“ที่ทำ... มันเกินไป” “น้อยไป ฉันยังอยากสั่งสอนเธออีกสักรอบ” “ที่ฉันด่าว่าเหี้ยมันไม่คู่ควรกับนายตรงไหน คนดี ๆ ที่ไหนเอาผู้หญิงมาเล่นสนุกแบบนั้นวะ”
“ที่ทำ... มันเกินไป” “น้อยไป ฉันยังอยากสั่งสอนเธออีกสักรอบ” “ที่ฉันด่าว่าเหี้ยมันไม่คู่ควรกับนายตรงไหน คนดี ๆ ที่ไหนเอาผู้หญิงมาเล่นสนุกแบบนั้นวะ”
ตอนที่1 คืนพลาด
ไมเคิลเดินตามเจเลอร์ลงมาเมื่ออยู่ ๆ คนแอบหวงแมวก็หมดอารมณ์สนุกและหนีมานั่งเฝ้าแมวของมันที่ชั้นล่าง เขามองตามสายตาคมดุไปก็เห็นแผ่นหลังนวลเนียนของสองสาวที่ไอ้เคนกำลังนั่งคุม ปากพูดกับอีกคนแต่สายตายังส่งซิกไปหาผู้หญิงปากเก่งอย่างแสนดี
“อ๊ะอายจะรู้ตัวมั้ยวะว่าเจ้าของมันจ้องตะคุบอยู่ตรงนี้”
“...”
“หวงเค้าสิมึง” เจเลอร์ยังเข้มขรึมทำเพียงตวัดสายตามองเขาอย่างรำคาญเท่านั้น ก่อนจะเอาสายตานั้นไปเฝ้าผู้หญิงที่มันเคยบอกว่าไม่เอาแล้ว เขายกมือขึ้นเรียกพนักงานคนหนึ่งในร้านให้มาหา ก่อนจะช่วยเพื่อนที่นั่งหน้าตึงด้วยวิธีที่เจเลอร์คิดไม่ได้อย่างแน่นอน
“มึงหาคนเอาฝาเบียร์ไปขูดรถไอ้เคนให้รอบคัน แล้วให้คนไปบอกมัน”
“อะไรนะครับ!”
“มึงได้ยินไม่ผิด เสร็จงานแล้วไอ้เจเลอร์จะจ่ายให้หมื่นนึง” เขาถูกเจเลอร์มองด้วยหางตาแต่ก็ไม่ได้คัดค้าน...แสดงว่าความคิดมันก็เข้าท่าดี
.....
“แสน! เดี๋ยวก็เมาหรอก” อชิรญาแกล้งรั้งมือของเธอ และเธอก็แกล้งกรอกน้ำเมาสีสวยลงคอทีเดียวจนหมด ก่อนจะหันไปพูดพร้อมยิ้มแฉ่ง
“กลับแท็กซี่”
“เดี๋ยวเถอะ” เธอละสายตาหยาดเยิ้มจากใบหน้าจิ้มลิ้มของเพื่อนกวาดมองตั้งแต่บาร์เทนเดอร์ คนที่ยืนเต้นโซนธรรมดา ไปยังหน้าเวทีที่ชอบที่สุด ก่อนจะเอาสายตากลับมามองเพื่อนที่นั่งข้างกันเห็นว่าใบหน้าของอชิรญาเอนซบบนบาร์แล้ว และเคนก็มองมาที่เธอแววตาวาวระยับไม่ต่างจากที่มองเพื่อนเธอ
“เราไปล้างหน้าก่อนนะ นั่งอยู่นี่ห้ามไปไหนเด็ดขาด”
“ให้ไปด้วยมั้ย”
“ไม่ต้องหรอก นั่งอยู่ตรงนี้นะเข้าใจมั้ย”
หญิงสาวรีบใช้น้ำเย็น ๆ ประพรมกรอบหน้าที่ร้อนผ่าว สงสัยบาร์เทนเดอร์จะใส่เหล้าเยอะไปเธอถึงได้จะเมาง่ายขนาดนี้ ‘ที่พูดเล่นว่าจะกลับแท็กซี่คงได้ทำมันจริง ๆ’
เธอยืนใช้มือค้ำกับขอบอ่างล้างมือจนรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยจึงรีบพาตัวเองกลับไปหาเพื่อนที่นั่งอยู่กับเคนซึ่งระหว่างทางเธอก็เจอพวกน่ารำคาญมาชวนไปต่อ หรือมาหยุดมองหน้าอกที่โผล่พ้นเสื้อเกาะอกสีขาวของเธออย่างตั้งใจ
“คืนนี้มีคนไปส่งหรือยังครับ”
“เอารถมาค่ะ”
“เดี๋ยวสิคุณคุยกันก่อน”
“โทษนะคะฉันรีบ” เธอสะบัดมือคนแปลกหน้าออกอย่างไม่มีเวลาหันไปด่าเพราะมองเห็นแล้วว่าเพื่อนของเธอกับเคนหายไปแล้ว เหลือแค่กระเป๋าของเธอที่วางอยู่
“เพื่อนเราที่นั่งอยู่กับผู้ชายตรงนี้ไปไหนแล้วคะ”
“อ๋อ เพื่อนคุณเมาพี่เคนพาขึ้นไปห้องวีหนึ่งแล้ว”
จิ๊!
หญิงสาวร้องขึ้นอย่างหงุดหงิดแค่ไม่กี่นาทีไอ้พี่เคนนี่ก็ไวจริง ๆ เธอรีบวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสองฝั่งขวามือที่เป็นห้องวีไอพีพรีเมี่ยมและผลักประตูห้องที่อยู่ด้านในสุดอย่างไม่ลังเล
ความมืดเกือบสนิททำเอาต้องยืนตั้งหลักก่อนหลายวินาที และในที่สุดก็เห็นร่างกำยำนั่งหันหลังพาดท่อนแขนกับพนักพิง แล้วเพื่อนเธอล่ะ?
“พี่เคน! อ๊ะอาย...นาย!” หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบไหวเมื่อในห้องนี้ไม่มีเพื่อนเธอ และเขาก็ไม่ใช่เคน ไม่มีเวลาตกใจนานเพราะห่วงอชิรญามากกว่าสิ่งใดจึงหวังจะรีบออกไปจากที่นี่แต่กลับถูกกระชากลงมาบนโซฟาตัวเดียวกับเขาหัวคะมำลำตัวพาดบนหน้าตักแกร่ง แต่เมื่อเธอจะลุกหนีก็ทำไม่ได้เพราะถูกรัดไว้แน่น
“นี่! อย่ามายุ่งกับฉันนะ!”
“บังเอิญอยากยุ่งซะด้วยสิ”
“ปล่อยนะฉันรีบไม่มีเวลามาเล่นกับนายหรอก!”
“หาอ๊ะอายอยู่เหรอ”
กึก
“อ๊ะอายอยู่ไหนนายรู้เหรอ”
“รู้สิ”
“ก็บอกมาสิว่าอ๊ะอายอยู่ไหน”
“เอาตัวเข้าแลกสิ แล้วจะบอก” ทั้งคำพูดและมือที่กำลังลูบต้นขาของเธออย่างจาบจ้วงทำให้แสนดีดีดดิ้นอย่างไม่ยอม แต่เขายังลุกล้ำเธอด้วยการปัดรวบผมหลบทางเพื่อนฝังกลีบปากที่ต้นคอทางด้านหลัง
“ปล่อยนะไอ้โรคจิต!”
“ไม่อยากรู้แล้วเหรอว่าเพื่อนอยู่ไหน ป่านนี้โดนไอ้เคนเอาไปแล้วมั้ง”
“ก็บอกมาสิโว๊ย!”
“พูดกับคนที่จะช่วยเธอแบบนี้เหรอ”
“ก็เพราะรู้ว่านายไม่ช่วยไง ปล่อยสิฉันรีบ! อ๊าย!” ร่างบางถูกจับพลิกไปนอนราบบนโซฟาหนังและถูกขังไว้ในคนตัวโตที่คร่อมทับเธออย่างแนบชิด เธอกรีดร้องหวังให้ใครได้ยินและทำให้เขาหยุดสักทีเธอเหลือเวลาตามหาเพื่อนน้อยลงทุกที
“กรี๊ด อ็อกก” ไมเคิลแกล้งกรอกเหล้าขวดเล็ก ๆ รสบาดคอลงโพรงปากของหญิงสาว ดีกรีเหล้ามันมากถึง 80% ‘ตัวเล็ก ๆ แค่นี้แก้วเดียวก็น็อก’
“ไอ้บ้าแกเอาอะไรให้ฉันกิน แค่ก ๆ”
“เหล้าธรรมดา คิดว่ามียาหรือไง”
“ถ้ามียานายก็ชาติชั่วเกินไปแล้วแหละ” ตัวของหญิงสาวฟุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าที่มันไหลลงคอไม่หมด เธอยกหลังมือขึ้นเช็ดริมฝีปากและคางที่เหล้าไหลย้อยก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้น แต่ปรากฏว่าภาพมันเบลอหมุนไปหมด
“ฉันล่ะโคตรเกลียดเวลาถูกใครด่า และยิ่งเป็นผู้หญิงนะ...”
“นาย...”
“เพื่อนเธออยู่กับไอ้เจเลอร์ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า”
“...”
“เมาไวจัง เหล้ายังเหลืออีกนะ” แสนดีเริ่มรู้สึกว่าเปลือกตามันหนักเกินจะลืมขึ้นไหว รสชาติเหล้ายังติดอยู่ในโพรงปากจนเธอต้องกลืนน้ำลายลงคอล้างความขมของมัน ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างพึงพอใจในผลงาน ยิ่งตอนที่เธอใช้มือขยุ้มเส้นผมตัวเองเขาก็แทบจะขาดสติลง
“เหล้านี้นำเข้าเลยนะ ปกติมันขายไม่ดีหรอกเพราะเมาง่าย”
“ลุก...ออกไป”
ไมเคิลกรีดนิ้วไล้บนเนินอกอวบแผ่วเบาแต่ทำให้คนใต้ร่างสยิวซ่านวูบวาบด้วยความที่ไม่เคยมีใครได้ทำแบบนี้กับเธอ ก่อนที่เกาะอกตัวเล็กจะถูกนิ้วชี้เกี่ยวลงมากองใต้ฐานอก
“อย่า..”
“จุกของเธอมันจะสีอะไรกันนะ” ขณะที่ถามมุมปากก็ยกยิ้ม ดูจากผิวขาว ๆ แล้วคิดว่าภายใต้ที่ปิดจุกนั่นน่าจะแป็นสีชมพูสด คนเมาพยายามดึงเกาะอกของเธอขึ้นปิดโดยไม่รู้เลยว่ามือข้างหนึ่งของเขากำลังรั้งมันไว้ ก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างไปหยิบรีโมทเล็ก ๆ ข้างแก้วเหล้ามาเปลี่ยนโหมดจากไฟปาร์ตี้เป็นสีวอร์มไลท์ ไมเคิลถึงกับกัดริมฝีปากที่แห้งผากเมื่อได้เห็นทรวดทรงของเธออย่างถนัดตา
“นมนี่ของจริงป้ะ?”
"ถ้าไม่ใช่เพราะหวงก็เลิกยุ่งกันไปได้มั้ย ฉันจะได้เริ่มต้นใหม่" "อยากเริ่มต้นใหม่ เพื่อจะลืมฉันน่ะเหรอ" อชิรญากวาดสายตามองไปทางอื่นเมื่อที่เขาพูดมันก็คือเรื่องจริง ขอแค่เขาหยุด เธอก็จะลืม "ฉันไม่ชอบเวลามีใครมาพูดว่าได้ผู้หญิงที่ฉันเอามาแล้ว มันดูซ้ำรอย" "กับพี่พระแพงตามระรานเขาแบบนี้ด้วยหรือเปล่า" "พระแพงพูดอะไร"
เมื่อผู้หญิงที่เขาเคยซื้อมันได้ด้วยเงินถอยหนี และดื้อด้าน เขาก็กลายเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เธอไม่เคยรู้จัก
ซื้อเป็นของขวัญ ติดตาม แชร์ "คุณพาย" พิยดาหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้า แม้ภายนอกจะดูเป็นอย่างไรแต่ใจเธอนั้นหล่นวูบไปเสียแล้ว "คุณท้องกี่เดือนแล้ว" "นึกว่าใคร คุณเหมนี่เอง สวัสดีค่ะ สบายดีนะคะ" "คุณช่วยตอบคำถามผมที คุณท้องกี่เดือนแล้ว" พิยดาก้าวถอยหลังในขณะที่เหมันต์เดินหน้าเข้าหาเธอ เขาเหมือนเดิมจนทำให้เธอเผลอนึกถึงเรื่องเก่าๆที่เคยทำด้วยกัน ก่อนที่บาดแผลนั้นจะร้องเตือนตัวเองว่าถ้าเธอยังฝังกลบความรู้สึกนั้นไม่ได้เธอนั่นแหละจะตาย
“อื้ออ อย่า...” หญิงสาวร้องปรามเมื่อหน้าอกของเธอถูกดูดดึงอย่างหื่นกระหาย ความกลัวเกาะกินหัวใจทั้งดวงพยายามมองหาใครสักคนที่จะช่วยเธอได้ในคืนนี้ ‘แต่น่าจะไม่มี’
อวิ๋นซือเป็นบุตรสาวของขุนนางใหญ่กับภริยาเอก นางเพียบพร้อมคู่ควรกับฐานะฮูหยินใหญ่ วัยสิบห้าหญิงสาวขึ้นเกี้ยวสีเเดงหลังใหญ่ ใช้แปดคนหามเข้าสู่ตระกูลสามี วัยสิบเจ็ดนางถือหนังสือหย่าออกจากจวนอย่างทระนง เป็นฮูหยินใหญ่เเล้วอย่างไร เมื่อในใจสามียังสู้อนุคนหนึ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”
เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด