ความพยาบาทของเธอ ทำให้ทุกคนต่างสะพรึงกลัว ยกเว้นเขา...รัฐรวินทร์ ที่จะใช้ความรักทั้งหมดสลายความพยาบาทในใจเกวลิน เขาคือทายาทตระกูลอัครธนากุล ตระกูลมหาเศรษฐีของเมืองไทย เธอคือหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาที่ไร้พิษสง แต่ก็ไม่ใช่ว่า เป็นลูกไก่ในกำมือ “เพี้ยะ!” ฝ่ามือเล็กฝาดลงไปบนแก้มรัฐรวินทร์เต็มแรง จนเกิดรอยฝ่ามือบนผิวแก้มเขา “เธอกล้าตบหน้าฉันเหรอ” เขาถามเสียงเข้ม แววตาลุกโชนด้วยความโกรธ “ก็ใช่น่ะสิ ก็คุณอยากปากหมาทำไม แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ” เกวลินตอบด้วยทีท่าไม่เกรงกลัว ทว่าความเป็นจริงนั้นไม่ใช่ ในใจเต้นรัวจากความกลัวชายตรงหน้าที่อาจบีบคอเธอตายได้ “สองครั้งแล้วนะ สองครั้งแล้วที่เธอตบหน้าฉัน เธอจำไม่ได้หรือว่า เธอตบหน้าฉันครั้งแรก เธอต้องเจอกับอะไรบ้าง เธอคงอยากจะกระอักเป็นครั้งที่สองใช่ไหม” เขาถามเสียงเหี้ยม แววตาไร้ซึ่งความปราณี “แค่นี้ฉันก็กระอักเลือดมากพอแล้ว จะโดนอีกสักหน่อยคงไม่เป็นไร อีกอย่างคนอย่างคุณ มันก็หน้าตัวเมียอยู่แล้ว รังแกคนไม่มีทางสู้ เอาสิ เอาเลย ตบฉันเลย แตะฉันก็ได้ หรือว่าจะถีบฉัน ฉันก็ยินดี ฉันจะไม่ร้องขอชีวิตจากคุณ แต่ฉันจะจำทุกอย่างที่คุณทำกับฉัน แล้ววันหนึ่งฉันจะเอาคืนคุณอย่างสาสม” ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เกวลินพูดโดยปราศจากความเกรงกลังรัฐรวินทร์ ชายหนุ่มที่กุมชีวิตตนกับครอบครัวไว้ในอุ้งมือ อุ้งมือของคนที่ไม่เคยให้คำว่า เมตตาปราณีกับตน
1
ทุกสายตาในห้องจัดเลี้ยงต่างมองไปยังกลุ่มคนที่เดินเข้ามางาน ความสนใจของพวกเขาเหล่านั้นคือ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาทว่าดุเข้มสมกับเจ้าของฉายาเสือยิ้มยาก ข้างกายเขาคือสตรีรูปร่างระหงสวมชุดราตรีสีแดงเพลิง สวยสง่าราวกับนางพญา คู่ควรกับราชสีห์แห่งโรมนามว่า รอซซี่ ดิออร์ดาโน จุลเทพ เดอซานติส ลูกครึ่งอิตาลี- ไทย นักธุรกิจหนุ่มชื่อดังก้องโลก
เกวลินหรือมาเชล เดอซานติสทรุดกายนั่งบนเก้าอี้บนโต๊ะวีไอพี ที่ล้วนแล้วแต่เป็นที่นั่งของคนมีชื่อเสียงทางด้านสังคม มีเงินใช้ไม่หวาดไม่ไหว หนึ่งในบุคคลที่นั่งร่วมโต๊ะคือ รัฐรวินทร์ อัครธนากุล บุตรชายคนโตของรัฐภาคย์ อัครธนากุล ตระกูลผู้ร่ำรวยติดอันดับต้นของเมืองไทย
รัฐรวินทร์มองหน้ามาดามคนสวยของรอซซี่นิ่ง ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยเขาตกใจไม่น้อยที่เห็นอดีตนางบำเรอของตน ที่ตอนนี้กลับกลายเป็นภรรยามาเฟียหนุ่มเลือดเย็น คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว คนที่เขาเคยดูถูก เหยียดหยาม เหยียบย่ำหัวใจจนบอบช้ำ ทารุณกรรมทั้งร่างกายและจิตใจ จนเธอไม่อยากอยู่เป็นคน บัดนี้กลายเป็นอีกคนหนึ่งที่รัฐรวินทร์จะทำเช่นในอดีตไม่ได้
มาดามคนสวยไม่หลบสายตาเย็นเยียบของรัฐรวินทร์ เมื่อก่อนเขาคือเจ้าชีวิต ลิขิตความเป็นความตายให้ตนและครอบครัว เธอต้องยอมและยอมอย่างไม่มีข้อแม้ ค่าความเป็นคนถูกชายตรงหน้าย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดี ศักดิ์ศรีเธอเป็นผุยผง ถูกเขาทำลายจนเธอไม่อยากอยู่เป็นคน เกวลินสัญญาและสาบานกับตัวเองว่า เธอจะกลับมาชำระความเขา ให้สาสมกับทุกเรื่องที่เขาทำกับตน รวมถึงอีกหนึ่งชีวิตที่จากไป รัฐรวินทร์ต้องเจ็บเหมือนกับที่เธอเจ็บ และเจ็บยิ่งกว่า
การพบเจอรัฐรวินทร์ในวันนี้ คือจุดเริ่มต้นการชำระแค้น ความพยาบาทของเธอที่ผูกรัดหัวใจและจิตวิญญาณจนแน่น กำลังจะคลายลง ถึงเวลาที่รัฐรวินทร์ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดจากผู้หญิงที่เขาคิดว่า ไม่มีทางต่อกรกับตนได้
สี่ปีก่อน
ณ ห้องอาหารบ้านชบา ร้านหรูใจกลางทองหล่อที่มีลูกค้าแวะเวียนมาทานอาหารทั้งวัน ร้านแห่งนี้โด่งดังทางด้านรสชาติของอาหารนานาชนิด หลากหลายทั้งอาหารไทย จีน และฝรั่งเศส บรรยากาศภายในร้านที่ตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ บวกกับการบริการดีเยี่ยม ปากต่อปากพูดถึง จนทำให้ร้านอาหารบ้านชบาเป็นที่รู้จักในสังคม ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ากระเป๋าหนัก ดารานักแสดง นักการเมือง นักธุรกิจแขนงต่างๆ เนื่องจากค่าอาหารค่อนข้างสูง บางจานสูงถึงหลักหมื่นก็มี
นอกเหนือจากรสชาติอาหารที่มาเป็นอันดับหนึ่ง การบริการเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทางร้านใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะหากบริการไม่ดี ลูกค้าไม่ประทับใจ อาจส่งผลต่อการค้าขายได้ พนักงานในร้านจึงต้องมีระเบียบวินัย เอาใจใส่ ใจเย็น และยิ้มแย้มแจ่มใส ถูกฝึกอบรมการบริการดังมืออาชีพ
เกวลินคือหนึ่งในพนักงานของร้านบ้านชบา เธอเป็นคนขยันและเป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งผ่านโปรก่อนกำหนดเวลา ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ เกวลินเป็นคนขยัน หนักเอาเบาสู้ เอาใจใส่ในการทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมาย เธอสามารถสื่อสารด้วยภาษาสากลได้ และบ่อยครั้งที่เธอต้อนรับลูกค้าชาวต่างชาติแทนเพื่อนๆ ที่สื่อสารไม่เป็น
ร้านแห่งนี้นอกจากจะมีพนักงานประจำแล้ว ยังมีพนักงานชั่วคราวแบบรายวันที่จะจ้างมาทำงานเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าจ้างในแต่ละครั้งที่มาทำงานคือสามร้อยห้าสิบบาท จะจ่ายให้หลังเสร็จงาน เกวลินจึงชักชวนศุภวรรณ น้องสาวที่ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นปริญญาตรีมาทำงานชั่วคราวนี้ด้วย เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวที่ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่
วันนี้เป็นวันเสาร์ลูกค้ามาใช้บริการแน่นตั้งแต่ยังไม่เที่ยง เรื่อยมาจนถึงเวลานี้หกโมงเย็นกว่าๆ คนก็ยังไม่ซา ลูกค้าโต๊ะนี้ทานเสร็จ พอลุกไปไม่ถึงนาทีก็จะมีลูกค้าใหม่มานั่งแทนที่ ส่งผลให้พนักงานในร้านทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นงานบริการด้านนอกและด้านในต่างทำงานกันหนัก เวลาพักก็แทบไม่มี ต้องผลัดเปลี่ยนกันทานข้าวและเข้าห้องน้ำ
ลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่สั่งจองล่วงหน้าไว้สามวัน เดินเข้ามาภายในร้านโดยมีสมสมรคอยต้อนรับขับสู้อย่างดี เพราะรู้ดีว่าพวกเขาคือใคร เธอพารัฐรวินทร์ ทายาทคนโตของรัฐภาคย์ อัครธนากุล ตระกูลมหา-เศรษฐีที่ไม่ว่าจะเป็นพี่หรือน้องต่างร่ำรวยทั้งสิ้น ตระกูลอัครธนากุลจึงเป็นอีกตระกูลหนึ่งที่ติดอันดับความร่ำรวยอันดับต้นของประเทศ แล้วยังติดอันดับที่สี่สิบของโลก
รัฐรวินทร์ อัครธนากุลมาพร้อมกับรัฐรวิศ น้องชายตัวแสบที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ ภคพรนักแสดงมากฝีมือคู่หมั้นที่มีแผนวิวาห์กลางปีนี้ และรุ่งโรจน์ อาคม ลูกน้องคนสนิทที่นั่งแยกอีกโต๊ะหนึ่งใกล้ๆ กัน
“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะให้พนักงานมารับออเดอร์นะคะ นี่เมนูค่ะ”
สมสมรวางเมนูอาหารให้รัฐรวินทร์กับผู้ร่วมโต๊ะ รัฐรวินทร์พยักหน้า หยิบเมนูมาเปิดดูเพื่อเลือกอาหารที่ตัวเองต้องการทาน ระหว่างนั้นศุภวรรณที่รับหน้าที่ดูแลลูกค้าโซนบีได้เดินมาหยุดยืนข้างโต๊ะ ขณะที่ศุภวรรณกำลังยืนรอรับออเดอร์ สายตาของรัฐรวิศมองไป
ยังเธอตลอดเวลา สายตาของเขาไม่ได้มองแค่ใบหน้าเธอที่ยืนจดรายการอาหารที่รัฐรวินทร์และภคพรสั่ง แต่กวาดมองไปทั่วร่าง มาหยุดนิ่งบริเวณทรวงอกที่ดันเสื้อเชิ้ตสีขาวออกมาเป็นรูป เขากะเพียงสายตาก็รู้แล้วว่า มันมีขนาดใด รัฐรวิศกระตุกยิ้มพอใจ พับเมนู เงยหน้าสั่งอาหาร
“ฉันเอาสเต็กเนื้อ ไข่ปลาคาเวียร์”
“ได้ค่ะ” ศุภวรรณแม้ว่าจะยืนรับออเดอร์รัฐรวินทร์กับภคพรอยู่ เธอก็รู้สึกได้ว่า รัฐรวิศมองเธอตลอดเวลา แม้ว่าสายตาของเขาจะไม่หยาบโลน มันเป็นความพอใจที่แทบอยากจะเขมือบเธอทั้งตัว “ห้องน้ำอยู่ไหน พาฉันไปหน่อยสิ”
รัฐรวินทร์เหลือบมองน้องชาย เขายิ้มมุมปากอย่างรู้เท่าทันความคิดรัฐรวิศ น้องชายเขามาที่นี่หลายครั้ง รู้ดีว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน แต่ที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ เพราะมีเป้าหมายบางอย่าง ซึ่งเขาก็รู้ว่าคืออะไร
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม