นิยายจีนย้อนอดีตที่ดีที่สุดของจันทร์ส่องแสง เลือกตอนจบได้ตามใจนักอ่านกันไปเลยคร้า
เมื่อรู้สึกถึงแรงกระแทกอย่างจังที่ระหว่างคิ้ว
แพรวา ก็รู้ว่าตัวเองได้ดำดิ่งลงสู่พื้นน้ำ นาฬิกาบนหน้าจอมือถือ หยุดเดินตรงที่เวลา 21นาฬิกา28นาที31วินาที สติสัมปชัญญะดับวูบลงไป ความหนาวเหน็บในเดือนธันวาคม เหมือนจะเสียดแทงแต่ความหนาวเหน็บจากน้ำรอบๆ กายยิ่งเลวร้ายกว่าน้ำตาที่เอ่อนองอยู่เต็มตา เจือจางไปด้วยน้ำในแม่น้ำ
กลิ่นหอมขจรขจาย คล้ายกลิ่นมะลิ โชยมาอ่อนๆ ความหนาวเหน็บยังคงอยู่ แพรวา กวาดสายตามองรอบๆ ตัว เตียงนอนไม่สูงนักที่เธอนอนอยู่กลิ่นหอมที่ได้กลิ่นเมื่อกี้ คงมาจาก อ่างสีทองใบใหญ่ ใส่น้ำลอยดอกอะไรสักอย่างสีแดงเข้มไว้ข้างๆ อ่างทองใบนั้นมีกำยานถูกจุดไว้ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่ง ยังไม่ทันขยับตัวสายตาไปสะดุดลงที่ร่างสูงที่ยืนหันหลังให้ความผึ่งผายของแผ่นหลังชวนให้อยากเห็นใบหน้าเจ้าของร่างแต่อาภรณ์ที่สวมใส่เหมือนกับหลุดมาจากหนังจีนกำลังภายใน เธอพยุงกายลุกขึ้น
เสียงเตียงลั่นดังออดแอด ร่างสูงหันกลับมา ตาคมจ้องเขม็งมาที่เธอ ใบหน้าหล่อเหลา สะอาดตา คิ้วเข็มขมวดเข้าหากันเพียงเสี้ยววินาทีเธอเห็นสายตาห่วงใย แล้วก็แปรเปลี่ยนไปเป็นสายตาคมกริบปนไปด้วยความฉงนเหมือนเดิม
“ฟื้นแล้วรึเจ้า นอนไปหลายวันเชียว ข้าเป็นห่วงว่าเจ้าจะตายเสียได้ หมอหลวงต้องเฝ้ารักษาด้วยยา มาหลายขนาน ก็ยังไม่ยอมฟื้นคิดว่าจะตายเสียแล้ว”
คำพูดคล้ายประชดประชันอยู่ในที
” คุณเป็นใคร แล้วฉันมาอยู่นี่ได้อย่างไร”
คราวนี้เป็นเธอเองที่มีแววตาฉงนสนเท่ห์เธอสั่นศีรษะไปมาเพื่อไล่ความมึนงงปอยผมร่วงลงมาปิดใบหน้าสวยใสน่ามองนั้นทำให้ใบหน้าสวยยิ่งน่ามองยิ่งขึ้น ร่างสูงเหมือนจะหยุดมองดวงหน้าของเธอไม่ได้ รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นเหมือนพึงพอใจแต่เป็นเพียงแค่อึดใจเดียวรอยยิ้มหายไป
“เจ้าล่ะเป็นใคร ริมาโดดน้ำตายอยู่หน้าตำหนักของข้า ดีนะที่ข้ามาทันเห็นไม่เช่นนั้นเห็นต้องได้ไปเฝ้ายมบาลเป็นแน่แท้”
แพรวา พึ่งประจักรเดี๋ยวนี้เองว่าภายใต้ใบหน้าที่หล่อเหลานี้ ปากคอช่างเราะร้ายนักริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันในทันที คนบ้าที่ไหนจะฆ่าตัวตายเธออยากจะตะโกนบอกไปแบบนั้นด้วยความเคยชิน แต่ด้วยสถานการณ์ แบบนี้เธอทำได้แค่นี้จริงๆ
“ใครบอกคุณฉันจะฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุยะ”
เธอส่งเสียงลอดริมฝีปากบางสวย ใบหน้าคมเลิกคิ้ว ท่าทีขัดตาแต่น่ามอง ไปอีกแบบ
“อย่างนั้นรึทำไม ไม่ว่ายน้ำล่ะปล่อยตัวเองให้ดำดิ่งลงไปอย่างนั้น”
.----------
เธอขยับปากจะเถียงแต่เมื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เธอเลือกที่จะหุบปากนิ่ง
เช้าที่แสนสดใสแดดทอประกายอ่อนๆ ท้องฟ้าสีฟ้าครามไม่มีเมฆหมอกลอยมากวนใจ แพรวาถือกล่องของขวัญใบเล็กแต่ทว่ามากด้วยความหมาย วันนี้วันเกิดของคนสำคัญของเธอ แม้แต่กระดาษห่อของขวัญที่เตรียมมาก็เป็นสีที่เขาชอบ
เธอพาตัวเองมาอยู่ที่หน้าลิฟต์ ประตูเปิดออก เอื้อมมือไปกดชั้นบนสุดเขาจะแปลกใจแค่ไหนนะ แพรวานึกถึงท่าทางของเขาไม่ออกเลย เผลออมยิ้มไปโดยไม่รู้ตัวปกติการมาของเธอทุกครั้งต้องแจ้งให้เขาทราบทางโทรศัพท์ แต่ว่าครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษเธออยากให้เขารู้ว่าเขาสำคัญกับเธอแค่ไหน นาฬิกาบนข้อมือบอกเวลา6.30น. เขาคงนอนหลับสบายอยู่บนที่นอนเพราะปกติแล้วกว่าเขาจะตื่นนอนและธุระส่วนตัวเสร็จก็เกือบ8.30 แล้ว เมื่อเวลา09.00 น.เขาจะโทรหาเธอทุกวัน ดีที่เธอมีกุญแจสำรองที่เขาให้ไว้ปกติเมื่อเขาไม่อยู่เธอมักจะแอบมาทำความสะอาดห้องให้เขาทุกๆ วันเสาร์ เลยจำเป็นต้องขอกุญแจเขาไว้ จึงถือว่าเป็นเรื่องดีที่ จะได้ย่องเข้าไปโดยเขาไม่รู้ตัว
เธอรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมาทันทีที่เดินมาจนถึงหน้าห้องของเขา ประตูห้องปิดสนิทไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใดๆ ในห้อง แพรวา ใช้ความระวังอย่างที่สุด ในการแทรกตัวเข้าไปในห้องอย่างเงียบกริบ เขาต้องอยู่บนเตียงอย่างที่เธอคิดแน่นอนเธอพยายามทำตัวเองให้เบาที่สุดก้าวช้าๆ ไปยังห้องนอนที่แสนจะหรูหรารูปคู่ของเธอและเขาวางอยู่ บนโต๊ะ ก่อนถึงประตูทางเขาไปห้องนอน ประตูห้องนอนแง้มออกเล็กน้อยเธอ สอดส่ายสายตามองไปที่เตียง หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของผู้ชาย สองคน นอนกอดก่าย อย่างไม่อายฟ้าดิน ผิวขาวเกลี้ยงเกลา เบียดชิดแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งคู่นอนหลับตาพริ้มเหมือนกับสุขสมหนักหนามีเพียงผ้าห่มบางเบาปิด ตรงส่วนกลางของร่างกาย
แพรวาใช้มือปิดปากตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ คิดว่าตัวเองคงอดที่จะวี้ดร้องออกมาไม่ได้แต่เปล่าเลย เธอไม่มีแม้กระทั่งเสียงหายใจคล้ายๆ จะหยุดหายใจไปชั่วขณะ น้ำใสๆไหลพรั่งพรูออกมา เธอหันหลังวิ่งกลับออกไปอย่างเร็วที่สุด ลืมห่อของขวัญที่วางไว้ตรงโต๊ะกลางห้อง
แพรวาเหยียบคันเร่งของรถคันที่เธอขับจนสุดแรง ด้วยความเสียใจ พาตัวเองออกมาจากตึกสูงด้วยหัวใจที่แตกสลาย
ร.ป.ภ เปิดแผงกั้นทางออกแทบไม่ทัน เช้าสดใสหายไปกับความเศร้า สมองที่สับสนงุนงงพยายามหาคำอธิบาย แต่ด้วยภาพที่เธอเห็น จะให้คิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย
เธอเหยียบคันเร่งรถจนสุดแรงด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
น้ำตาไหลรินเป็นสายไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองสองข้างทางรถยังบางตา แพรวาไม่รู้ว่าตัวเองเสียใจมากแค่ไหนปล่อยให้อารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นครอบงำร่างกาย สายตาพร่ามัวนั้นทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง
“เอี๊ยด เอี๊ยด โครม ปัง”
เธอขับรถชนแท่งซีเมนต์หรือแท่งบาริเออร์บนถนนเป็นผลให้รถหมุนคว้าง ด้วยความเร็วของรถทำให้มีแรงมหาศาลพุ่งเข้าชนราวสะพานเต็มแรงรถพลิกคว่ำ แล้วหงายหลัง แรงเหวี่ยงส่งผลให้รถคันเล็กของเธอพลิกตกลงไปยังแม่น้ำเบื้องหน้า ศีรษะกระแทกบริเวณคอนโซลหน้ารถตัวเธอหมดสติพร้อมกับรถที่ลอยละลิ่วสู่แม่น้ำเย็นเฉียบ
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา