เมื่อร่างกายทั้งคู่ได้หยุดพักจนหายเหนื่อย ชายหนุ่มก็ลงมือทำโทษต่อ เหมือนที่เขาบอกไว้ ว่าคืนนี้เขาจะลงโทษภรรยาคนนี้ทั้งคืน ************************************************** สิ่งที่เธอกอดไว้คือทะเบียนสมรส ส่วนสิ่งที่ผู้หญิงที่ดีพร้อมทุกอย่างกอดไว้คือหัวใจเขา
1
คำสั่งเด็ดขาด
“พี่ส้มหนูนิดล่ะ”
ชัชนนท์เมื่อถึงบ้านก็รีบเดินมาที่ห้องนอนของหนูนิดทันที
“ส้มให้กินยาหลับแล้วค่ะ”
ความจริงแล้วหนูนิดเพิ่งกินยาไปได้ไม่นานยังไม่น่าจะหลับ แต่ส้มคิดว่าเธอคงไม่พร้อมจะเจอชัชในเวลานี้
“หนูนิดไม่สบายเลยเหรอครับ”
ชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยนสีหน้า และน้ำเสียง เพราะลึกๆแล้วเขาก็รู้สึกผิด ที่ปล่อยให้หนูนิดตัวเปียกกลับบ้านเองแบบนั้น
“ก็มีจาม แต่พี่เห็นว่าตัวเปียกฝนมาแบบนั้น กินยากันไว้ก่อนดีกว่า คุณชัชไปพักผ่อนเถอะค่ะ”
“เอ่อ.. คุณชัชคะ ”
ส้มคิดขึ้นได้ ว่าคุณปู่มีอาการปวดท้องเมื่อกลางวัน แล้วคุณหมอแนะนำให้ไปโรงพยาบาล
“คุณท่านเป็นบ่อยมากเลยนะคะ ช่วงนี้ ถ้าคุณชัชพอมีเวลา น่าจะพาท่านไปหาคุณหมอหน่อย”
“ถ้าอย่างนั้นไปพรุ่งนี้เลยครับ ปล่อยไว้นานจะไม่ดี”
ชายหนุ่มเลือกที่จะลางาน พาผู้มีพระคุณที่สุดในชีวิตเขาไปหาหมอ
“ปู่ไม่ได้เป็นอะไรมาก มันก็แค่อาการของคนแก่ ปู่เจ็ดสิบจะแปดสิบแล้วนะ จะให้มาแข็งแรงเหมือนหนุ่มๆสาวได้ยังไง”
ทุกครั้งกับการพาคุณปู่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล เป็นเรื่องที่อาจารย์ชัชนนท์ปวดหัวที่สุด เพราะท่านไม่ชอบการไปโรงพยาบาลเอาเสียมากๆ
“ออกจากบ้านบ้างเถอะครับคุณปู่ ถือโอกาสว่าได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศกัน”
ชัชนนท์พยายามหาเหตุผลให้คุณปู่อารมณ์ดีขึ้น เพราะเขาเองก็ไม่อยากฟังท่านบ่นตลอดทาง
“แล้วหนูนิดล่ะ” คุณปู่ถามเพราะคิดว่าหนูนิดจะไปด้วย
“หนูนิดเป็นไข้ค่ะ ส้มให้กินยาหลับไปแล้ว เดี๋ยววันนี้ส้มไปกับคุณท่านแทนค่ะ” ส้มอธิบาย
“เอ้าหนูนิดทำไมเป็นไข้ได้ล่ะ เมื่อวานฝนตก ไปเปียกฝนได้ยังไง” คุณปู่เริ่มเป็นห่วง
“ไม่ได้เปียกหรอกค่ะ แค่โดนละออง หนูนิดก็ป่วยแล้ว คุณปู่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ไข้เริ่มลดแล้ว”
ส้มพยายาพูดให้คุณท่านสบายใจ เพราะกลัวว่าความเป็นห่วง จะทำให้การไปโรงพยาบาลครั้งนี้ไม่สำเร็จ
“งั้นรีบไปรีบกลับ ขากลับแวะซื้อยาให้หนูนิดด้วย”
เมื่อถึงโรงพยาบาล คุณหมอประจำตัว ได้เตรียมขั้นตอนการดูแลรักษาคุณปู่ไว้แล้ว แต่ถึงแม้จะมีคุณหมอคอยอำนวยความสะดวกให้ ก็ยังใช้เวลาเกือบครึ่งวัน
“เดี๋ยวผลตรวจออกเมื่อไหร่ คุณหมอจะแจ้งไปนะครับ”
เสร็จสิ้นจากธุระ ที่โรงพยาบาล คุณปู่ก็รีบให้ส้มวิ่งลงไปร้านขายยาเพื่อซื้อยาให้หลานสาวที่นอนป่วยอยู่บ้าน
“ตาชัช ไปดูน้องบ้างหรือยังว่าเป็นยังไงบ้าง” คุณปู่หันมาถาม
“เอ้อ...ยังเลยครับ” อาจารย์ชัชตอบตามความจริง
“มันยังไงกัน ตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอกปู่ว่าเราดูห่างกับน้องไปนะ”
“ไม่หรอกครับคุณปู่ เรานั่งรถไปกลับด้วยกันทุกวัน มีเรื่องคุยกันสนุกตลอดทาง พอกลับมาบ้าน เราก็เลยไม่มีเรื่องคุยกันแล้ว คุณปู่อย่าคิดมากสิครับ”
ชัชนนท์รู้ตัวว่าเขา ห่างเหินจากหนูนิดจริงๆ แต่เขาก็มองว่า ตอนนี้ทั้งเขาและน้องต่างก็มีหน้าที่ ด้วยอาชีพและอายุที่ต่างกันมาก จึงทำให้เกิดช่องว่าง
เมื่อความรักมันบังตาอารมณ์หึงก็เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเพียงค่ำคืนเดียวที่กวีท่านประธานหนุ่มมองเห็นนักศึกษาฝึกงานที่เขาหลงรักเดินเคียงคู่มากับชายอื่นเขาก็ตัดสินใจมอบความเป็นสามีให้เธอ บัวชมพูอยากจะหนีไปให้ไกลจากคนใจร้าย...แต่เขาดีกับเธอทุกอย่างหนี้บุญคุณครั้งนี้เธอคงไม่มีทางตอบแทนได้หมด ความรักเริ่มก่อตัวขึ้นแต่ทุกอย่างกลับต้องพังลงเมื่อความจริงบางอย่างปรากฏในวันเดียวกับที่เธอรู้ตัวว่ากำลังอุ้มท้องสายเลือดของท่านประธานอยู่ V V V “กล้าทำแบบนี้ในที่ทำงานไม่กลัวว่าใครจะเห็นแล้วเอาไปฟ้องคุณแม่และผู้หญิงที่มากับท่านวันนั้นหรือคะ” บัวชมพูมองจ้องหน้าแบบท้าทายในเมื่อวันนี้เขาดูถูกเธอ กล่าวหาว่าเธอกำลังนอกใจไปมีคนอื่น หญิงสาวก็อยากจะแสดงให้เขารู้เหมือนกันว่าเขาเองก็ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าเธอ “ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่ว่าผมจะนอนกับใครมันก็สิทธิ์ของผม ใครอยู่ได้ก็อยู่ ใครอยู่ไม่ได้ก็ไปแต่สำหรับคุณ..อย่าลืมที่คุณเคยบอกว่าอยากตอบแทนในสิ่งที่ผมทำให้ถ้าอยากเป็นคนอกตัญญูก็แค่เก็บเสื้อผ้าแล้วไปจากผมก็เท่านั้น” กวีรู้ดีว่าคำขู่นี้ยังได้ผลเพราะครอบครัวของบัวชมพูยังคงต้องการความช่วยเหลือจากเขาซึ่งนับจากวันนั้นวันที่กวีเดินทางไปเยี่ยมแม่ของหญิงสาวที่บ้าน พ่อของบัวชมพูก็พูดคุยติดต่อธุระกับกวีด้วยตัวเองโดยที่ไม่ผ่านลูกสาวอีกเลยบัวชมพูอยากจะห้ามพ่อ แต่เธอก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลข้อไหนจึงทำได้แค่ใช้ร่างกายและหัวใจของตัวเองในการตอบแทนทุกอย่างที่กวีทำให้กับครอบครัวของเธอ V v
ภูริดล นักธุรกิจหนุ่ม เขาทำทุกอย่างไม่เคยมีคำว่าไม่สำเร็จยกเว้นเรื่องเดียวคือการมีครอบครัวที่มีความสุขตามที่บิดาต้องการเพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนา พิรฎา สาวน้อยที่ต้องการมีชีวิตอิสระหลุดพ้นจากครอบครัวที่เธอไม่เคยมองว่ามันอบอุ่นและเธอก็ตัดสินใจเดินออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการยอมเซ็นสัญญาเป็นภรรยารับจ้าง *************** “ปิดไฟได้แล้ว” คนหล่อร่างใหญ่กึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเจ้าชู้จนคนถูกมองถึงกับอายต้องหลบสายตาทันที “คุณง่วงก็นอนไปก่อนเลยฉันยังไม่ง่วงว่าจะนั่งทำอะไรเพลินๆ” หญิงสาวพยายามหาเรื่องมาถ่วงเวลาเพราะเธอรู้ว่าหลังจากที่ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงอะไรจะเกิดขึ้นและถึงเวลานั้นเธอก็คงทำได้แค่เพียงยอมเขาเท่านั้น “ปล่อยค่ะคุณดล พิมพ์ว่าเราอย่าเพิ่ง...” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายลุกขึ้นจากเตียงนอนมาอุ้มร่างของเธอและโยนลงบนที่นอนก่อนที่เขาจะเอาตัวเองมาค่อมร่างเล็กของเธอไว้พร้อมกับขึงมือทั้งสองข้างของเธอไว้เหนือศีรษะ ******************* “สัญญามันควรจะจบในเมื่อคุณก็ได้ฉันเป็นเมียแล้ว” หญิงสาวในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าเบาหวิวกำลังยื้อแย่งกระดาษสัญญาจากมือของชายหนุ่มที่นุ่งเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “เด็กก็คือเด็กตอนที่เซ็นไม่เคยคิดจะอ่านทุกอย่างให้ละเอียดอยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมสัญญาฉบับนี้ยังต้องมีต่อไป เอาไปอ่าน อ่านให้ดีและหวังว่าจะตาสว่างขึ้นอย่าโวยวายอะไรในสิ่งที่ตัวเองเซ็นไปแล้ว” พิรฎารีบรับสัญญาจากมือของอีกฝ่ายมาอย่างรีบรอน หญิงสาวกวาดสายตาอ่านอย่างละเอียดหัวใจของเธอแทบจะหลุดลงมากองอยู่ที่พื้นเมื่อความจริงคือนอกจากเธอจะต้องเป็นภรรยารับจ้างของเขาแล้วเธอยังจะต้องอุ้มท้องและคลอดลูกของเขาให้สำเร็จสัญญาฉบับนี้ถึงจะเป็นอันสิ้นสุดโดยที่ตัวเธอเองจะไม่มีสิทธิ์ใดๆในตัวเด็กน้อยที่เกิดมา *************************** ความรักเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มารู้อีกที อีกฝ่ายก็ท้องแล้วทำไงดีล่ะทีนี้ในเมื่อไม่มีใครอยากให้สัญญาสิ้นสุดอยากให้ทุกอย่างเป็นไปแบบนี้ตลอดชีวิตแต่ความจริงบางอย่างที่ภูริดลไม่เคยได้รับรู้มันทำให้ชายหนุ่มเริ่มไม่แน่ใจว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันหญิงสาวที่เขานอนกอดทุกคืนมีอะไรบ้างที่เธอโกหกและอะไรบ้างที่เป็นความจริง ฝากติดตามความรักของชายจอมดุกับสาวจอมเถียงด้วยนะคะ เช้าตรู่ฤดูหนาว
เขาต้องการมีลูกแต่ไม่ต้องการมีครอบครัว การมีภรรยาเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับเขา ความรักนำมาแต่ความทุกข์ และไม่เคยทำให้ใครได้รู้จักความสุขที่แท้จริง ภาคินถูกมารดาใส่ความคิดนี้มาตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะพ่อของเขาทิ้งครอบครัวไปแต่งงานใหม่ทำให้แม่ต้องสู้ทนเลี้ยงเขามาด้วยความลำบาก แต่…. วันนี้มารดาของเขากลับยื่นคำขาดต้องการทายาทสืบสกุลด้วยอาการป่วยของผกาทำให้เธอตัดสินใจให้ลูกชายเร่งผลิตทายาทให้ได้ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป แล้ว.. ขนมผิงสาวน้อยตกงานเธอไม่มีทางเลือกเท่าไหร่เพราะพ่อของเธอกำลังป่วยหนักต้องการใช้เงินในการรักษาเธอจึงยอมเซ็นสัญญาทั้งที่มันสุดแสนจะเจ็บปวดหัวใจ ***เป็นแม่ของลูกให้เขาที่ไม่ใช่ภรรยาและไม่มีสิทธิ์เป็นกระทั่งคนรัก*** */* รักหวาน ๆ โรแมนติกกับบรรยากาศของสะปันฝากติดตามกันด้วยนะคะ*/* .....เทพพิสุทธิ์...
**กินเด็กเขาว่าอมตะ** เธอหนีจากไฟที่แผดเผามาซบอกกว้างที่แสนอบอุ่น ความรักที่เกิดขึ้นตั้งแต่ค่ำคืนแรก ทุกอย่างมันควรจะจบลงแค่นั้น.....ทว่าสัมผัสรักที่ทั้งคู่มอบให้แก่กันมันมีความสุขเกินกว่าจะตัดใจ ********* “อืม...แดน” ใบหน้าที่คมภายใต้ผิวขาวค่อย ๆ ใช้ปลายลิ้นเลื่อนต่ำลงมาก่อนที่เขาจะจัดการกับเสื้อตัวบางที่ขวางกั้นเส้นทางที่เขาจะได้ใช้สองมือสัมผัสกับเนื้อนุ่มของอกอิ่มของหญิงสาวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มในที่สุดอาภรณ์ทั้งส่วนบนและส่วนล่างก็ถูกถอดกองไว้ข้าง ๆ ก่อนที่แดนไตรจะสาละวนกับยอดที่ชูช่อแข็งตั้งรับสัมผัสของลิ้นอุ่นแสนหวานของเขา */* */* */* ความรักครั้งใหม่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะเดินออกจากความเจ็บปวด.....ทุกอย่างกำลังจะลงเอยด้วยดี...ถ้าชายหนุ่มที่เธอหวังให้เป็นที่พักใจสุดท้ายเขาไม่ใช่ลูกชายของศัตรูอดีตสามีเธอ จบ Happy นะคะ ปะหนัน
ชายคนเก่าในร่างใหม่ เขากลับมาเพื่อลองใจเธอ การพิสูจน์หัวใจของหญิงสาวมันอาจเป็นการมองหารักแท้สำหรับปองภพ แต่สำหรับดาวิกามันคือความหลอกลวงและทำร้ายหัวใจของคนที่รอเขามาถึง5 ปี ************** “สาแก่ใจแล้วหรือยังกับแผนการพิสูจน์รักแท้ของพี่ แต่สำหรับดามันคือการดูถูก ถึงดาจะจนแต่ก็ไม่ได้กระหายความรวยจนลืมฟังเสียงหัวใจ เสียแรงที่รู้จักกันมาเกือบสิบปี พี่มันก็แค่ผู้ชายที่รักแต่ตัวเอง” ปองภพยืนฟังดาวิกาต่อว่าเขาจนจบ เขายอมรับทุกคำด่าทอของหญิงสาว “ใช่พี่เห็นแก่ตัว พี่คิดแต่ในมุมของตัวเอง ถูกแล้วที่ดาจะโกรธพี่แต่ขอร้องอย่าเกลียดพี่ได้ไหม พี่พร้อมจะทำตามข้อเสนอของดาทุกอย่างที่พูดบนเวที แล้วเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าผู้ชายคนนี้ใช่พี่ภพคนเดิมไหม” หญิงสาวกำมือแน่น มองสบตาคนรักด้วยดวงตาที่แดงกร่ำ น้ำใส ๆ ไหลคลอตาแต่หญิงแกร่งอย่างดาวิกาไม่มีทางร้องไห้ต่อหน้าใครแน่ ๆ “โอกาสมีแค่ครั้งเดียว ถ้าทำมันไม่ได้ ก็อย่าใช้คำว่าขอโทษเลย เพราะมันคงไม่ใช่ความพลั้งพลาดแต่มันคงเป็นสันดานลึก ๆ ที่เพิ่งแสดงออกมา” ***เมื่อได้รับโอกาส ก็อยู่ที่ตัวเองแล้ว ว่าจะรักษามันไว้หรือปล่อยรักให้หลุดมือไป**** /*/ความเผ็ดเราก็มี ความหวานเราก็เยอะ ฝากผลงานของปะหนันด้วยนะคะ/*/
เหมันต์เจ้าของไร่ชาที่รักในชีวิตโสดเป็นที่สุดแต่กลับดันมามีใจให้กับลูกสาวเพื่อนแม่ ที่รักการทำขนมมากที่สุดในชีวิต แต่เขาก็เลือกที่จะปากแข็งและทำทุกอย่างตรงข้ามหัวใจ ******************************************** ความรักที่ไม่ชัดเจน ก็ไม่มีค่าพอที่รั้งอีกฝ่ายให้อยู่ได้ ถ้ารักเป็นเพียงแค่คำพูดแต่มันไม่เคยถูกแสดงผ่านการกระทำ ***************** “เอาไงเอากันวะ ต้องคุยให้รู้เรื่อง ดูสิถ้าเป็นผัวเมียกันแล้วจะกล้าไปไหนอีกไหม” ห้องนอนที่ปิดไม่สนิทอยู่แล้ว ถูกดันให้เปิดออกกว้างด้วยแรงของชายหนุ่มที่กำลังหึงขึ้นหน้า “ตกลงจะไปจริง ๆ ใช่ไหม” เหมันต์อยู่ดี ๆ ก็ถามคำถามที่คนฟังยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะทิพย์นารียังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับลุลา หญิงสาวหันมามองหน้าคนถามลับหันกลับไปนั่งพับผ้าต่อ ยิ่งสร้างอารมณ์ความโกรธให้กับเหมันต์ให้รุนแรงขึ้น ร่างหนาโถมเข้าใส่คนร่างเล็กที่กำลังนั่งพับผ้าโดยไม่รู้ตัวว่าจะโดนอีกฝ่ายทำรุนแรงใส่ เหมันต์จัดการผลักร่างบางนอนลงกับเตียงนอน โดยที่ตัวเขาเองลืมไปเลยว่าประตูห้องยังปิดไม่สนิท ลุลาได้แต่พยายามใช้มือปัดป้องตัวเองจากการบุรุก โดยที่เธอยังคงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น อยู่ดี ๆ ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ทำท่าโมโหและทำกับเธอแบบนี้ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกดึงออกจากกันกระดุมทุกเม็ดหลุดออกจากตัวเสื้อ กางเกงขาสั้นถูกถอดโดยง่ายทั้งที่เจ้าตัวก็ขัดขืนเต็มกำลัง ชายหนุ่มซุกไซ้ซอกคอยาว สองมือจับมือของลุลาขึงไว้กับที่นอน เมื่อปากหนาสัมผัสกับเรือนร่างของหญิงสาว ลุลาก็เป็นเหมือนเทียนที่ถูกไปแล้วหลอมละลาย เสียงของคนไม่เต็มใจดังจนทิพย์นารีต้องเดินออกจากห้องมาดู แต่ตอนนั้นคนตัวเล็กก็อ่อนระทวยไปหมดแล้ว คนเป็นแม่ที่เคยผ่านรสชาติแบบนี้มาก่อนแล้ว ทำได้แค่ปิดประตูให้สนิทด้วยเสียงที่เบาที่สุด ***หากเปรียบฉากรักของทั้งคู่เป็นเหมือนภาพยนตร์ ก็คงเป็นหนังสงครามที่ยิงกันได้ทั้งวัน***
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เพราะแอบรักกล้าตะวันมากนาน หวันยิหวาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ครองรักกับเขา โดยมีมารดาของเขาเป็นผู้ให้การสนับสนุน แต่สำหรับกล้าตะวันแล้ว หวันยิหวาคือนางมารร้ายที่ทำให้เขากับคนรักต้องเลิกรากัน ดังนั้นทุกวินาทีหลังจากงานวิวาห์นี้จบลง หวันยิหวาจะต้องได้รู้จักกับนรกอเวจีปอยเปตอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว “อา... อ๊า...อา...” ลำคอระหงถูกซุกไซ้และดูดเม้ม เสื้อผ้าถูกดึงทึ้งออกไปจากร่างกาย จนในที่สุดก็เปลือยเปล่า กล้าตะวันเลียลงมาที่ไหปลาร้า และมาซบหน้าคลุกเคล้ากับร่องอกอวบ เขาดอมดมกลิ่นสาปสาวอย่างหิวกระหาย ขณะที่ฝ่ามือหนาวางทาบลงกับเต้านมอวบอัดข้างซ้ายของหล่อน “อา... อ๊า... ซี๊ดดดด” หล่อนเผยอปากครางลั่น เมื่อปทุมถันถูกฟอนเฟ้นบีบเคล้าหนักหน่วง ปลายนิ้วแข็งแรงถูไถเม็ดเต่งอย่างเมามัน หล่อนดิ้นเร่าๆ หยัดหน้าอกขึ้นหาสัมผัสจากฝ่ามืออบอุ่นด้วยความกระตือรือร้น
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี