คำว่ารัก...ไม่ควรจำกัดไว้แค่คำว่าเพศ เพราะโลกใบนี้ไม่มีใครเลือกเกิดได้ แต่ทุกคนเลือกที่จะเป็นได้ เหมือนกับเขาสองคน ที่คิดว่า ความรักคือสิ่งที่สวยงามยิ่งกว่าสิ่งใด
"กรี๊ด..... พี่แบมสู้ๆ พี่แบมสู้ๆ"
เสียงเชียร์ดังขึ้นมาไม่ขาดสายจากรอบๆสนามบาสเกตบอลของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง วันนี้มีการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลระดับเขต แน่นอนว่าทีมของโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ต้องเจอกับคู่แข่งจากต่างโรงเรียน
เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นมาไม่ใช่เพราะว่ากีฬามันน่าสนุก หรือน่าสนใจ แต่เป็นตัวนักกีฬาต่างหากที่น่าสนใจ ร่างสูงโปร่งที่มีผิวขาวราวกับน้ำนมกำลังวิ่งเลี้ยงลูกไปใกล้ห่วง
จากนั้นเขาก็กระโดดสูงชู๊ตลูกบาสเข้าไปในห่วงได้อย่างแม่นยำ เสียงกรี๊ดพร้อมกับเสียงปรบมือดังขึ้นเพราะลูกนี้คือลูกตัดสินของการแข่งขันในวันนี้แล้ว
"แบม มึงนี่เก่งว่ะ"
เพื่อนในทีมเดินมาจะตบบ่าหนา แต่ทว่าชายหนุ่มหน้าหล่อกลับเบี่ยงกายหนี ใครๆก็รู้ว่านักบาสหน้าหล่อแถมฝีมือดีคนนี้ไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสร่างกาย โดยเฉพาะพวกผู้ชายด้วยกัน
แบม ภูวดลเป็นนักกีฬาและนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน สาวๆต่างชื่นชอบและชื่นชม หรือแม้แต่พวกผู้ชายเหมือนกันแบม หรือภูวดล ปรีชารักษ์ก็สามารถทำให้หวั่นไหวไปกับเขาได้
"อืม...มึงก็เก่ง"
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินไปที่ข้างสนามที่มีเพื่อนสนิทคนสวยรออยู่ ใครๆก็บอกว่าเขาและเธอเป็นแฟนกันแต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย
"เหนื่อยไหม"
มือบางยื่นผ้ามาเช็ดหน้าให้เพื่อนสนิท แบม ภูวดลไม่หลบเหมือนกับตอนที่เพื่อนนักบาสในทีมมาตบบ่า เธอเป็นคนเดียวที่สามารถสัมผัสร่างกายเขาได้
เสียงกรี๊ดดังขึ้นเมื่อจีน่า เจนจิราใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่บนใบหน้าหล่อเหลาของนักบาสหนุ่มที่สาวๆยกให้เป็นหนุ่มฮอตของรุ่นมัธยมศึกษาปีที่หก
"ฮอตตลอด"
ตั้ม อนุพงษ์ เพื่อนที่สนิทกับแบมอีกคนเอ่ยแซวขึ้น
"ฮอตขนาดนี้อย่าแย่งจีน่าของกูไปจริงๆก็พอ กูแค่ให้ยืมควง"
"อยากโดนตบให้ปากฉีกหรือไง ใครเป็นของนาย ฉันมีแบมคนเดียวก็พอแล้วย่ะ"
จีน่า สาวสวยลูกครึ่งเยอรมันเอ่ยขึ้นก่อนที่จะจูงมือแบม ภูวดลเดินออกจากสนามไปท่ามกลางสายตาอิจฉาจากสาวๆ หนุ่มๆเองก็อิจฉาหนุ่มฮอตของโรงเรียนไม่น้อย
ถ้าแบม ภูวดลเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียน เช่นนั้นฝ่ายหญิงก็คงไม่พ้นจีน่า เจนจิรา ริกเตอร์คนนี้ ตั้ม อนุพงษ์หัวเราะออกมาก่อนที่จะวิ่งตามเพื่อนทั้งสองไป
หนุ่มหล่อต่างโรงเรียนที่มาดูการแข่งขันในวันนี้ด้วยมองตามนักกีฬาที่ทำผลงานได้โดดเด่นในเกมวันนี้ไปอย่างสนใจ ดูๆแล้วเขากับนายหน้าหล่อคนนั้นคงจะได้พบกันในไม่ช้า
สายตาคมมองตามสองหนุ่มกับหนึ่งสาวไปอย่างสนใจ แต่ทว่าคนที่เขาให้ความสนใจและรู้สึกสนใจจริงๆคือไอ้หนุ่มนักกีฬาหน้าหล่อนั่นต่างหากหาใช่สาวสวยที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนของนายคนนั้นเหมือนที่เพื่อนเขาเข้าใจ
"ชอบคนนั้นหรอวะ ไม่ต้องหวังหรอก เพราะคนที่เธอเช็ดหน้าให้น่ะ เป็นแฟนของเธอ โรงเรียนนี้ดีว่ะ มีเทวดากับนางฟ้าบนดินเรียนอยู่ด้วย พอกลับไปดูโรงเรียนเรามีแต่มึงนี่แหละมั้งที่หน้าตาดีอยู่คนเดียวหึๆ"
บอส ภาณุเอ่ยออกมาทันทีที่เห็นสายตาของเพื่อนกำลังมองตามสาวสวยที่เพิ่งเดินจับมือกับนักกีฬาตัวเต็งของทีมที่เพิ่งแข่งขันจบไป
แต่บอสหารู้ไม่ว่าคนในสายตาของเพื่อนสนิทคือนักกีฬาที่ชอบทำหน้าเย็นชาคนนั้นต่างหาก เขาอยากได้คนนั้นเป็นเพื่อนและเขาจะต้องได้เป็น
สองหนุ่มสาวเดินจูงมือกันมาจนถึงรถรับส่งของที่บ้าน วันนี้ครอบครัวปรีชารักษ์ส่งคนขับรถมารอรับบุตรชายคนเล็กกลับบ้านและแน่นอนว่าครอบครัวริกเตอร์ที่เป็นทั้งเพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทก็ให้บุตรสาวคนโตกลับไปพร้อมกัน
แบม ภูวดลทำหน้าที่เป็นสุภาพบุรุษกับเพื่อนสนิทเสมอ ทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ต่างคนต่างรู้ความชอบและตัวตนของกันและกัน
“ร้อนไหมครับคุณหนู”
คนขับรถเอ่ยถามเจ้านายน้อยของบ้าน
ครอบครัวของปรีชารักษ์มีทายาททั้งหมดสามคนคือ บอม ภูวนาถ บี๋ พิชสินีย์ และคนสุดท้ายคือ แบม ภูวดล พี่คนโตเรียนจบปริญญาโทเมื่อปีก่อนจะมีก็แต่พี่คนกลาง และน้องคนเล็กที่ยังเรียนอยู่
“เย็นแล้วครับลุงโชติ”
เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
ถึงลุงโชติจะเป็นเพียงคนขับรถ แบม ภูวดลหรือแม้แต่คนในบ้านก็ไม่เคยมีใครดูถูกแก ทุกอาชีพมีเกียรติและศักดิ์ศรี ตราบใดที่งานนั้นเป็นงานที่ทำอย่างสุจริต
“ลุงโชติขา.... พาจีน่าแวะร้านไอติมหน่อยได้ไหมคะ จีน่าร้อนข้างใน”
ความต้องการของคุณหนูใหญ่ของครอบครัวริกเตอร์ลุงโชติย่อมไม่ขัด ชายวัยกลางคนฉีกยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าคุณหนูเล็กก็ไม่ขัดใจหญิงสาวข้างๆเช่นกัน
รถตู้คันหรูขับเคลื่อนมาจอดที่หน้าร้านไอศกรีมที่ตกแต่งได้อย่างน่ารัก มือบางกุมมือหนาให้ลงไปจากรถด้วยกัน แบม ภูวดลไม่อิดออด เขาตามเพื่อนสนิทไปแต่โดยดี และเขาก็รู้ดีว่าทำไมเธอถึงอยากมาร้านนี้ เพราะนอกจากไอศกรีมแล้วคงจะมีเจ้าของร้านนี่แหละที่ดึงดูดให้จีน่าติดอกติดใจ
“สวัสดีค่ะ ไอซ์สวีท ยินดีต้อนรับค่ะ”
เสียงห้าวหวานเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ส่งมาให้สองหนุ่มสาวซึ่งนับได้ว่าเป็นลูกค้าประจำของร้านไอศกรีมร้านนี้เลยก็ว่าได้
“พี่ไอซ์...มีอะไรแนะนำเราสองคนไหมคะ”
เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมส่งสายตาวิบวับไปให้รุ่นพี่สาวที่พอเรียนจบก็หันมาเปิดร้านไอศกรีมและขนมหวานตามความชอบส่วนตัว
“พี่ว่าเราสองคนมาบ่อยเกิน พี่คิดเมนูไม่ทันแล้วค่ะ”
แบม ภูวดลถึงกับหัวเราะออกมากับคำพูดของรุ่นพี่
ก็มันคือเรื่องจริง จีน่าเพื่อนของเขานั้นแวะมาร้านนี้ทุกวันหลังเลิกเรียน ไม่ว่าจะอากาศร้อน หนาว หรือฝนตก จีน่าก็มาอุดหนุนจนชิมขนม ไอศกรีม หรือแม้แต่เมนูน้ำไปหมดทุกเมนูแล้ว
“หัวเราะอะไร”
เสียงหวานดังขึ้นพร้อมสายตาดุๆส่งมา ชายหนุ่มถึงกับกลั้นขำเอาไว้เพราะกลัวเพื่อนโกรธ
“เอาเหมือนเมื่อวานก็ได้ค่ะ”
ก่อนที่จะหันไปสั่งเมนูที่ต้องการด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างจากถามเพื่อนสนิท แบม ภูวดลถึงกับมองบน
ระหว่างที่สองหนุ่มสาวกำลังนั่งรอเมนูที่สั่งไปก็มีนักเรียนรุ่นน้องโรงเรียนเดียวกันเข้ามาภายในร้าน สาวๆที่เพิ่งเข้ามาแทบจะกรีดร้องออกมาเมื่อพบว่าใครกำลังนั่งอยู่
สาวๆเดินเข้าทักทายรุ่นพี่ก่อนที่จะขอถ่ายภาพด้วยโดยให้พี่สาวคนสวยเป็นผู้ถ่ายให้ แบม ภูวดลอยากจะปฏิเสธเพราะเขาไม่อยากเป็นคนเด่นหรือคนดังอะไร แต่ทว่าสายตาของเพื่อนสนิทที่มองมาทำให้เขายอมถ่ายรูปกับพวกน้องๆแต่โดยดี
‘หล่อเวอร์ แกดูดิ หน้านี่อย่างขาว’
‘กลิ่นเหงื่อไม่มีเลย ขนาดเพิ่งแข่งบาสมานะเนี่ย’
‘หน้าใสกว่าก้นเด็กอีก พี่แบมใช้ครีมอะไรวะ’
‘ใดๆคืออิจฉาพี่จีน่าเวอร์ เมื่อกี้ฉันโดนตัวพี่เค้า โอ้โห...โคตรแน่น’
และคำพูดเหล่านี้ก็หลุดออกมาจากปากสาวๆรุ่นน้อง แบม ภูวดลเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียน แน่นอนว่าเขาย่อมเป็นที่สนใจของบรรดาสาวๆ
แม้แต่พวกผู้ชายด้วยกันก็ยังอยากจะสัมผัสร่างกายของแบม ภูวดลสักครั้ง เขาไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อแบบใสๆ แต่เขาดูหล่อแบบน่าค้นหา
“ฮอตจริงๆเลยเนี่ย ขนาดมากินไอติมร้านไกลโรงเรียนขนาดนี้ยังมีรุ่นน้องมาเจอได้อีก”
จีน่าเอ่ยแซวเพื่อนสนิทที่กำลังจะตักไอศกรีมใส่ปาก
“หึๆ คิดว่าฉันอยากจะฮอตหรือไง มันเป็นไปตามธรรมชาติต่างหาก ว่าแต่ฉัน เธอเองก็เหมือนกันแหละจีน่า แม่สาวฮอตของโรงเรียน”
คนที่เพิ่งตักไอศกรีมเข้าปากตอบกลับเพื่อนสนิท เขาก็พยายามที่จะทำตัวไม่ให้เด่นแล้ว แต่มันก็เป็นไปตามธรรมชาติ
“หนุ่มฮอตสาวฮอต เหมาะสมกันดีนะคะ”
เจ้าของร้านที่นำขนมมาเสิร์ฟถึงกับเอ่ยแซว สองหนุ่มสาวยิ้มแหยๆออกมา จะเหมาะสมกันได้อย่างไรก็ในเมื่อเขาและเธอไม่ได้ชอบกันเอง
ร่างสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้าไปในบ้านหลังโต ครอบครัวปรีชารักษ์นั้นมีอาชีพเป็นหมอและเจ้าของบริษัทยา โดยบิดาเป็นประธานบริษัท พีมาร์ฟามาซีซูติคอล จำกัด และมารดาเป็นศัลยแพทย์ทรวงอกอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ
พี่ชายกำลังเข้ารับช่วงต่อแทนบิดาตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเรียนรู้และฝึกงาน ส่วนพี่สาวคนกลางเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ปีสองที่มหาวิทยาลัยชื่อดังอีกทั้งกำลังกลายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ของวงการบันเทิงเพราะมีความสวยและความสามารถที่โดดเด่น ส่วนตัวเขาก็กำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในอีกหนึ่งภาคเรียนข้างหน้า
“พี่บี๋... ไม่ไปเรียนหรือครับ”
เด็กหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้าไปภายในบ้านเจอพี่สาวนั่งอ่านบางสิ่งบางอย่างอยู่ภายในห้องนั่งเล่น
“ไปมาแล้ว กำลังอ่านบทละครอยู่”
บี๋ หรือพิชสินีย์ ปรีชารักษ์ พี่สาวคนกลางตอบผู้เป็นน้องชายคนเล็กของบ้าน
“ได้แสดงแล้วหรอ”
เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาอย่างตื่นเต้น
“อืม... อย่าลืมพาน้องๆที่โรงเรียนมาเป็นแฟนคลับให้พี่ด้วย”
ว่าที่นักแสดงสาวฉีกยิ้ม ก่อนที่จะบอกน้องชาย
“หึ! ได้สิ ว่าแต่เล่นบทอะไร” เขาเดินไปนั่งลงข้างๆ
“ทำไม... สนใจหรอ แต่พี่ว่า... ว่าที่คุณหมออย่างนายไม่น่าจะสนใจเส้นทางสายบันเทิงนะ”
ใช่สิ... เขามีความสนใจที่จะเรียนแพทย์ และต้องเป็นศัลยแพทย์หัวใจเท่านั้น สมัยเด็กๆเขามีปมเกี่ยวกับเด็กน้อยคนหนึ่งอายุน่าจะอ่อนกว่าเขาไปถึงสองปี ตอนนั้นเขาเพิ่งจะอายุเจ็ดขวบและได้ติดตามมารดาไปทำงานที่โรงพยาบาล
เขาได้รู้จักเด็กคนนั้นเพราะเป็นคนไข้ของโรงพยาบาล เด็กน้อยมารักษาโรคลิ้นหัวใจรั่ว และเสียชีวิตหลังจากที่เขารู้จักได้เพียงสามวัน เขารู้สึกสงสารคนที่ป่วยเกี่ยวกับโรคหัวใจ
เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ในประเทศมีน้อย เขาจึงอยากเป็นอีกหนึ่งกำลังที่จะช่วยดูแลรักษาชีวิตของคนที่กำลังสิ้นหวังด้วยโรคเกี่ยวกับหัวใจในอนาคต
“พี่ก็รู้คำตอบของผมอยู่...แล้วจะถามผมทำไม ขอตัวขึ้นห้องก่อน เหนียวตัว วันนี้แข่งบาสมา”
แบม ภูวดลบอกก่อนที่จะเดินจากไป บี๋ พิชสินีย์เข้าใจดีว่าถึงอย่างไรก็ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจน้องชายของเธอให้เลือกเดินบนเส้นทางอื่นได้ เพราะความเป็นหมอมันอยู่ในสายเลือด
ในเมื่อทั้งเธอและพี่ชายไม่มีใครได้มารดา ก็คงจะมีน้องชายนี่แหละที่รับช่วงต่อ เธอเลิกสนใจน้องชายแล้วหันมาสนใจบทละครที่เพิ่งได้รับมา เธอเพิ่งจะเข้าวงการจึงต้องพยายามให้มากกว่าใคร
นางแบบสาวไทยที่ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาโดยตลอด...จนวันหนึ่งได้พบกับเขา เขาที่เป็นพี่ชายสามีของน้องนางแบบที่เคยทำงานด้วยกัน ชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไป เพราะนอกจากถูกเขากวนใจแล้ว..เธอยังถูกเขากวนตัวอีกด้วย
เพราะความเข้าใจผิด ทำให้ต่างคนต่างก็แสดงท่าทีเย็นชาใส่กัน ทำให้ต่างคนต่างก็พลาดช่วงเวลาแห่งความสุขไป กว่าจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายมีความสำคัญในชีวิตของตนมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ได้จากไปตลอดกาลเสียแล้ว...
คงเป็นเพราะสวรรค์เมตตา ให้นางที่ตายไปแล้วด้วยน้ำมือคนที่รัก ได้ย้อนอดีตกลับมาเมื่อห้าปีก่อน ก่อนที่นางจะกลายเป็นสตรีที่โง่งมให้เขาหลอกลวงจนมีจุดจบที่น่าเวทนา มีหรือครานี้นางจะยอมเจ็บปวดเพราะเขาอีก...
ในชาติภพก่อนนางคือวีรสตรีของแผ่นดินสยาม ปกป้องบ้านเมืองจากข้าศึกศัตรูจนตัวตาย เกิดชาติภพใหม่ในยุคจีนโบราณ นางนั้นเติบโตขึ้นเป็นสตรีที่งดงามแต่ทว่าภายใต้ใบหน้าที่งดงามนั้นกลับมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่
ฉินเซี่ยหรู คุณหนูใหญ่แห่งสกุลฉิน นางสิ้นอายุขัยจากการถูกสามีอย่าง หวงจิงอวี่ทำร้ายจิตใจด้วยการรับอนุเข้ามาอยู่ในจวนมากมาย เขามิเคยร่วมเตียงกับนางเลยสักครั้งจนอนุที่รับมานั้นตั้งครรภ์ อำนาจในการดูแลเรือนของนางจึงดูไร้ค่า เพราะแม่ของสามีก็ดูถูกที่นางมิสามารถมีทายาทสืบสกุลได้ นางจะมีได้เช่นไรกัน ในเมื่อสามีที่แต่งนางมานั้นมิเคยร่วมเตียงกับนางเลยสักครา จนนางตรอมใจและดับสูญไปในที่สุด ผู้ใดจะรู้เรื่องราวหลังจากนั้น ฉินเซี่ยหรูได้กลับชาติไปเกิดในร่างของหลานสาวขี้โรคของนาง แต่ทว่าการได้เกิดใหม่ในครั้งนี้ทำให้ร่างกายของหลานสาวนั้นกลับมาแข็งแรงราวปาฏิหารย์ สตรีที่เคยมีอายุยี่สิบสามปี แต่บัดนี้กลับกลายมาอยู่ในร่างของเด็กหญิงอายุเจ็ดขวบ นางตั้งมั่นเอาไว้แล้วว่าในอนาคต นางจะมิยอมแต่งงานอีกต่างหาก แต่เมื่อได้พบเจอกับเขา นักปราชญ์หนุ่มที่เพิ่งย้ายมา นางจึงเปิดใจและอยากแต่งงาน นั่นเป็นเพราะเขาทำให้นางได้รู้จักความรักที่แท้จริง... ความรักที่ไม่เคยได้รับรักตอบจากชาติภพก่อน
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
' "เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล-ราชิด" องค์มกุฎราชกุมารแห่งประเทศความาร์ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อดูตัวว่าที่เจ้าสาวที่ถูกพระมารดาบังคับให้แต่งงานด้วย เขาเต็มไปด้วยความชิงชังเมื่อเห็นหล่อนเดินเฉิดฉายอยู่ในผับยามค่ำคืน ท่าทางใสซื่อไร้เดียงสาของหล่อนที่พยายามแสดงออกมานั้นไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขาแทบยากจะอาเจียนออกมา เพราะเขารู้อยู่เต็มอกว่าผู้หญิงอย่างหล่อนไม่มีทางเป็นชายาที่ดีของเขาได้อย่างแน่นอน นอกเสียจาก... นางบำเรอ!
“ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ” “โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ” ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร “คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ” ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า “ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?” นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้