บางส่วนในนิยาย ... “พอนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็น” เธอวิงวอนเขาเสียงเบาแผ่วแทบเป็นเพียงเสียงกระซิบ เขายิ้มกว้าง จุมพิตลงหน้าผากมนอีกหนึ่งครั้งอย่างเอ็นดูรักใคร่ “โอเคค่ะ” เขาแกล้งชนหน้าผากเขาแนบหน้าผากเธออย่างขี้เล่น “ไว้ไปต่อที่บ้านใช่มั้ย?” เขาพูดเย้า “ไม่นะคนบ้า!” มือน้อยผลักอกเขาเต็มแรง แต่เขาก็แค่เซ มือเหนียวยังคงเกี่ยวเอวเธอแน่น เขามองสบตาเธอหวานซึ้ง “เราจะโดนแบบนี้... ถ้าทำพี่หึงอีก รู้มั้ย?” เขาพูดเสียงดุ หน้าเรียบนิ่งดูเย็นชากึ่งเผด็จการ ซึ่งนานครั้งหญิงสาวจะพบเห็นลุคส์นี้ของเขา “ขี้โกง มีสิทธ์อะไรเนี่ย” มีสิทธิ์อะไรนั้นนนน ต่อในเล่มนะคะ ++++++++ โปรยปรายปกหลัง: หลังจากอกเดาะแบบไม่ทันตั้งตัว ธันยาพัฒน์ ไม่คาดคิดว่า... สวรรค์จะส่งเดสธินี่คนใหม่มาให้แบบฉับไวอะไรปานนี้ เพียงความจำเป็นบางอย่าง ทายาทมหาเศรษฐีหนุ่ม ต้องเอาตัวเองไปล่าเงินรางวัลออกทีวีผ่านเกมโชว์รายการหนึ่ง แต่กลับจับพลัดจับผลูได้คู่ติดไม้ติดมือมาด้วยซะงั้น แรกๆ ดูเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่แม่เจ้า... เธอกลับมีพลังดึงดูดบางอย่างที่ปลุกเร้าเขาทุกครั้งแม้เพียงปรายตามอง นาทีแห่งความพลุ่งพล่านนั้น ชายหนุ่มบอกตัวเองว่า... เขาจะไม่ยอมปล่อย ‘เจ้าสาวแจ็ตพ็อต’ คนนี้ให้หลุดมือไป เมื่อถูกเพื่อนสนิทช่วงชิงคนรัก ปภาณพิชญ์คิดเพียงแค่ว่า อยากได้ผู้ชายสักคนมาควงเย้ยแฟนเก่าที่ไม่รักดีคนนั้น และธันยาพัฒน์ ก็คือผู้ชายแจ็คพ็อตที่เข้ามาในชีวิตขณะนั้นพอดี แรกพบเธอเห็นเขาเป็นเพียงเครื่องมือ แต่หญิงสาวไม่ทันรู้ตัวเลยว่า การใช้ประโยชน์จากเขา กลับกลายเป็นสิ่งทำให้เธอได้เรียนรู้ว่า ความรัก... แท้จริงเป็นเช่นไร เพราะเขาไม่ยอมเป็นแค่แฟนกำมะลอที่ล่อให้รักแล้วตีจาก... หากเขาต้องการสานต่อความสัมพันธ์และล่าใจเธอมาเป็นของเขาเพียงคนเดียว.... ++++++++++++++++++++++++++++++ ขอบพระคุณทุกยอดโหลดค่ะ ^^
บริเวณทางเข้าโรงถ่ายทำรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ผู้คนหนาตาต่างยืนออกันเพื่อรอเข้าฉาก แสงแดดร้อนแรงในยามบ่ายทำให้ผนังด้านนอกทาสีสันฉูดฉาด ดูสดใสมากเป็นพิเศษ คนที่มาร่วมรายการบางคนเข้าไปรออยู่ด้านใน บางคนก็เลือกฆ่าเวลาด้วยการสูบบุหรี่อยู่ด้านนอก บริเวณใกล้ๆ กันนั้นมีร้านขายขนม รถเข็นขายน้ำหวานกาแฟ และรถเข็นขายผลไม้มาจอดเรียงกันประจำที่รอลูกค้ามาอุดหนุน
สายลมยามบ่ายพัดแผ่ว ทำให้มีกลิ่นบุหรี่จางๆ เจืออยู่ในอากาศ
หล่อนนั่งตรงม้านั่งหินอ่อนสไตล์ยูนีคหน้าโรงถ่าย ห่างออกมาจากตัวอาคาร หญิงสาวสวมเสื้อแขนกุดสีฟ้าพยับหมอก เข้ากันดีกับกระโปรงทรงเอคลุมเข่าสีชมพูกะปิ คาดเข็มขัดเส้นเล็กน่ารัก ด้านหน้าทำด้วยเหล็กชนิดอ่อนเป็นรูปโบว์สีเงินดูน่ารัก ผมสีดำขลับยาวสลวยถูกรวบครึ่งศีรษะแล้วกลัดด้วยโบว์เล็กๆ สีฟ้า เข้ากันกับสีเสื้อ ทำให้เธอดูสวยหวานชวนมอง หากเจ้าหล่อนกลับนั่งซึมเศร้าอยู่เพียงลำพัง ปภาณพิชญ์ก้มลงมองหน้าจอสมาร์ตโฟนที่ตอนนี้เปิดลิสต์รายชื่อมาถึงชื่อคนๆ หนึ่ง ที่มีความสำคัญกับเธอมาตลอดเวลาทั้งหมดสองปีที่ผ่านมา...
แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่ใช่ผู้หญิงคนสำคัญในลำดับที่หนึ่งสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว...
แต่สำหรับปภาณพิชญ์นั้น ‘เขา’ เคยเป็นผู้ชายที่สำคัญกับเธออย่างไรทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้น
ไม่มากไป... ไม่น้อยไป...
ไม่มีใครมาแทนที่...
‘ความรัก... เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มันยังคงอยู่ และยังจะรักอย่างนั้นตลอดไป...’
ประโยคนั้น ‘เขา’ เคยพูดไว้เสมือนเป็นผู้ให้คำมั่น แต่ในวันนี้คำพูดเหล่านั้นของเขามันได้ทำลายความศรัทธาของตัวเขาเองหมดสิ้น เขาเคยพูดอะไรไว้... วันนี้เขาคงลืมมันไปแล้ว
หญิงสาวนั่งมองหน้าจอมือถือด้วยใจจดจ่อ การรอคอยที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงที่ตรงไหน...
‘วันนี้ถ้าเขามา จะถือว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ของความรักอีกครั้ง’
หล่อนจะต้องช่วงชิงเขากลับมาให้ได้... ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ปภาณพิชญจะงัดทุกไม้เด็ด เฟ้นทุกไม้ตาย เพื่อช่วงชิงคนรักกลับมาให้จงได้ นั่นคือปณิธานของหญิงสาว
ปภาณพิชญ์ โชติธนัทหรือโยเกิร์ต ครีเอทีฟสาวบริษัทโฆษณาแนวหน้าวัย 24 ปี เธอเพิ่งบอกลาจากบริษัทแรกที่เธอเริ่มงานหลังจากเรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังหมาดๆ ที่หญิงสาวต้องตัดสินใจโบกมือลาอาชีพที่เธอรักนั่นก็มีสาเหตุมาจากความไม่กินเส้นกับโฉมสุดาเออีสาวจอมเหวี่ยงถึงขั้นถูกภาคทัณฑ์จากหัวหน้าสายงาน มันเป็นเรื่องปกติอยู่ว่าในบริษัทโฆษณานั้น ฝ่ายการตลาดโดยเฉพาะเออีมักจะมีความเห็นไม่ตรงกันกับฝ่ายครีเอทีฟ ใช่ว่าบริษัทต้นสังกัดของปภาณพิชญ์จะเป็นเพียงบริษัทเดียว มันเป็นกันทั้งวงการ กลายเป็นเรื่องธรรมชาติไปแล้ว ไอ้ความไม่ลงรอยกันของฝ่ายการตลาดกับฝ่ายครีเอทีฟในบริษัทโฆษณาหลายๆ แห่ง
สาเหตุเพราะฝ่ายหนึ่งมีหน้าที่ดูแลลูกค้า ก็ต้องพยายามทำตามใจลูกค้าเพื่อเป็นการเอาใจและรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ไม่ให้เปลี่ยนใจไปใช้บริการบริษัทโฆษณารายอื่นหรือบริษัทคู่แข่ง นั่นถือเป็นเรื่องธรรมชาติของฝ่ายการตลาด แต่ในทางตรงข้ามฝ่ายครีเอทีฟนั้นจะสนใจแต่ผลงานสร้างสรรค์ของตนเองเป็นที่ตั้ง ชนิดที่เรียกว่าเป็นศูนย์กลางจักรวาลเลยก็ว่าได้
ความเห็นเรื่องงานที่ไม่ลงรอยกันระหว่างปภาณพิชญ์กับเพื่อนสาวคนเคยสนิทอย่างโฉมสุดาที่ทำในตำแหน่งเออีดูแลงบโฆษณาของลูกค้ารายใหญ่ ความแค้นเคืองในใจระหว่างกันนั้น จากเรื่องเล็กๆ มันก็สั่งสมมาจนถึงจุดระเบิด
คนที่ยอมเป็นฝ่ายจากลาก็คือปภาณพิชญ์ เพราะเธอไม่อยากต้องมีปัญหากับเพื่อนที่เคยรักกันมากอย่างโฉมสุดาอีกต่อไป การถอยกลับมาอาจไม่ใช่คนพ่ายแพ้เสมอไป แต่มันเป็นการถอยเพื่อตั้งหลักใหม่ ในเส้นทางที่ดีกว่าก็เป็นได้
กว่าจะก้าวผ่านมรสุมครั้งใหญ่มาได้ แต่วันนี้ปภาณพิชญ์ก็มีความสุขดี กับการทำงานครีเอทีฟให้ลูกค้า ในลักษณะโฮมออฟฟิศ เพราะงานของเธอถ้ามีฐานลูกค้าเก่าที่รู้จักผลงาน เคยใช้งานมาก่อน ถ้าชอบก็จะส่งงานมาให้ทำอยู่เรื่อยๆ โดยตอนนี้เธอทำงานฟรีแลนซ์ ไม่ต้องขึ้นตรงกับบริษัท แต่ยึดที่ความพึงพอใจในผลงาน นอกจากเรื่องงานเธอยังมีอีกเรื่องที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน นั่นคือเรื่องความรัก ปลายทางความฝันของ ‘ลูกผู้หญิง’ หลายๆ คนนั่นก็คือการเป็นเจ้าสาว
และสำหรับปภาณพิชญ์แล้ว ผู้ชายที่โชคดีคนนั้นคือปกรณ์ รัมย์ไพประกาศิตหรือพี่หมอกรณ์ นายแพทย์หนุ่มหล่อนามสกุลดัง
เธอและเขาเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาก่อนตั้งแต่วัยมัธยม หลังจากเรียนจบก็ห่างกันจนไม่คิดว่าจะได้กลับมาเจอกันอีก กระทั่งนายแพทย์หนุ่มมาเป็นแพทย์อาสาในโครงการประชาสัมพันธ์โครงการควบคุมโรคติดต่อจากยุงลายของโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ในขณะนั้นได้ทำแคมเปญร่วมมือกับโลชั่นทากันยุงยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งได้ว่าจ้างบริษัทโฆษณาที่ปภาณพิชญ์สังกัดอยู่ ให้ดูแลเรื่องภาพยนตร์โฆษณา คลอบคลุมถึงการจัดงานอีเว้นท์ และแถลงข่าวเปิดตัวโครงการดังกล่าวของโรงพยาบาลด้วย ซึ่งนั่นเองถือเป็นโอกาสดีที่ทำให้หญิงสาวโคจรกลับมาพบกับนายแพทย์หนุ่มรุ่นพี่อีกครั้ง นับแต่นั้นมาต่างก็สานสัมพันธ์ จากรุ่นพี่-รุ่นน้องกลายเป็นแฟนคลับ กระทั่งพัฒนาความสัมพันธ์ กลายเป็นคู่รักในเวลาต่อมา ถึงปัจจุบันนี้ก็ครบสองปีเต็มๆ ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น เหมือนว่าปภาณพิชญ์จะได้ตัดเค้กเจ้าสาวในวันแต่งงาน ถ้าไม่เพราะมีมือที่สามอย่างธนิชา เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดเข้ามาคั่นกลางระหว่างความรักของคนทั้งคู่!
‘ทำใจเหอะแก อกหักมันเรื่องธรรมชาติ’ ณฐาเพื่อนสนิทเอ่ยปลอบกลางวงปาร์ตี้ที่กลุ่มเพื่อนสนิทมารวมตัวกันทานข้าวและปาร์ตี้สังสรรค์กันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเอาไว้อย่างเหนียวแน่นหลังจากที่ต่างคนต่างทำงานหลังจากเรียนจบถ้าไม่นัดปาร์ตี้แบบนี้เดือนละครั้งสองครั้งก็จะไม่มีโอกาสได้อยู่รวมกันแบบนี้เลย
‘ฉันรู้... แต่มันไม่ชินน่ะแก’ ปภาณพิชญ์เอ่ยเสียงเศร้า
‘ตาบวมเป็นกบชุบแป้งทอดละ นอนร้องไห้มากี่วันแล้วล่ะ?’ เพื่อนสาวอีกคนปลอบโยนซึ่งมันเป็นความเป็นห่วงเป็นใยที่ไม่หวานนักแต่เพื่อนที่รักและหวังดีกับปภาณพิชญ์ก็มีไม่น้อยและณฐาก็คือหนึ่งในนั้น
‘สามวัน’ ปภาณพิชญ์ตอบด้วยดวงตาปริ่มจะร้องไห้
‘เยอะไปนะ... แกให้เวลาไปกับการร้องไห้เพราะผู้ชายแบบนั้นสามวันเชียวหรือ?’
‘อกหักมันเจ็บนะ’
‘เสียใจไปใย หาใหม่สิแก... คิดเสียว่าเขาให้โอกาสเรามีแฟนใหม่ แกเองก็ต้องให้โอกาสตัวเองด้วย’
ปภาณพิชญ์กระวนกระวายใจขณะนั่งรออดีตคนรัก ขณะเดียวกันนั้นก็นึกถึงประโยคปลอบใจจากเพื่อนๆ เมื่อรู้ว่าเธอ ‘อกเดาะ’ เพราะพี่หมอเปลี่ยนใจ ‘ถ้าพี่หมอไม่มาตามนัดนั่นก็เพราะเขาหมดรักเราแล้วจริงๆ ไม่เห็นจะมีเหตุผลอื่นเลย’ หญิงสาวบอกตัวเอง
หลังตกอยู่ในวังวนแห่งความคิดนานพอสมควร ปภาณพิชญ์ลุกขึ้นเดินสำรวจสิ่งรอบตัว ทั้งที่ภายในใจกระวนกระวายว่าแฟนหนุ่มจะมาตามนัดไหม บริเวณด้านนอกอาคารมีผู้คนเดินสวนทางกันไปมา ต่างก็ลนลานรีบเร่ง ราวว่ากำลังแข่งกับเวลาในทุกการกระทำ ที่นี่เป็นโรงถ่ายทำขนาดใหญ่ของบริษัทเอกชน พื้นที่ให้เช่าสำหรับผลิตรายการโทรทัศน์มายมากหลายรายการ สถานีโทรทัศน์หลายแห่งก็มาถ่ายทำรายการนอกสถานที่แห่งนี้ ธุรกิจโรงถ่ายให้บริการให้เช่าสถานที่ อุปกรณ์ถ่ายทำ อุปกรณ์ประกอบฉาก
หญิงสาวเห็นทีมงานรายการเกมโชว์ชื่อดัง ต่างก็กำลังวุ่นวายกับการเตรียมงานกันอยู่นับสิบชีวิต ในอาณาบริเวณกว้างขวางนี้ให้เช่าพื้นที่ใช้เป็นโกดังเก็บฉากของรายการโทรทัศน์แต่ละรายการที่เช่าเป็นประจำอีกด้วยก็เรียกว่าทุกอย่างพร้อมให้บริการ นอกจากโรงถ่ายทำแล้ว อีกด้านหนึ่งจะมีคิวถ่ายทำรายการเกมโชว์สำหรับคู่รักที่นับว่าเป็นรายการยอดฮิตในยุคนี้ โรงอื่นๆ ก็ถ่ายรายการอื่นๆ ด้วยเช่นกัน แต่ละรายการต่างคนต่างทำงานในอาคารที่แบ่งเป็นสัดส่วน ไม่ข้องเกี่ยวกัน
อาคารโล่งโปร่งออกแบบให้ภายในเป็นโรงถ่ายทำรายการเกมโชว์ชื่อดังสำหรับคู่รัก เพื่อล่าเงินรางวัลกว่าครึ่งล้าน บ้านพร้อมที่ดิน แล้วยังมีทริปฮันนี่มูนสุดพิเศษสำหรับคู่รักที่ทำแจ็คพ็อตแตก ตามกติกาของทางรายการ
ปภาณพิชญ์สมัครเล่นเกมโชว์ชื่อดัง โดยกรอกรายละเอียดผ่านเว็บต์ไซค์ของทางรายการ หากเธอเลือกที่จะใช้ชื่อของปกรณ์แฟนหนุ่มแทนชื่อตนเอง ในขณะนั้นความรักระหว่างปภาณพิชญ์และปกรณ์ก็ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ ความสัมพันธ์ระหองระแหง ปัจจุบันเขากลายเป็นอดีตคนรักไปแล้ว
หลังจากนั้นนานพอสมควรเมื่อทีมงานจากรายการโทรศัพท์มาแจ้งว่าเธอคือผู้โชคดีได้เข้ารอบการแข่งขัน มันจะเรียกว่าสายเกินไปหรือไม่ทราบเพราะผู้ชายที่เป็นอดีตคนรักของเธอตอนนี้ระหองระแหงยิ่งขึ้นและดูเหมือนว่าความรักจะไม่เหมือนเดิม
เธอจึงอาศัยโอกาสนี้เพื่อปรับความเข้าใจและคิดว่าพี่หมอปกรณ์จะให้โอกาส เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่สำหรับความรัก แต่ตอนนี้เกมโชว์ใกล้จะเริ่มในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า พี่หมอผู้ชายที่เธอรักยังไม่โผล่หัวมาให้เห็นหน้าเลย...
‘ถ้าพี่หมอไม่มา... เราต้องตายแน่ๆ’ ปภาณพิชญ์คิดอย่างเคร่งเครียด เท้าหยุดเดินเพื่อเลื่อนสไลด์หน้าจอมือถือหาลิสต์เบอร์โทรคนที่เธอรอคอย กดโทรออกเป็นครั้งที่สิบแล้วกระมัง ปกติพี่หมอเป็นคนที่ถ้ารับปากแล้วเขาก็มักจะทำตามคำพูดเสมอ แต่ครั้งนี้ทำไมปภาณพิชญ์ถึงรู้สึกหวั่นใจอย่างไรไม่ทราบได้
‘อาจจะเพราะรักเราจืดจาง... พี่เขาเลยเอาใจใส่เราน้อยลง’ เธอคิดแล้วก็ถอนหายใจ มารู้ตัวอีกทีว่าเดินใจลอยเข้ามาในฮอลล์ เมื่อสายตามองเห็นผู้คนเดินขวักไขว่ ทั้งทีมงาน นักแสดงที่มาร่วมแข่งขัน รวมทั้งคู่รักจากผู้ชมทางบ้าน และพนักงานตบมือให้เสียงประกอบการถ่ายทำรายการอีกหลายสิบชีวิต ทุกคนต่างกำลังทำหน้าที่ หากเธอเพียงคนเดียวทำการถ่ายทำรายการสะดุดเพราะความคิดแผลงๆ แล้วแฟนไม่มาตามนัด เธอคงรู้สึกแย่ถ้าทำทีมงานรายการต้องเดือดร้อนเพราะเธอ
เพื่อปกป้องชีวิต... คุณทวดของบุหงาจึงเขียนยันต์วิเศษไว้คุ้มครองหลานสาวผู้ที่จะสืบทอดวิชาเขียนยันต์ แต่ด้วยความซุ่มซ่าม เจ้าหล่อนจึงย้อนอดีตไปสมัยทวารวดี เพื่อหนีการตามล่า บุหงาจึงต้องสวมรอยเป็น ‘แม่นาย’ ทำให้ทุกคนในเรือนรัก เพื่อความอยู่รอด กลับไปยุคเดิมที่จากมาอย่างปลอดภัย นั่นก็คือ... ยุครัตนโกสินทร์ตอนปลาย เพื่อทำหน้าที่สืบทอดวิชาเขียนยันต์เก่าแก่โบราณของต้นตระกูล
คริญาไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อยในท่าทีหวงก้างของพศุตม์ เธอรู้ว่า... ในสถานการณ์ที่เธออยู่ในสระว่ายน้ำเย็นฉ่ำในเวลานี้ ผู้ปกครองหนุ่มจะต้องโจนจ้วงตามลงมา ดวงใจสาววัยแรกแย้มเต้นตูม ด้วยความรู้สึกหวั่นไหว แม้รู้ดีแก่ใจว่า ชายหนุ่มคือของต้องห้ามและจะแสลงใจจนเจ็บปวดในวันหนึ่ง เพราะพศุตม์เคยยื่นคำขาดว่า... เขาไม่ชอบเด็กน้อยกะโปโลอย่างเธอ และถ้าเกิดอะไรขึ้นเพราะเธอกล้าเล่นกับไฟยั่วยวนเขา เขาจะไม่มีวันรับผิดชอบ! . ‘คำสั่ง’ จากปากเขามันคือคำเตือนจากผู้ชายอันตราย . เขารวบตัวเด็กในปกครองเข้ามาสวมกอดแน่นราวจะสูญเสีย ความร้อนซ่านกำซาบไปทั้งเรือนกายสาว ส่วนเปลือยสวยสัมผัส แนบชิดแทบทุกส่วนสัดของกายแกร่ง แม้ร่างทั้งสองที่โอบล้อมไปด้วยความเย็นเยียบของสายน้ำ แต่การขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวพริ้วพรายตามกระแสน้ำก็ก่อให้เกิดไอความรุ่มร้อนระบายอยู่ในน้ำและพยุงสองร่างให้รู้สึกวาบหวิวแผ่ซ่านถึงกัน... เด็กสาวแรกรุ่นหัวใจเต้นโครมคราม วาบหวิวเมื่อผู้ปกครองหนุ่มประกบริมฝีปากร้อนแรงลงมา ดูดดื่มริมฝีปากสวยอิ่มตึง คริญาตอบสนองจูบเร่าร้อน สอดลิ้นยั่วเย้าให้เขากระดกลิ้นร้อนฉ่าตามมาพัวพัน ร่างเล็กบดเบียดส่วนอิ่มเต็มตึงที่สวยสล้างยั่วยวนสายตาเข้าใกล้แผงอกแกร่งกำยำที่ระบายไปด้วยปอยขนนุ่มกลางอกแกร่งของเขา สร้างความเซ็กซี่ชวนสะท้านยามจ้องมอง เขาบดจูบหนักหน่วงร้อนแรงจนคริญาคราง ไอร้อนสวาทกำลังก่อตัวใต้สายน้ำเย็นฉ่ำ “...” “ฉันต้องได้เธอ... คริญา”
“นะ.. นายเก่งอยู่แล้ว ทำไมต้องจ้างติวด้วยเหรอ?” “ผมก็... แค่อยากจะทำตามคำสั่งพ่อแค่นั้นล่ะ” เขาเอ่ยเสียงพร่า เป่ารดลมหายใจหอมบนใบหน้าสวย มันใกล้กันจนจะจูบกันอยู่แล้ว “แต่ว่า... พ่อนายคงไม่สั่งให้ติวแบบนี้หรอก” ติวเตอร์สาววางปลายนิ้วเรียวบนอกแกร่งของเขา ที่สวมเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมสองเม็ดเผยให้เห็นอกแกร่งและดูเร้าใจ เธอค่อยๆ ลูบเบาๆ เขามองตามปลายนิ้วเรียวสวยด้วยดวงตาเปล่งประกาย สองคนสบตากัน ไม่นานเธอก็ถอดเสื้อของเขาออก ขณะที่นักเรียนหนุ่มล้วงมือใต้ชายเสื้อทีเชิ้ตตัวโคล่งที่เธอสวมมันเอาไว้โดยปราศจากบราเซีย “อื้อ...” เขาบีบนวดหน้าอกสวยอย่างเบาๆ สะกิดนิ้วโป้งบนยอดทรวงเบาๆ ก่อนถลกเสื้อขึ้นเหนือศีรษะ ถอดออกจนเธออยู่ในสภาพโป๊ “หิวนมจังครับ... ขอดูดนมพี่หน่อยจะได้ไหม” คำเตือน นิยายเรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบรรยายถึงการแสดงออกของความรักรุนแรง การร่วมรักชัดเจนโชกโชน บางส่วนตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่น่าเอาเยี่ยงย่างหรือเลียนแบบ
"ชลิดา" เป็นเด็กสาวที่โชคร้าย ครอบครัวทิ้งเธอไปไม่ลา เหลือเอาไว้แต่เธอคนเดียว กับชีวิตที่โดดเดี่ยวอ้างว้างท่ามกลางอันตรายที่มองไม่เห็น ทิ้งไว้กับปริศนาว่าเธอและครอบครัวผิดอะไร ในวันที่เหมือนชีวิตเจอฝันร้าย คนเพียงคนเดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย กลับเป็น 'เขา' ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่ศิวะจะพูดดีกับเธอ ฉากหน้า เย็นชา ปากร้าย เจ้าอารมณ์และแสดงท่าทีรังเกียจเธอ "ศิวะ" แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดชลิดา เพียงเพราะหล่อนเป็นคนรักของพี่ชายเขา ที่รอวันตกกระป๋อง เขาอยากให้เธอเลิกรากับพี่ชาย เลิกยุ่งกับคนมีเจ้าของ มันไม่ใช่เพราะศิวะเกลียดชลิดาหรอก แต่เพราะเขารักหล่อนเสียเอง แต่กลับแสดงออกตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริงในใจ คนสองคน ที่ฉากหน้าเกลียดชังกัน แต่ต้องนอนเตียงเดียวกันทุกคน บทสรุปจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน... มหาศาลการรัก
...เหตุเพราะน้องชายตัวดี ไปมีความสัมพันธ์ต้องห้าม กับศัตรู หัวเด็ดตีนขาด “เธอ” ก็ไม่มีวันยอมให้น้องชายลงเอยกับลูกสาวของตระกูลที่เคยดูถูกเธออย่างไม่มีดี . ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ หากไม่เพราะ “เขา” ทายาทหนุ่มเสเพลของบ้านนั้น ที่ซ้อนแผนเอาคืนเธอ ทำเอางานนี้ เจ้าหล่อนจะต้องเลือกว่าจะยอมให้น้องชายได้ลงเอยในเรื่องความสัมพันธ์ หรือจะจนมุมไปกับจอมวางแผนที่ตนก็เพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้ว.... เขาช่างเจ้าคิดเจ้าแค้น และต้องการเอาชนะเธอมาตั้งแต่ต้น โดยมี “เรือนร่าง” เธอเป็นเดิมพัน +++++++++++++++++++++++++++++++ “ปล่อยฉันไปนะ นี่คุณเล่นบ้าอะไร?” “เล่นบ้าอะไรงั้นเหรอ... ก็เล่นผัวเมียกันยังไงล่ะ” “คนบ้า! มันใช่เวลามาล้อเล่นแบบนี้มั้ย ปล่อยฉันไปนะ!” “เล่นผัวเมียกันจริงๆ มีลูกด้วยกันจริงๆ สักคนสองคน” “คนบ้า เล่นไปคนเดียวเถอะ” “มีลูกกับผม คุณจะได้รู้... ความรู้สึกที่โดนพรากลูกพรากแม่มันเป็นยังไง” “เลว! นรกขุมไหนส่งคุณมาเกิดกัน คนบ้า!” สิ้นเสียงเล็ก จูบร้อนแรงถูกบดขยี้ลงมาอย่างร้ายกาจ เชลยในอ้อมกอดไม่อาจขัดขืนเขาได้แม้แต่น้อย หญิงสาวรู้ตัวดีว่า จุมพิตนี้หาใช่เกิดจากความรัก หากเขาต้องการแค่เพียงลงทัณฑ์เธอ... “คุณ... ไม่นะ พราวไม่อยากท้อง!” หญิงสาวบ่ายหน้าหนีจนหลุดพ้นพันธนาการจุมพิตร้าย ก่อนวอนขอ... “ไม่ทันแล้วครับ คุณต้องท้องและรับรู้ความเจ็บปวดว่าการถูกพรากลูกมันเป็นยังไง” “คนเลว... ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” “ถ้าปล่อย... ก็ยังไม่หายแค้นน่ะสิครับ” ถ้อยคำนั้นแสนธรรมดา หากเจือแววเยือกเย็นพร่าผลาญใจ ส่งให้เชลยสาวในอ้อมกอดรู้สึกหนาวยะเยือกกับสิ่งที่ต้องเจอนับจากนี้....
ดูเหมือนโชคชะตาของ ‘รินรุ้ง’ จะไม่มีวันหนีพ้นจากความวุ่นวายได้ ตอนที่ยังเป็นพนักงานขาย ของรีสอร์ตที่ไทย ก็ต้องคอยรองรับอารมณ์ของลูกค้า พอหนีมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่สเปน ก็ยังไม่วายต้องสู้รบตบมือกับเด็กหญิงจอมแก่แดด ผู้หวงบิดายิ่งกว่าจงอางหวงไข่ และพร้อมจะใช้ความแสบป่วนหัวผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดพีก เพราะลูกสาวที่ว่าร้าย ยังร้อนแรงไม่ถึงครึ่งของตัวพ่อ งานนี้หญิงสาวคงต้องลงทุนลงแรงอย่างหนัก เพื่อหาทางกำราบสองพ่อลูกให้ได้ ก่อนที่ชีวิตของเธอจะกลายเป็นการตกนรกทั้งเป็น ‘เซคิโอ ด็อพบาร์ กอนซาเลซ’ นักธุรกิจหนุ่มมหาเศรษฐีชาวสเปน ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงลึกลับที่เขาขโมยจูบเธอในเรือนร้างกลางสายฝน จะกลายเป็นคนเดียวกันกับพี่เลี้ยงคนใหม่ของลูกสาว ที่สำคัญ เขาเคยคิดว่าการขย้ำ ‘ลูกแกะน้อย’ ที่หลงเข้ามาใน ‘รังหมาป่า’ คงเป็นเรื่องง่าย หากตัวอุปสรรคสำคัญที่ชายหนุ่มต้องจัดการเป็นอันดับแรก ถ้าคิดจะเคลมรินรุ้ง ก็ไม่ใช่อื่นไกล แต่เป็น ‘ลูกหมาป่าตัวน้อย’ ของเขานั่นเอง “เจ็บ” พูดเสียงเครือ “ไหนดูซิ” เซคิโอพุ่งพรวดเข้าไปหา ก่อนจะคุกเข่าลง มองเลือดที่ไหลซึมออกจากเท้าเธอ “กลับห้องก่อน อยากเลือดทะลักหมดตัวหรือไง” เขารีบอุ้มเธอขึ้น น้ำเสียงลนลานเป็นห่วงเจือบงการ “เรื่องของฉัน เลือดนี่มันก็เลือดฉันนะ!” เธอเถียง ที่เจ็บอยู่แบบนี้ เพราะเขาไม่ใช่หรือไง “อย่าดื้อสิ... แต่ถ้าเธออยากเลือดออกจริงๆ ล่ะก็ ฉันมีวิธีที่เจ็บน้อยกว่านี้นะ จะเอาไหม” ++++++++++++++++++++++++++++ เพราะถูกปลดกลางอากาศ ทั้งที่ไม่มีความผิดใดๆ รินรุ้ง หงสกรพงษา จึงตัดสินใจรับข้อเสนอไปทำงานสบายๆ ที่สเปน ตามบัญชาของแม่เลี้ยง หากเธอไม่เคยรู้เลยว่า นั่นจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต! . โฉมหน้าสุภาพบุรุษมหาเศรษฐีทายาทสายการบินที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เจ้าของตำแหน่งสุดยอดหนุ่มในฝันหลายปีซ้อนที่สาวน้อย สาวใหญ่ต่างคลั่งไคล้มาตลอด แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ภายใต้ฉากหน้าราวเทพบุตรนั้น เซคิโอ เดอ ด็อพบาร์ กอนซาเลซ ได้ซ่อนคราบซาตานร้ายเอาไว้อย่างมิดชิด หัวใจเขาปิดตายนานกว่าแปดปีหลังสูญเสียคู่หมั้นสาวที่เขารัก มันถูกเปลี่ยนเป็นความแค้นรอวันสะสาง และเมื่อ... ‘ลูกแกะตัวน้อย’ ติดกับดักมาให้เขาแก้แค้น . . กลับกลายเป็นว่า เจ้าหล่อนคือหญิงสาวคนเดียวกันที่ขโมย ‘หัวใจ’ ที่เคยเหี่ยวเฉาของเขาไป เพียงเพราะจุมพิตดื่มด่ำไร้เดียงสา ในค่ำคืนแห่งโชคชะตา ที่เขายากจะลืม!
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
“เปล่านะ ฉันไม่ได้โกหกสักหน่อย แค่ไม่ได้บอกว่าจะให้รางวัลมากน้อยแค่ไหนและตอนไหนเท่านั้นเอง” คนเจ้าเล่ห์ตอบกลับเสียงใส รีบปลดสองแขนใหญ่ออกจากร่าง ลุกขึ้นไปยืนยิ้มหน้าระรื่น “เอาน่า...ฉันไม่ผิดคำพูดหรอก แค่ยืดเวลาออกไปนิด คุณคงไม่ถึงกับลงแดงหรอกนะ” “ได้จ้ะเมียจ๋า แต่เดี๋ยวถึงเวลาฉันทวงรางวัล เธอจะมาว่าฉันมักมากไม่ได้นะ” “ให้มันแน่เถอะค่ะคุณสามีขา...แก่แล้วนะคะ กลัวจะตายคาอกฉันน่ะซิ” นิลลดาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ทว่าในใจเธอกลับขลาดกลัว เพราะดันมีเรื่องปกปิดชายหนุ่มเอาไว้น่ะซิ ************ “คะ...คุณภูมิต้องการอะไรล่ะคะ” เอ่ยถามเสียงใสพลิ้ว “ถ้าฉันให้ได้ก็จะให้ค่ะ” “ฉันก็แค่อยาก...” นิ้วยาวร้อนผ่าวทาบทับคลึงบนกลีบปากนุ่ม “กอดเธออย่างแนบชิด แล้วก็จูบ...จูบไปทั่วทั้งตัวเธอเท่านั้นเอง” “บ้า!! คุณภูมิน่ะ” ยกมือทุบอกกว้างเบาๆ “เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย คุณขอแบบนั้นได้ยังไง” “ไม่ได้หรือยายดำ” ภูมินทร์ทำหน้ามุ่ย ทำตาละห้อยโหยหาราวกับว่าจะต้องจากลาไปในบัดเดี๋ยวนี้
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน
ชายมากประสบการณ์อย่างเขาสุดท้ายก็ยอมศิโรราบให้กับหญ้าอ่อนซึ้งไร้ประสบการณ์ เธอสามารถมัดใจเขาอยู่หมัดจนไม่อาจมองใครอื่นได้อีกต่อไป ******************* “ถ้าผมจะจ้างคุณต่อ แต่มีเงื่อนไขเพิ่มล่ะ” “เงื่อนไขอะไรคะ ขิงขอฟังก่อนได้ไหม” “มาเป็นผู้หญิงของผม” เพี๊ยะ! “ขิงมาที่นี่เพื่อมาทำงาน ไม่ได้มาขายตัว” เธอตะคอกใส่เขาด้วยความโมโห ก่อนจะลุกขึ้นอีวานลุกตามแล้วคว้าตัวเธอไว้จนหญิงสาวเซมาชนแผงอกกว้าง “ปล่อยฉันนะ ฉันจะกลับห้อง ไม่ใช่สิ ฉันจะกลับออกไปจากเกาะนี้” เธอดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง “คิดเหรอว่าผมจะปล่อยให้คนที่พึ่งจะตบผมออกไปจากห้องนี้ง่ายๆ” อีวานโมโหจนเลือดขึ้นหน้า “ปล่อยขิงเถอะค่ะ คุณคงไม่คิดจะทำอะไรผู้หญิงที่ไม่เต็มใจใช่ไหมคะ” “คิดเหรอว่าพูดแบบนี้ผมจะปล่อยคุณ” “แต่คุณมองไม่เห็นนะคะ” “ผมแค่มองไม่ชัด แต่ส่วนอื่นผมยังใช้การได้ดี และตอนนี้มันก็กำลังอยากจะทำหน้าที่ของมันแล้ว”
“คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?” ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"