจั๊บของแกนั้นเหนียว นุ่ม อร่อยพอดีคำ เส้นก๋วยจั๊บไม่ยืดเกินไป ไม่กลมเกินไป และไม่แบนเกินไป
“อ้าวไอ้เดย์ เอ็งจะกินอะไรนักหนาว่ะ” ป้าป้อมกล่าวพลางกระแทกชามก๋วยจั๊บลงบนโต๊ะอาหารสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็ก ๆ ที่หญิงสาวเท้าคางนั่งอยู่อย่างเบื่อหน่าย
“แหมป้า…เดย์ก็แค่อยากกินก๋วยจั๊บย้อมใจ” เดย์ หรือ ดณิชากล่าวขึ้นพลางรับเอื้อมมือไปหยิบชามก๋วยจั๊บหอมกรุ่นมาวางไว้ตรงหน้า
มือเรียวของหญิงสาวเลื่อนถ้วยชามก๋วยจั๊บแรกออกไปให้พ้นจากตรงหน้า
“ย้อมจงย้อมใจอะไรของเอ็งไอ้เดย์ ข้าเคยเห็นแต่เขากินเหล้าย้อมใจ” ป้าป้อมกล่าวขึ้นอย่างนึกเอ็นดูในตัวของหญิงสาว
“อ้าวป้า นี่ป้าไม่รู้เหรอว่าบริษัทที่ฉันไปทำน่ะกำลังจะปิดตัววันพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย” เสียงหวานของหญิงสาวดังขึ้นอย่างที่สาวเจ้าไม่ทันได้รู้เนื้อรู้ตัว
“อ้าวเหรอ…แย่เลยล่ะซิเอ็ง” ป้าป้อมกล่าวขึ้นด้วยความเศร้าใจและเวทนาแทนหญิงสาว
“แล้วเอ็งจะทำอย่างไรต่อไปล่ะไอ้เดย์” ป้าป้อมเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ยเศรษฐกิจก็ดี๊ดี…แถมไอ้โรคโควิดอะไรนี่ก็มาพังครืนไปเสียทุกอย่างอีก” ป้าป้อมยังบ่นไม่หยุด
“ใช่ป้า เดย์คงต้องหางานใหม่แล้ว” หญิงสาวกล่าวขณะเขี่ยไข่ต้มในชามไปมา
“เอ้อ ก็คงต้องยังงั้นแล้วล่ะ เอ็งจะไปทำไรได้นอกจากนี้” ป้าป้อมกล่าวขณะยืนเท้าสะเอวอยู่
มือเรียวของหญิงสาวเอื้อมหยิบแก้วน้ำมาใกล้พลางกระดกน้ำลงไปในลำคอขาวนวลละเอียดรวดเดียว
“อ้าว...อิ่มแล้วเหรอไอ้เดย์” ป้าป้อมเอ่ยถามเมื่อเห็นเดย์วางแก้วน้ำพลาสติกร้านของตนเองลง
“อิ่มแล้วจ้ะป้า” เดย์กล่าวตอบพลางวางแก้วน้ำพลาสติกสีชมพูบานเย็นลง
“เออ พรุ่งนี้ค่อยมาจ่าย” ป้าป้อมกล่าวพลางทำท่าจะเดินไปเก็บจานที่โต๊ะสี่เหลี่ยมที่เดย์รับประทานเรียบไม่เหลือซาก
“จะดีเหรอป้า” เดย์เอ่ยขึ้นถามป้าป้อมผู้เป็นเจ้าของร้านอาหารที่หล่อนมักชอบมาสิงอยู่เป็นประจำ
“เอ้อ ข้าไม่คิดดอกเอ็งหรอกนะ” ป้าป้อมเอ่ยกับเดย์อย่างเย้าแหย่
“ขอบคุณจ้ะป้า” เดย์กล่าวพลางยกมือไหว้ป้าป้อมแล้วเดินออกจากร้านไป
รองเท้าผ้าใบของหญิงสาวเดินผ่านร้านค้าร้านรวงต่าง ๆ มาได้สักระยะหนึ่ง หญิงสาวเหลือบมองร้านหนังสือร้านใหญ่กลางซอยหมู่บ้าน
มือเรียวของหญิงสาวเอื้อมมือผลักประตูบานกระจกเข้าไปยังร้านหนังสือกลางหมู่บ้านประดับฟ้าแห่งนี้
ภายในร้านหนังสือตกแต่งสวยงาม ร้านหนังสือนี้ยังแบ่งประเภทหนังสือเป็นสัดส่วนชัดเจน…เดย์มักมาที่นี่เป็นประจำ เวลาที่เธออยากได้หนังสือภาษาอังกฤษล้วน ๆ หรือหนังสือนวนิยายสืบสวนสอบสวน
รองเท้าผ้าใบของหญิงสาวสืบเท้าไปยังชั้นหนังสือด้านในสุด บนป้ายหัวชั้นเขียนไว้ว่า ‘หนังสือท่องเที่ยวภาษาอังกฤษ’
ดวงตาสุกใสกลมโตเปล่งประกายระยับยามเมื่อเวลานี้เดย์กำลังมองเห็นสิ่งที่หล่อนต้องการอยู่เบื้องหน้าของเธอเอง
มือเรียวยาวของเดย์เอื้อมหมายจะหยิบหนังสือท่องเที่ยวภาษาอังกฤษเล่มหนึ่งขึ้น ทว่ามืออีกข้างที่ไวกว่าของคนข้าง ๆ กับฉวยหยิบหนังสือเล่มนั้นไปเสียก่อน
หญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่า ชายผู้ที่หยิบหนังสือไปต่อหน้าต่อตาของเธอนั้นช่างไร้มารยาทสิ้นดี
ดวงตาสองข้างของหญิงสาวกวาดสายตามองบุรุษข้าง ๆ ที่สวมเสื้อโค้ทยาวคลุมตัว บนศีรษะของชายหนุ่มสวมหมวกปีกกว้างใบโตใบใหญ่สำหรับผู้ชาย
‘ผู้ชายคนนี้แต่งตัวราวกับว่าหลุดออกมาจากแฟชั่นอีแมกกาซีน ออนไลน์ก็ไม่ปาน’
ใบหน้าของชายผู้นี้คมเข้ม คิ้วเรียวเรียงกันเป็นเส้นโค้ง จมูกของเขาโด่งรั้น เชิดขึ้นคล้ายกับลูกเสี้ยวชาวต่างชาติ ริมฝีปากของนายนั่นบางเฉียบแถมยังมีสีหวานอมชมพู
ดูรวม ๆ แล้ว ชายหนุ่มคนนี้จัดได้ว่าหล่อเหลาปานวัวตายควายล้มได้เลย ติดก็แต่มารยาทนี่แหละที่ทรามที่สุด อย่างเดย์ไม่เคยเห็นใครเป็นมาก่อนในชีวิตนี้
“นี่คุณเล่มนี้ฉันเห็นก่อนนะ” เดย์เอ่ยท้วงเขาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก
“แต่ผมว่าผมเห็นเล่มนี้ก่อนคุณนะครับ คุณผู้หญิง” เสียงเข้มกล่าวโต้ตอบอย่างไม่พอใจที่หญิงสาวตรงหน้าแสดงความเป็นเจ้าของหนังสือเล่มที่เขาจองเอาไว้มานานแล้ว
“นี่คุณหมายความว่ายังไง” เดย์เอ่ยถามเขาพลางยกมือขึ้นยืนเท้าสะเอวขึ้นมาอย่างนึกฉุน
“ใจเย็น ๆ กันก่อนนะคะคุณลูกค้า” พนักงานสาวแคชเชียร์ที่ยืนคิดเงินเอ่ยเสียงดังขึ้นทะลุกลางปล้อง
“คุณผู้หญิงรับเล่มอื่นเถอะนะคะ พอดีเล่มนี้คุณผู้ชายเขาจองไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้วค่ะ” พนักงานสาวสวยแคชเชียร์ที่ทำหน้าที่ยืนเครื่องคิดเงินกล่าว
“แต่หนังสือมีตั้งหลายเล่มนะคะ” เดย์กล่าวอย่างชี้แจงอย่างไรเธอมาก่อน เธอเห็นมันก่อนและหญิงสาวควรจะได้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้ก่อนชายสวมโค้ทผู้นี้ซิ มันถึงจะถูกต้อง!
“ขออภัยค่ะคุณผู้หญิงแต่คุณผู้ชายเขาต้องการหนังสือเล่มที่มีหมายเลขสิบสามเท่านั้นค่ะ” พนักงานแคชเชียร์เอ่ยด้วยเสียงสั่นพร่า
เดย์ชะงักทันทีที่เห็นหมายเลขบนหนังสือนิตยสารท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ เคปทาวน์ที่หล่อนกำลังหามาอ่านเพื่อเสริมความรู้นั้นมีหมายเลขระบุกำกับไว้เป็นเลขหนึ่งนำหน้า และเลขสามตามท้าย
หญิงสาวรู้สึกเหมือนว่าโลกจะถล่ม ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายบ้าบออะไรจองแม้กระทั่งเลขระบุตรงหน้าหนังสือ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเอาเล่มอื่นก็ได้ค่ะ ถ้าเล่มนี้มีคนจองแล้ว” เดย์กล่าวอย่างตัดบทเมื่อเห็นสายตาดุคมทอดมองมายังเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ขออภัยจริง ๆ นะคะ คุณผู้หญิง” หญิงสาวแคชเชียร์กล่าวพลางโค้งให้กับเดย์อย่างสุภาพ
“ทางด้านคุณผู้ชายรับเพียงเล่มเดียวใช่ไหมคะ” พนักงานในร้านหนังสือชื่อดังเอ่ยถาม
“อ๋อ ถ้าไม่รังเกียจผมขอเหมาทุกเล่มในชั้นนี้เลยครับ” ชายหนุ่มตรงหน้ากล่าวอย่างไม่รอรี
คำพูดของชายหนุ่มเบื้องหน้าทำให้พนักงานสาวชะงักกึก เธอสัมผัสได้เพียงว่าเวลานี้คุณผู้หญิงตรงหน้าที่มัดผมรวบหางม้าสีน้ำตาลเข้มกำลังไม่พอใจเป็นอย่างมาก
พนักงานสาวหันไปมองทางเดย์อย่างเห็นใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มสวมโค้ทตรงหน้ากำลังพยายามกลั่นแกล้งเธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเดือนหน้าเดี๋ยวเดย์มาเอาใหม่นะคะ” หญิงสาวกล่าวพลางหุนหันออกจากร้านหนังสือไปอย่างอารมณ์เสีย
รองเท้าผ้าใบของหญิงสาวก้าวออกมายืนนอกร้านพลางมองไปยังชายหนุ่มในร้านที่ควักธนบัตรสีเทาสองใบออกมาจ่ายอย่างไม่รอรี
หน้าตาก็ดี๊ดี แต่ทำไมนิสัยทรามขนาดนี้ว่ะ ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจอไอ้มนุษย์ผู้ชายหน้าหนาขนาดนี้ ไร้มารยาทแถมยังกวนประสาทสิ้นดี โธ่เว้ย!
นิยายจอมใจฮิปปาเรียนี้จะถูกเรียกว่าหนังสือชุด #อาณาจักรฮิปปาเรีย ค่ะ โดยซีรีส์อาณาจักรฮิปปาเรียมีนิยายทั้งหมด 10 เล่ม ดังต่อไปนี้ 1.จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย 2. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 2 ผจญภัยป่าดงดิบฮานาบี 3. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 1 กำเนิดรัชทายาทฮิปปาเรีย 4. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 2 นางบรรณาการแคว้นดิมาเรีย 5. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ปราบกบฎบัลลังก์สราเนีย 6. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ห้าเจ้าหญิงผู้นำทางปริศนา 7. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 1 หนึ่งเดียวในหทัย 8. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 2 อาณาจักรฮิปปาเรีย 9. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 1 เจ็ดขุนนางผู้พิทักษ์ 10. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 2 ราชอาณาจักรฮิปปาเรีย นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจาก จินตนาการของ "ดวงดาหลา" เองค่ะ ดินแดนฮิปปาเรียเป็นดินแดนสมมติที่ผู้เขียนเฝ้าฝันถึง จอมใจฮิปปาเรีย มีสี่ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 2 เล่มค่ะ รับรองค่ะว่า เข้มข้น หวานซึ้ง ตรึงใจทุกคนแน่นอนค่ะ เนื้อเรื่องจะสนุกขนาดไหน ขอเชิญนักอ่านทุกท่านเพลิดเพลินไปกับ จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนียได้แล้ว ณ บัดนี้ Duangdala Talk ดวงดาหลากลับมาเเล้วค่ะ หลังจากติดภารกิจมานาน รี้ดทุกคนสามารถคอมเม้น หรือกดใจทั้ง 5 ให้ดวงดาหลาได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ #ดวงดาหลา ป.ล. นักอ่านท่านใด หรือ ใครอ่านเเล้วมารีวิว มาเม้นมาพูดคุยกันกับดวงดาหลา ได้น้า
พจน์ศรัช โคฟาวเดอร์ หนุ่มที่ได้โคจรมาพบกับธาสิกา คู่หมั้นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เรื่องราวชุลมุนยิ่งขึ้นเมื่อคู่หมั้นคนก่อนเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนาในสถานอโคจรที่เขาต้องมีเอี่ยวไปด้วย งานนี้ธาสิกาจึงต้องลงมือสืบสาวเรื่องราวด้วยตัวเอง งานแต่งยังคงดำเนินต่อไป และใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของยศรินทรา แฝดพี่ของธาสิกา ไม่รู้ว่าจะเรียกพรหมลิขิตเขียนไว้หรือจะเป็นบาปเวรแต่ชาติปางไหน...เมื่อหัวใจรักของเขาทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว
“เพ่ยอินเหยาข้านี่แหละยอดขุนพลสตรี เล่ม 1” นิยายรักจีนโบราณสายบู๊และบุ๋น ‘อินตูตู’ ขุนพลสตรีผู้มีศักดิ์เป็นแม่ทัพคุมค่ายพลทหารชาวฉินเพื่อออกรบในสมรภูมิทีเดิมพันด้วยชีวิตอย่างแคว้นฉี หากการมาแคว้นฉีไม่ได้มีเพียงแค่สงครามระหว่างแคว้นเท่านั้น ทว่าการมาครั้งนี้ของนางมาเพื่อแก้ปมปริศนาสตรีที่หายไปในแคว้นฉินด้วยต่างหาก สงครามระหว่างแคว้นฉินและฉีจะจบลงเช่นไร แล้วใครกันเป็นผู้บงการเกมที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต
ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ จุดเริ่มต้นความน่าสะพรึงกลัวของทุกสิ่งที่จารีย์ได้เจอนั้นมาจากคฤหาสน์หลังโตโอ่อ่าแห่งนี้ ภายนอกงดงามหากแต่ภายในกลับรกร้างราวกับไม่เคยมีใครอาศัยอยู่มาก่อน แรงแค้น แรงพยาบาท แรงอาฆาต ของสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนตามจองกรรมทวงถามความเป็นธรรมอย่างที่พวกมันรอคอยตลอดมา! +++ นรีกุลรับรู้ถึงอุณหภูมิที่กำลังทวีความคุกรุ่นในเรือนกายของหล่อน เรียวปากบางของเขาซอนไซ้ไปยังใบหูของนรีกุลจนหญิงสาวเผลอไผลร้องซี้ดปากด้วยความสุขใจ มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมปลดตะขอชุดที่นรีกุลสวมใส่อยู่ เขาแนบเรือนกายของหล่อนให้ผสานกับเขาอย่างลุ่มหลงในตัวของนรีกุล หญิงสาวปิดเปลือกตาของหล่อนลงอย่างพลั้งเผลอ ความหวามไหวแทรกไปทั่วอณูของนรีกุล ภรรยาของนัฐธวีร์ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว หากแต่เวลานี้ดวงวิญญาณร้ายของกรวีร์ยังคงทำงานตามคำสั่งของเดรัจฉานต่อไป นิ้วเรียวของวิญญาณร้ายซอนไซ้เข้าไปยังปากถ้ำสวรรค์ของหญิงสาว นรีกุลบิดตัวแล้วครวญเสียงหวานจนนัฐธวีร์สะดุ้งเล็กน้อยทว่าความอ่อนเพลียจากการเดินทางในระยะเวลานานทำให้เขาฟุบหลับไป หนุ่มสาวสองคนหารู้ไม่ว่าเวลานี้ดวงวิญญาณของกรวีร์ได้เสพสมเรือนกายของนรีกุลอย่างอุกอาจ และดวงจิตของนัฐธวีร์ได้ถูกเรียกจิตไปโดยสัตว์ร้ายในคราบของสาวงามเสียแล้ว!
"วันดับนางริษยา" นิยายแนวสยองขวัญกระตุกประสาทที่จะมาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ มาร่วมค้นหาบทสรุปในนิยายเล่มนี้กันค่ะ
"วันดับนางริษยา" นิยายสยองขวัญกระตุกประสาท #ดวงดาหลา ที่จะพาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง เมื่อรักไม่อาจแบ่งใจนรีกุลจึงต้องแบกรับทั้ง นัฐธวีร์ คนเป็น และคนตายในคราเดียวกัน นรีกุลจะทำเช่นไรต่อไป...ความรัก แรงอาฆาตเปลวพยาบาทของพวกเขาจะเผาหญิงสาวให้ตายทั้งเป็นหรือไม่! มาร่วมค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ ++++++++++++ โปรปราย เวลานี้นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้อีกแล้วหากแต่ท้องของหล่อนกับปวดมากราวกับเป็นไส้ติ่งอักเสบ หญิงสาวพยายามดีดดิ้นให้รอดพ้นจากการเกาะกุมของวิญญาณร้ายที่เธอเชื่อว่าติดตามมา หญิงสาวเปิดตามองไปยังด้านบนก็พบว่าเธฮนอนใกล้คาน ไม่นานนักหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่อเวลานี้มีวิญญาณร้ายนั่งอยู่บนคานสูงเหนือหัวของเธอ วิญญาณร้ายที่นั่งแกว่งขาไป,kอยู่นั้นราวกับว่าจะเห็นเธอ หญิงสาวรีบปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าโชยไปเข้าจมูกของหญิงสาวอย่างจัง จนเธอต้องลืมตาขึ้นมามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหล่อนทำให้หญิงสาวช็อคสุดขีดเมื่อเวลานี้ศีรษะของวิญญาณร้ายค่อยๆห้อยลงมาจรดยังจมูกของเธอ นรีกุลหวีดร้องอย่างดังลั่นพลางออกปากไล่อย่างตระหนกสุดขีด หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผล เธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เพราะแอบรักกล้าตะวันมากนาน หวันยิหวาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครองรักกับเขา โดยมีมารดาของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน แต่สำหรับกล้าตะวันแล้ว หวันยิหวาคือนางมารร้ายที่ทำให้เขากับคนรักต้องเลิกรากัน ดังนั้นทุกวินาทีหลังจากงานวิวาห์นี้จบลง หวันยิหวาจะต้องได้รู้จักกับนรกอเวจีปอยเปตอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว “อา... อ๊า...อา...” ลำคอระหงถูกซุกไซ้และดูดเม้ม เสื้อผ้าถูกดึงทึ้งออกไปจากร่างกาย จนในที่สุดก็เปลือยเปล่า กล้าตะวันเลียลงมาที่ไหปลาร้า และมาซบหน้าคลุกเคล้ากับร่องอกอวบ เขาดอมดมกลิ่นสาปสาวอย่างหิวกระหาย ขณะที่ฝ่ามือหนาวางทาบลงกับเต้านมอวบอัดข้างซ้ายของหล่อน “อา... อ๊า... ซี๊ดดดด” หล่อนเผยอปากครางลั่น เมื่อปทุมถันถูกฟอนเฟ้นบีบเคล้าหนักหน่วง ปลายนิ้วแข็งแรงถูไถเม็ดเต่งอย่างเมามัน หล่อนดิ้นเร่าๆ หยัดหน้าอกขึ้นหาสัมผัสจากฝ่ามืออบอุ่นด้วยความกระตือรือร้น
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว