“ที่ทำ... มันเกินไป” “น้อยไป ฉันยังอยากสั่งสอนเธออีกสักรอบ” “ที่ฉันด่าว่าเหี้ยมันไม่คู่ควรกับนายตรงไหน คนดี ๆ ที่ไหนเอาผู้หญิงมาเล่นสนุกแบบนั้นวะ”
“ที่ทำ... มันเกินไป” “น้อยไป ฉันยังอยากสั่งสอนเธออีกสักรอบ” “ที่ฉันด่าว่าเหี้ยมันไม่คู่ควรกับนายตรงไหน คนดี ๆ ที่ไหนเอาผู้หญิงมาเล่นสนุกแบบนั้นวะ”
ตอนที่1 คืนพลาด
ไมเคิลเดินตามเจเลอร์ลงมาเมื่ออยู่ ๆ คนแอบหวงแมวก็หมดอารมณ์สนุกและหนีมานั่งเฝ้าแมวของมันที่ชั้นล่าง เขามองตามสายตาคมดุไปก็เห็นแผ่นหลังนวลเนียนของสองสาวที่ไอ้เคนกำลังนั่งคุม ปากพูดกับอีกคนแต่สายตายังส่งซิกไปหาผู้หญิงปากเก่งอย่างแสนดี
“อ๊ะอายจะรู้ตัวมั้ยวะว่าเจ้าของมันจ้องตะคุบอยู่ตรงนี้”
“...”
“หวงเค้าสิมึง” เจเลอร์ยังเข้มขรึมทำเพียงตวัดสายตามองเขาอย่างรำคาญเท่านั้น ก่อนจะเอาสายตานั้นไปเฝ้าผู้หญิงที่มันเคยบอกว่าไม่เอาแล้ว เขายกมือขึ้นเรียกพนักงานคนหนึ่งในร้านให้มาหา ก่อนจะช่วยเพื่อนที่นั่งหน้าตึงด้วยวิธีที่เจเลอร์คิดไม่ได้อย่างแน่นอน
“มึงหาคนเอาฝาเบียร์ไปขูดรถไอ้เคนให้รอบคัน แล้วให้คนไปบอกมัน”
“อะไรนะครับ!”
“มึงได้ยินไม่ผิด เสร็จงานแล้วไอ้เจเลอร์จะจ่ายให้หมื่นนึง” เขาถูกเจเลอร์มองด้วยหางตาแต่ก็ไม่ได้คัดค้าน...แสดงว่าความคิดมันก็เข้าท่าดี
.....
“แสน! เดี๋ยวก็เมาหรอก” อชิรญาแกล้งรั้งมือของเธอ และเธอก็แกล้งกรอกน้ำเมาสีสวยลงคอทีเดียวจนหมด ก่อนจะหันไปพูดพร้อมยิ้มแฉ่ง
“กลับแท็กซี่”
“เดี๋ยวเถอะ” เธอละสายตาหยาดเยิ้มจากใบหน้าจิ้มลิ้มของเพื่อนกวาดมองตั้งแต่บาร์เทนเดอร์ คนที่ยืนเต้นโซนธรรมดา ไปยังหน้าเวทีที่ชอบที่สุด ก่อนจะเอาสายตากลับมามองเพื่อนที่นั่งข้างกันเห็นว่าใบหน้าของอชิรญาเอนซบบนบาร์แล้ว และเคนก็มองมาที่เธอแววตาวาวระยับไม่ต่างจากที่มองเพื่อนเธอ
“เราไปล้างหน้าก่อนนะ นั่งอยู่นี่ห้ามไปไหนเด็ดขาด”
“ให้ไปด้วยมั้ย”
“ไม่ต้องหรอก นั่งอยู่ตรงนี้นะเข้าใจมั้ย”
หญิงสาวรีบใช้น้ำเย็น ๆ ประพรมกรอบหน้าที่ร้อนผ่าว สงสัยบาร์เทนเดอร์จะใส่เหล้าเยอะไปเธอถึงได้จะเมาง่ายขนาดนี้ ‘ที่พูดเล่นว่าจะกลับแท็กซี่คงได้ทำมันจริง ๆ’
เธอยืนใช้มือค้ำกับขอบอ่างล้างมือจนรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยจึงรีบพาตัวเองกลับไปหาเพื่อนที่นั่งอยู่กับเคนซึ่งระหว่างทางเธอก็เจอพวกน่ารำคาญมาชวนไปต่อ หรือมาหยุดมองหน้าอกที่โผล่พ้นเสื้อเกาะอกสีขาวของเธออย่างตั้งใจ
“คืนนี้มีคนไปส่งหรือยังครับ”
“เอารถมาค่ะ”
“เดี๋ยวสิคุณคุยกันก่อน”
“โทษนะคะฉันรีบ” เธอสะบัดมือคนแปลกหน้าออกอย่างไม่มีเวลาหันไปด่าเพราะมองเห็นแล้วว่าเพื่อนของเธอกับเคนหายไปแล้ว เหลือแค่กระเป๋าของเธอที่วางอยู่
“เพื่อนเราที่นั่งอยู่กับผู้ชายตรงนี้ไปไหนแล้วคะ”
“อ๋อ เพื่อนคุณเมาพี่เคนพาขึ้นไปห้องวีหนึ่งแล้ว”
จิ๊!
หญิงสาวร้องขึ้นอย่างหงุดหงิดแค่ไม่กี่นาทีไอ้พี่เคนนี่ก็ไวจริง ๆ เธอรีบวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสองฝั่งขวามือที่เป็นห้องวีไอพีพรีเมี่ยมและผลักประตูห้องที่อยู่ด้านในสุดอย่างไม่ลังเล
ความมืดเกือบสนิททำเอาต้องยืนตั้งหลักก่อนหลายวินาที และในที่สุดก็เห็นร่างกำยำนั่งหันหลังพาดท่อนแขนกับพนักพิง แล้วเพื่อนเธอล่ะ?
“พี่เคน! อ๊ะอาย...นาย!” หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบไหวเมื่อในห้องนี้ไม่มีเพื่อนเธอ และเขาก็ไม่ใช่เคน ไม่มีเวลาตกใจนานเพราะห่วงอชิรญามากกว่าสิ่งใดจึงหวังจะรีบออกไปจากที่นี่แต่กลับถูกกระชากลงมาบนโซฟาตัวเดียวกับเขาหัวคะมำลำตัวพาดบนหน้าตักแกร่ง แต่เมื่อเธอจะลุกหนีก็ทำไม่ได้เพราะถูกรัดไว้แน่น
“นี่! อย่ามายุ่งกับฉันนะ!”
“บังเอิญอยากยุ่งซะด้วยสิ”
“ปล่อยนะฉันรีบไม่มีเวลามาเล่นกับนายหรอก!”
“หาอ๊ะอายอยู่เหรอ”
กึก
“อ๊ะอายอยู่ไหนนายรู้เหรอ”
“รู้สิ”
“ก็บอกมาสิว่าอ๊ะอายอยู่ไหน”
“เอาตัวเข้าแลกสิ แล้วจะบอก” ทั้งคำพูดและมือที่กำลังลูบต้นขาของเธออย่างจาบจ้วงทำให้แสนดีดีดดิ้นอย่างไม่ยอม แต่เขายังลุกล้ำเธอด้วยการปัดรวบผมหลบทางเพื่อนฝังกลีบปากที่ต้นคอทางด้านหลัง
“ปล่อยนะไอ้โรคจิต!”
“ไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าเพื่อนอยู่ไหน ป่านนี้โดนไอ้เคนเอาไปแล้วมั้ง”
“ก็บอกมาสิโว๊ย!”
“พูดกับคนที่จะช่วยเธอแบบนี้เหรอ”
“ก็เพราะรู้ว่านายไม่ช่วยไง ปล่อยสิฉันรีบ! อ๊าย!” ร่างบางถูกจับพลิกไปนอนราบบนโซฟาหนังและถูกขังไว้ในคนตัวโตที่คร่อมทับเธออย่างแนบชิด เธอกรีดร้องหวังให้ใครได้ยินและทำให้เขาหยุดสักทีเธอเหลือเวลาตามหาเพื่อนน้อยลงทุกที
“กรี๊ด อ็อกก” ไมเคิลแกล้งกรอกเหล้าขวดเล็ก ๆ รสบาดคอลงโพรงปากของหญิงสาว ดีกรีเหล้ามันมากถึง 80% ‘ตัวเล็ก ๆ แค่นี้แก้วเดียวก็น็อก’
“ไอ้บ้าแกเอาอะไรให้ฉันกิน แค่ก ๆ”
“เหล้าธรรมดา คิดว่ามียาหรือไง”
“ถ้ามียานายก็ชาติชั่วเกินไปแล้วแหละ” ตัวของหญิงสาวฟุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าที่มันไหลลงคอไม่หมด เธอยกหลังมือขึ้นเช็ดริมฝีปากและคางที่เหล้าไหลย้อยก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้น แต่ปรากฏว่าภาพมันเบลอหมุนไปหมด
“ฉันล่ะโคตรเกลียดเวลาถูกใครด่า และยิ่งเป็นผู้หญิงนะ...”
“นาย...”
“เพื่อนเธออยู่กับไอ้เจเลอร์ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
“...”
“เมาไวจัง เหล้ายังเหลืออีกนะ” แสนดีเริ่มรู้สึกว่าเปลือกตามันหนักเกินจะลืมขึ้นไหว รสชาติเหล้ายังติดอยู่ในโพรงปากจนเธอต้องกลืนน้ำลายลงคอล้างความขมของมัน ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างพึงพอใจในผลงาน ยิ่งตอนที่เธอใช้มือขยุ้มเส้นผมตัวเองเขาก็แทบจะขาดสติลง
“เหล้านี้นำเข้าเลยนะ ปกติมันขายไม่ดีหรอกเพราะเมาง่าย”
“ลุก...ออกไป”
ไมเคิลกรีดนิ้วไล้บนเนินอกอวบแผ่วเบาแต่ทำให้คนใต้ร่างสยิวซ่านวูบวาบด้วยความที่ไม่เคยมีใครได้ทำแบบนี้กับเธอ ก่อนที่เกาะอกตัวเล็กจะถูกนิ้วชี้เกี่ยวลงมากองใต้ฐานอก
“อย่า..”
“จุกของเธอมันจะสีอะไรกันนะ” ขณะที่ถามมุมปากก็ยกยิ้ม ดูจากผิวขาว ๆ แล้วคิดว่าภายใต้ที่ปิดจุกนั่นน่าจะแป็นสีชมพูสด คนเมาพยายามดึงเกาะอกของเธอขึ้นปิดโดยไม่รู้เลยว่ามือข้างหนึ่งของเขากำลังรั้งมันไว้ ก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างไปหยิบรีโมทเล็ก ๆ ข้างแก้วเหล้ามาเปลี่ยนโหมดจากไฟปาร์ตี้เป็นสีวอร์มไลท์ ไมเคิลถึงกับกัดริมฝีปากที่แห้งผากเมื่อได้เห็นทรวดทรงของเธออย่างถนัดตา
“นมนี่ของจริงป้ะ?”
"ถ้าไม่ใช่เพราะหวงก็เลิกยุ่งกันไปได้มั้ย ฉันจะได้เริ่มต้นใหม่" "อยากเริ่มต้นใหม่ เพื่อจะลืมฉันน่ะเหรอ" อชิรญากวาดสายตามองไปทางอื่นเมื่อที่เขาพูดมันก็คือเรื่องจริง ขอแค่เขาหยุด เธอก็จะลืม "ฉันไม่ชอบเวลามีใครมาพูดว่าได้ผู้หญิงที่ฉันเอามาแล้ว มันดูซ้ำรอย" "กับพี่พระแพงตามระรานเขาแบบนี้ด้วยหรือเปล่า" "พระแพงพูดอะไร"
เมื่อผู้หญิงที่เขาเคยซื้อมันได้ด้วยเงินถอยหนี และดื้อด้าน เขาก็กลายเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เธอไม่เคยรู้จัก
ซื้อเป็นของขวัญ ติดตาม แชร์ "คุณพาย" พิยดาหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้า แม้ภายนอกจะดูเป็นอย่างไรแต่ใจเธอนั้นหล่นวูบไปเสียแล้ว "คุณท้องกี่เดือนแล้ว" "นึกว่าใคร คุณเหมนี่เอง สวัสดีค่ะ สบายดีนะคะ" "คุณช่วยตอบคำถามผมที คุณท้องกี่เดือนแล้ว" พิยดาก้าวถอยหลังในขณะที่เหมันต์เดินหน้าเข้าหาเธอ เขาเหมือนเดิมจนทำให้เธอเผลอนึกถึงเรื่องเก่าๆที่เคยทำด้วยกัน ก่อนที่บาดแผลนั้นจะร้องเตือนตัวเองว่าถ้าเธอยังฝังกลบความรู้สึกนั้นไม่ได้เธอนั่นแหละจะตาย
“อื้ออ อย่า...” หญิงสาวร้องปรามเมื่อหน้าอกของเธอถูกดูดดึงอย่างหื่นกระหาย ความกลัวเกาะกินหัวใจทั้งดวงพยายามมองหาใครสักคนที่จะช่วยเธอได้ในคืนนี้ ‘แต่น่าจะไม่มี’
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด