เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
ณ บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย ร่างอรชรของ นางสาวน้ำผึ้ง เกษมราช กำลังก้าวเท้าไปตามทางเดินที่ทอดยาวตรงไปยังลิฟต์ตัวใหญ่ เพื่อขึ้นไปยังชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องทงานของผู้บริหารสูงสุดของบริษัทด้วยความคุ้นเคยแต่ก็เร่งรีบไม่น้อย
พนักงานต่างพากันทักทายหล่อนอย่างคุ้นเคย แต่ก็มีพนักงานบางคนที่รีบหลบมุมไปและยกโทรศัพท์ถือขึ้นแนบหูทันที
“อะไรนะ คุณหนูน้ำผึ้งมาเหรอ”
เสียงเลขาหนุ่มที่มีชื่อเสียงเรียงนามว่าเอกภพเต็มไปด้วยความตกใจ
“แล้วตอนนี้คุณน้ำผึ้งเธออยู่ไหนแล้ว อะไรนะ กำลังขึ้นมา ทำไมไม่โทรมาให้เร็วกว่านี้ครับ ท่านประธานจะหนีทันไหมเนี่ย”
แล้วเอกภพก็โยนโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะทำงานอย่างไม่สนใจไยดี สองเท้ารีบก้าวพรวดพราดเข้าไปในห้องทำงานของเจ้านายทันที
“มีอะไร ทำไมไม่เคาะประตูก่อน”
ผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาเกินมนุษย์มนาเงยหน้าขึ้นจากแล็ปท็อปตรงหน้า และถามด้วยน้ำเสียงเข้มงวด
หากเป็นในยามปกติเอกภพคงตกใจกลัวตกงานไม่น้อย แต่ตอนนี้มัวแต่ตกใจไม่ได้แล้ว
“ท่านประธานครับ หนีเร็วครับ”
“อะไรของนาย”
“คุณหนูน้ำผึ้งมากครับ”
สีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกของวิศรุตมีสีสันขึ้นในทันตา
เขาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้หนังสีดำตัวใหญ่ และก็คว้าเสื้อสูทมาพาดแขนเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“รีบไปดักที่ลิฟต์ อย่าเพิ่งให้มาถึงห้องทำงานฉันนะ”
“ครับท่านประธาน”
คนที่ตั้งใจจะหนีออกทางประตูหนีไฟสะดุ้ง เมื่อจู่ๆ ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดเข้ามาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย และเมื่อเขาหันไปมอง ก็พบว่าเป็นฝีมือของน้ำผึ้งนั่นเอง
เขาถึงกับถอนใจออกมาอย่างท้อแท้ รู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงขึ้นมากะทันหัน
“หนีไม่พ้นอีกแล้วเหรอวะนี่”
ชายหนุ่มถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับ ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่น้ำผึ้งเดินเข้ามาประชิดตัวพอดิบพอดี
“จะหนีไปไหนคะพี่วิศ”
“มาทำไม”
“ก็มารับพี่วิศไงคะ ยังไงวันนี้เราก็ต้องไปลองชุดแต่งงานด้วยกันค่ะ”
“พี่มีประชุม”
“ก็เลื่อนสิคะ”
“พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น งานต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัวเสมอ”
วิศรุตคิดว่าเหตุผลเป็นการเป็นงานจะทำให้ตัวเองรอดพ้น แต่กลับไม่สำเร็จ
“ถ้าพี่วิศเบี้ยวผึ้ง...”
หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น และก็ยกมือขึ้นแตะท่อนแขนของชายหนุ่ม ลูบไล้ไปมาคล้ายกำลังลองเชิง
“เย็นนี้ผึ้งจะไปค้างคืนที่ห้องนอนกับพี่วิศ และผึ้งก็คงไม่แค่นอนข้างๆ พี่วิศเฉยๆ แน่นอนค่ะ ผึ้งจะจับพี่วิศกินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวด้วยค่ะ”
“เธอนี่... มันเอาแต่ใจชะมัดเลยนะ”
“ที่ผึ้งเอาแต่ใจ ก็เพราะพี่วิศเอาแต่หนีผึ้งนี่คะ แต่ยังไงซะ พี่วิศก็หนีผึ้งไม่พ้นหรอกค่ะ”
คนพูดเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและมั่นใจ
แต่คนฟังรู้สึกสยดสยองเหลือเกิน...!
“ไปหาผู้ชายคนอื่นแทนพี่ไม่ได้หรือไง พี่ไม่เต็มใจแต่งงานกับเธอสักหน่อย”
“ไม่ได้ค่ะ เพราะว่าผึ้งรักพี่วิศ ไม่ได้รักผู้ชายคนอื่น ไม่เอาล่ะ ไม่ต้องมาถ่วงเวลาเลย เราไปลองชุดแต่งงานกันเถอะค่ะ”
หญิงสาวเปลี่ยนจากจับท่อนแขนกำยำมาเป็นคว้ามือของเขาแทน แต่ชายหนุ่มจะสะบัดออกยังไงก็ไม่หลุด จึงทำได้แค่ถอนใจเหนื่อยหน่าย
“ตั้งแต่เธอเกิด จนเธออายุยี่สิบสาม ไม่เคยมีวันไหนเลยที่ชีวิตพี่จะสงบสุข บ้าบอชะมัดเลย”
หล่อนรู้ดีว่าโมโห แต่หล่อนก็ไม่สนใจหรอก เพราะวิศรุตเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
เขาแสดงออกว่ารำคาญหล่อน เบื่อหน่ายหล่อนตั้งแต่เด็กจนโต แต่หล่อนก็ไม่เคยคิดจะละความพยายามหรอก
ยังไงซะ สักวันหล่อนก็ต้องเอาชนะใจของวิศรุตได้อยู่แล้ว
“เราต้องอยู่ด้วยกันไปจนแก่หัวขาวเลยล่ะค่ะพี่วิศขา”
“เด็กบ้า”
“ผึ้งไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ เป็นสาวเต็มตัวแล้ว และเดือนหน้าก็จะได้เป็นเมียของพี่วิศแล้วค่ะ”
สีหน้าของวิศรุตเต็มไปด้วยความเบื่อหน่ายเต็มอัตรา แต่กระนั้นก็รู้ดีว่าไม่สามารถหนีชะตากรรมของตัวเองพ้น
เขาหันไปมองหน้าเอกภพ ก่อนจะออกปากสั่งงานอย่างเสียไม่ได้
“มีอะไรก็โทรเข้ามือถือแล้วกันนะ”
“แล้วท่านประธานจะกลับเข้าบริษัทอีกไหมครับ”
“กลับ”
“ไม่กลับแล้วล่ะค่ะคุณเลขาฯ”
น้ำผึ้งแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส ทำเอาวิศรุตพูดไม่ออกเลยทีเดียว
“เดี๋ยวลองชุดแต่งงานเสร็จแล้ว เราสองคนก็จะไปเดทกันค่ะ”
“บ้าหรือไง ใครจะไปเดทกับเธอล่ะ”
“ก็ว่าที่สามีของผึ้งไงคะ ไปกันเถอะค่ะ นี่ใกล้ถึงเวลานัดกับร้านเวดดิ้งแล้วด้วย”
“เฮ้ยยย เดี๋ยวสิ ช้าๆ อย่าลากแบบนี้”
วิศรุตพยายามขืนตัวเอาไว้ แต่น้ำผึ้งก็ลากเขาออกจากห้องตรงไปยังลิฟต์จนได้
เฮ้อออ...
เมื่อชะตาชีวิตของเขาจะหลุดพ้นจากอุ้งมือของยัยเด็กแสบอย่างน้ำผึ้งเสียทีนะ
เพราะพ่อกับแม่ของเขานั่นแหละ ไม่รู้จะเอ็นดูอะไรน้ำผึ้งนักหนา รู้หรอกว่าสนิทสนมกับพ่อแม่ของน้ำผึ้งมาก่อน แต่ก็ไม่ควรมัดมือชกเขา บังคับให้เขาแต่งงานกับเด็กที่ปากเพิ่งสิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างน้ำผึ้งแบบนี้
โธ่...
ชะตาชีวิตลูกผู้ชายที่รักอิสระอย่างเขา จะต้องจบสิ้นลงในเดือนหน้าจริงๆ เหรอเนี่ย
บ้าบอชะมัดเลย
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
ปากของลมทะเลบอกว่าเกลียดชัง แต่มือของเขากลับหยุดแตะต้องแม่สาวใช้เนื้อสาวคนนี้ไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว หึ เธอมันก็แค่ สาวใช้บนเตียง ที่ฉันจะมาหาตอนอยากมีเซ็กซ์เท่านั้นแหละ!!! +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ปากบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็แค่เซ็กซ์ แต่ลมทะเลก็บุกเข้าไปในห้องนอนของสกาวเดือนทุกคืน คืนนี้ก็เช่นกัน... เขากำลังตั้งหน้าตั้งตากลืนกินหัวนมสีหวานจากเต้าของสกาวเดือนอย่างตะกรุมตะกราม แม้เมื่อวานจะเอาหล่อนจนฟ้าสาง แต่คืนนี้ก็ยังคงหิวกระหายในรสสวาทของหล่อนเหมือนเดิม ดูเถอะ แค่ร้องคราง ทำไมหล่อนจะต้องครวญครางให้เสียงหวานขนาดนี้ด้วย แค่ได้ยินเสียงครางของหล่อน ร่างกายที่ร้อนเหมือนถูกไฟแผดเผาอยู่แล้วก็ยิ่งแทบมอดไหม้แหลกเป็นจุล "ทำไมเธอน่าเอาแบบนี้ สกาวเดือน..."
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป