“อื้ออ อย่า...” หญิงสาวร้องปรามเมื่อหน้าอกของเธอถูกดูดดึงอย่างหื่นกระหาย ความกลัวเกาะกินหัวใจทั้งดวงพยายามมองหาใครสักคนที่จะช่วยเธอได้ในคืนนี้ ‘แต่น่าจะไม่มี’
ตอนที่1 ธาริกา
“อื้ออ อย่า...” หญิงสาวร้องปรามเมื่อหน้าอกของเธอถูกดูดดึงอย่างหื่นกระหาย ความกลัวเกาะกินหัวใจทั้งดวงพยายามมองหาใครสักคนที่จะช่วยเธอได้ในคืนนี้ ‘แต่น่าจะไม่มี’ ฝ่ามือของคนเลวกำลังยุ่มย่ามกับการดึงกระโปรงของเธอขึ้นและเขาก็ทำมันสำเร็จจนเหลือปราการชิ้นสุดท้ายคือกางเกงในตัวน้อยที่กำลังจะถูกกำจัดไปให้พ้นทาง
“คุณ..หนูยอมแล้ว..”
“หึ”
“พาไปทำบนโซฟาได้มั้ยคะ” ชายตัวสูงหยัดตัวขึ้นผละออกจากร่างของหญิงสาวแต่ไม่ทันระวังเขาก็โดนของแข็งฟาดเข้าที่กกหูอย่างแรง
ปึก!!!
“เธอ!”
เพล้ง!!!
“อ๊ะ!โอ๊ยย!” เขาโดนตีถึงสองครั้งติดแต่ที่ทำให้เจ็บจนไม่สามารถล่าตัวเธอไว้ได้ทันก็คือก็คือดวงตาของเขาในตอนนี้มืดสนิทจนมองไม่เห็นแสงไฟที่ผลัดเปลี่ยนสีไปมา
.....
สามปีต่อมา
“ทราย คุณมาวินให้เลขาติดต่อมาอีกแล้ว” ฉัตรทอง ผู้จัดการสาวสองบอกดาราในสังกัดของตัวเองเสียงเบา เพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้ธาริการำคาญใจ
“ก็ตอบเขาไปเหมือนเดิมค่ะ”
“...”
“มีอะไรเหรอคะ” หญิงสาวเจ้าของใบหน้าคมเฉี่ยวหันมองผู้จัดการที่ยืนละล่ำละลักอยู่ ได้โอกาสฉัตรทองจึงบอกสิ่งที่ทางนั้นต้องการกับเจ้าตัว
“คราวนี้ถ้าทรายปฏิเสธอีก เขาจะไม่ขอซื้อแล้วนะ”
“ก็ดีแล้วนี่คะ”
“แต่เขาบอกว่า.. เจอที่ไหนเขาจะไม่ปล่อยทรายอีกแล้ว”
“ชาติหมา” สิ้นคำบอกเล่าของฉัตรทอง หญิงสาวหน้าเหวี่ยงก็สบถออกมาอย่างไม่กลัวว่าจะมีใครมาได้ยิน แม้แต่ผู้จัดการของเธอเองก็ยังตกใจที่เธอพูดคำหยาบได้ถึงเพียงนี้
“ทรายแก้ว การมีปัญหากับเขาไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะ เธออาจหมดอนาคตได้เลย”
“ทรายควรตกลงขายตัวให้เขาใช่มั้ยคะ” ธาริกามองผู้จัดการของเธอผ่านกระจก ถึงจะพูดมาแบบนั้นแต่เธอก็รู้ว่าฉัตรทองหวังดี แต่เธอก็รักศักดิ์ศรีของเธอ ถ้าจะต้องเสียก็ต้องไม่ใช่เพราะผู้ชายที่ชื่อมาวิน ทายาทเจ้าของสังกัดที่เธอติดสัญญาอยู่ตอนนี้
“ก็เขาเปรียบเสมือนกัปตันเรือของเราหนิ มีปัญหากับคนขับเรือในทะเลมีแต่เขาจะกลั่นแกล้งนะ”
“ทะเลที่อื่นก็มี ไม่ใช่แค่ที่นี่”
“สัญญาเหลืออีกตั้งหนึ่งปี จะฉีกหรือไง”
“ไม่มีทางเลือกนี่คะ” หญิงสาวตอบกลับราวกับเรื่องที่พูดอยู่นั้นใช่เรื่องใหญ่
“คุณแขฟ้องอ่วม เอาเงินที่จะถูกฟ้องไว้สร้างบ้านที่เธอฝันไม่ดีกว่าเหรอ”
“ให้ทนไปก่อนใช่มั้ยคะ”
“มันคงไม่ถึงกับต้องกัดฟันหรอกมั้ง” ธาริกาถอนหายใจตัดบทสนธนา เธอคือนางร้ายที่กำลังมีชื่อเสียงในช่วงเวลานี้ งานแสดงเป็นงานที่เธออยากกอดมันไว้แน่น ๆ เพราะมันทำเงินให้เธอได้ราวกับสายน้ำ สำหรับเด็กที่ต้องปากกัดตีนถีบอย่างเธอจึงรักงานที่ทำเงินง่ายไปโดยปริยาย ส่วนฉัตรทองคือผู้จัดการที่ในอดีตโดนเด็กในสังกัดฉีกสัญญา และเพิ่งฟื้นคืนวงการได้หมาด ๆ เพราะดันปั้นอดีตเด็กนั่งดริ้งเป็นนางร้ายชื่อดังได้ แน่นอนว่าอดีตของธาริกาก็เป็นเรื่องกวนใจอยู่ไม่น้อย
“เครื่องประดับที่คุณทรายแก้วต้องใส่นะคะ” ทันทีที่เห็นเครื่องประดับวางลงตรงหน้า ทั้งดาราสาวและผู้จัดการก็สบตากันชั่วแวบหนึ่ง
“ของทรายแก้วต้องเป็นไพลินนี่คะ ไม่ใช่บุษราคัม”
“พอดีผู้ใหญ่ยัดคุณซินดี้เข้ามาก่อนหน้านี้แค่หนึ่งชั่วโมงเองค่ะ เธอขอเครื่องประดับที่เป็นชุดไพลิน”
“ได้ยังไง ตำแหน่งเซ็นเตอร์คือทรายแก้ว และต้องใส่ชุดไพลินโชว์ไม่ใช่เหรอ!” ธาริกาส่งซิกให้ผู้จัดการที่เริ่มหลุดเสียงหนุ่มใส่ทีมงาน
“ตำแหน่งเซ็นเตอร์ก็ถูกเปลี่ยนเป็นคุณซินดี้ค่ะ”
“อะไรนะ!”
“พี่ฉัตร พอเถอะค่ะ” ธาริกาดึงแขนผู้จัดการที่ขยันสติหลุด ทีมงานคนนั้นไม่สนใจว่าทั้งสองจะโอเคหรือไม่เพราะอย่างไรเธอก็ไม่ได้มีหน้าที่สับเปลี่ยนใครหากไม่มีคำสั่งจากเจ้าของงานมาอีกที
“หลายทีแล้วนะอีซินดี้”
“พอเถอะพี่ฉัตร มันอยากเดินก็ให้มันเดิน เราได้เงินแล้วหนิ”
“แต่ถ้าได้ใส่ชุดไพลินนั่นนะ ช่างภาพเขาต้องสาดแฟลชมาที่เธอแน่นอน” ฉัตรทองยังคงด้อยค่าเครื่องประดับที่ธาริกาจะได้ใส่มันอย่างไม่ลดละ
“เพื่ออะไร ค่าตัวก็เท่าเดิม ดีซะอีกทรายจะได้ไม่แสบตา”
“สองงานแล้วนะที่มันทำแบบนี้”
“ก็เขาเป็นลูกรักผู้ใหญ่นี่คะ” คำพูดของดาราสาวทำเอาฉัตรทองน้อยใจ ที่ไม่มีคอนเนคชั่นอะไรเพื่อปกป้องเด็กของตัวเองได้เลย
“บางทีนะ เราอาจต้องพึ่งบารมีของคุณนาวิน”
“ไม่!”
“ทรายแก้ว ที่ซินดี้มันกร่างก็เพราะมันเป็นเด็กของคุณชาร์ล มันถือว่าไม่มีใครกล้าแตะต้องมันน่ะสิ”
“งั้นพี่ฉัตรก็ติดต่อคุณชาร์ลอะไรนั่นให้ทรายสิคะ จะไปพึ่งนาวินทำไม”
“เออ เนอะ แกนี่ฉลาด”
.....
ธาริกาในชุดเดรสเกาะอกยาวสีดำสนิทตัดกับผิวพรรณที่ขาวเปล่งปลั่งเดินนวยนาดส่งรอยยิ้มหยาดเยิ้มให้ช่างภาพได้เก็บภาพที่ดูดีทุกอิริยาบทของเธอ ชุดเครื่องประดับสีบุษราคัมไม่ใช่ชุดหลักที่งานตั้งใจโปรโมต แต่เมื่อมันอยู่บนลำคอระหงของธาริกาย่อมได้รับความสนใจท่วมท้น
“ชุดต่อไปนี้เป็นคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์วาราลักซ์ชัวรี่นะคะ ซึ่งนางแบบของเราในวันนี้ก็คือ..”
“คุณซินดี้ นางเอกชื่อดังที่สุดในตอนนี้นั่นเองค่ะ” แสงแฟลชย้ายจากธาริกามาหาซินดี้อย่างที่ควรจะเป็น แต่มีสายตาจากดวงตาสีเทาคู่หนึ่งที่ยังไม่ได้ละไปจากเธอ
“ทรายแก้ว ธาริกาครับ”
“อืม”
พรึ่บ
“ว๊าย!” เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น เมื่อธาริกาถูกนางเอกสาวเดินโชว์ชุดไพลินที่ไม่เคยมาซ้อมเดินบนเวทีเหยียบที่ชายชุดเดรสความยาวลากพื้นที่เธอสวม ส่งผลให้เมื่อเธอก้าวเดินเกาะอกบนตัวก็เลื่อนหลุดลงต่ำ ธาริกาต้องล้มตัวนั่งลงสองแขนบังช่วงตัวเพื่อไม่ให้เกิดความอนาจาร
“ซินดี้ไม่ได้ตั้งใจนะคะ” ธาริกามองคนที่ทำเธอตาขวางพร้อมกับมือที่ยกขึ้นปิดสองอก รอเวลาทีมงานหรือผู้จัดการของเธอมาช่วยเหลือ
“อย่าถ่ายนะคะ ห้ามถ่ายนะ”
พรึ่บ
ก่อนที่ฉัตรทองจะมาถึงตัวธาริกาก็มีเสื้อสูทตัวใหญ่มาปกคลุมเธอจากทางด้านหลัง หญิงสาวเงยหน้ามองคนที่ช่วยเหลือเธอแต่เขาดันไม่ใช่สักคนที่เธอคิด
“ขอบคุณนะคะ”
“คุณชาร์ล...” เรียวคิ้วของธาริกาขมวดมุ่นที่ซินดี้เรียกชื่อเขาขึ้นมา
“ทรายแก้ว ตายแล้ว! ลุกขึ้นเดินไหวลูก”
“พี่ฉัตรมาพยุงทรายหน่อยค่ะ ข้อเท้าน่าจะเจ็บ” ไม่ทันที่ฉัตรทองจะได้ทำหน้าที่นั้น ชายหนุ่มเจ้าของเสื้อก็อุ้มเธอออกไปจากหน้างาน
“นั่นคุณชาร์ลหนิ”
“ใช่ คุณชาร์ลจริง ๆ ด้วย” เสียงพูดคุยไล่หลังหลังจากเกิดเหตุการณ์ชุลมุน ซินดี้ยังคงแสดงสีหน้ารู้สึกผิดต่อหน้าสื่อที่ทำธาริกาอับอาย
“ความผิดซินดี้เองค่ะ มันผิดคิว.. ซินดี้ขอโทษทรายแก้วผ่านพวกพี่ ๆ เลยแล้วกันนะคะ”
“อย่าร้องไห้ไปเลยครับ ทรายแก้วเขาแยกแยะได้อยู่แล้วเรื่องแบบนี้มันผิดพลาดกันได้”
แม้ภายนอกจะเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแต่ในใจเธอนั้นยิ้มกว้างอย่างสะใจ ส่วนเรื่องผู้ชายเดี๋ยวค่อยเคลียร์
"ถ้าไม่ใช่เพราะหวงก็เลิกยุ่งกันไปได้มั้ย ฉันจะได้เริ่มต้นใหม่" "อยากเริ่มต้นใหม่ เพื่อจะลืมฉันน่ะเหรอ" อชิรญากวาดสายตามองไปทางอื่นเมื่อที่เขาพูดมันก็คือเรื่องจริง ขอแค่เขาหยุด เธอก็จะลืม "ฉันไม่ชอบเวลามีใครมาพูดว่าได้ผู้หญิงที่ฉันเอามาแล้ว มันดูซ้ำรอย" "กับพี่พระแพงตามระรานเขาแบบนี้ด้วยหรือเปล่า" "พระแพงพูดอะไร"
เมื่อผู้หญิงที่เขาเคยซื้อมันได้ด้วยเงินถอยหนี และดื้อด้าน เขาก็กลายเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เธอไม่เคยรู้จัก
ซื้อเป็นของขวัญ ติดตาม แชร์ "คุณพาย" พิยดาหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้า แม้ภายนอกจะดูเป็นอย่างไรแต่ใจเธอนั้นหล่นวูบไปเสียแล้ว "คุณท้องกี่เดือนแล้ว" "นึกว่าใคร คุณเหมนี่เอง สวัสดีค่ะ สบายดีนะคะ" "คุณช่วยตอบคำถามผมที คุณท้องกี่เดือนแล้ว" พิยดาก้าวถอยหลังในขณะที่เหมันต์เดินหน้าเข้าหาเธอ เขาเหมือนเดิมจนทำให้เธอเผลอนึกถึงเรื่องเก่าๆที่เคยทำด้วยกัน ก่อนที่บาดแผลนั้นจะร้องเตือนตัวเองว่าถ้าเธอยังฝังกลบความรู้สึกนั้นไม่ได้เธอนั่นแหละจะตาย
“ที่ทำ... มันเกินไป” “น้อยไป ฉันยังอยากสั่งสอนเธออีกสักรอบ” “ที่ฉันด่าว่าเหี้ยมันไม่คู่ควรกับนายตรงไหน คนดี ๆ ที่ไหนเอาผู้หญิงมาเล่นสนุกแบบนั้นวะ”
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน