นฤดาบอกเลิกแฟนและดื่มเครื่องดื่มที่มียาตัวใหม่ของเขาอย่างไม่ตั้งใจ หญิงสาวตื่นมาในบ้านของเขาและคิดว่ามันก็แค่วันไนท์ฯ แต่เรื่องมันไม่ง่ายเลยเมื่อเด็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องและเรียกเธอว่าหม่ามี้
นฤดาบอกเลิกแฟนและดื่มเครื่องดื่มที่มียาตัวใหม่ของเขาอย่างไม่ตั้งใจ หญิงสาวตื่นมาในบ้านของเขาและคิดว่ามันก็แค่วันไนท์ฯ แต่เรื่องมันไม่ง่ายเลยเมื่อเด็กคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องและเรียกเธอว่าหม่ามี้
“เดินทางปลอดภัยนะคะแม่” เสียงใสบอกกับมารดาที่กำลังจะเดินทางกลับต่างจังหวัด
“แม่ไม่อยู่หนูก็ดูแลตัวเองดีๆ นะล็อกประตูรั้วล็อกประตูบ้านๆ ดีแล้วก็อย่านอนดึก” ประภาพรบอกกับลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
แม้นฤดาลูกสาวของเธอจะโตแล้วแต่ในสายตาของคนเป็นแม่ก็ยังเป็นห่วงและเห็นเธอเป็นเด็กอยู่ตลอด
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะแม่หวานดูแลตัวเองได้ แม่นั่นแหละที่น่าเป็นห่วงนั่งรถตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงอุตรดิตถ์อย่าลืมหาอะไรกินรองท้องด้วยนะคะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกลูกบนรถไฟเขามีขาย”
“แต่หวานว่าแม่น่าจะซื้อไปจากตลาดดีกว่านะคะ ถ้าเกิดเขาขายหมดหรือของที่แม่อยากกินไม่มีแม่จะทำยังไง”
“ก็ได้จ้ะเดี๋ยวแม่จะหาซื้อก่อนขึ้นรถ หวานรีบกลับบ้านเถอะลูกรถเมล์มาแล้ว”
“ถึงแล้วอย่าลืมไลน์มาบอกหวานนะคะแม่” หญิงสาวตะโกนบอกมารดาที่ขึ้นไปนั่งบนรถเมย์เรียบร้อยแล้ว
“จ้ะลูก ดูแลตัวเองดีๆ นะ”
นฤดามองรถตามหลังรถเมล์ไปจนสุดสายตาจากนั้นเธอก็เดินกลับมายังบ้านหลังเล็กด้านในซอย บ้านหลังนี้เธออยู่กับมารดามาตั้งแต่จำความได้ถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบจะยี่สิบปีแล้ว
ปกติแล้วมารดาไม่ค่อยทิ้งให้เธออยู่คนเดียวเวลาจะไปไหนก็ไปด้วยกันตลอดแต่ครั้งนี้มารดาต้องกลับไปทำธุระที่อุตรดิตถ์หลายวัน นฤดาเพิ่งจะเข้าทำงานได้ไม่กี่เดือนจึงลางานนานๆ ไม่ได้
“แม่ไปแล้วเหรอหวาน”
“ค่ะป้าเยาว์”
“อยู่คนเดียวกลัวหรือเปล่าให้น้องแก้มไปนอนเป็นเพื่อนไหม”
“ขอบคุณค่ะป้าเยาว์ แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะหวานอยู่ได้”
“ถ้ามีอะไรก็ตะโกนเรียกป้าดังๆ นะ”
“ค่ะ” นฤดาตอบป้าข้างบ้านจากนั้นก็กลับเข้ามาในบ้านของตนเอง
นฤดารีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอกเพราะวันนี้เงินเดือนออกหญิงสาวจึงนัดกับเพื่อนว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน
ก่อนออกไปเธอโทรศัพท์ไปหาปรเมศวร์คนรักเพราะอยากจะชวนเขาไปเที่ยวด้วยกัน
“หวานมีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอกค่ะหวานแค่อยากเจอพี่กาย วันนี้เงินเดือนหวานออกแล้วเราไปเที่ยวกันดีไหมคะ”
“งานพี่ยุ่งมากเอาไว้เราค่อยไปเที่ยวกันวันหลังนะ”
“ก็ได้ค่ะ หวานขอโทษที่รบกวนเวลางาน”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่วางก่อนนะ”
นฤดารู้สึกว่าช่วงนี้คนรักของตนไม่ค่อยมีเวลาให้เลยแต่เธอก็พยายามเข้าใจ ซึ่งแต่ก่อนนฤดาก็ไม่ค่อยเข้าใจคนรักเท่าไหร่แต่พอตัวเองเรียนจบและเริ่มทำงานก็เข้าใจเขามากขึ้น เธอกับเขาทำงานกันคนละที่นฤดาทำงานที่ฝ่ายบัญชีชองโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง ส่วนเขาเป็นพนักงานฝ่ายไอทีอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
เมื่อคนรักไม่ไปด้วยหญิงสาวจึงโทรศัพท์บอกเพื่อนให้มารับที่หน้าบ้านเพราะตอนแรกคิดว่าจะให้ปรเมศวร์มารับ
“เราจะเข้าร้านไหนกันดีล่ะมีผับใหม่เยอะเลย” นฤดาถามคนขับที่กำลังวนหาที่จอดรถในย่านที่ผับและบาร์อยู่เต็มไปหมด
“ร้านนั้นไง”
“นั่นมันร้านหรูเลยนะปลาเราจะเอาตังที่ไหนจ่าย”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่ามีคนจ่ายให้เราแล้ว”
“ใครเหรอปลา” นุ่นถามด้วยความสงสัยเพราะร้านที่เพื่อนบอกนั้นเป็นร้านหรูที่ต้องเป็นสมาชิกถึงจะเข้าไปใช้บริการได้
“คุณเฉินแฟนใหม่ของปลาไง”
“แล้วตัวเขาไม่มาเหรอ มีนากลัวเขาจะหลอกเรามาแล้วเราต้องจ่ายเองเงินเดือนพวกเรายิ่งน้อยๆ อยู่”
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่ามีนา เมื่อวานปลาก็มากับเขาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง เขาเอาบัตรนี่ให้เราแล้ว” หญิงสาวยื่นบัตรสีดำที่มีตัวอักษรสีทองเขียนว่า VIP ให้เพื่อนดู
“แบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อย”
“นานๆ ทีได้ออกมาเที่ยวแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะคืนนี้หวานจะเมาให้เต็มที่เลย”
“ไม่กลัวแม่กับพี่กายว่าเหรอ”
“แม่กลับบ้านที่ต่างจังหวัดส่วนพี่กายงานยุ่งมากคืนนี้หวานก็เลยอิสระเต็มที่ พรุ่งนี้ก็วันหยุดด้วย”
“ทุกอย่างดูเป็นใจไปหมดเลยนะ สงสัยคืนนี้พวกเราคงได้สนุกกันสุดเหวี่ยง”
“สนุกกันให้เต็มที่เลยเดี๋ยวฟ้าขับรถไปส่งทุกคนที่บ้านเอง” เพราะเป็นคนเดียวที่ดื่มเธอจึงคอยเป็นคนขับรถให้ทุกครั้ง
“ขอบใจนะฟ้า ถ้าพวกเราไม่มีฟ้าก็คงแย่นะ”
“ฟ้าไม่อยากลองดื่มบ้างเหรอ มาเที่ยวทีไรนุ่นเห็นกินแต่น้ำส้ม”
“ไม่ล่ะ ฟ้ากินทีไรเป็นผื่นทุกมีไม่อยากเสี่ยง” เพราะเป็นคนไวต่อแอลกอฮอล์เธอจึงไม่คิดจะดื่มแต่ก็ออกมากับเพื่อนทุกครั้งเพราะชอบบรรยากาศและอยากจะสนุกกับเพื่อนๆ
ห้าสาวลงจากรถและตรวจดูความเรียบร้อยของชุดที่ใส่ก่อนจะเดินเข้าไปยังผับสุดหรูที่อยู่ตรงหน้า พนักงานที่หน้าประตูเห็นบัตร VIP ที่ปลาถือมาก็ให้พวกเธอเข้าไปโดยไม่ต้องตรวจบัตรประชาชนแต่พวกเธอก็ไม่ไม่กลัวถ้าหากเขาจะตรวจเพราะทุกคนอายุเกิน 20 ปีกันหมดแล้ว
ทั้งหมดถูกพนักงานพาไปนั่งบริเวณชั้นสองของผับซึ่งเป็นโซนสำหรับสมาชิก VIP
“อยู่บนนี้ก็ดีเหมือนกันนะมองเห็นคนข้างล่างได้เกือบทุกมุมเลย” มีนาพูดขณะมองไปรอบๆ ร้าน
“คนมาเที่ยวไม่ค่อยเยอะฟ้าว่าแบบนี้ไม่อึดอัดดีนะ”
“คุณเฉินบอกปลาว่าค่าสมาชิกที่นี่ค่อนข้างแพง คนมาเที่ยวก็จะเป็นพวกคุณหนูหรือไม่ก็นักธุระกิจชาวต่างชาติ”
“แล้วเขาไม่ว่าเหรอที่ปลาพาเพื่อนมาเที่ยว”
“ไม่หรอก เขาเป็นคนบอกเองว่าถ้าอยากมาเที่ยวก็อย่าไปที่อื่น ที่นี่ค่อยข้างปลอดภัยและเขาก็บอกพนักงานแล้วว่าให้ช่วยดูแลถ้าปลากับเพื่อนจะมาเที่ยว”
“เราจะได้เจอแฟนของปลาไหม”
“ปลาไม่แน่ใจวันนี้เจ้านายเขามีประชุม ไม่รู้จะเสร็จกี่โมงถ้าเสร็จเร็วเขาบอกจะตามมา”
“นี่มันดึกแล้วนะเขายังประชุมไม่เสร็จอีกเหรอ”
“เจ้านายเขาทำธุรกิจหลายประเทศนะ เวลาที่นั่นอาจจะเป็นกลางวันอยู่ก็ได้”
“เป็นคนรวยนี่เหนื่อยน่าดูเลยนะ” นุ่นเปรยขึ้น
“นั่นสิ บางทีหวานก็อยากลองเป็นคนรวยดูบ้างนะ”
“มนุษย์เงินเดือนอย่างเราคงรวยได้ยาก แต่ก็มีวิธีรวยทางลัดอยู่นะ” ฟ้าพูดพลางหัวเราะคิกๆ
“จะบอกให้ซื้อหวยอีกแล้วใช่ไหมล่ะฟ้า มีนาไม่เอาแล้วนะงวดที่แล้วหมดไปตั้งหลายร้อย เอาตังมาซื้อกาแฟกินดีกว่า”
“ฟ้าไม่ได้หมายถึงซื้อหวย ฟ้าหมายถึงหาแฟนรวยๆ”
“จริงสินะ แต่หน้าตาธรรมดาอย่างมีนาใครจะสนใจกันล่ะถ้าสวยๆ อย่างหวานก็ว่าไปอย่าง”
“แต่น่าเสียดายนะที่หวานมีแฟนแล้ว”
“นุ่นว่ามีได้ก็เลิกได้ถ้าแฟนของเราไปมีคนอื่น”
“พูดอะไรแบบนั้นล่ะนุ่นเดี๋ยวหวานก็คิดมากหรอก” ปลาดุเพื่อน
“ที่พูดก็เพราะอยากให้หวานคิดมากๆ ว่าจะเอายังไงต่อเพราะตอนนี้พี่กายของหวานกำลังควงผู้หญิงอื่นเข้ามาในร้าน"
ความผิดพลาดในคืนนั้นทำให้ชีวิตของวิรัลพัชรเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำใครคือผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่เขาจำได้และเมื่อรู้ว่าเธอกำลังท้องลูกของเขาชายหนุ่มก็ก้าวเข้ามาในชีวิตเพียงเพื่อต้องการลูกของเธอเท่านั้น
นานนับปีแล้วที่อรณิชาไม่ได้รับความสุขจากสามี เขาอ้างว่าเพราะงานแต่จริงๆ แล้วเขามีคนอื่นโดยที่อรณิชาไม่รู้ หญิงสาวจึงให้เวลาเขาและเธอหนึ่งเดือนเพื่อจัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิตคู่ หญิงสาวจึงกลับมาที่เมืองไทย และได้เจอกับอดีตคน รักความสุขความผูกพัน ทางใจในอดีตกับกลายเป็นความสัมพันธ์ทางกายในปัจจุบัน ความใกล้ชิดในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ทั้งสองเผลอใจก้าวข้ามเส้นที่ขีดไว้ไม่สนใจทถูกผิดมองแค่บนเตียงเพียงอย่างเดียว
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY