เธอต้องแต่งงานกับเขาก่อนพี่ชายสิ้นใจ เขาจึงกลายเป็นสามีและครูพละที่สอนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน และทุกอย่างเป็นความลับ!!!
สามีของฉันเป็นครูพละ
“โอ๊ย!” เบอร์รีหรือบัณฑิตาร้องด้วยความเจ็บเมื่อลูกวอลเลย์บอลมากระแทกกับใบหน้าเข้าอย่างจัง
“โทษทีเบอร์รี ทำไมแกไม่รับลูกล่ะ” ปันปันหรือปณิตาเอ่ยถามเพื่อนรัก พลางเดินมาดูอาการของเพื่อน
“เจ็บ” บัณฑิตาไม่ตอบว่าทำไมไม่รับลูก แต่ลูบหน้าตัวเองไปมา และมันก็กำลังแดงก่ำ
“แกมัวแต่มองอะไรของแก” ปณิตาหันไปมองตามสายตาของเพื่อนก่อนที่จะตาโต
“แกมองครูกายอยู่เหรอ”
“ฉันน่ะเหรอจะมองครูจอมขี้เก๊กนั่น ไม่ได้มองเสียหน่อย”
“มันชักจะยังไง ๆ แล้วสิ” ปณิตากระแทกไหล่เพื่อนรัก ในคาบนี้เป็นวิชาพละศึกษา โดยกายสิทธิ์หรือครูกายเป็นคนสอนวอลเลย์บอลให้ชั้นเรียนของเธอ
“ยังไงยังไงคือยังไงเหรอ” คนถามกัดปากตัวเองเบา ๆ กลัวเพื่อนรู้ความลับของเธอกับกายสิทธิ์เข้า
"ก็ยายส้มจี๊ดยังไงล่ะ ดูสิให้ครูกายสอนตัวเองอยู่คนเดียว เสนอหน้าสุด ๆ” บัณฑิตามองตามสายตาของเพื่อนรัก ก็เห็นว่ากายสิทธิ์กำลังช่วยจับบอลและจัดท่าให้ส้มจี๊ดหรือสารภีอยู่
“เขาคงอยากสอนส้มจี๊ดกระมัง” คนพูดกัดปาก อยู่ในโรงเรียนเช่นนี้เธอจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่ากายสิทธิ์คือสามี
บ้าจริง!
มีผัวตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย เพราะพี่ชายของเธอที่จากโลกนี้ไปแท้ ๆ
แต่ในเวลานั้นเธอกับกายสิทธิ์ต้องรับปากคนใกล้ตาย
พี่ชายเข้าช่วยเหลือกายสิทธิ์เอาไว้ เลยทำให้โดนยิงตาย แต่กายสิทธิ์เองก็เข้าช่วยพี่ชายเอาไว้ จากพวกทวงหนี้ของพี่ชายเช่นกัน พวกทวงหนี้โหดจากโต๊ะพนันบอล
ในช่วงที่กำลังอยู่ระหว่างความเป็นความตาย พี่ชายของเธอก็ฝากเธอเอาไว้กับกายสิทธิ์ และขอให้แต่งงานกันด้วย ทั้งเธอและกายสิทธิ์ไม่อยากรับปาก แต่คนใกล้ตายกำลังจะสิ้นใจ เพื่อให้นอนตายตาหลับ เธอกับเขาเลยต้องรับปากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
งานศพจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเพราะเธอกับพี่ชายเป็นกำพร้า พ่อแม่ตายหมดแล้ว ทิ้งบ้านเอาไว้หนึ่งหลัง ซึ่งโดนยึดไปเรียบร้อยแล้วเพราะพี่ชายติดหนี้พนันบอลเป็นจำนวนเงินค่อนข้างมาก
กายสิทธิ์ที่มีบ้านใกล้กันจึงต้องรับเธอเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน เขามีพี่น้องหลายคน ต่างแยกย้ายกันไปทำงานยังจังหวัดต่าง ๆ เหลือเพียงเขาอยู่บ้านเพียงคนเดียว บิดามารดาของเขาก็เสียชีวิตไปหมดแล้วเช่นกัน
เธอไม่คิดว่าเขาจะถือเป็นจริงเป็นจังกับการแต่งงานที่พี่ชายของเธอขอร้อง แต่ที่ไหนได้ เขาโทรศัพท์ไปบอกข่าวว่าจะแต่งงาน ให้พี่ ๆ กลับมาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ เมื่อทำการผูกข้อไม้ข้อมือกันเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับไปทำงานของตัวเอง ทิ้งเธอเอาไว้กับเขา ดังนั้นก็จะมีเพียงญาติพี่น้องของเขาเท่านั้นที่รับรู้ ว่าเธอกับกายสิทธิ์เป็นสามีภรรยากันแล้ว แต่ก็เป็นสามีภรรยากันในนามเท่านั้น กายสิทธิ์รับปากว่าจะไม่ล่วงเกินเธอให้มัวหมอง หากเธอไม่ยินยอมพร้อมใจ
การย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของเขาทำให้เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูก เพราะปกติก็ไม่ได้ชอบหน้าเขาสักเท่าใด เพื่อนพี่ชายคนนี้ขี้เก๊กจะตายไป แถมยังพูดน้อย เย็นชา หน้าตึง เคร่งขรึม ไว้ตัว เสียเหลือเกิน
เสียงกริ่งดังขึ้น ทำให้บัณฑิตาหลุดจากภวังค์ความคิด หมดคาบแล้วแต่เธอยังคิดเรื่องกายสิทธิ์อยู่แบบนั้น
โรงเรียนอยู่ไม่ไกลจากบ้านแต่ก็ไม่ใกล้นัก เมื่อก่อนเธอขับมอเตอร์ไซค์มาเรียนด้วยตัวเอง ตอนนี้เธอก็ยังทำแบบนั้น จะให้นั่งรถมากับกายสิทธิ์โรงเรียนได้แตกแน่ ๆ
ทำไมน่ะเหรอ ก็เขาเป็นครูพละเนื้อหอมอย่างไรเล่า มีครูสาว ๆ ในโรงเรียนทอดสะพานให้ไม่ขาด ทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ แถมเด็กนักเรียนมัธยมปลายก็แก่แดดเหลือเกิน อ่อยกายสิทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น
ชิ! หมั่นไส้พวกคนเนื้อหอมนัก
จริง ๆ การขับรถกลับบ้านก็ไม่ได้ทำให้เธอกลัวอะไรนักหรอก เพราะเขาขับตามเธอมาด้วย
เธอขับมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่นเก่า ๆ ของพี่ชาย ซึ่งตกทอดมาจากรุ่นบิดามารดา ในขณะที่กายสิทธิ์ขับบิ๊กไบค์ราคาแพงลิ่ว
เป็นแค่ครูพละไม่ได้รวยขนาดนี้หรอก แต่เพราะมรดกที่บิดามารดาของเขาทิ้งเอาไว้ก่อนตาย หลังจากแบ่งกับพี่ ๆ เท่า ๆ กัน โดยพี่น้องทุกคนรักกันไม่แย่งสมบัติหรือทะเลาะกันเรื่องสมบัติเลยสักนิด กายสิทธิ์สามารถอยู่ได้อย่างสบายโดยที่ไม่ต้องทำงานเลย
พ่อแม่ของเธอก็ทิ้งเงินมรดกเอาไว้พอสมควร แถมด้วยบ้านอีกหนึ่งหลังให้เธอกับพี่ชายอยู่ แต่พี่ชายดันไปติดการพนัน ชีวิตของเธอถึงได้เป็นแบบนี้ ต้องมาอาศัยคนอื่นเขาอยู่ ยิ่งเธอไม่ได้ชอบหน้าเขาเท่าใดนัก เลยทำให้อึดอัดอยู่มาก
บัณฑิตาถึงบ้านก็ถอนใจด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์ จบสิ้นกันเสียทีการเรียนในสัปดาห์นี้
เธอทิ้งตัวแผ่หลาลงบนเตียงอย่างมีความสุข แต่เสียงดุ ๆ ของกายสิทธิ์ก็ทำให้เธอต้องรีบดีดตัวขึ้นจากที่นอนในทันที
“กลับมาจากโรงเรียนแทนที่จะรีบอาบน้ำ กระโดดขึ้นเตียงในชุดพละแบบนั้น ไม่เหม็นเหงื่อรึไง” เขาเข้มงวดพอสมควร เหมาะกับการเป็นครูพละจอมหยิ่งและไว้ตัวเสียเหลือเกิน
เขายกห้องให้เธอหนึ่งห้องทำให้เธอค่อนข้างเป็นส่วนตัว แต่สามีในนามของเธอคนนี้ก็ยังวางมาดครูพละจอมเนี๊ยบเข้ามาสำรวจห้องของเธออยู่เสมอ อะไรไม่เรียบร้อยเธอก็โดนบ่นหูชา
เขาเป็นผู้ชายที่สะอาดสะอ้าน ข้าวของในบ้านจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย ในขณะที่เธอไม่มีความเรียบร้อยเอาเสียเลย อาจเพราะว่าพี่ชายไม่เคยเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอก็เลยติดนิสัยนั้นมาด้วย
“เหนื่อย ขอนอนพักแป๊บไม่ได้เหรอคะ” บัณฑิตาทำหน้างอ
“นอนได้ แต่พรุ่งนี้เอาที่นอนไปซักด้วย เอาตัวเหม็น ๆ เต็มไปด้วยเหงื่อไปคลุก สกปรก!” เขาทำเสียงดุเข้ม ทำท่าจะเดินออกจากห้อง ก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างหล่นอยู่บนพื้น
บัณฑิตาตาเหลือก เด็กสาวรีบตะเกียกตะกายลุกจากเตียงไปเก็บกางเกงในตัวน้อยที่ม้วนเป็นเลขแปดซ่อนเอาไว้ทางด้านหลังด้วยใบหน้าร้อนผ่าว
ใบหน้าของกายสิทธิ์แดงก่ำ หันมามองร่างน้อยที่ยืนก้มงุดอยู่ไม่วาง หลังจากนั้นบัณฑิตาก็หูชา รีบพยักหน้ารับค่ะ ๆ ไม่มีการเถียงเลยสักคำ
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
"คุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม" "นี่อะไร" ศิวัฒน์ชูเอกสารในมือขึ้น "คุณก็เห็นว่ามันคืออะไร" เธอตอบโดยไม่ใส่ใจมากนัก เพราะเกี่ยวกับเขาถึงยังไงเขาก็ต้องรู้ "หึ" เขาเดินเข้าไปใกล้เธอ "เธอคิดว่าเล่นขายของอยู่หรือไง ที่จะเลิกเล่นตอนไหนก็ได้" "คุณเองไม่ใช่เหรอที่อยากหย่าตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันก็ยอมเซ็นใบหย่าให้คุณแล้วเราไปอำเภอกันพรุ่งนี้เลยฉันเตรียมเอกสารครบแล้ว" "มันสายไปแล้ว" เขาบีบต้นแขนเธอแน่น "อยากเป็นเมียก็จะให้เป็น" "ฉันเจ็บนะคุณไตร" เธอพยายามแกะมือของเขาออก "อยากหย่ากับฉันมากละสิ เสียใจด้วยตอนนี้ฉันไม่อยากหย่าแล้ว" น้ำเสียงของเขาเหมือนคนที่กำลังโกรธ ซึ่งฉัตรนลินทร์ก็ไม่เขาใจว่าทำไมเขาถึงได้โกรธขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกแล้วแท้ ๆ "คุณจะทำอะไร" ฉัตรนลินทร์ร้องถามพลางเอามือดันอกเขาไว้ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็พยายามกอดเธอ ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ "ทำหน้าที่สามีไง จะทำทุกคืนให้คุ้มค่ากับเงินที่แม่ของฉันจ่ายให้เธอ" แม้จะเห็นใบหน้านวลตรงหน้านั้นกำลังซีดเผือดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ "ไม่นะ...ปล่อยฉันลงสิคุณไตร" เธอร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิวัฒน์อุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปที่เตียงนอน อึก!! ................................ "เธออยากหย่าขนาดนั้นเลย" "ใช่ค่ะ ไม่หย่าวันนี้วันหน้าก็ต้องหย่าอยู่ดี" ................................. "ถอยไปดิ อย่ามาขวาง" เธอไม่สนใจลูกชาย "อ้อ เอกสารของบริษัททั้งหมดอยู่ในห้องทำงานนะ ฉันยกให้แกหมดเลย" "แม่!!" "ไม่ต้องเรียก ฉันไม่มีลูกโง่อย่างแก" ................................. "เราไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ เรามาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดกันเถอะ" เธอหันไปเผชิญหน้ากับศิวัฒน์ "ฉันขอโทษที่ไม่ยอมปฏิเสธแม่ของคุณในวันนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของคุณ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันไม่อยากให้เรารู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันย้อนไม่ได้เราก็เดินไปข้างหน้าเพื่อลืมเรื่องราวของกันและกันเถอะ" ....................................
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!