"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
“คุณจะไปไหน?”
ในงานแต่งงาน ถังเลี่ยนรีบดึงตัวฉินซื่อหมิงที่หันหลังกลับเตรียมจะออกไปเอาไว้ ดวงตาของเธอดูเว้าวอนอย่างมาก
ในห้องจัดเลี้ยง ญาติและเพื่อนของทั้งสองฝ่ายได้นั่งประจำที่แล้ว นักบวชเพิ่งถามเจ้าบ่าวว่าเขาจะยอมแต่งงานกับเจ้าสาวหรือไม่ แต่แล้วฉินซื่อหมิงที่เป็นเจ้าบ่าวไม่เพียงแต่เพิกเฉยต่อนักบวชและรับโทรศัพท์เท่านนั้น เขายังจะออกไปในทันทีอีกด้วย
“ไป๋เวยรู้ว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน โรคซึมเศร้าของเธอจึงกำเริบขึ้นมาและจะกระโดดตึก ผมต้องไปช่วยเธอ”
ฉินซื่อหมิงพูดอย่างหมดความอดทนเต็มทนแล้ว จากนั้นก็ผลักถังเลี่ยนออก
ซึ่งการผลักครั้งนี้ทำให้ถังเลี่ยนเท้าแพลง เธอล้มลงไปกับพื้น แต่ก็ยังยื่นมือออกมาอย่างน่าเวทนาเพื่อพยายามจะรั้งเขาไว้
“วันนี้เป็นงานแต่งงานของเรานะ ถ้าคุณไปแล้วฉันจะทำยังไงล่ะ! อีกอย่าง คุณอย่าลืมนะว่า ไป๋เวยเคยนอกใจคุณมาก่อน เธอทำร้ายคุณถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมคุณยังไม่ยอมปล่อยวางและยังอยากจะไปหาเธออีกล่ะ?”
แววตาของฉินซื่อหมิงเย็นลงมากขึ้นเรื่อย ๆ “เรื่องของผมกับไป๋เวยไม่จำเป็นต้องให้คุณมาออกความคิดเห็น ต่อให้เธอจะทำผิดไปและทำร้ายผม คุณก็ยังสู้เธอไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ”
ถังเลี่ยนรู้สึกเจ็บปวดหัวใจขึ้นมาทันที
เธอรู้ว่าฉินซื่อหมิงยังลืมไป๋เวยไม่ลง แล้วเธอก็ไม่มีวันที่จะสำคัญเท่าไป๋เวยได้
“ฉันทำอะไรผิดงั้นเหรอ ทำไมคุณถึงต้องทำกับฉันแบบนี้ด้วย!”
“ฉันขอร้องเถอะนะ งานแต่งงานกำลังจะจบลงอยู่แล้ว รอให้แลกแหวนกันเสร็จก่อน แล้วคุณค่อยไปก็ได้นี่!”
ฉินซื่อหมิงหลบมือที่ยื่นออกมาของเธอ แล้วก็พูดด้วยความรังเกียจว่า “คุณไม่มีความเป็นห่วงชีวิตของคน ๆ หนึ่งเลยสักนิด คุณห่วงแค่เรื่องงานแต่งงานของคุณเท่านั้น ถังเลี่ยนคุณมันเลือดเย็นซะจนน่ากลัวจริง ๆ”
“งานแต่งงานถูกยกเลิกไป ค่อยจัดขึ้นมาใหม่ครั้งหน้าแล้วกัน”
ฉินซื่อหมิงเพิกเฉยต่อใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอโดยสิ้นเชิง เขาเดินพลางปลดดอกไม้ที่หน้าอกของออกไปด้วย ไม่ได้สนใจสายตาแปลก ๆ จากผู้คนรอบตัวที่มองมาเลยสักนิดเดียว
การที่เจ้าบ่าวจากไปแบบนี้ ทำให้คนในงานต่างเริ่มฮือฮาขึ้นมาทันที
“อย่า ฉันขอร้องล่ะ คุณอย่าไปเลยนะ ซื่อหมิง!”
“ถ้าคุณไปแล้ว ฉันจะทำยังไง!”
ถังเลี่ยนนั่งอยู่บนพื้นอย่างน่าเวทนา เธอตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ น้ำตาไหลอาบลงมาทับการแต่งหน้าอันประณีตของเธอไม่หยุดหย่อน
ผู้ชายที่เธอรักมาสามปี เลือกผู้หญิงอีกคนโดยไม่ลังเลและไม่คำนึงถึงหน้าตาของเธอและงานแต่งงานแต่อย่างใด
ฉินซื่อหมิงคำนึงถึงแค่ความสงสารและความอับจนหนทางของไป๋เวยเท่านั้น แต่เขากลับไม่ได้คิดเลยว่าตอนนี้เธอต้องอับอายและสับสนอยู่ในงานแต่งงานเพียงคนเดียวมากแค่ไหน
เวลานี้ มีดวงตาจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองมาที่เธอ บางคนก็มองด้วยความเยาะเย้ยและความสงสาร แต่ยิ่งกว่านั้นบางคนก็กำลังมีความสุขบนความทุกข์ของเธออยู่
ถังเลี่ยนไม่เคยต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้มาก่อนเลย!
ถังเป่ยซานผู้เป็นพ่อเดินเข้ามา ถังเลี่ยนคิดว่าเขาจะมาปลอบเธอ แต่เธอกลับไม่คาดคิดเลยว่าเขาจะจ้องมองตามาเขม็งพลางด่าทอเธอขึ้นมาว่า “แค่ผู้ชายคนเดียวยังเอาไว้ไม่อยู่เลย ฉันมีลูกสาวแบบแกได้ยังไงเนี่ย!”
ถังเป่ยซานโมโหเดือดดาลอย่างมาก หลังจากด่าทออยู่หลายประโยคจนจบ เขาก็ดึงหวงฉินผู้เป็นภรรยาของเขาออกไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
ส่วนถังเข่อซินผู้เป็นน้องสาวก็ได้เดินออกมาจากฝูงชน แล้วก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่สาว พี่นี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ เลยนะ! ในงานแต่งงาน เจ้าบ่าวดันหนีไปจนพี่โดนคนหัวเราะเยาะเต็มไปหมด อย่าว่าแต่คุณพ่อคุณแม่จะโกรธเลย ฉันเองก็ขายหน้าไปด้วยเหมือนกัน!”
หลังจากพูดจบ ถังเข่อซินก็หันหลังและจากไปเช่นกัน
……
สมาชิกของถังเลี่ยนทั้งหมดได้เดินจากไปแล้ว ทิ้งเธอที่เป็นเจ้าสาวเอาตัวในงานเพียงลำพัง ไม่มีใครให้การสนับสนุนเธอเลยสักคน ทางฝ่ายชายที่รู้สึกผิดอยู่ตอนแรก พอเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ก็ยืดหลังตรงขึ้นมา
“เจ้าบ่าวหนีไป ส่วนพ่อแม่ก็ยังไม่สนใจอีก ฉันว่าเจ้าสาวเองคนนี้ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ ๆ มิน่าล่ะฉินซื่อหมิงถึงได้ทิ้งไปแบบนั้นน่ะ”
“นั่นน่ะสิ ถ้าเธอเป็นผู้หญิงดี ๆ มีเหรอที่เจ้าบ่าวจะไม่ต้องการเธอน่ะ?”
“เธอนอกใจเจ้าบ่าวรึเปล่า ไม่อย่างนั้นเจ้าบ่าวจะทิ้งเธอไปได้ยังไง!”
แขกที่อยู่รอบตัวต่างก็วิพากษ์วิจารณ์เธอ เสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ถังเลี่ยนเป็นเหมือนตัวตลกที่มีแต่คนมาดูถูกเหยียดหยามและเยาะเย้ย
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังอึกทึกมาจากห้องข้าง ๆ
ถังเลี่ยนจึงหันหน้าไปมอง แล้วก็เห็นว่ามีเจ้าบ่าวคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนวีลเชร์เพียงลำพัง นักบวชที่เป็นประธานในงานแต่งงานได้ถามขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนกว่า “แล้วเจ้าสาวล่ะ?”
ถังเลี่ยนเช็ดน้ำตา จากนั้นก็ดึงพนักงานที่เดินผ่านไปมาถามว่า “เจ้าสาวในงานแต่งงานของพวกเขาไปไหนแล้วเหรอ?”
พนักงานเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นมาตามความเป็นจริงว่า “เจ้าสาวไม่ได้มาครับ ผมได้ยินมาว่าเป็นเพราะรับไม่ได้ที่สามีเป็นคนพิการ ก็เลยหนีงานแต่งงานไปแล้วครับ”
“จากนั้นเขาก็เลยรออยู่ที่นี่มาโดยตลอดเลยงั้นเหรอ?”
พนักงานพยักหน้า เธอจึงขอบคุณเขาไป
เจ้าบ่าวที่นั่งอยู่บนวีลแชร์หันหลังให้เธออยู่ ระหว่างพวกเขาสองคนห่างกันพอสมควร เธอไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของชายคนนั้นได้ในขณะนี้ แต่เธอรู้ว่าการถูกทอดทิ้งนั้นต้องรู้สึกแย่มากแค่ไหน
พวกเขาสองคนมีความคล้ายคลึงกันมากจริง ๆ พวกเขาทั้งคู่ต่างก็เป็นคนน่าสงสารที่ถูกทอดทิ้งไปเหมือนกัน
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาของถังเลี่ยนก็ดูขึงขังขึ้นมาทันที
ต่อให้จะรักกันมาสามปีแล้วยังไงเหรอ ฉินซื่อหมิงก็ยังทรยศความสัมพันธ์ของเธอกับเขาได้เลย แล้วทำไมเธอต้องภักดีด้วยล่ะ!
ไม่ใช่ว่าเธอจะขาดฉินซื่อหมิงไม่ได้สักหน่อย เธอก็ยังมีทางเลือกอื่นอีก!
เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ เธอก็ลุกขึ้นยืนมา แขกผู้มีเกียรติที่กำลังกระซิบกระซาบและเยาะเย้ยเธออยู่ก็เงียบไปทันที
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ถังเลี่ยนโดยไม่รู้ตัว แล้วก็เห็นว่าเธอยกชายกระโปรงขึ้น จากนั้นก็เดินตรงไปยังงานแต่งงานที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
เมื่อเห็นเจ้าสาวคนหนึ่งที่สวมชุดแต่งงานสีขาวเดินเข้ามา แขกฝั่งเจ้าบ่าวก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน
เมื่อชายคนนั้นได้ยินเสียงฮือฮาขึ้นมา เขาจึงหมุนวีลเชร์หันตัวมาช้า ๆ
ถังเลี่ยนหยุดเดิน แล้วก็จ้องมองไปที่ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้าเธอ แววตาของเธอแสดงความประหลาดใจขึ้นมา จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกไปและพูดว่า “สวัสดีค่ะ ฉันได้ยินมาว่างานแต่งงานของคุณขาดเจ้าสาวอยู่ เจ้าบ่าวของฉันก็หนีไปพอดี ถ้างั้นเราสองคนมาแต่งงานกันเถอะค่ะ”
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
แรกเริ่มเขา 'ซื้อ' เธอมาเพื่อบำบัดความใคร่ เมียชั่วคราวที่มีไว้แก้เหงา แต่สุดท้ายแล้ว...เมียชั่วคราวนั่นแหละ ที่อยากได้เป็นเมียจริงๆ ผู้หญิงสู้ชีวิตอย่างนับดาว...ไม่ยอมแพ้โชคชะตาที่นำพาตนเองไปรับบทน่าอดสู เธอถูกหลอกจากคนที่ไว้ใจที่สุด!! กับการ 'ขายตัว' เขาเหยียดหยามสารพัด ดุถูกจนเธอเจ็บช้ำเจียนตาย เธอเลือกทางหนี เพื่อจบปัญหาน่าปวดหัวครั้งนี้.... ขอเริ่มต้นใหม่ กับชีวิตแบบใหม่ แต่ทำไมล่ะ?...ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยเธอ ในเมื่อเขาชิงชังเธอนักหนานี่นา?????
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"