นิยายจีนย้อนอดีตที่ดีที่สุดของจันทร์ส่องแสง เลือกตอนจบได้ตามใจนักอ่านกันไปเลยคร้า
นิยายจีนย้อนอดีตที่ดีที่สุดของจันทร์ส่องแสง เลือกตอนจบได้ตามใจนักอ่านกันไปเลยคร้า
เมื่อรู้สึกถึงแรงกระแทกอย่างจังที่ระหว่างคิ้ว
แพรวา ก็รู้ว่าตัวเองได้ดำดิ่งลงสู่พื้นน้ำ นาฬิกาบนหน้าจอมือถือ หยุดเดินตรงที่เวลา 21นาฬิกา28นาที31วินาที สติสัมปชัญญะดับวูบลงไป ความหนาวเหน็บในเดือนธันวาคม เหมือนจะเสียดแทงแต่ความหนาวเหน็บจากน้ำรอบๆ กายยิ่งเลวร้ายกว่าน้ำตาที่เอ่อนองอยู่เต็มตา เจือจางไปด้วยน้ำในแม่น้ำ
กลิ่นหอมขจรขจาย คล้ายกลิ่นมะลิ โชยมาอ่อนๆ ความหนาวเหน็บยังคงอยู่ แพรวา กวาดสายตามองรอบๆ ตัว เตียงนอนไม่สูงนักที่เธอนอนอยู่กลิ่นหอมที่ได้กลิ่นเมื่อกี้ คงมาจาก อ่างสีทองใบใหญ่ ใส่น้ำลอยดอกอะไรสักอย่างสีแดงเข้มไว้ข้างๆ อ่างทองใบนั้นมีกำยานถูกจุดไว้ควันสีขาวลอยอ้อยอิ่ง ยังไม่ทันขยับตัวสายตาไปสะดุดลงที่ร่างสูงที่ยืนหันหลังให้ความผึ่งผายของแผ่นหลังชวนให้อยากเห็นใบหน้าเจ้าของร่างแต่อาภรณ์ที่สวมใส่เหมือนกับหลุดมาจากหนังจีนกำลังภายใน เธอพยุงกายลุกขึ้น
เสียงเตียงลั่นดังออดแอด ร่างสูงหันกลับมา ตาคมจ้องเขม็งมาที่เธอ ใบหน้าหล่อเหลา สะอาดตา คิ้วเข็มขมวดเข้าหากันเพียงเสี้ยววินาทีเธอเห็นสายตาห่วงใย แล้วก็แปรเปลี่ยนไปเป็นสายตาคมกริบปนไปด้วยความฉงนเหมือนเดิม
“ฟื้นแล้วรึเจ้า นอนไปหลายวันเชียว ข้าเป็นห่วงว่าเจ้าจะตายเสียได้ หมอหลวงต้องเฝ้ารักษาด้วยยา มาหลายขนาน ก็ยังไม่ยอมฟื้นคิดว่าจะตายเสียแล้ว”
คำพูดคล้ายประชดประชันอยู่ในที
” คุณเป็นใคร แล้วฉันมาอยู่นี่ได้อย่างไร”
คราวนี้เป็นเธอเองที่มีแววตาฉงนสนเท่ห์เธอสั่นศีรษะไปมาเพื่อไล่ความมึนงงปอยผมร่วงลงมาปิดใบหน้าสวยใสน่ามองนั้นทำให้ใบหน้าสวยยิ่งน่ามองยิ่งขึ้น ร่างสูงเหมือนจะหยุดมองดวงหน้าของเธอไม่ได้ รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นเหมือนพึงพอใจแต่เป็นเพียงแค่อึดใจเดียวรอยยิ้มหายไป
“เจ้าล่ะเป็นใคร ริมาโดดน้ำตายอยู่หน้าตำหนักของข้า ดีนะที่ข้ามาทันเห็นไม่เช่นนั้นเห็นต้องได้ไปเฝ้ายมบาลเป็นแน่แท้”
แพรวา พึ่งประจักรเดี๋ยวนี้เองว่าภายใต้ใบหน้าที่หล่อเหลานี้ ปากคอช่างเราะร้ายนักริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันในทันที คนบ้าที่ไหนจะฆ่าตัวตายเธออยากจะตะโกนบอกไปแบบนั้นด้วยความเคยชิน แต่ด้วยสถานการณ์ แบบนี้เธอทำได้แค่นี้จริงๆ
“ใครบอกคุณฉันจะฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุยะ”
เธอส่งเสียงลอดริมฝีปากบางสวย ใบหน้าคมเลิกคิ้ว ท่าทีขัดตาแต่น่ามอง ไปอีกแบบ
“อย่างนั้นรึทำไม ไม่ว่ายน้ำล่ะปล่อยตัวเองให้ดำดิ่งลงไปอย่างนั้น”
.----------
เธอขยับปากจะเถียงแต่เมื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เธอเลือกที่จะหุบปากนิ่ง
เช้าที่แสนสดใสแดดทอประกายอ่อนๆ ท้องฟ้าสีฟ้าครามไม่มีเมฆหมอกลอยมากวนใจ แพรวาถือกล่องของขวัญใบเล็กแต่ทว่ามากด้วยความหมาย วันนี้วันเกิดของคนสำคัญของเธอ แม้แต่กระดาษห่อของขวัญที่เตรียมมาก็เป็นสีที่เขาชอบ
เธอพาตัวเองมาอยู่ที่หน้าลิฟต์ ประตูเปิดออก เอื้อมมือไปกดชั้นบนสุดเขาจะแปลกใจแค่ไหนนะ แพรวานึกถึงท่าทางของเขาไม่ออกเลย เผลออมยิ้มไปโดยไม่รู้ตัวปกติการมาของเธอทุกครั้งต้องแจ้งให้เขาทราบทางโทรศัพท์ แต่ว่าครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษเธออยากให้เขารู้ว่าเขาสำคัญกับเธอแค่ไหน นาฬิกาบนข้อมือบอกเวลา6.30น. เขาคงนอนหลับสบายอยู่บนที่นอนเพราะปกติแล้วกว่าเขาจะตื่นนอนและธุระส่วนตัวเสร็จก็เกือบ8.30 แล้ว เมื่อเวลา09.00 น.เขาจะโทรหาเธอทุกวัน ดีที่เธอมีกุญแจสำรองที่เขาให้ไว้ปกติเมื่อเขาไม่อยู่เธอมักจะแอบมาทำความสะอาดห้องให้เขาทุกๆ วันเสาร์ เลยจำเป็นต้องขอกุญแจเขาไว้ จึงถือว่าเป็นเรื่องดีที่ จะได้ย่องเข้าไปโดยเขาไม่รู้ตัว
เธอรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมาทันทีที่เดินมาจนถึงหน้าห้องของเขา ประตูห้องปิดสนิทไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใดๆ ในห้อง แพรวา ใช้ความระวังอย่างที่สุด ในการแทรกตัวเข้าไปในห้องอย่างเงียบกริบ เขาต้องอยู่บนเตียงอย่างที่เธอคิดแน่นอนเธอพยายามทำตัวเองให้เบาที่สุดก้าวช้าๆ ไปยังห้องนอนที่แสนจะหรูหรารูปคู่ของเธอและเขาวางอยู่ บนโต๊ะ ก่อนถึงประตูทางเขาไปห้องนอน ประตูห้องนอนแง้มออกเล็กน้อยเธอ สอดส่ายสายตามองไปที่เตียง หัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของผู้ชาย สองคน นอนกอดก่าย อย่างไม่อายฟ้าดิน ผิวขาวเกลี้ยงเกลา เบียดชิดแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งคู่นอนหลับตาพริ้มเหมือนกับสุขสมหนักหนามีเพียงผ้าห่มบางเบาปิด ตรงส่วนกลางของร่างกาย
แพรวาใช้มือปิดปากตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ คิดว่าตัวเองคงอดที่จะวี้ดร้องออกมาไม่ได้แต่เปล่าเลย เธอไม่มีแม้กระทั่งเสียงหายใจคล้ายๆ จะหยุดหายใจไปชั่วขณะ น้ำใสๆไหลพรั่งพรูออกมา เธอหันหลังวิ่งกลับออกไปอย่างเร็วที่สุด ลืมห่อของขวัญที่วางไว้ตรงโต๊ะกลางห้อง
แพรวาเหยียบคันเร่งของรถคันที่เธอขับจนสุดแรง ด้วยความเสียใจ พาตัวเองออกมาจากตึกสูงด้วยหัวใจที่แตกสลาย
ร.ป.ภ เปิดแผงกั้นทางออกแทบไม่ทัน เช้าสดใสหายไปกับความเศร้า สมองที่สับสนงุนงงพยายามหาคำอธิบาย แต่ด้วยภาพที่เธอเห็น จะให้คิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย
เธอเหยียบคันเร่งรถจนสุดแรงด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
น้ำตาไหลรินเป็นสายไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองสองข้างทางรถยังบางตา แพรวาไม่รู้ว่าตัวเองเสียใจมากแค่ไหนปล่อยให้อารมณ์ที่กำลังครุกรุ่นครอบงำร่างกาย สายตาพร่ามัวนั้นทำให้ความสามารถในการมองเห็นลดลง
“เอี๊ยด เอี๊ยด โครม ปัง”
เธอขับรถชนแท่งซีเมนต์หรือแท่งบาริเออร์บนถนนเป็นผลให้รถหมุนคว้าง ด้วยความเร็วของรถทำให้มีแรงมหาศาลพุ่งเข้าชนราวสะพานเต็มแรงรถพลิกคว่ำ แล้วหงายหลัง แรงเหวี่ยงส่งผลให้รถคันเล็กของเธอพลิกตกลงไปยังแม่น้ำเบื้องหน้า ศีรษะกระแทกบริเวณคอนโซลหน้ารถตัวเธอหมดสติพร้อมกับรถที่ลอยละลิ่วสู่แม่น้ำเย็นเฉียบ
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
"จะบอกให้นะ คนอย่างฉันเลวกว่าที่เธอคิดเยอะ อ้ออีกเรื่องที่ฉันจะบอกและให้เธอจำไว้ให้ขึ้นใจว่าต่อไปถ้าฉันมีอะไรกับเธอฉันจะไม่ป้องกันเพราะฉะนั้นต้องเป็นตัวเธอที่ต้องดูแลตัวเองหายาคุมมากินซะ อ้อแล้วก็อย่างที่ฉันบอกว่าห้ามปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อให้ฉันรับผิดชอบเพราะมันจะไม่มีวันเป็นไปได้อย่าหวังว่าฉันจะรับผิดชอบเธอกับเด็กในท้องของเธอ ถ้าฉันจะต้องหาแม่ของลูกฉันคงไม่เอาผู้หญิงขายตัวแลกเงินอย่างเธอมาเป็นแม่ของลูกแน่นอน ฉันสงสารลูกถ้ามีแม่อย่างเธอ แล้วถ้าเธอไม่เชื่อถ้าเธอปล่อยให้ตัวเองท้องฉันจะจัดการเด็กในท้องของเธอด้วยตัวของฉันเอง"
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
วังวนแห่งกามราคะ หากเผลอกายถลำใจ ก็ยากนักจะถอนตัว ยิ่งอยากหยุดกลับยิ่งโหยหาลุ่มหลง เพียงสบตา ก็เปียกแฉะร้อนฉ่าไปหมดแล้ว... ++++++++++++++++ EX 1 : “ พี่อาร์มขา ” “ ขา ” “ เราควรจบแค่นี้ หยุดมัน แล้วปล่อยเรไปเถอะนะคะ ” เธอวอนขอเขาอย่างหมดท่า แต่สุ้มเสียงกระเส่าสั่นกับร่างกายที่กำลังอ่อนระทวยมันขัดกับคำพูดเหลือเกิน เธอถูกรั้งเข้าสู่อ้อมอกกว้าง และถูกเขาซุกไซ้ไปทั่วซอกคอ ดมดอม ดูดเม้ม ขณะที่มือหนึ่งล้วงเข้าใต้ชายเสื้อ อีกข้างสอดซุกลงในขอบกระโปรง “ พี่อาร์ม ได้ยินที่เรพูดไหมคะ ” “ ได้ยินค่ะ ” “ ได้ยินแล้วทำไมไม่หยุด ” “ เรอยากให้พี่หยุดจริงเหรอ ” “ จริง... จริงสิคะ ” “ ถ้าอยากให้พี่หยุดจริง มือเรคงไม่กุมเป้ากางเกงพี่แน่นขนาดนี้หรอก ” ................................... EX 2 : เธอซ่านเสียวจนหูอื้อตาลายเมื่อถูกความแข็งแกร่งโอฬารทั้งสามทะลวงลึกทั้งรูหน้า รูหลัง และโพรงปาก ลีลากระทั้นบั้นเด้าที่ไม่มีใครยอมใคร เข้าสุด ออกสุด หนักแน่น ถาโถมจนไม่ได้หายใจหายคอ ส่งเธอสู่จุดหมายปลายทางนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนที่พวกเขาจะหลั่งในตัวเธอบ้าง เสียงคำรามลึกแหบห้าวประสานเมื่อพบกับความสุขสมอันร้อนเร่า น้ำใคร่ขาวขุ่นเอ่อล้นในทุกรูร่อง แต่ยัง พวกเขายังไม่พอ ราตรีบนรถทัวร์นี้ยังอีกยาวไกล คืนครบรอบแต่งงานทั้งที ต้องจัดของขวัญให้ภรรยาคนดีอย่างสาสม !
เธอถูกย่าแท้ๆฆ่าตายตอนอายุ6ขวบ กลายเป็นผีเร่ร่อนเฝ้าดูอนาคตและจุดจบของทุกคนที่รักอย่างเจ็บแค้น ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขทุกสิ่ง! แต่เอ๊ะ?คุณแม่ผู้ขี้ขลาดคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด