เมื่อผู้หญิงที่เขาเคยซื้อมันได้ด้วยเงินถอยหนี และดื้อด้าน เขาก็กลายเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เธอไม่เคยรู้จัก
เมื่อผู้หญิงที่เขาเคยซื้อมันได้ด้วยเงินถอยหนี และดื้อด้าน เขาก็กลายเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เธอไม่เคยรู้จัก
ตอนที่1 เรื่องวุ่นๆ ของพรลภัส
สายตาคมเข้มของชนะวิทร์หนุ่มนักธุรกิจวัยสามสิบปีมองไปที่เรือนร่างของสาวพริตตี้คนหนึ่งอย่างละสายตาไปไหนไม่ได้จนเพื่อนที่มาด้วยกันสังเกตเห็น
“เอามั้ย กูดีลให้”
“เด็ก”
“มึงไม่เอาก็มีคนเอาไปอยู่ดี” ชายหนุ่มเหลือบมองเพื่อนด้วยสายตาดูแคลน คนที่พูดเรื่องนี้กับเขามันเป็นถึงหมอศัลยแพทย์ชื่อดังที่มีคนเคารพมากมาย ‘เบื้องหน้ามันเป็นหมอเทวดาแต่เบื้องหลังมันถูกเรียกว่าหมอปีศาจ’
“น้องภัสเสิร์ฟเครื่องดื่มโต๊ะนั้นด้วยนะคะ”
“ได้ค่ะ” หญิงสาวที่เขาแอบสำรวจรูปร่างของเธอ และคำนวณสัดส่วนไว้ในสมองส่วนความกระหายเข็นรถเครื่องดื่มมาตามที่ผู้จัดการสั่ง ราวกับเธอรู้ว่าเขาสนใจอยู่จึงได้แทรกเอาเครื่องดื่มมาวางตรงระหว่างเขากับหมอนพดล กลิ่นหอมหวานของน้ำหอมจากตัวเธอยิ่งกระตุ้นอารมณ์บางอย่างขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ กระทั่งเธอเข็นรถเครื่องดื่มไปที่โต๊ะอื่นต่อเขาก็ยังไม่คิดทำอะไรสักอย่าง
“สรุปไม่เอา?”
“ถ้าเจออีกครั้ง ค่อยว่ากัน”
หนึ่งปีต่อมา
“แล้วอย่างผมเนี่ย น้องภัสว่าเหมาะกับน้ำหอมกลิ่นไหนครับ” หนุ่มนักธุรกิจหน้าใหม่มาดเจ้าชู้ถามเธอตาหวานเชื่อมทั้งที่เพิ่งเจอกันไม่กี่นาที หญิงสาวยังยิ้มให้ตามหน้าที่เธอแม้ไม่ชอบเอาเสียเลย
“คุณผู้ชายน่าจะเหมาะกับกลิ่นสปอร์ตแมนค่ะ น้องภัสขออนุญาตนะคะ” เธอฉีดน้ำหอมตัวทดลองใส่ข้อมือของเขาเหมือนที่ทำให้กับลูกค้าทุกคนที่อยากลอง ใจก็รู้ดีว่าชายหนุ่มไม่ได้สนใจน้ำหอมมากขนาดนั้น
“อื้ม กลิ่นนี้เหมาะกับผมจริง ๆ ด้วย”
“รับกี่ขวดดีคะ”
“ปกติผมใช้พวกเคาต์เตอร์แบรนด์นะ แต่วันนี้ผมจะช่วยน้องภัสทำยอดก็แล้วกัน เอาห้าขวดนะ”
“ได้เลยค่ะรอสักครู่นะคะ” เธอรีบส่งหันไปบอกให้ทีมงานเบื้องหลังรีบจัดแพคน้ำหอมใส่ถุงกระดาษเล็ก ๆ 5 ถุง ก่อนจะนำมันไปยื่นให้ชายหนุ่มที่ชำระเงินกับแคชเชียร์เรียบร้อยแล้ว แต่เขากลับคว้าเข้าที่มือนุ่ม
“นี่นามบัตรผม อยากมีเงินใช้ติดต่อมาแล้วกัน”
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้มหวานกลับพร้อมดึงนามบัตรนั้นมาไว้ในมือตัวเองตามมารยาท...เธอไม่เก็บมันไว้ด้วยซ้ำ
“ท่าทางขี้หลีเกิ้น”
“นารา! หายไปเข้าห้องน้ำหรืออู้เนี่ยเมื่อกี้ลูกค้าเยอะมากเลย”
“ไปเข้าห้องน้ำจริง ๆ เราท้องผูก” นารายิ้มตาหยีให้อย่างมีพิรุธ จริง ๆ แล้วเมื่อยขาที่ยืนบนส้นสูงเป็นเวลานาน
“มะรืนมีงานเบียร์ รับมั้ย”
“ที่คุยกันวันนั้นน่ะเหรอ”
“นั่นแหละ”
“เดี๋ยวดูก่อนนะ มันไกล”
“ไปเถอะ ตั้งห้าพันนะงานนี้ทิปดีด้วยนอนรีสอร์ทแถวนั้นแล้วค่อยกลับก็ได้”
“อื้ม ไปก็ได้”
พรลภัส เลิศปัญญา ปัจจุบันนักศึกษาสาวปี3 ส่งตัวเองเรียนตั้งแต่มัธยมปลายเพราะพ่อแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถกลางสายฝนเสียชีวิตทั้งคู่ ไม่ใช่แค่เธอที่ปากกัดตีนถีบเพราะยังมีณัฐดนัยน้องชายที่คลานตามกันมาชะตาก็ไม่ต่างกับเธอ
ตืด..
น้องรัก
“กลับดึกมั้ย”
“กำลังกลับ อีกหนึ่งชั่วโมงน่าจะถึงเอาอะไรหรือเปล่า”
“ไม่เอาอะไรหรอก แค่โทรถาม” พรลภัสวางสายน้องชายที่โทรถามเป็นกิจวัตรก่อนจะเปลี่ยนใส่เสื้อยืดกางเกงวอร์มขายาวโบกมือลาเพื่อนร่วมงานก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน...บ้านที่ผ่อนอยู่ไม่รู้จะรอดหรือเปล่า
เมื่อมาถึงบ้านน้องชายที่นั่งรอก็เปิดประตูให้ ทั้งที่ควรจะนอนได้แล้ว
“กลับดึก?”
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“ก็รอพี่ภัส”
“ก็บอกว่าอีกหนึ่งชั่วโมง ทีหลังไม่ต้องรอนอนเลยนะ”
“อืม” คนน้องตอบพลางก้มหน้าลงเล่นเกมในมือถือต่อ ณัฐดนัยทำงานเสิร์ฟอาหารช่วงเลิกเรียนกว่าจะเลิกงานก็สี่ทุ่ม แถมคืนนี้ยังอยู่รอเธอจนเที่ยงคืนอีก
“เล่นรอบนี้จบแล้วก็ไปนอนนะ ดึกแล้ว”
“โอเค” เรียวคิ้วสวยขมวดเมื่อเห็นน้องนั่งตัวงอนิด ๆ ดูไม่ปกติ
“เป็นอะไร ปวดท้องเหรอ”
“อือ กินยาแก้ปวดแล้ว”
“ถ้าไม่หายก็บอกนะ จะได้ไปหาหมอ”
“ปวดนิดเดียว ขึ้นไปนอนเถอะเดี๋ยวณัฐจะปิดไฟเอง”
…..
พรลภัสทำงานหนักเพราะรู้ว่าเธอกับน้องชายไม่ได้มีเบาะนุ่ม ๆ รองรับเหมือนลูกคนรวยที่มีกันพร้อมหน้าพร้อมตา มันเหนื่อยที่ต้องนอนดึกแล้วตื่นมาเรียนให้ไหว หลายครั้งที่ต้องนั่งหลับบนแท็กซี่ทั้งที่รู้ว่ามันอันตราย
“หนู ถึงมหาลัยแล้วนะ” พรลภัสเหยียดหลังตรงฉับทั้งที่ยังงัวเงียไม่หาย
“ขอโทษที่ต้องให้ปลุกนะคะ”
“อย่าไปนอนแบบนี้กับคันอื่นนะลูก มันอันตราย”
“จะพยายามค่ะลุง”
เธอเดินไปยังหน้าห้องสมุดที่ประจำ ก็เจอนารานั่งรออยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับยื่นชุดที่ต้องใส่ทำงานคืนนี้ให้เธอ
“โห”
“ปกติ งานแบบนี้” ยังไม่ทันที่เธอจะบ่นนาราก็ชิงแก้ต่าง ก่อนเธอจะนั่งลงคุยอะไรกันเรื่อยเปื่อยรอถึงเวลาเรียน
“ปีหน้าณัฐก็เข้ามหาลัยแล้วหนิ”
“อืม สอบเข้าที่นี่แหละ”
“บ้านก็ส่ง น้องก็เรียนต่ออีก”
“แค่คิดก็เหนื่อยเลยอะนารา” พรลภัสแกล้งบ่นทั้งที่เธอนั้นเหนื่อยแบบนี้จนชินเสียแล้ว โชคดีของเธอที่เป็นผู้หญิงพอใช้หน้าตาหากินได้ และงานที่ทำมันก็ได้เงินมากกว่าน้องชายเยอะ ....
เรียนเสร็จเธอกับนาราก็ขึ้นแท็กซี่จะไปลงที่หน้างานไม่ได้แวะกลับบ้านเพราะที่จัดงานอยู่ค่อนข้างไกลต้องเผื่อเวลา
ตืด..ตืด..
“ฮัลโหล”
“พี่สาวของณัฐดนัยใช่มั้ยคะ”
“ชะ..ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ” แม้ไม่รู้ว่าปลายทางโทรมาด้วยเรื่องอะไรแต่พรลภัสก็ชิงเสียงสั่นไปก่อนแล้ว
“ฉันเป็นครูประจำชั้นของณัฐดนัยนะคะ แกปวดท้องรุนแรงเลยพามาส่งโรงพยาบาลค่ะ”
“ที่ไหนคะ”
.....
หญิงสาวในชุดนักศึกษาวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาลเอกชน หลังให้แท็กซี่จอดส่งเธอก่อน และไปส่งนาราต่อ มือนิ่มทั้งสองข้างเย็นเฉียบกลัวณัฐดนัยเป็นอะไรไป... ‘เธอไม่เหลือใครแล้วนะ’
“หนูเป็นญาติของนายณัฐดนัยค่ะ”
“เชิญที่ห้องคุณหมอนพดลห้องแรกเลยนะคะ คุณหมอรอคุณอยู่” พรลภัสรีบไปห้องที่ว่าอย่างไม่ลังเล และลืมเคาะประตูตามมารยาทด้วยความร้อนใจ
“ญาติณัฐดนัยใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะ น้องหนูเป็นยังไงบ้างคะ”
“เป็นพี่สาวเขาสินะ” พรลภัสพยักหน้าซื่อ แต่ในใจนึกบ่นความลีลาของหมอไปแล้ว
“คนไข้ไส้ติ่งอักเสบนะ ต้องรีบผ่าตัด”
“แล้วยังไม่ได้ผ่าเหรอคะ!”
“รอญาติเซ็นต์ยินยอม ตามกฏของโรงพยาบาลครับ”
"ถ้าไม่ใช่เพราะหวงก็เลิกยุ่งกันไปได้มั้ย ฉันจะได้เริ่มต้นใหม่" "อยากเริ่มต้นใหม่ เพื่อจะลืมฉันน่ะเหรอ" อชิรญากวาดสายตามองไปทางอื่นเมื่อที่เขาพูดมันก็คือเรื่องจริง ขอแค่เขาหยุด เธอก็จะลืม "ฉันไม่ชอบเวลามีใครมาพูดว่าได้ผู้หญิงที่ฉันเอามาแล้ว มันดูซ้ำรอย" "กับพี่พระแพงตามระรานเขาแบบนี้ด้วยหรือเปล่า" "พระแพงพูดอะไร"
ซื้อเป็นของขวัญ ติดตาม แชร์ "คุณพาย" พิยดาหยุดฝีเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้า แม้ภายนอกจะดูเป็นอย่างไรแต่ใจเธอนั้นหล่นวูบไปเสียแล้ว "คุณท้องกี่เดือนแล้ว" "นึกว่าใคร คุณเหมนี่เอง สวัสดีค่ะ สบายดีนะคะ" "คุณช่วยตอบคำถามผมที คุณท้องกี่เดือนแล้ว" พิยดาก้าวถอยหลังในขณะที่เหมันต์เดินหน้าเข้าหาเธอ เขาเหมือนเดิมจนทำให้เธอเผลอนึกถึงเรื่องเก่าๆที่เคยทำด้วยกัน ก่อนที่บาดแผลนั้นจะร้องเตือนตัวเองว่าถ้าเธอยังฝังกลบความรู้สึกนั้นไม่ได้เธอนั่นแหละจะตาย
“อื้ออ อย่า...” หญิงสาวร้องปรามเมื่อหน้าอกของเธอถูกดูดดึงอย่างหื่นกระหาย ความกลัวเกาะกินหัวใจทั้งดวงพยายามมองหาใครสักคนที่จะช่วยเธอได้ในคืนนี้ ‘แต่น่าจะไม่มี’
“ที่ทำ... มันเกินไป” “น้อยไป ฉันยังอยากสั่งสอนเธออีกสักรอบ” “ที่ฉันด่าว่าเหี้ยมันไม่คู่ควรกับนายตรงไหน คนดี ๆ ที่ไหนเอาผู้หญิงมาเล่นสนุกแบบนั้นวะ”
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
เมื่อภัทราได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในร่างของเจียงอันเล่อ ตัวละครในนิยายเรื่อง "ชะตารักพันธนาการ" ภารกิจปกป้องหานอี้หลง พระรองของเรื่องแต่เป็นชายในดวงใจของเธอก็เริ่มต้นขึ้น
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด