แม่น้ำเมิซอันเป็นแม่น้ำสายหลักไหลผ่านเมืองนี้ เป็นแม่น้ำที่เกิดในฝรั่งเศส ไหลผ่านเบลเยี่ยมเพื่อออกสู่ทะเลที่เมืองรอตเตอร์ดัม ทำให้ท่าเรือรอตเตอร์ดัมเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ และเป็นเมืองเพียงแห่งเดียวที่มีสถาปัตยกรรมที่ไม่มีกลิ่นอายของดัชต์อยู่เลย เพราะเคยเป็นเมืองที่ถูกวางระเบิดเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง จากปฏิบัติการรอตเตอร์ดัมบลิทซ์[ รอตเตอร์ดัมบลิทซ์(การโจมตีสายฟ้าแล่บที่รอตเตอร์ดัม) – เยอรมันทิ้งระเบิดลุฟท์วัฟเฟอที่เมืองรอตเตอร์ดัมอันเป็นเมืองท่าที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ในเวลานั้น ยึดสนามบินรอตเตอร์ดัม เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 ในช่วงเยอรมันยึดครองเนเธอร์แลนด์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อหยุดยั้งการต่อต้านของชาวดัชต์บีบบังคับให้ยอมจำนน] จนเมืองย่อยยับและกลายเป็นบาดแผลในใจของชนเมืองนี้ หลังเหตุการณ์เลวร้ายนั้นผ่านไป ชาวดัตช์จึงบูรณะซ่อมแซมเมืองนี้ขึ้นมาใหม่ ในเมื่อสิ่งปลูกสร้างแบบดัชท์ไม่หลงเหลือ พวกเขาก็สร้างมันขึ้นมาใหม่ในสไตล์โมเดิร์นและล้ำสมัยขึ้นมาใหม่เสียเลย
เมืองนี้จึงได้รับฉายาว่า ‘City of Modern Architecture’ เมืองแห่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่...
ตึกสูงระฟ้า ท้องฟ้ากระจ่างใสในช่วงฤดูร้อนของรอตเตอร์ดัม สายลมเอื่อยอ่อน ผู้คนคลาคล่ำ เนื่องด้วยเป็นเมืองเศรษฐกิจ ผู้คนที่นี่เดินทางด้วยขนส่งมวลชนและจักรยานส่วนตัว หากถัดจากถนนเส้นหลักไม่ไกลนั้นมีร่างเล็กของสาวเอเชียที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งอย่างรีบเร่ง ด้วยความสูงไม่น่าจะเกินมาตรฐานหญิงสาวชาวไทย ทรวงทรงสมส่วนในชุดทะมัดทะแมงที่มีกางเกงผ้าเดนิมขายาวเข้ารูป เสื้อยือคอเต่าสีเทาแล้วสวมทับด้วยแจ็คเก็ตยีนส์เอวสั้นสีน้ำเงินเข้มที่พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก ทำให้หน้าปัดนาฬิกาสะท้อนแสงพระอาทิตย์อยู่วิบวับๆ ยามเธอขยับร่างกาย ดวงหน้ารียาวเกือบเป็นรูปไข่ไก่ ปากนิดจมูกหน่อย มองรวมๆ แล้วน่ารักน่ามองมากกว่าสวยจัด ด้วยปราศจากการแต่งแต้มเครื่องสำอางใดๆ หากมีเพียงลิปกลอสชมพูมันวาว และพวงแก้มสีชมพูระเรื่อตามธรรมชาติ หน้าผากมนสวย ด้วยผมสีดำขลับยาวสลวยถูกรวบตึงเอาไว้เป็นทรงหางม้ามันจะปัดแกว่งไปมาเวลาเธอออกวิ่งด้วยความรีบเร่ง
“สายๆ ตายแล้ว ฉันต้องไปก่อนที่หมอนั่นจะหนีไปใช้ชีวิตชิลๆ สโลไลว์ฟที่เกาะนรกนั่น” หญิงสาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งพลางยกข้อมือขึ้นดูเวลาที่แม้จะยังเช้าอยู่ก็จริง แต่เธอรับรู้มาว่า ถ้าไปไม่ทันทำภารกิจสำคัญ เธอมีอันต้องตกงานไปถึงชาติหน้าอย่างแน่นอน
เพียงชั่วอึดใจ ร่างเล็กของหญิงสาวชาวไทยไซส์มินิก็มายืนตระหง่านเบื้องล่างของอพาทเม้นท์หรู ร่างเล็กแหงนเงยจนสุดลูกหูลูกตา “ตึกสวย... น่าอยู่จัง คนรวยเขาคงใช้ชีวิตกันอย่างนี้สินะ” ไม่ชักช้าให้เสียเวลาเธอรีบพาร่างขึ้นไปยังจุดหมาย
ดวงตากลมโตของสาวน้อยชาวไทยวัยย่างยี่สิบสี่ปีแหงนมองตึกสูงแทบคอตั้งบ่า มันเป็นตึกที่ดูสวยงามทันสมัย สมกับเป็นแท่งหนึ่งของสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่บนผังเมืองที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะเป็นเมืองที่สวย ประเทศแห่งนี้จะเคยเป็นทริปในฝันที่เคยอยากมาเที่ยว แล้วเธอก็ยืนอยู่ตรงนี้จริงๆ แต่ความรู้สึกที่ต้องแบกรับภารกิจอันหนักอึ้ง แถมมีคำบัญชาการอันเด็ดขาดค้ำคอเอาไว้ว่าถ้างานไม่สำเร็จ ก็อย่าหวังว่าจะได้กลับเมืองไทย... ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนกำลังถูกลอยแพอย่างไร้อนาคตอย่างไรก็ไม่รู้...
ก๊อกๆๆๆ
ร่างเล็กพาตัวเองขึ้นมายืนอยู่หน้าประตูที่พักของบุคคลที่เป็นเป้าหมาย... หรือจะว่าเขาเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เธอมายืนอยู่ตรงนี้ดี ร่างบอบบางหายใจถี่รัวด้วยความเหนื่อยหอบปนตื่นเต้น แล้วก็เคาะประตูอีกครั้งด้วยจังหวะระรัวยิ่งขึ้น กำมือแน่นเคาะประตูด้วยจังหวะเร่งรีบอย่างไม่เกรงกลัวเจ้าของห้องแม้จนนิดเดียว หลังจากกดกริ่งด้านหน้าแต่ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครแย้มหนวดมาเปิดประตูให้เธอ
“ไม่เปิดใช่มั้ย... ได้!”
สิ้นคำ คีย์การ์ดที่เธอได้รับมาก็ถูกนำมาใช้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ แน่ล่ะระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ใช้การสแกนม่านตาของเจ้าของที่พัก แต่ก็มีคีย์การ์ดไว้สำรองและเธอได้มันมาใช้ยามฉุกเฉินแบบนี้ เธอไม่อยากจะใช้มันเลยจริงๆ จะว่าถือวิสาสะก็คงได้ แต่ทำไงได้ล่ะ ก็พ่อคุณชายเจ้านายน้อยไม่ยอมมาเปิดประตูต้อนรับเธอนี่ ก็คงต้องใช้วิธีนี้
พรวด!
“เฮ้! หล่อนเป็นใคร?” เสียงต้อนรับจากหญิงสาวหน้าตาสวยจัด ผมยาวฟูฟ่องสีทองเป็นประกาย ใบหน้าปราศจากการแต่งเติมเพราะดูเหมือนจะเพิ่งตื่นนอน รวมๆ แล้วหน้าตาเธอจะไปทางโซนรัสเซียน ริมฝีปากบางเฉียบเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ หญิงสาวผู้มาเยือนกวาดสายตามองไปโดยรอบ พบว่าเจ้าหล่อนดูสวย... เอ่อ... ไม่รู้จะเรียกชุดนอนได้มั้ย แต่มันเป็นเสื้อสายเดี่ยวบางเบาที่ทำจากผ้าซาติน ลู่แนบเนื้ออย่างแนบสนิท... เธอว่าไม่ใส่ก็นะ ถ้าผ้าจะมีแค่นี้!
อ้อ... ท่อนล่างของเธอนั่น... จีสตริงสินะ กางเกงชั้นในอะไรกัน... ผ้าไม่พอหรือยังไงถึงได้ใส่แล้วเหมือนไม่ได้ใส่แบบนั้นน่ะ!
“ฉันก็คือภรรยาตัวจริงของผู้ชายที่คาบคอเธอเมื่อคืนน่ะสิ ออกไปนะ ผู้หญิงหน้าไม่อาย” หญิงสาวอ้าง ก็มันมีทางเลือกที่ไหน ยังไงเธอต้องทำภารกิจให้สำเร็จ
“โกหก เขาไม่เคยบอกว่ามีเมียย่ะ โกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่เถอะหล่อน” ถ้อยคำสื่อสารภาษาสากลที่ถกเถียงกันอย่างชัดถ้อยชัดคำของ Cat fight[ สำนวน หมายถึงผู้หญิงตีกัน]!
“เธอคิดว่าตัวเองมีความสำคัญนักหรือไง ที่เขาต้องบอกทุกเรื่องให้เธอรู้ ออกไปซะ!”
“ไม่!”
ศลิษาไม่พูดพร่ำทำเพลง เพียงเห็นสาวรัสเซีย เธอก็เดาเรื่องออกมาเป็นฉากๆ ได้ว่า พ่อเจ้านายน้อยจอมแสบของเธอจะต้องหนีไปอยู่เกาะกับเจ้าหล่อนแน่ๆ แล้วถ้าเธอมาไม่ทันหมายกำหนดการการเดินทางของเขาและหล่อน นอกจากเธอจะทำภารกิจผิดพลาดแล้ว เธอยังต้องรับสภาพตกงานอย่างไม่ได้รับเชิญอีกด้วย
‘ถ้าคุณทำงานนี้สำเร็จ หน้าที่การงานของคุณก็มีอนาคต หากตรงข้าม เตรียมรับซองขาวได้เลยศลิษา’
คำสั่งนั่นยังวนเวียนอยู่ในสมอง หญิงสาวหลับตาแน่นสลัดมันทิ้งไป ผู้หญิงอย่างลิษา... มีหรือจะยอม เธอไม่ยอมตกงานง่ายๆ หรอก!
ไม่ใครก็ใคร จะต้องพ่ายไปสักข้างระหว่างเธอกับเจ้านายน้อยตัวแสบ
“เฮ้! เอะอะอะไรกันน่ะ” เสียงคำรามลั่นออกมาจากห้องนอน เรียกความสนใจของหญิงสาวทั้งสองให้มองไปตามเสียง
เขาเดินออกมาในสภาพเพิ่งตื่นนอน.... ใช่ เขาแทบไม่ยอมลืมตามามองโลกด้วยซ้ำ ก็เพราะอย่างนี้สิ ถึงไม่รู้ตัวเลยว่า ร่างสูงโปร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อได้รูปสวยงามของเขานั้น มันไม่มีเสื้อผ้าเลยสักชิ้นปกปิดอยู่
‘ชีเปลือยยังไม่สูญพันธุ์!’ แน่ใจนะว่าไม่ได้ออกมาจากถ้ำ!
เขาขยี้ตาเร็วๆ ก่อนร่างจะเดินมาประชิดร่างเล็กที่มาในฐานะผู้คุกคาม
“เธออีกแล้วเรอะ?” น้ำเสียงแหบแห้งเจือแววไม่สบอารมณ์อย่างสุดๆ
“ก็ฉันน่ะสิคะ จะใครล่ะ” หญิงสาวยืนแหงนคอตั้งบ่าตอบหน้าตาเอาเรื่อง เธอไม่มีความกลัวเกรงเขาเลยแม้แต่น้อย
“คราวที่แล้วยังไม่เข็ด?” เขาหรี่ตาแคบมองเธอศีรษะจรดเท้า เบ้ปากอย่างระอา สายตามองมาอย่างเจ้าเล่ห์ มองอย่างไรก็เหมือนคนมีแผนการร้ายๆ ในสมองอยู่ตลอดเวลา เขาน่ะ... อันตรายจะตาย
“มีอย่างอื่นที่น่าเข็ดกว่า” ‘ฉันตกงานแน่ถ้าคุณไม่กลับไปกับฉัน’ สาวไทยตัวเล็กคิดในใจ แม้ไซค์จะมินิแต่หัวใจเธอไม่เล็กอย่างกับใจหรอก เธอได้ทำในสิ่งที่เรียกว่ากล้าหาญอย่างมากมาย อย่างน้อยก็ตอนนี้ล่ะน่ะ
“ก็ดี๊.... งั้นสวย” เขาสรุปพร้อมยกร่างเล็กขึ้นอุ้ม ร่างกายหญิงสาวแนบเนื้อแข็งแรงของเขาจนเธอสะท้านหวั่นไหว
กรี๊ดดด! สาวไทยตัวน้อยแผดเสียงลั่น มันฟังแทบไม่เป็นภาษา
ไม่ใช่แค่ร้องเพราะร่างกายของตนถูกคนร่างยักษ์ยกขึ้นอุ้มพาดไหล่เขาเท่านั้น แต่ศรีษะเจ้าหล่อนจมดิ่งลงมาอยู่บั้นท้ายหนั่นแน่นของเขา สายตาเธอปะทะเข้าอย่างจังเบ้อเริ่มกับสิ่งที่เธอไม่ควรได้ชม ‘ก้นผู้ชาย’ มันล่อแหลมร้ายแรงอย่างไม่น่าให้อภัย ทำไมเขาไม่ใส่อะไรก่อนที่จะออกมา เธออายจนหน้าแดงซ่านหมดแล้วนะรู้มั้ย นี่แค่เบื้องหลังนะ ถ้าเป็นเบื้องหน้าล่ะ หัวใจเธอวายแน่ๆ
“โอ้ย! แสบหู” เขาตวาดลั่น เสียงดุๆ ยังกึกก้องในโสตประสาทของผู้หญิงตัวน้อยๆ อย่างเธอ
“ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ” ปากว่า มือปิดตาเสียมิด หากหัวใจเต้นรัวกระหน่ำ มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
“ปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ในห้องส่วนตัวของฉันแน่ๆ ยายตัวแสบ” เขาหิ้วร่างน้อยๆ อย่างกับเธอเป็นขยะอันเหม็นเน่าและกำลังจะเอาไปทิ้งให้ไกลๆ
พลั่ก!
“โอ้ย!”
ร่างเล็กร้องเสียงหลง ก้นจ้ำเบ้าเมื่อเขาทุ่มร่างเธอลงไปกองกับพื้นนอกห้องอย่างไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บสักแค่ไหน
“กรี๊ดดด” เสียงเล็กแผดดังลั่นอีกครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบเจอกับสิ่งที่ไม่เคยคาดไว้
‘นะ... นี่มันไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ของโลกใช่มั้ย พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยสาด้วย อุจาดตาที่สุด!’ หญิงสาวหลับตาแน่น กลัวจนขนหัวลุก ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยพบเคยเจออาวุธลับของท่านชายก็คราวนี้ล่ะ แล้วนี่ไม่ใช่อาวุธลับขนาดธรรมดาๆ เท่านั้น แต่มันมหึมาถ้าเป็นงูก็ต้องอนาคอนดาถึงจะคู่ควร!
“ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า ส่งซักหมดเลยรึไง” เธอตวาดเสียงเกรี้ยว หลับตาปี๋ เท่านั้นยังไม่พอ สองมือน้อยๆ ยกขึ้นปิดตาเอาไว้แน่น
“โวยวายอยู่ได้ยายตัวแสบ ออกไป๊!”
“คุณทำกับฉันมากเกินไปแล้วนะ” สาวไทยร่างเล็กมองมาตาเขียวปั๊ด ลืมไปเลยว่าเขาไม่ใส่อะไรเลย
“น้อยไปสิไม่ว่า... กลับไทยไปซะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก” เจ้าของร่างสูงยื่นคำขาด สายตาคมกล้ามองมาอย่างเหี้ยมเกรียม ถ้าไม่รู้ประวัติเขามาก่อน เธอต้องคิดว่าเขาเป็นมาเฟียใหญ่แห่งรอตเตอร์ดัมเป็นแน่
‘อะไรจะโหดปานนั้น ค่อยๆ คุยกันก็ได้นี่นา’
“ไม่ได้นะ.... คุณไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉันนะ!”
เขาย่อตัวลง โน้มหน้าเข้ามาใกล้... จมูกโด่งๆ แทบประชิดจมูกเชิดรั้นของเธอ ก่อนเปล่งถ้อยคำข่มขู่อย่างท้าทาย “ฉันจะทำมากกว่าไล่อีก ถ้าเธอไม่ฟังที่ฉันเตือน!”
ปัง!!!
ประตูบานใหญ่ของเพ้นท์เฮ้าส์สุดหรูกระแทกเสียงดังลั่นเมื่อมันถูกผลักจากขุมพลังแรงกำลังของผู้ชายร่างใหญ่ที่อยู่ในอารมณ์ร้อนร้าย ดีแล้วที่มันไม่พังทลายลงมา ดูเหมือนว่าสิ่งที่พังตอนนี้จะไม่ใช่ประตู แต่เป็นแก้มเนื้อนุ่มๆ ของบั้นท้ายใครบางคนต่างหาก เขาใจร้ายไปนะ ทุ่มเธอลงมาได้ยังไง เธอก็เจ็บเป็นนะไม่ใช่ตุ๊กตายาง
“แล้วคุณจะรู้... ว่าที่ทำกับฉันวันนี้ ฉันไม่ยอมเจ็บฟรีๆ แน่ซาเร็ค!”