เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
บทนำ
สตรีในชุดมงคลสีแดง นั่งเหม่อมองแสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาผ่านผ้าม่านสีแดง ดวงตากลมโตแดงรื้อบอบช้ำ เนื่องจากผ่านการร้องไห้มาทั้งคืน งานมงคลสมรสที่ควรจะมีเจ้าบ่าวร่วมหอ แต่กลับมีเพียงเจ้าสาวในชุดแดงนั่งอยู่ในห้องหอเพียงลำพัง นางเฝ้ารอบุรุษที่นางกราบไหว้ฟ้าดินร่วมกันเมื่อช่วงเช้าอย่างใจจดจ่อ แต่แล้วจนตะวันของอีกวันใหม่โผล่พ้นขอบฟ้า คนที่นางเฝ้ารอก็ยังไม่มา
“คุณหนู”
แม่สื่อที่นั่งเฝ้าเจ้าสาวมาตลอดทั้งคืน เอ่ยเรียกเจ้าสาวในความรับผิดชอบของตนเองเสียงแผ่วเบา นางเองก็นั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูทั้งคืน รอให้ว่าที่สามีของคุณหนูผู้นี้มายังเรือนหอแห่งนี้ทั้งคืน แต่ก็ไร้เงาบุรุษที่สวมชุดแดงมงคล นางแอบไปเรียบๆ เคียงๆ ในงานเลี้ยงอยู่หลายหน จนสุดท้ายถึงได้รู้ว่า เจ้าบ่าวถูกแขกในงานรั้งเอาไว้จนดึกดื่น อีกทั้งขนาดดื่มสุราจนเมามายยังไม่มีทีท่าว่าจะมายังเรือนหอที่มีเจ้าสาวอยู่ พอรุ่งเช้ากลับมีข่าวร้ายมากกว่าเดิม นางจะบอกคุณหนูผู้นี้เช่นไรดี แค่เห็นขอบตาแดงก่ำของเจ้าสาวคนใหม่ใจของนางก็ตกไปอยู่ตาตุ่มเสียแล้ว
“เช้าแล้ว เขาคงไม่มาแล้ว ท่านมาช่วยข้าถอดชุดเจ้าสาวทีสิ”
หวงอิ่งจื่อเอี้ยวตัวหันไปตามเสียงเรียกของคนที่นั่งเป็นเพื่อนนางมาทั้งคืน มือเล็กๆ เอื้อมปาดน้ำตาออกจากดวงหน้าจิ้มลิ้ม ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหลังฉากเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ แม่สื่อรีบกุลีกุจอวิ่งตามเพื่อไปช่วยถอดชุดแดงมงคล
“คุณหนูอย่างหาว่าข้าสอด แต่สามีของท่านไม่ไว้หน้าท่านเพียงนี้ ต่อไปท่านจะอยู่ในจวนนี้อย่างไร” ดูท่าแล้วในอนาคตชีวิตในจวนแห่งนี้คงยากลำบากกับคุณหนูผู้นี้อย่างแน่นอน แค่คืนเข้าหอยังถูกทิ้ง ต่อไปในอนาคตคงไม่ต้องเอ่ยถึง ว่าสามีของนางจะมีภรรยารอง หรืออนุอื่นที่เอ็นดูมากกว่าคุณหนูผู้นี้เป็นแน่ แค่คิดแม่สื่อก็ต้องลอบถอยหายใจ นางเพียงมาทำหน้าที่ตามการจ้างวาน เรื่องเช่นนี้นางก็พบเจออยู่บ่อยครั้ง เวทนาแต่ก็เท่านั้นนางเป็นเพียงคนนอก
“ข้า…” มือบางที่กำลังลูบไล้ทำความสะอาดผิดกายหยุดชะงัก “อย่างไรข้าก็ได้แต่งเข้ามาแล้ว ข้าถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว”
หวงอิ่งจื่อรู้ตัวดีว่าการมีตัวตนอยู่ของนางนำพามาซึ่งความไม่ชอบใจของใครหลายๆคน แต่จะให้นางทำเยี่ยงไร ขาดสิ้นบิดาผู้ให้กำเนิดนางก็ไม่เหลือผู้ใดอีกแล้ว เสาหลักเดียวในชีวิตของนางล้มลงแล้ว นางทำได้เพียงทำตามคำสั่งเสียสุดท้ายของบิดา
‘ฟ่านเฉิงเฉิง’
‘ตลอดเวลาข้าไม่เคยโทษท่านไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เพราะรู้ว่าการที่ท่านรับข้ามาก็เป็นเรื่องที่ทำให้หนักใจมากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้การมีอยู่ของข้าทำให้เกิดความเดือดร้อน ทั้งต่อตระกูลฟ่าน และต่อคนที่ข้าเป็นห่วงที่สุดในชีวิต เช่นนั้นแล้วข้าคิดว่าทางออกระหว่างเราทั้งสอง คือจบสัญญาที่ไม่เป็นธรรมนี่ลงเสียเถอะ
ต่อไปท่านไม่ต้องยึดติดกับคำที่เคยเอ่ยกับท่านพ่อของข้าอีกแล้ว เรื่องเหล่านั้นถือว่าท่านได้ชดเชยให้ข้าแล้ว จากนี้ให้เราทั้งสองเป็นเหมือนลำคลองที่คู่ขนาดต่างคนต่างอยู่มิพบเจอ และต่อให้เจอหน้าก็ไม่ต้องทักทาย‘
‘หวงอิ่งจื่อ’
สตรีนางอื่นคงจะข้ามภพมาเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคมากมายจนกลายเป็นวีรสตรี กู้ชาติกู้แผ่นดิน แต่สำหรับข้านั้น “ความรักไม่แน่นอน แต่ความง่วงเป็นสิ่งที่ต้องนอนแน่ๆ”
เลือกสามีผิดคิดจนตัวตาย!เป็นเช่นไรรู้ก็เมื่อสายไปเสียแล้ว ลูกต้องตายจาก พ่อแม่พี่ชายพลัดพราก ด้วยหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าเมือง ช่วยชีวิตทุกคนไว้ได้ เว้นแต่นาง เว้นแต่ครอบครัวของนาง
โปรยปราย ผู้คนเกลียดชังข้า แต่กลับมิมีผู้ใดรู้เบื้องหลังว่าแท้จริงแล้วข้าต้องโหดร้ายเช่นนี้เป็นเพราะผู้ใด แทงมีดใส่อกคนรักของข้า สังหารตระกูลข้าจนสิ้นแม้แต่เด็กทารกก็มิเว้น ข้าต้องยืนยิ้มแล้วเอ่ยว่า ไม่เป็นไร ข้าให้อภัย นั่นคงมีเพียงพระโพธิสัตว์เสียแล้วมิใช่ข้าคนนี้ คนที่พวกเจ้าหวาดกลัวยิ่งกว่าภูตผี
นางเคยเป็นดั่งดอกบัวขาว บริสุทธิ์ผุดผ่องมองแล้วสบายตา แต่เขาและน้องสาวต่างมารดาของนางกลับมาแต้มหมึกดำลงบนบัวขาวดอกนี้
นางเกิดมาขาพิการแต่หาได้ไร้ใจไม่ มีเพียงคนผู้นั้นที่ไร้หัวใจยิ่งกว่านาง เขามาหลอกให้นางหลงรักแล้วถอนหมั้นอย่างเลือดเย็น หลังนางตายจากไปแล้วยังใช้ความเห็นอกเห็นใจของพี่ชายนางเพื่อหาประโยชน์เข้าตัว โชคดีสวรรค์ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล กลับมาครานี้ ในเมื่อพวกมันรักกันมากนัก ก็เชิญรักกันไปได้เลย ชายชั่วเช่นนี้คิดจนตัวตายก็ไม่เอามาเป็นสามีเด็ดขาด!
ท่านช่างใจดำยิ่งนัก ท่านกับข้าเปรียบดั่งเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ข้าเชื่อว่าสักวันท่านจะกลับมาเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า แต่ใยท่านจึงพาสตรีอื่นกลับมา แล้วถอนหมั้นข้าอย่างไร้เยื่อใย
(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
แต่งงานมาสามปี อันหนีก็ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ ในบรรยากาศที่มีความสุข เดิมทีคิดว่าเขาจะกลับใจ ที่แท้ก็แค่ต้องการรับคนรักในใจกลับมาเท่านั้น ถ้าความรักมีขีดจำกัด ความอดทนก็มีเช่นกัน เธอยื่นข้อตกลงการหย่าฉบับหนึ่งให้เขา แต่กลับไม่คิดว่ากลับถูกเขาพลิกมือกดกับพนัง “คนที่บอกว่าต้องการฉันก็คือเธอ บอกว่าไม่ต้องการฉันก็เธอ มันจะง่ายขนาดนั้นเสียที่ไหน? ” จากนั้น ภรรยาไร้รสชาติที่เคยอ่อนโยนเยือกเย็น ก็ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หัวกระไดไม่เคยแห้ง ผู้ชายข้างกายเปลี่ยนหน้าไปทุกเดือนทุกปี แต่สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนคือใบหน้างดงามที่บึ้งตึงของโม่หานชวน จนกระทั่งท้องของเธอโตขึ้นเรื่อย ๆ และอุ้มเด็กที่ไม่รู้ว่าเป็นลูกของใครออกมา โม่หานชวนอดทนแล้วอดทนอีก สุดท้ายก็ตัดสินใจอดทนต่อไป แต่เมื่อเขาตัดสินใจจะยอมรับเป็นพ่อ—— เธอกลับโบกมือลา “ขอบคุณความหวังดีของคุณโม่ ต่อไปเรื่องแบบนี้ก็มีอีกเยอะแยะ ก็จะรบกวนคุณบ่อย ๆ ไม่ได้นะคะ”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY