ความลับเดียวของพนักงานอย่างฉัน คือฉันเป็นนักเขียนนิยายอีโรติก ฉันสามารถปกปิดความลับนี้มาได้ตลอดจนฉันมารู้ว่าเจ้านายเป็นแฟนตัวยงของนิยายฉัน!!
ฉันมีความฝัน...แน่นอนว่าทุกคนคงเคยมีความฝันในวัยเด็ก ความฝันว่าเติบโตขึ้นมาแล้วจะทำอาชีพอะไร แต่มีไม่กี่คนหรอกที่จะสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ
แต่ตอนนี้ฉันทำสำเร็จแล้ว
นิดาขบเม้มริมฝีปาก เธอกำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ร้องไห้ออกมา เพราะว่าต้นฉบับที่ถูกส่งไปออดิชั่นกับสำนักพิมพ์มัน..ผ่านแล้ว
นิยายของเธอจะถูกตีพิมพ์ในอีกหนึ่งเดือนหลังจากนี้ และมันเหมือนกับว่าเธอได้เดินตามความฝันที่ฝ่าฟันมานานได้สำเร็จเสียที
“นิดา ฝากออกไปดูโลเคชั่นที่จะถ่ายพรีให้ลูกค้าด้วยนะ”
ถึงแม้ว่าฉันจะมีความฝันแต่ฉันก็จะต้องเดินตามความจริงด้วย..
“ได้ค่ะพี่เอื้อ เดี๋ยวหนูแวะไปดูให้ก่อนกลับนะคะ”
พี่เอื้อส่งยิ้มมาให้นิดาก่อนจะส่งกระดาษในมือมาให้
“แกต้องไปตอนนี้เลยเพราะว่าลูกค้าอยากถ่ายพรีที่ริมทะเล ขับรถไปตั้งแต่ตอนนี้น่าจะกลับมาทันวันพรุ่งนี้พอดี หรือไม่แกก็ค้างที่นั่นเลย”
นิดาส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับพี่เอื้อผู้จัดการของเธอ
“พี่คะ หนูต้องขับรถไปคนเดียวเหรอคะ คือหนูขับรถออกต่างจังหวัดไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่”
พี่เอื้อใช้เวลาคิดอยู่พักหนึ่งพร้อมกับกวาดสายตามองคนอื่นๆ ในออฟฟิต ไม่มีใครที่พอจะว่างและมีสายตาเฉียบคมแบบนิดาเลย
ทว่าจะให้น้องมันขับรถไปคนเดียวก็ยังไงๆ อยู่ ในขณะที่เอื้อกำลังใช้ความคิดคุณหนุ่มก็เดินผ่านมาพอดี
“บอสคะ ไม่ทราบว่าวันนี้บอสมีประชุมที่ไหนไหมคะ”
ดวงตาสีนิลที่ฉายแววลึกล้ำมองหน้าของผู้จัดการที่กำลังร้องขอเขาอยู่ อันที่จริงเขาก็ไม่ได้มีธุระที่ไหน เพียงแต่เขาแค่อยากจะพักผ่อนสักหน่อย
“หากว่าไม่มี นั่งรถไปเป็นเพื่อนนิดาหน่อยได้ไหมคะ น้องมันขับรถได้ แค่คุณหนุ่มนั่งไปเป็นเพื่อนก็พอ”
ดะ..เดี๋ยวก่อน นิดาคิดว่าเธอไม่ได้บอกพี่เอื้อสักหน่อยว่าเธอขับรถได้ดีแบบนั้น ถึงจะมีใบขับขี่แต่เธอขับแค่จากคอนโดมาที่ทำงานเท่านั้นเอง..
นี่พี่เอื้อกำลังเอาชีวิตบอสมาฝากเอาไว้กับเธอเนี่ยนะ
“พี่เอื้อคะ คือว่า..”
“อื้อ เอาสิ หากให้นั่งไปเป็นเพื่อนเพื่อดูโลเคชั่นที่จะถ่ายพรุ่งนี้ผมไปด้วยได้อยู่ ครั้งนี้เป็นงานของลูกสาวท่านเจ้าสัว อันที่จริงผมไม่อยากให้มีเรื่องผิดพลาดไปดูด้วยสายตาน่าจะทำให้ผมสบายใจกับเรื่องนี้ ไปกันเลยไหมนิดา”
นิดาทำท่าเหมือนจะร้องไห้ เธอมองหน้าพี่เอื้ออีกครั้ง ซึ่งพี่ผู้จัดการของเธอไม่คิดจะมองหน้าเธอเลยแม้แต่น้อย
“คุณหนุ่มรอหนูสักครู่นะคะ เดี๋ยวหนูไปเก็บของที่โต๊ะก่อน”
เธอกำลังดีใจที่นิยายของตัวเองผ่านการ ออดิชั่น แต่กลับต้องมาพบเจอเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจเสียนี่
เธอทำงานที่นี่มาสามปี ตั้งแต่เรียนจบก็เข้ามาทำงานที่นี่เลยเพราะว่าเธอชื่นชอบเวลาที่มองเห็นรอยยิ้มที่สวยที่สุดของผู้หญิงในวันแต่งงาน
แถมได้ยืนอยู่ใกล้ๆ กับชุดแต่งงานตลอด เป็นที่ที่ชวนให้มีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง หากมองข้ามงานที่ทำสี่สิบแปดชั่วโมงติดต่อกันไปน่ะนะ เพราะว่ากับบางที ต้องรีบจัดเตรียมสถานที่ จัดดอกไม้และจัดงานตามแบบที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าววางเอาไว้ให้เสร็จทันกับเวลา เพราะแบบนั้นเธอก็เลยชินกับการอดหลับอดนอนบ่อยๆ
นิดาหอบกระเป๋าเอกสารของเธอเพื่อเดินนำคุณหนุ่มมาที่รถ ก่อนจะเปิดประตูรถด้านหลังเพื่อให้เขานั่ง
แต่ทว่า..เธอลืมไปว่าสภาพรถของเธอ มัน..รกไปหน่อย
“อ๊ะ..ฮะ..ฮ่า! บอสนั่งข้างหน้าได้ไหมคะ”
เขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูรถของเธอแล้วนั่งลง นิดารีบนำเอกสารที่เธอหอบมาไปวางเอาไว้ที่ด้านหลังรถ ก่อนจะอ้อมมานั่งฝั่งคนขับ
ปกติแล้วเธอเดินทางคนเดียว ขับรถไปไหนมาไหนคนเดียว และเพราะแบบนั้นเธอก็เลยไม่ค่อยชินเวลาที่มีคนอื่น..ซึ่งเป็นเจ้านายมานั่งอยู่ในรถคันเดียวกันระยะประชิดแบบนี้
เขา..มีใบหน้าในแบบที่ผู้หญิงคนไหนเห็นต่างก็จะต้องหวั่นไหวไปกับเขา ความหล่อเหลาที่มองราวกับภาพวาด ดวงตาเย็นชาและริมฝีปากที่เชิดรั้นขึ้นมาอย่างเอาแต่ใจ
ด้วยใบหน้าแบบนั้นมันทำให้ตอนที่เขาเข้ามารับตำแหน่งผู้บริหารต่อจากท่สนเจ้าของคนเก่า พนักงานที่นี่อยู่ไม่เป็นสุขเลย
ทุกคนต่างเกร็งกับบอสสุดหล่อ แต่ทว่าเป็นแบบนั้นได้ราวหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น เมื่อเห็นด้านการทำงานที่เข้มงวดและใช้แรงงานพนักงานเยี่ยงทาสแล้ว สาวๆ ในบริษัทต่างก็ถอดใจไปตามๆ กัน
พร้อมกับคิดไปในทางเดียวกันว่าใครก็ตามที่ได้คุณหนุ่มเป็นแฟนคือคนซวยแห่งยุค..
เขาใช้ดวงตาสีนิลนั่นจับจ้องมาที่ใบหน้าของเธอ
“ดูเหมือนว่าเธอจะขับรถไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่..”
“อ่า..มะ..ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ เห็นแบบนี้แต่หนูก็มีใบขับขี่นะคะ”
เขาเลิกคิ้วมองหน้าเธอก่อนจะยิ้มที่มุมปาก
“งั้นเหรอ แบบนั้นผมจะขอพักสายตาสักครู่นะ หวังว่าเราจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัยด้วยการขับรถของเธอ”
ดี..ดีมากเลย หลับไปซะเถอะ มาคอยจ้องแบบนี้มีแต่จะทำให้เธอเกร็งเปล่าๆ ช่วยหลับไปตลอดทางและพอถึงที่หมายค่อยตื่นขึ้นมาเถอะ
นิดาขับรถมาสักระยะ เธอก็ได้ยินเสียงหายใจที่สม่ำเสมอของเขา เมื่อหันมามองก็พบว่าเขากำลังหลับอยู่
หลับง่ายแบบนั้นเชียว..หรือว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนกันนะ ดูแพรขนตานั่นสิ ขนาดเธอเป็นผู้หญิงยังไม่มีขนตาที่งอนขนาดนั้นเลย
นิดาเปิดไฟเลี้ยวก่อนที่เธอจะจอดรถข้างทาง เธอเอื้อมมือไปปรับเบาะเพื่อให้เอนไปด้านหลัง พร้อมกับหยิบผ้าห่มบนเบาะหลังมาห่มให้เขา อันที่จริงเธอมีผ้าปิดตาด้วย..หากว่าปิดให้เขาจะทำให้เขานอนสบายๆ มากกว่านี้ไหมนะ
เมื่อคิดได้แบบนั้นนิดาก็หยิบผ้าปิดตาขึ้นมาแล้วใส่ให้เขาอย่างเบามือเพราะว่าเธอกลัวว่าเขาจะตื่น หลังจากนั้นเมื่อมองว่าเขาน่าจะนอนสบายแล้วเธอก็เริ่มขับรถออกมาอีกครั้ง ปลายทางอีกหนึ่งร้อยกิโลนิดๆ หวังว่ากาแฟที่เธอกินไปเมื่อเช้าจะช่วยกันผลักดันให้เธอขับรถถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
ทว่าพอขับรถมาอีกหน่อยนิดาก็เปิดไฟเลี้ยวอีกครั้ง เธอเดินลงจากรถก่อนจะไปเปิดประตูหลังเพื่อหยิบหมอนรองคอมา
หลังจากนั้นนิดาก็ค่อยๆ ประคองใบหน้าของเขาขึ้นมาแล้วใส่หมอนรองคอให้เขา
อ่า..แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย เพราะหากเขาตื่นมาแล้วคอเคล็ดละก็ เขาอาจจะมาอารมณ์เสียได้ เธอเคยเป็นบ่อยๆ ทำให้ต้องพกอุปกรณ์การนอนเอาไว้อย่างครบถ้วนในรถ
นิดาเริ่มขับรถออกไปอีกครั้ง และเพราะว่าเธอเอาแต่มองด้านหน้ารถทำให้เธอไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มที่มันปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาของคนที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เลย
ฉันจะเปลี่ยนโชคชะตาของตัวเอง จากเดิมที่ต้องตายในตอนจบ โอฟีเลียคนนี้จะร่ำรวยที่สุดในจักรวรรดิแห่งนี้ให้ดู..ว่าแต่ท่านแม่คะ นั่นท่านพาตัวร้ายเข้ามาในบ้านของเราทำไมกัน?
จะมีอะไรซวยมากไปกว่าการเข้ามาอยู่ในเกมนักสืบแล้วบทบาทที่ได้รับคือฆาตกร ฉันจะต้องตีเนียนว่าไม่ได้ทำ แถมยังต้องตามหาพันธมิตรที่พร้อมจะยืนยันว่าฉันคือผู้บริสุทธิ์อีกต่างหาก
สิงโตมันไม่มีฤดูผสมพันธ์ุที่แน่นอนหรอกนะ เพราะฉะนั้นมันจึงสามารถผสมพันธ์ุได้ทุกที่ทุกเวลา เจ้าแน่ใจไหมเซียร่าว่าร่างกายเล็กๆของเจ้าจะรับความต้องการของข้าไหว?
ทารีน่าคือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้ ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในร่างของตัวร้าย เมนของเธอคือไคล์ เขาชอบนางเอกและพยายามฆ่าทารีน่าครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อปกป้องนางเอก นี่ชีวิตของเธอจะต้องถูกเมนตัวเองฆ่าเหรอวะเนี่ย
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀